PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการรายงาน (report) ปัญหาการใช้งานบางอย่าง รวมถึงวิธีการใช้งาน Help Center ของ Facebook เบื้องต้น เพื่อแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย ข้อเสียคือตอนนี้ คุณติดต่อ Facebook โดยตรงผ่านเบอร์โทรและอีเมลไม่ได้ คงต้องอ่านคำแนะนำที่มีใน Facebook แล้ว report หรือแก้ปัญหาไปตามนั้นแทน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

รายงานปัญหาการใช้งาน Facebook

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เข้าเว็บ https://www.facebook.com ในเบราว์เซอร์. นี่คือหน้าล็อกอินหลักของ Facebook ปกติจะล็อกอินอัตโนมัติ
    • ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน ให้ล็อกอินด้วย username และรหัสผ่านของ Facebook ตัวเองซะก่อน
  2. หาโพสต์ คอมเม้นท์ โปรไฟล์ รูป วิดีโอ หรือโฆษณาที่มีปัญหา. ปกติโพสต์และคอมเม้นท์จะอยู่ในฟีดข่าว หรือที่หน้าของเจ้าของโพสต์ ถ้าจะ report รูปหรือวิดีโอ ให้คลิกรูปหรือวิดีโอเพื่อขยายขึ้นมา ส่วนถ้าจะ report ใครหรือกลุ่มไหน ให้คลิกชื่อหรือรูปโปรไฟล์ของคนหรือกลุ่มที่จะ report
  3. ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อหาปุ่ม Options ของประเภทข้อมูลที่ต้องการ
    • โพสต์: คลิกปุ่มที่มี 3 จุด ด้านขวาบนของโพสต์
    • คอมเม้นท์: จ่อเคอร์เซอร์ที่คอมเม้นท์ แล้วคลิกปุ่มที่มี 3 จุด ทางขวา
    • รูป: คลิกรูป แล้วคลิก Options ด้านขวาล่างของรูป
    • วิดีโอ: คลิกวิดีโอเพื่อขยาย แล้วคลิกปุ่มที่มี 3 จุด ทางขวาล่างของวิดีโอ
    • คน: คลิกโปรไฟล์หรือชื่อเขา แล้วคลิกปุ่มที่มี 3 จุด มุมขวาบนของรูป cover
    • กลุ่ม: คลิกชื่อกลุ่ม แล้วคลิกปุ่มที่เขียนว่า More ล่างรูปโปรไฟล์ของกลุ่ม
  4. ข้อความในตัวเลือกจะต่างกันไปตามเนื้อหาที่จะ report แต่ปกติจะเป็น Give feedback และ/หรือ Report
  5. ระบุว่าเนื้อหานั้นผิดข้อตกลงการใช้งาน (Community Standards) ของ Facebook ยังไง. คลิกตัวเลือกของเนื้อหาที่จะ report ที่ตรงตามความจริงที่สุด
  6. เพื่อส่ง feedback ไปยัง Facebook
  7. บางทีก็ต้องส่ง report ไปให้ Facebook แล้วแต่ว่า report เนื้อหาอะไรไป ไม่ใช่ขั้นตอนบังคับ แต่ถ้ามี feedback ด้วย ก็ช่วยพัฒนาระบบได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

อ่านคำแนะนำที่มีใน Facebook

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไปที่หน้า Help Center ของ Facebook . ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน Facebook ให้คลิกปุ่ม " Log In " มุมขวาบนของหน้า เพื่อกรอกอีเมลกับรหัสผ่านที่พ่วงไว้กับ Facebook

    ข้อเสียคือ คุณติดต่อ Facebook โดยตรงไม่ได้ – ไม่ว่าจะโทรหา ส่งข้อความ ส่งอีเมล หรือพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของ Facebook ก็ตาม ต้อง เข้า Help Center ของ Facebook แล้วอ่านวิธีแก้ปัญหาที่แนะนำ หรือ report ปัญหาไปแทน

  2. ทางด้านบนของหน้าจอ ใต้แถบค้นหาพอดี ให้ลากเคอร์เซอร์ผ่านแต่ละตัวเลือก เพื่อดูหัวข้อย่อย ตัวเลือกที่มีก็คือ
    • Using Facebook - เป็นหัวข้อ Help Center ที่ครอบคลุมการใช้งานทั่วไปของ Facebook เช่น แอดเพื่อน ส่งข้อความ หรือสมัครบัญชีใหม่
    • Managing Your Account - เป็นหัวข้อที่ครอบคลุม settings ล็อกอินและโปรไฟล์
    • Privacy and Safety - เป็นหัวข้อเรื่องความปลอดภัยของบัญชี เลิกเป็นเพื่อน และบัญชีถูกแฮกหรือปลอม
    • Policies and Reporting - เป็นหัวข้อที่ครอบคลุมเรื่องการ report ทั่วไป (เช่น สแปม ละเมิดสิทธิ์ และอื่นๆ) รวมถึงการจัดการ Facebook ของผู้ล่วงลับ และ report บัญชีปลอม/ถูกแฮก
    • หรือไปที่หัวข้อ "Questions You May Have" กับ "Popular Topics" ในหน้าเดียวกัน เป็นหัวข้อที่ครอบคลุมปัญหาและการร้องเรียนอื่นๆ ที่พบบ่อย ทั้ง 2 หัวข้อนี้จะอยู่ในหน้าหลักของ Help Center ของ Facebook
  3. เช่น ถ้ามีปัญหาเรื่องคนสร้างบัญชีปลอมเป็นคุณ ให้เลือก "Privacy and Safety" แล้วคลิก " Hacked and Fake Accounts "
  4. อย่างถ้าตัวอย่างเรื่องคนสร้างบัญชีปลอม ก็อาจจะคลิกลิงค์ "How do I report an account that’s pretending to be me?" แล้วทำตามขั้นตอนต่อๆ ไป เพื่ออ่านวิธีแก้สถานการณ์
    • เช่น Facebook แนะนำให้รับมือกับตัวปลอมโดยไปที่หน้าโปรไฟล์เขา คลิกปุ่ม 3 จุด (...) ด้านบนของโพสต์ แล้วคลิก Report จากนั้นทำตามขั้นตอนที่ปรากฏ
  5. โดยคลิกแถบค้นหาทางด้านบนของหน้า Help Center ปกติจะเขียนว่า "Hi (ชื่อคุณ), how can we help?" แล้วพิมพ์ 2 - 3 คำที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่พบ จะมีหลายคำแนะนำโผล่มาในเมนูที่ขยายลงมา ล่างแถบค้นหา
    • เช่น พิมพ์ว่า "impostor account" (ถูกปลอม Facebook) แล้วคลิก "How do I report an account for impersonation?" ที่โผล่มา
    • แถบค้นหาตรงนี้จะแสดงเฉพาะบทความที่มีใน Facebook เท่านั้น ถ้าอยากได้คำตอบแบบเจาะจงเคสของคุณ ต้องบอกว่าหาใน Help Center ไม่ได้ ให้เลื่อนลงไปคลิกปุ่ม Community Help แทน เพื่อไปยัง หน้า Community ที่เป็นชุมชนคนใช้ Facebook
  6. ไปที่ หน้า Ads Help Center . ถ้าธุรกิจหรือเพจคุณมีปัญหาเรื่องโฆษณา จะหาคำแนะนำได้ในหัวข้อนี้
    • ถ้าจะเน้นเรื่องโฆษณา ให้คลิกปุ่ม Creating Ads หรือ Managing Ads
    • ถ้าโฆษณามีปัญหา ให้คลิก Troubleshooting Your Ads แล้วเลือกปัญหาในเมนูต่อมา
  7. ไปที่ Facebook Community . ถ้าไม่เจอปัญหาที่พบ ใน Help Center แนะนำให้เข้าเว็บบอร์ดของชุมชนคนใช้ Facebook
    • จะมีแถบค้นหาทางด้านบนของหน้า ให้ค้นหาหัวข้อที่ต้องการได้ (เช่น บัญชีถูกบล็อก)
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ร้องเรียนเรื่องถูกบล็อกบัญชี

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไปที่หน้า Disabled Facebook Account . ถ้าบัญชีไม่ได้ถูกบล็อก (หรือเคยถูกบล็อกแต่ใช้ได้แล้ว) ก็จะร้องเรียนด้วยวิธีการนี้ไม่ได้
  2. ทางด้านล่างของย่อหน้าข้อความในหน้านี้ ข้างหัวข้อ "If you think your account was disabled by mistake"
  3. คืออีเมลที่ใช้เวลาล็อกอิน Facebook หรือจะใช้เบอร์โทรแทนก็ได้
  4. ต้องเป็นชื่อที่ตรงกับที่ใช้ในบัญชี
  5. ต้องอัพโหลดรูปบัตรประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทางก็ตาม
    • ถ้าไม่มีบัตรหรือรูปบัตรพร้อมอัพโหลด ให้ถ่ายแล้วส่งเข้าอีเมลตัวเอง จะได้ดาวน์โหลดในคอมได้
  6. คือโฟลเดอร์ที่มีรูปบัตรอยู่ เช่น ถ้าไฟล์อยู่ในหน้า desktop ก็คลิก Desktop เพื่อไปยัง desktop ใน file browser
  7. เพื่ออัพโหลดรูปลงในแบบฟอร์ม Facebook
  8. เป็นช่องสำหรับกรอกเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรบล็อกบัญชีคุณ แนะนำให้กรอกรายละเอียดต่อไปนี้ด้วย
    • เหตุผลที่บัญชีคุณไม่ควรถูกบล็อก
    • เหตุผลที่คุณอยากให้ Facebook ปลดบล็อกให้คุณ
    • ปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และช่วยเพิ่มน้ำหนักให้คำร้องของคุณ (เช่น บัญชีคุณถูกบล็อกเพราะผู้ไม่หวังดี)
  9. เพื่อส่งแบบฟอร์มไปให้ Facebook ตรวจสอบและพิจารณา หลังจากนั้นหลายวันก็น่าจะได้รับคำตอบ
    • ถ้าเป็นอาทิตย์แล้ว Facebook ยังไม่ตอบกลับ ให้ลองร้องเรียนไปใหม่
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

กู้คืนรหัสผ่าน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เข้า เว็บ Facebook . พอเปิด Facebook ในเบราว์เซอร์ จะเจอหน้าจอล็อกอินเป็นหน้าแรก ถ้าไม่ได้ล็อกอินไว้
  2. ที่เป็นตัวเลือกล่างช่อง "Password" มุมขวาบนของหน้าจอ
  3. ใส่อีเมลกับเบอร์โทรที่พ่วงไว้กับบัญชี Facebook โดยที่ต้องเป็นอีเมลกับเบอร์โทรที่ยังใช้งานอยู่
  4. ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ล่างช่องพิมพ์อีเมลหรือเบอร์โทร เพื่อส่งโค้ดไปทางอีเมลหรือเบอร์โทร
  5. ถ้าใส่อีเมลไป จะได้อีเมลพร้อมโค้ด 6 หลักจาก Facebook แต่ถ้าใส่เบอร์โทร จะได้ข้อความพร้อมโค้ด 6 หลักจาก Facebook
    • ถ้าเลือกรับอีเมล อย่าลืมดูในโฟลเดอร์ Spam ด้วย เพราะอาจตกหล่นไปอยู่ในนั้น
  6. พิมพ์โค้ด 6 หลักที่ Facebook ส่งมาทางอีเมลหรือข้อความ ในช่อง "Enter Code"
  7. ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ล่างช่องทางขวา
  8. อาจจะเลือกลงชื่อออกจากบัญชีในทุกอุปกรณ์ ถ้าสงสัยว่ามีใครแอบใช้ Facebook
  9. เท่านี้ก็รีเซ็ตรหัสผ่าน Facebook ในทุกอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว คุณล็อกอินในเว็บหรือแอพ Facebook ด้วยรหัสผ่านใหม่ได้เลย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าไม่เจอหัวข้อปัญหาที่อยากแจ้ง Facebook ใน Help Center ให้ลองไปที่ Community แทน น่าจะเจอโพสต์ต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับปัญหาของคุณ
โฆษณา

คำเตือน

  • ฝ่ายบริการลูกค้าของ Facebook ขึ้นชื่อเรื่องติดต่อยาก ไม่ตอบกลับ เพราะงั้นส่วนใหญ่ถ้าโชคดีได้รับการติดต่อกลับมา ก็จะโชคร้ายได้คำตอบกว้างๆ ซะเป็นส่วนใหญ่
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 34,216 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา