ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการรายงาน (report) ปัญหาการใช้งานบางอย่าง รวมถึงวิธีการใช้งาน Help Center ของ Facebook เบื้องต้น เพื่อแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย ข้อเสียคือตอนนี้ คุณติดต่อ Facebook โดยตรงผ่านเบอร์โทรและอีเมลไม่ได้ คงต้องอ่านคำแนะนำที่มีใน Facebook แล้ว report หรือแก้ปัญหาไปตามนั้นแทน
ขั้นตอน
-
เข้าเว็บ https://www.facebook.com ในเบราว์เซอร์. นี่คือหน้าล็อกอินหลักของ Facebook ปกติจะล็อกอินอัตโนมัติ
- ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน ให้ล็อกอินด้วย username และรหัสผ่านของ Facebook ตัวเองซะก่อน
-
หาโพสต์ คอมเม้นท์ โปรไฟล์ รูป วิดีโอ หรือโฆษณาที่มีปัญหา. ปกติโพสต์และคอมเม้นท์จะอยู่ในฟีดข่าว หรือที่หน้าของเจ้าของโพสต์ ถ้าจะ report รูปหรือวิดีโอ ให้คลิกรูปหรือวิดีโอเพื่อขยายขึ้นมา ส่วนถ้าจะ report ใครหรือกลุ่มไหน ให้คลิกชื่อหรือรูปโปรไฟล์ของคนหรือกลุ่มที่จะ report
-
คลิก … หรือ Options . ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อหาปุ่ม Options ของประเภทข้อมูลที่ต้องการ
- โพสต์: คลิกปุ่มที่มี 3 จุด ด้านขวาบนของโพสต์
- คอมเม้นท์: จ่อเคอร์เซอร์ที่คอมเม้นท์ แล้วคลิกปุ่มที่มี 3 จุด ทางขวา
- รูป: คลิกรูป แล้วคลิก Options ด้านขวาล่างของรูป
- วิดีโอ: คลิกวิดีโอเพื่อขยาย แล้วคลิกปุ่มที่มี 3 จุด ทางขวาล่างของวิดีโอ
- คน: คลิกโปรไฟล์หรือชื่อเขา แล้วคลิกปุ่มที่มี 3 จุด มุมขวาบนของรูป cover
- กลุ่ม: คลิกชื่อกลุ่ม แล้วคลิกปุ่มที่เขียนว่า More ล่างรูปโปรไฟล์ของกลุ่ม
-
คลิกตัวเลือก "Give Feedback" หรือ "Report". ข้อความในตัวเลือกจะต่างกันไปตามเนื้อหาที่จะ report แต่ปกติจะเป็น Give feedback และ/หรือ Report
-
ระบุว่าเนื้อหานั้นผิดข้อตกลงการใช้งาน (Community Standards) ของ Facebook ยังไง. คลิกตัวเลือกของเนื้อหาที่จะ report ที่ตรงตามความจริงที่สุด
-
คลิก Send . เพื่อส่ง feedback ไปยัง Facebook
-
ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏ. บางทีก็ต้องส่ง report ไปให้ Facebook แล้วแต่ว่า report เนื้อหาอะไรไป ไม่ใช่ขั้นตอนบังคับ แต่ถ้ามี feedback ด้วย ก็ช่วยพัฒนาระบบได้
- ถ้าจะ report เรื่องละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ให้ ใช้แบบฟอร์มนี้
- ถ้าจะ report ปัญหาการใช้งานขององค์กรธุรกิจหรือโฆษณา ให้ ใช้แบบฟอร์มนี้
โฆษณา
-
ไปที่หน้า Help Center ของ Facebook . ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน Facebook ให้คลิกปุ่ม " Log In " มุมขวาบนของหน้า เพื่อกรอกอีเมลกับรหัสผ่านที่พ่วงไว้กับ Facebook
ข้อเสียคือ คุณติดต่อ Facebook โดยตรงไม่ได้ – ไม่ว่าจะโทรหา ส่งข้อความ ส่งอีเมล หรือพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของ Facebook ก็ตาม ต้อง เข้า Help Center ของ Facebook แล้วอ่านวิธีแก้ปัญหาที่แนะนำ หรือ report ปัญหาไปแทน
-
สำรวจ options toolbar. ทางด้านบนของหน้าจอ ใต้แถบค้นหาพอดี ให้ลากเคอร์เซอร์ผ่านแต่ละตัวเลือก เพื่อดูหัวข้อย่อย ตัวเลือกที่มีก็คือ
- Using Facebook - เป็นหัวข้อ Help Center ที่ครอบคลุมการใช้งานทั่วไปของ Facebook เช่น แอดเพื่อน ส่งข้อความ หรือสมัครบัญชีใหม่
- Managing Your Account - เป็นหัวข้อที่ครอบคลุม settings ล็อกอินและโปรไฟล์
- Privacy and Safety - เป็นหัวข้อเรื่องความปลอดภัยของบัญชี เลิกเป็นเพื่อน และบัญชีถูกแฮกหรือปลอม
- Policies and Reporting - เป็นหัวข้อที่ครอบคลุมเรื่องการ report ทั่วไป (เช่น สแปม ละเมิดสิทธิ์ และอื่นๆ) รวมถึงการจัดการ Facebook ของผู้ล่วงลับ และ report บัญชีปลอม/ถูกแฮก
- หรือไปที่หัวข้อ "Questions You May Have" กับ "Popular Topics" ในหน้าเดียวกัน เป็นหัวข้อที่ครอบคลุมปัญหาและการร้องเรียนอื่นๆ ที่พบบ่อย ทั้ง 2 หัวข้อนี้จะอยู่ในหน้าหลักของ Help Center ของ Facebook
-
เลือกหัวข้อที่เกี่ยวข้อง. เช่น ถ้ามีปัญหาเรื่องคนสร้างบัญชีปลอมเป็นคุณ ให้เลือก "Privacy and Safety" แล้วคลิก " Hacked and Fake Accounts "
-
สำรวจตัวเลือกเพิ่มเติม. อย่างถ้าตัวอย่างเรื่องคนสร้างบัญชีปลอม ก็อาจจะคลิกลิงค์ "How do I report an account that’s pretending to be me?" แล้วทำตามขั้นตอนต่อๆ ไป เพื่ออ่านวิธีแก้สถานการณ์
- เช่น Facebook แนะนำให้รับมือกับตัวปลอมโดยไปที่หน้าโปรไฟล์เขา คลิกปุ่ม 3 จุด (...) ด้านบนของโพสต์ แล้วคลิก Report จากนั้นทำตามขั้นตอนที่ปรากฏ
-
ใช้แถบค้นหาลัดขั้นตอน. โดยคลิกแถบค้นหาทางด้านบนของหน้า Help Center ปกติจะเขียนว่า "Hi (ชื่อคุณ), how can we help?" แล้วพิมพ์ 2 - 3 คำที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่พบ จะมีหลายคำแนะนำโผล่มาในเมนูที่ขยายลงมา ล่างแถบค้นหา
- เช่น พิมพ์ว่า "impostor account" (ถูกปลอม Facebook) แล้วคลิก "How do I report an account for impersonation?" ที่โผล่มา
- แถบค้นหาตรงนี้จะแสดงเฉพาะบทความที่มีใน Facebook เท่านั้น ถ้าอยากได้คำตอบแบบเจาะจงเคสของคุณ ต้องบอกว่าหาใน Help Center ไม่ได้ ให้เลื่อนลงไปคลิกปุ่ม Community Help แทน เพื่อไปยัง หน้า Community ที่เป็นชุมชนคนใช้ Facebook
-
ไปที่ หน้า Ads Help Center . ถ้าธุรกิจหรือเพจคุณมีปัญหาเรื่องโฆษณา จะหาคำแนะนำได้ในหัวข้อนี้
- ถ้าจะเน้นเรื่องโฆษณา ให้คลิกปุ่ม Creating Ads หรือ Managing Ads
- ถ้าโฆษณามีปัญหา ให้คลิก Troubleshooting Your Ads แล้วเลือกปัญหาในเมนูต่อมา
-
ไปที่ Facebook Community . ถ้าไม่เจอปัญหาที่พบ ใน Help Center แนะนำให้เข้าเว็บบอร์ดของชุมชนคนใช้ Facebook
- จะมีแถบค้นหาทางด้านบนของหน้า ให้ค้นหาหัวข้อที่ต้องการได้ (เช่น บัญชีถูกบล็อก)
โฆษณา
-
ไปที่หน้า Disabled Facebook Account . ถ้าบัญชีไม่ได้ถูกบล็อก (หรือเคยถูกบล็อกแต่ใช้ได้แล้ว) ก็จะร้องเรียนด้วยวิธีการนี้ไม่ได้
-
คลิกลิงค์ที่เขียนว่า "use this form to request a review". ทางด้านล่างของย่อหน้าข้อความในหน้านี้ ข้างหัวข้อ "If you think your account was disabled by mistake"
-
พิมพ์อีเมลที่พ่วงไว้กับ Facebook. คืออีเมลที่ใช้เวลาล็อกอิน Facebook หรือจะใช้เบอร์โทรแทนก็ได้
-
พิมพ์ชื่อ-นามสกุล. ต้องเป็นชื่อที่ตรงกับที่ใช้ในบัญชี
-
คลิก Browse . ต้องอัพโหลดรูปบัตรประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทางก็ตาม
- ถ้าไม่มีบัตรหรือรูปบัตรพร้อมอัพโหลด ให้ถ่ายแล้วส่งเข้าอีเมลตัวเอง จะได้ดาวน์โหลดในคอมได้
-
คลิกตำแหน่งที่มีไฟล์. คือโฟลเดอร์ที่มีรูปบัตรอยู่ เช่น ถ้าไฟล์อยู่ในหน้า desktop ก็คลิก Desktop เพื่อไปยัง desktop ใน file browser
-
คลิกรูปบัตร แล้วคลิก Open . เพื่ออัพโหลดรูปลงในแบบฟอร์ม Facebook
-
พิมพ์รายละเอียดในช่อง "Additional Info". เป็นช่องสำหรับกรอกเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรบล็อกบัญชีคุณ แนะนำให้กรอกรายละเอียดต่อไปนี้ด้วย
- เหตุผลที่บัญชีคุณไม่ควรถูกบล็อก
- เหตุผลที่คุณอยากให้ Facebook ปลดบล็อกให้คุณ
- ปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และช่วยเพิ่มน้ำหนักให้คำร้องของคุณ (เช่น บัญชีคุณถูกบล็อกเพราะผู้ไม่หวังดี)
-
คลิก Send . เพื่อส่งแบบฟอร์มไปให้ Facebook ตรวจสอบและพิจารณา หลังจากนั้นหลายวันก็น่าจะได้รับคำตอบ
- ถ้าเป็นอาทิตย์แล้ว Facebook ยังไม่ตอบกลับ ให้ลองร้องเรียนไปใหม่
โฆษณา
-
เข้า เว็บ Facebook . พอเปิด Facebook ในเบราว์เซอร์ จะเจอหน้าจอล็อกอินเป็นหน้าแรก ถ้าไม่ได้ล็อกอินไว้
-
คลิก Forgot Account? . ที่เป็นตัวเลือกล่างช่อง "Password" มุมขวาบนของหน้าจอ
-
พิมพ์ชื่อ อีเมล หรือเบอร์โทร. ใส่อีเมลกับเบอร์โทรที่พ่วงไว้กับบัญชี Facebook โดยที่ต้องเป็นอีเมลกับเบอร์โทรที่ยังใช้งานอยู่
-
คลิก Search . ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ล่างช่องพิมพ์อีเมลหรือเบอร์โทร เพื่อส่งโค้ดไปทางอีเมลหรือเบอร์โทร
-
เช็คข้อความที่ได้จาก Facebook. ถ้าใส่อีเมลไป จะได้อีเมลพร้อมโค้ด 6 หลักจาก Facebook แต่ถ้าใส่เบอร์โทร จะได้ข้อความพร้อมโค้ด 6 หลักจาก Facebook
- ถ้าเลือกรับอีเมล อย่าลืมดูในโฟลเดอร์ Spam ด้วย เพราะอาจตกหล่นไปอยู่ในนั้น
-
พิมพ์โค้ด. พิมพ์โค้ด 6 หลักที่ Facebook ส่งมาทางอีเมลหรือข้อความ ในช่อง "Enter Code"
-
คลิก Continue ในหน้า Facebook. ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ล่างช่องทางขวา
-
คลิก Continue อีกรอบ. อาจจะเลือกลงชื่อออกจากบัญชีในทุกอุปกรณ์ ถ้าสงสัยว่ามีใครแอบใช้ Facebook
-
พิมพ์รหัสผ่านใหม่.
-
คลิก Continue . เท่านี้ก็รีเซ็ตรหัสผ่าน Facebook ในทุกอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว คุณล็อกอินในเว็บหรือแอพ Facebook ด้วยรหัสผ่านใหม่ได้เลยโฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าไม่เจอหัวข้อปัญหาที่อยากแจ้ง Facebook ใน Help Center ให้ลองไปที่ Community แทน น่าจะเจอโพสต์ต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับปัญหาของคุณ
โฆษณา
คำเตือน
- ฝ่ายบริการลูกค้าของ Facebook ขึ้นชื่อเรื่องติดต่อยาก ไม่ตอบกลับ เพราะงั้นส่วนใหญ่ถ้าโชคดีได้รับการติดต่อกลับมา ก็จะโชคร้ายได้คำตอบกว้างๆ ซะเป็นส่วนใหญ่
โฆษณา
โฆษณา