PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

DVD เป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในระบบความบันเทิงสมัยนี้ไปแล้ว ส่วนเครื่องเล่น DVD ก็หาซื้อได้ง่ายแถมบางทีถูกกว่าอาหารหรูๆ สักมื้อด้วยซ้ำ พอต่อเครื่องเล่น DVD กับทีวีแล้วคุณก็เข้าสู่โลกแห่งความบันเทิงได้ตลอดเวลา ที่สำคัญคือทีวีกับเครื่องเล่น DVD รุ่นใหม่ๆ ตั้งค่าและใช้งานได้ง่ายยังกับอะไรดี

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

เตรียมเครื่องเล่น DVD

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนจะต่อกับทีวี ต้องเสียบปลั๊กและเปิดเครื่องก่อน (กดปุ่ม "power") ปกติจะมีไฟดวงเล็กๆ สว่างขึ้นมา หรือมีข้อความต้อนรับ ถ้าเครื่องเล่น DVD ใช้งานได้ตามปกติ
  2. คุณต่อเครื่องเล่น DVD กับทีวีได้โดยใช้สาย 3 แบบด้วยกัน ปกติจะมีสายที่ถูกต้องติดมากับเครื่องเล่น DVD อยู่แล้ว แต่ที่ต้องเช็คคือฝั่งทีวีคุณเสียบสายแบบไหนได้บ้าง ให้อ่านคู่มือหรือสำรวจที่ทีวี/เครื่องเล่น DVD เลย 3 สายที่นิยมใช้กันก็คือ
    • สาย HDMI: เป็นสายรุ่นใหม่ที่เดี๋ยวนี้ไปไหนก็เจอ สาย HDMI จะคล้ายๆ USB แต่ยาวและบางกว่า สาย HDMI ให้คุณภาพสัญญาณดีสุด แถมใช้แค่สายเดียวก็รวมทั้งสัญญาณภาพและเสียงไว้ด้วยกัน
    • สาย A/V (3 หัว): ย่อมาจากสาย Audio/Visual เป็นสายยอดนิยมของเครื่อง DVD ปลั๊กจะมี 3 หัวทั้ง 2 ด้าน เป็นสีแดง เหลือง และขาว ซึ่งที่ทีวีกับเครื่อง DVD ก็จะมีรูเสียบที่เป็นสีเดียวกันอยู่
    • สาย Component: คุณภาพสัญญาณจะดีกว่าสาย A/V แต่ไม่ดีเท่า HDMI สาย component จะเป็นชุดปลั๊ก 5 หัว 5 สี ไว้เสียบกับรูสีเดียวกันของทีวีและเครื่อง DVD
  3. พอรู้แล้วว่าต้องใช้สายแบบไหน ก็ต้องหาสายชนิดนั้นมา อย่าให้เก่าขาดหรือชำรุด ถ้าจะหาซื้อสายใหม่ให้เอารูปรูเสียบ (input) ไปให้ร้านหรือช่างดู จะได้รู้ชนิดสายที่ถูกต้อง
    • ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้สาย HDMI เพราะใช้ง่ายสุดแถมคุณภาพวีดีโอยอดเยี่ยม
  4. พอรู้แล้วว่าต้องใช้สายแบบไหน ก็จัดวางเครื่อง DVD ให้ใกล้ทีวีที่สุด เวลาเสียบสายจะได้อ้อมไปด้านหลังได้
    • อย่าวางเครื่องหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซ้อนกัน เพราะจะทำให้ใช้แล้วเครื่องร้อนเร็ว หรือทำให้เครื่องเสียได้ [1]
  5. ป้องกันไฟดูด เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณและเครื่อง [2]
  6. เครื่องโปรเจคเตอร์ (ฉายภาพ) ส่วนใหญ่ก็มีรูเสียบแบบเดียวกับกับของทีวี เพราะงั้นถ้าจะเปลี่ยนไปเสียบกับเครื่องโปรเจคเตอร์แทนก็สบายมาก
    • โปรเจคเตอร์บางเครื่องใช้ "DVI Input" แทนสาย 3 แบบที่เราว่ามา เพราะงั้นให้ต่อแบบ "เสียบสาย HDMI" แค่เปลี่ยนสาย HDMI เป็น DVi แทน [3]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

เสียบสาย HDMI

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เสียบปลายสายด้านหนึ่งในรูเสียบ HDMI ของเครื่อง DVD. ให้มองหารูที่เขียนว่า "HDMI" หรือ "HDMI Out" แล้วค่อยๆ เสียบเข้าไปให้สนิท
    • HDMI เป็นสายที่รับสัญญาณได้ภาพและเสียงคุณภาพดีสุด เดี๋ยวนี้เครื่องเล่น DVD รุ่นใหม่ๆ ก็ใช้สายแบบนี้ทั้งนั้น
  2. ทีวีก็เหมือนเครื่อง DVD ตรงที่จะมีรูเสียบสาย HDMI เฉพาะเครื่องรุ่นใหม่ๆ เท่านั้น บางทีก็มีหลายรู แต่ละรูที่เป็น HDMI จะเขียนว่า "HDMI" หรือ "HDMI In" พร้อมระบุหมายเลข input
    • ถ้ามีหมายเลข input อย่าง "HDMI 1" ให้จำไว้เดี๋ยวต้องใช้ตั้งค่าทีวีถึงจะดูหนังได้
  3. สาย HDMI รับสัญญาณภาพและเสียงในสายเดียว คุณจะเสียบปลายข้างไหนตรงไหนก็ได้ แต่ถ้าสายตึงเกินไปหรือขั้วหนึ่งหลวม ระวังสัญญาณที่ได้จะไม่ดีเท่าที่ควร
    • สาย HDMI มีด้วยกันหลายแบบ ถ้าไม่เคร่งว่าต้องภาพชัดเปรี๊ยะ จะใช้สายแบบไหน ยาวแค่ไหนก็ตามสบาย [4]
  4. แล้วใส่แผ่น DVD เพื่อทดสอบภาพและเสียง
  5. เปลี่ยนทีวีไปที่ input ที่ถูกต้อง โดยกดปุ่ม "source" ในทีวีหรือที่รีโมท. บางทีก็เขียนว่า "input" ปุ่มนี้ใช้สลับช่องรับสัญญาณภาพและเสียงของทีวี input ที่เลือกในทีวีก็คือ input หรือรูเดียวกับที่คุณเสียบสายเครื่อง DVD ไว้
    • ถ้าไม่มีอะไรเขียนบอก หรือไม่รู้ว่าต้องเลือก input ไหน ให้เปิดเครื่อง DVD ไว้ แล้วทดสอบ input แต่ละช่อง 5 - 10 วินาที ว่าช่องไหนมีภาพขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

เสียบสาย A/V (3 หัว)

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เสียบปลายสาย A/V ข้างหนึ่งกับรู Output ของเครื่อง DVD. รูเสียบนี้จะสีเดียวกับขั้วเสียบที่สาย (แดง ขาว และเหลือง) ให้มองหากลุ่มที่เขียนว่า "Output" หรือ "Out" รูสีแดงกับขาว (เสียง) บางทีก็อยู่แยกกับรูสีเหลือง (วีดีโอ) [5]
    • ปกติรูเสียบจะรวมกันอยู่โดยมีขอบหรือเส้นล้อมรอบให้รู้ว่าเป็นรูสำหรับเสียบสายเดียวกัน
  2. ก็เหมือนของเครื่อง DVD รูเสียบของทีวีจะเป็นสีเดียวกับขั้วเสียบที่สาย และรวมกันอยู่เป็นกลุ่ม ให้มองหาที่เขียนว่า "Input" หรือ "In" สาย A/V input ปกติจะมีหมายเลขกำกับ จะได้รู้ว่าช่อง input ไหนที่คุณต้องเลือกในทีวี
    • ปกติรู input จะรวมกันอยู่โดยมีขอบหรือเส้นล้อมรอบให้รู้ว่าเป็นรูสำหรับเสียบสายเดียวกัน (แยกจากสายชนิดอื่น)
    • รูสีแดงกับขาว (เสียง) บางทีก็อยู่แยกกับรูสีเหลือง (วีดีโอ) จะมีเขียนบอกไว้ว่ารูไหนคือ Input ที่เท่าไหร่
  3. ขั้วเสียบกับรูเสียบต้องสีเดียวกัน ทั้งของเครื่อง DVD และทีวี [6]
    • รูสีเหลือง (วีดีโอ) บางทีก็อยู่แยกกับรูสีแดงกับขาว (เสียง)
  4. แล้วใส่แผ่น DVD เพื่อทดสอบภาพและเสียง
  5. เปลี่ยนทีวีไปที่ input ที่ถูกต้อง โดยกดปุ่ม "source" ในทีวีหรือที่รีโมท. บางทีก็เขียนว่า "input" ปุ่มนี้ใช้สลับช่องรับสัญญาณภาพและเสียงของทีวี input ที่เลือกในทีวีก็คือ input หรือรูเดียวกับที่คุณเสียบสายเครื่อง DVD ไว้
    • ถ้าไม่มีอะไรเขียนบอก หรือไม่รู้ว่าต้องเลือก input ไหน ให้เปิดเครื่อง DVD ไว้ แล้วทดสอบ input แต่ละช่อง 5 - 10 วินาที ว่าช่องไหนมีภาพขึ้น
  6. ถ้ามีแต่ภาพหรือมีแต่เสียง หรือไม่มีอะไรสักอย่าง แสดงว่าคุณอาจจะเสียบสายผิด ให้เช็คให้ชัวร์ว่าเสียบสายถูกสีและแน่นหนาดีแล้ว
    • ถ้าภาพไม่ขึ้น ให้เช็คสายสีเหลืองว่าเสียบถูก Input ของทีวี และ Output ของเครื่อง DVD หรือยัง
    • ถ้าเสียงไม่ออก ให้เช็คสายสีแดงและขาวว่าเสียบถูก Input ของทีวี และ Output ของเครื่อง DVD หรือยัง
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

เสียบสาย Component (5 หัว)

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เสียบทั้ง 5 ขั้วของปลายสายข้างหนึ่งกับรูรับที่เครื่อง DVD. รูเสียบจะสีเดียวกับขั้วที่สาย (คือสีเขียว น้ำเงิน แดง ขาว และแดง) และมักอยู่รวมกันพร้อมมีชื่อกำกับ ว่า "Output" หรือ "Out" รูสีเขียว น้ำเงิน และแดง (วีดีโอ) บางทีก็แยกจากรูสีแดงกับขาว (เสียง) แต่ละขั้วต้องเสียบให้แน่นหนา
    • คุณจะสังเกตเห็นว่าสาย component นั้นมีขั้วเสียบสีแดง 2 อัน บางทีก็ทำเอาสับสน ถ้าอยากรู้ว่าอันไหนเป็นอันไหน ให้แผ่สายให้เห็นครบทุกขั้ว ลำดับสีควรจะเป็นเขียว น้ำเงิน แดง (วีดีโอ) ตามด้วยขาว และแดง (เสียง)
    • สาย component บางเส้นจะมีแค่สีเขียว น้ำเงิน แล้วก็แดง (วีดีโอ) แบบนี้ต้องหาสายเสียง (แดงกับขาว) มาเพิ่ม ถึงจะเปิดแผ่น DVD แล้วมีเสียง เหมือนกับขั้นตอนของสาย A/V ที่เราบอกไป
  2. จะเหมือนของเครื่อง DVD เลย คือรูกับขั้วเสียบสีจะตรงกันและรวมกันอยู่เป็นกลุ่ม Input ให้มองหารูที่เขียนว่า "Input" หรือ "In" ปกติจะมีหมายเลขกำกับด้วย เพราะเดี๋ยวต้องไปเลือก Input ในทีวีให้ถูกช่อง
  3. ขั้วเสียบกับรูเสียบต้องสีเดียวกัน ทั้งของเครื่อง DVD และทีวี
  4. แล้วใส่แผ่น DVD เพื่อทดสอบภาพและเสียง
  5. เปลี่ยนทีวีไปที่ input ที่ถูกต้อง โดยกดปุ่ม "source" ในทีวีหรือที่รีโมท. บางทีก็เขียนว่า "input" ปุ่มนี้ใช้สลับช่องรับสัญญาณภาพและเสียงของทีวี input ที่เลือกในทีวีก็คือ input หรือรูเดียวกับที่คุณเสียบสายเครื่อง DVD ไว้
    • ถ้าไม่มีอะไรเขียนบอก หรือไม่รู้ว่าต้องเลือก input ไหน ให้เปิดเครื่อง DVD ไว้ แล้วทดสอบ input แต่ละช่อง 5 - 10 วินาที ว่าช่องไหนมีภาพขึ้น
  6. ถ้ามีแต่ภาพหรือมีแต่เสียง หรือไม่มีอะไรสักอย่าง แสดงว่าคุณอาจจะเสียบสายผิด ให้เช็คให้ชัวร์ว่าเสียบสายถูกสีและแน่นหนาดีแล้ว
    • ถ้าภาพไม่ขึ้น ให้เช็คสายสีเขียว น้ำเงิน และแดง (วีดีโอ) ว่าเสียบถูก Input ของทีวี และ Output ของเครื่อง DVD หรือยัง
    • ถ้าเสียงไม่ออก ให้เช็คสายสีแดงและขาวว่าเสียบถูก Input ของทีวี และ Output ของเครื่อง DVD หรือยัง
    • เช็คให้ชัวร์ว่าเสียบสายสีแดง 2 เส้นถูกรูแล้ว ถ้าผิดระวังภาพ/เสียงจะไม่ออก
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

แก้ปัญหาที่พบบ่อย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ต้องไฟเข้าถึงจะทำงาน เพราะงั้นต้องเช็คให้ชัวร์ว่าเสียบปลั๊กที่ผนังหรือปลั๊กพ่วงแล้ว
  2. เครื่องเล่น DVD จะต่อกับหนึ่งในช่อง Input หรือ Auxiliary จะไม่ไปโผล่ใน Channel 3 หรือ 4 เหมือนเครื่อง VCR บางเครื่อง
    • ชื่อช่อง Input ของทีวีบางเครื่องจะเป็นประเภทของสาย input เช่น "HDMI", "AV" หรือ "COMPONENT" ให้ย้อนไปอ่านวิธีการ 1 ถ้าสงสัยเรื่องประเภทสาย input ที่ต้องใช้
  3. บางทีสายเก่าก็ลอกหรือหลวม ทำให้ใช้งานได้ไม่ค่อยดีหรือใช้ไม่ได้เลย ยังไงลองเปลี่ยนสายใหม่ดู เผื่อจะแก้ปัญหาได้
    • หมายเหตุ: มีหลายยี่ห้อโปรสายตัวเองแพงและเว่อร์เกินจริง บอกเลยว่าจริงๆ แล้วสายแพงและถูก เวลาใช้งานแทบไม่เห็นความแตกต่าง อย่างสาย HDMI ราคาไม่กี่ร้อยกับราคาเป็นพันก็ใช้งานได้ดีพอกัน [7]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เครื่องเล่น DVD ส่วนใหญ่จะมี "Quick Start Guide" ไว้แนะนำขั้นตอนการติดตั้งและใช้งาน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 49,240 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา