PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณอยากสอบถามเรื่องคำสั่งซื้อ หรือมีปัญหาการใช้งาน ก็ควรติดต่อ Amazon โดยตรง โดยมีทางเลือกคือส่งอีเมล, ให้ Amazon โทรกลับ และอีกทีคือ live chat กับเจ้าหน้าที่ บทความนี้จะแนะนำวิธีการติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของ Amazon ให้คุณเอง ถ้าอยากโทรติดต่อ Amazon โดยตรง ก็มี customer service line 1 (888) 280-4331 เหมือนกัน (แต่เป็นเบอร์ของศูนย์ที่อเมริกานะ) [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ติดต่อ Amazon

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. อันนี้เป็นเบอร์ติดต่อลูกค้าสัมพันธ์โดยตรง แก้ไขได้ทุกปัญหาการใช้งาน Amazon ถ้าคุณไม่ได้ล็อกอินหรือใช้คอมอยู่ หรือไม่แน่ใจว่าควรติดต่อแผนกไหน โทรเบอร์นี้ทีเดียวจบ แต่ก็ต้องย้ำกันอีกที ว่าเป็นเบอร์ทางไกล (อเมริกา) ที่สำคัญคือต้องติดต่อเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น และอาจไม่มีบริการติดต่อกลับทางโทรศัพท์ [2]
  2. ล็อกอินเข้า Amazon จากนั้นเลื่อนไปที่ "Help" ด้านล่างของหน้าเว็บ Amazon.com . จะเห็นตัวเลือกช่องทางติดต่อ พอล็อกอินแล้วในบัญชีของคุณจะมีเบอร์โทรหรืออีเมล Amazon จะสามารถตรวจเช็คคำสั่งซื้อของคุณได้อย่างรวดเร็ว ไม่เสียเวลาตอนติดต่อ [3]
  3. " ตามด้วย "Contact Us" . เพื่อเข้าหน้า contact พอคลิก "Help" แล้วให้เลือก "Need More Help" ในหัวข้อ "Browse Help topics" [4]
    • อาจจะมีให้ล็อกอินอีกรอบก่อนเข้าหน้า contact
  4. เลือกคำสั่งซื้อเดียวหรือหลายคำสั่งซื้อที่มีปัญหาและต้องการติดต่อ Amazon. ข้างแต่ละ order จะมีตัวเลือกต่างๆ เป็นปุ่มสีน้ำตาลอ่อน เช่น returning the item (คืนสินค้า), requesting refunds (ขอเงินคืน) และอื่นๆ ให้คลิกตัวเลือกที่ตรงกับปัญหาของคุณ แต่ถ้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องสินค้า ให้เลื่อนลงไปที่หัวข้อ "Tell us more about your issue"
    • บางกรณีที่น้อยมากแต่ก็เกิดขึ้นได้ คือปัญหาของคุณไม่ได้เกี่ยวกับสินค้าหรือคำสั่งซื้อเลย แต่เป็นการใช้งานหรือการให้บริการของ Amazon แบบนั้นก็ต้องเลือก tab ที่เกี่ยวข้อง ทางด้านบนของหน้าจอ เช่น "An Order I Placed", "Fire and Kindle" หรือปัญหาอื่นๆ ของ Amazon แต่ถ้าไม่มีตัวเลือกที่ต้องการ ก็ต้องเลือก "Tell us more about your issue"
  5. ถ้าไม่มีปุ่มตัวเลือกสำหรับแก้ปัญหาของคุณ ก็ให้ติดต่อ Amazon โดยตรง พอกรอกรายละเอียดปัญหาในช่องต่างๆ แล้ว (โดยเฉพาะเมนู "Tell us more...") Amazon จะถามว่าคุณอยากให้ติดต่อช่องทางไหน [5]
    • Email: จะเป็นการชี้แจงปัญหาหรือทางแก้ไขในอีเมล พร้อม tracking number (หมายเลขสำหรับติดตาม) คุณสามารถตอบกลับทางอีเมลได้
    • Phone: Amazon จะโทรกลับมา โดยเลือกแผนกที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของคุณ
    • Chat: แชทสด (live chat) กับเจ้าหน้าที่ เพื่อสอบถามและแก้ไขปัญหาทันที [6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เตรียมข้อมูลก่อนติดต่อ ว่าคุณมีปัญหาอะไรและต้องการให้แก้ไขยังไง. คิดก่อนว่าคุณจะโทรหรือติดต่อ Amazon ทำไม และต้องการให้เจ้าหน้าที่แก้ปัญหายังไงถึงจะพอใจที่สุด เช่น อยากคืนสินค้า อยากได้เงินคืน หรือเกิดข้อผิดพลาดที่ควรได้ store credit (เครดิตแทนเงินไว้ซื้อของในเว็บ) ชดเชย ไม่ว่าจะเป็นข้อไหนก็ควรเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนติดต่อ แบบนี้เจ้าหน้าที่ถึงจะช่วยเหลือได้รวดเร็วและตรงจุดที่สุด [7]
    • สอบถามให้สั้น กระชับ ได้ใจความ และอย่างสงบ ให้ Amazon เข้าใจทันทีว่าคุณติดต่อมาเพราะต้องการอะไร เจ้าหน้าที่ถึงจะเลือกทางแก้ได้ตรงจุดที่สุด [8]
  2. เก็บทุกรายละเอียด ทั้งหมายเลขยืนยัน และข้อมูลการจัดส่ง. ยิ่งมีข้อมูลพร้อมและละเอียด เจ้าหน้าที่ก็จะยิ่งแก้ไขปัญหาของคุณได้รวดเร็ว ถูกต้อง ก่อนโทร อีเมล หรือแชทแจ้งปัญหา ให้รวบรวมและตรวจทานเรื่องสินค้าหรือบริการนั้นก่อน จะได้มีข้อเท็จจริงพร้อม [9]
    • ถ้าต้องโทรหรือแชทติดต่อหลายรอบ ต้องสอบถามชื่อของเจ้าหน้าที่ และ tracking number ของเคสคุณ จะได้ประหยัดเวลา ไม่ต้องเล่าเรื่องใหม่แต่ต้น
  3. คาดหวังการแก้ปัญหาที่ "เป็นไปได้ที่สุด" ไม่ใช่ "สมบูรณ์แบบที่สุด". ถ้าเอาแต่ด่าว่าเจ้าหน้าที่ จะกลายเป็นติดต่อมาบ่น ไม่ใช่ขอความช่วยเหลือหรือหาทางแก้ไข ดีไม่ดีจากที่พอจะหาทางช่วยได้ จะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ "มีสิทธิ์" เมิน รับเรื่องไว้เฉยๆ ไม่กระตือรือร้นอยากช่วยเหลือเพิ่มเติม เพราะงั้นแทนที่จะใช้อารมณ์ ต่อว่า ให้ติดต่ออย่างสุภาพ ตรงประเด็น แล้วคาดหวังทางแก้ไขที่แฟร์ๆ กันทั้ง 2 ฝ่าย
    • "ผมเป็นลูกค้า Amazon มาหลายปี ยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจไปซื้อกับเว็บอื่น ยังไงช่วยตรวจสอบให้หน่อยนะครับ ว่าทำไมผมถึงยังไม่ได้รับสินค้า"
    • "ดิฉันเข้าใจว่าเกิดข้อผิดพลาดทางเทคนิค เป็นที่ระบบ ไม่ได้เป็นที่เจ้าหน้าที่ แค่อยากให้ช่วยตามเรื่องเร็วนิดนึงค่ะ ว่าทำไมชำระค่าสินค้าแล้วแต่ขึ้นว่ายังไม่ได้ชำระ" [10]
  4. ขออย่างสุภาพ ให้ได้คุยกับผู้รับผิดชอบที่ตำแหน่งสูงกว่า. ถ้าคุยแล้วท่าทางจะไม่ได้เรื่องไปกว่านี้ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่อย่างสุภาพเพื่อขอพูดคุยติดต่อกับหัวหน้างานที่มีอำนาจรับผิดชอบ ประมาณว่า "ขอโทษนะคะ เป็นไปได้ไหม ถ้าจะขอคุยกับคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงน่ะค่ะ" ถือเป็นการโยนหินถามทางแบบไม่เสียน้ำใจ เพราะถ้าอยากได้ store credit หรือได้เงินมูลค่าสูงคืน ต้องเป็นผู้จัดการหรือเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสูงหน่อยถึงจะช่วยจัดการได้
  5. แน่นอนว่ามีปัญหาหรือข้อผิดพลาดย่อมหงุดหงิดเป็นธรรมดา จนอยากตำหนิติติง หรือถึงขั้นพูดจาแรงๆ เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานช้า ไม่ได้ดั่งใจ แต่บอกเลยว่าจริงๆ แล้วหลายเคส Amazon จะไม่ช่วยคุณก็ได้ เพราะงั้นถ้าเขาอุตส่าห์รับเรื่อง ก็ถือว่าเขาให้เกียรติ ใส่ใจคุณพอประมาณแล้ว ถ้าไปเหวี่ยงวีนใส่เจ้าหน้าที่ไม่ว่าช่องทางไหนก็ตาม ระวังจะไม่ได้อะไรเลย บทสนทนาที่แนะนำก็เช่น
    • "เข้าใจค่ะว่าเป็นที่เว็บ ไม่ได้เป็นที่เจ้าหน้าที่ ยังไงช่วยหน่อยนะคะ จำเป็นต้องรีบใช้จริงๆ"
    • "ขอบคุณมากเลยครับที่ช่วยตรวจสอบ เข้าใจดีว่าผิดพลาดที่ระบบ"
    • "เคสนี้บังเอิญแจ็คพอตพอดี ปกติไม่เคยเกิด ยังไงจะรอนะคะ ถ้าช่วยตามเรื่องให้เร็วหน่อย จะขอบคุณมากเลยค่ะ"
    • "ปกติก็ซื้อแต่กับ Amazon นี่ละค่ะ เจ้าหน้าที่ก็ช่วยเหลือเร็วตลอดเลย คราวที่แล้วก็ได้เครดิตชดเชยมา" [11]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ปกติเจ้าหน้าที่ของ Amazon ก็ขึ้นชื่อเรื่องใจเย็นอยู่แล้ว ไม่ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ยังไงคุณทำใจตัวเองให้สงบก่อน แล้วค่อยๆ อธิบายไป เจ้าหน้าที่ต้องพยายามแก้ไขให้แน่นอน
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลดวิดีโอจากทุกเว็บไซต์ได้แบบฟรีๆ
หาวันที่เผยแพร่ข้อมูลของเว็บไซต์
หาละติจูดกับลองจิจูดใน Google Maps
เว้นวรรคห่างๆ ใน HTML
อิโมจิซ่อนความสยิวที่คนใช้แชตกันมากที่สุด
แก้ปัญหาเข้าบางเว็บไม่ได้
เขียนเว็บเพจง่ายๆ ด้วย HTML
รู้ความหมายของอีโมจิรูปหัวใจสีดำ
ดูว่าใครแชร์โพสต์ของคุณบนเฟซบุ๊ก
เช็คตำแหน่งปัจจุบันใน Google Maps
แก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ DNS ไม่ตอบสนอง
เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในคอมพิวเตอร์ Windows
รู้ความหมายของอีโมจิหน้ากลับหัว
เข้าสู่ระบบ Telegram บนแอนดรอยด์
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 27,710 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา