ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไข่นั้นค่อนข้างยากที่จะต้มโดยไม่ทำให้เปลือกมันแตก เมื่อไข่ยิ่งเย็น ก็จะยิ่งเปลือกแตกง่ายเมื่อเจอกับน้ำร้อน บางทีมันอาจแตกเพราะไปชนกับไข่ใบอื่นหรือชนกับก้นหม้อก็ได้ ในการที่จะไม่ให้เปลือกไข่แตก คุณต้องถือมันเบาๆ ต้มช้าๆ และคอยตามดูอุณหภูมิของไข่และน้ำอย่างใกล้ชิด

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เตรียมไข่เพื่อใช้ต้ม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณเก็บไข่ไว้ในตู้เย็น สิ่งที่สำคัญมากคือ อย่านำไปต้มในขณะที่ไข่ยังเย็นอยู่ เปลือกไข่มันแตกออกก็เพราะก๊าซร้อนขึ้นและดันเปลือกออกมานั่นเอง เมื่อแรงดันมีมากขึ้น ก๊าซก็จะรั่วออกมาทางรูโดยดันให้เปลือกไข่จุดที่บางๆ แตกออกมา ฉะนั้นให้นำไข่มาวางพักที่อุณหภูมิห้องก่อนจะต้มช้าๆ
    • ถ้าคุณไม่อยากให้ไข่ค่อยๆ อุ่นตามธรรมชาติขึ้นเอง ให้นำไปแช่น้ำก๊อกร้อนๆ สักสองสามนาทีก่อนน้ำไปต้มแทน
  2. ถ้าไข่สด เยื่อหุ้มเซลล์ด้านนอกก็จะติดกับเปลือกไข่ ในขณะที่เยื่อด้านในจะติดอยู่กับแอลบูเมน (“ไข่ขาว”) แต่ถ้าไข่มีอายุมากขึ้น เยื่อหุ้มเซลล์เหล่านั้นจะเปลี่ยนไปติดกับเปลือกไข่เองเรื่อยๆ [1]
  3. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    ปล่อยก๊าซที่ถูกกักอยู่เพื่อให้เปลือกไข่ไม่แตกง่ายๆ. ก่อนที่จะแช่ไข่ลงไปในน้ำ ให้ทิ่มไข่ด้วยหมุดติดกระดาษหรือเข็มกลัด มันจะช่วยให้ฟองอากาศที่ถูกกักไว้ออกมาได้โดยไม่ไปดันให้เปลือกไข่แตกระหว่างการต้ม [2]
  4. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    เรียงไข่เบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่แตก อย่าใส่ไข่แน่นหม้อเกินไป คุณควรเรียงไข่ให้ได้แค่ชั้นเดียวในการต้มแต่ละครั้ง และไม่ควรให้แน่นจนไปดันไข่ใบอื่นๆ ได้ ถ้าคุณพยายามที่จะต้มไข่จำนวนมากในครั้งเดียว ไข่บางใบอาจแตกจากน้ำหนักได้ [3]
    • ทดสอบว่าไข่ของคุณสดหรือไม่ ด้วยการใส่ลงไปในชามที่บรรจุน้ำเกลือ ถ้าไข่จมก็แปลว่าสด ถ้าลอยก็อาจแปลว่ามันเสียแล้ว
    • ปูผ้าพับเอาไว้ก้นหม้อ เพื่อช่วยรองไข่ให้มีโอกาสแตกน้อยลง
  5. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    เปิดน้ำใส่เบาๆ ให้สูงขึ้นมาอย่างน้อยหนึ่งนิ้ว (3 ซม.) รินน้ำใส่ด้านข้างกระทะเพื่อไม่ให้ไปกระทบกับไข่ ถ้าเลี่ยงการเทน้ำใส่ไข่ไม่ได้ ก็ให้จับไข่เอาไว้ให้อยู่นิ่งๆ เพื่อที่มันจะได้ไม่กลิ้งไปมาและชนแตก
    • ใส่เกลือครึ่งช้อนชาลงในน้ำ มันจะช่วยให้ไข่ปอกง่ายขึ้น และอาจช่วยป้องกันไม่ให้ไข่แตกได้ด้วย น้ำเกลือจะช่วยให้ไข่ขาวแน่นขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังช่วยอุดรูได้ถ้าหากว่าไข่แตกในขณะที่ต้มอยู่
    • ห้ามหย่อนไข่ลงในหม้อน้ำร้อนโดยตรง ไม่อย่างนั้นเปลือกไข่จะแตก และไข่จะไหลออกมา (ทำให้คุณได้ไข่ดาวน้ำมาแทน) ด้วยการที่ไข่เย็นๆ ไปเจอกับน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ก็คือเป็นการไป"ช็อค"มันด้วยการเปลี่ยนอุณหภูมิทันควัน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ไข่แตกได้ [4] Furthermore, cold water helps to keep the eggs from overcooking.
  6. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    ใช้น้ำส้มสายชูหนึ่งช้อนชาต่อไข่หนึ่งใบ และรินลงในน้ำโดยตรงก่อนที่จะจุดแก๊ส การใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำจะช่วยให้โปรตีนในไข่ขาวแข็งตัวเร็วขึ้นและอุดรูรั่วรอยแตกที่เกิดขึ้นบนเปลือกได้ [5] ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นปกติ โดยเฉพาะถ้าไข่มีอุณหภูมิที่เย็นจัดแล้วด้วย
    • คุณสามารถรอให้ไข่แตกแล้วค่อยเติมน้ำส้มสายชูลงไปก็ได้ ซึ่งสังเกตได้จากของเหลวสีขาวที่ลอดออกมาจากรอยแตกของไข่ ให้จัดการอะไรๆ ให้ไวเลยนะ ถ้าคุณใส่น้ำส้มสายชูลงไปทันทีที่ไข่แตก ไข่ก็ยังมีสิทธิ์ที่จะถูกต้มสุกเท่ากันทั้งใบได้
    • ถ้าคุณเติมน้ำส้มสายชูลงไปไม่ทันก็ไม่ต้องกังวลไป ไข่ที่แตกแล้วก็ยังต้มออกมาได้ดีอยู่ ถึงแม้จะดูไม่สมบูรณ์แบบก็ตามIf [6]
    • ไม่ต้องใส่เยอะมาก ถ้ารินลงไปเยอะมาก รสชาติและกลิ่นของไข่อาจออกมาแบบน้ำส้มสายชูได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ต้มไข่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    ปล่อยให้น้ำถูกต้มอย่างช้าๆ เพื่อให้ไข่ไม่แตกจากการเปลี่ยนอุณหภูมิกะทันหัน ปิดฝาหม้อเอาไว้ น้ำจะเดือดไวขึ้นเมื่อปิดฝาเอาไว้ แต่จะเปิดเอาไว้เพื่อสังเกตไข่ก็ได้อยู่ [7]
    • ให้แน่ใจว่าไข่ไม่นอนก้นอยู่ด้านล่าง ที่จะทำให้ไข่สุกไม่ทั่วและเปลือกแตกง่าย ให้กวนน้ำทุกครั้งที่คุณเห็นว่าไข่ติดอยู่ก้นหม้อ ใช้ช้อนไม้ในการคน และคนให้เบามากๆ เพื่อที่จะได้ไม่ไปทำให้ไข่แตก
  2. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    เมื่อน้ำเดือดเต็มที่เมื่อไร ให้ปิดไฟและปล่อยให้ไข่แช่อยู่ในน้ำร้อน เปิดฝาออก ความร้อนของน้ำและความอุ่นที่หลงเหลืออยู่จากเตานั้นเพียงพอที่จะทำให้ไข่สุกต่อจนเต็มที่ได้ ทิ้งไข่เอาไว้ในหม้ออีกสัก 3-15 นาที ขึ้นอยู่กับว่าอยากให้ไข่สุกแค่ไหน
    • ถ้าอยากให้ไข่สุกแบบยางมะตูม ให้เอาไข่ออกจากน้ำเมื่อผ่านไปสามนาที ไข่ขาวจะแข็งตัวแล้ว ในขณะที่ไข่แดงจะยังเหลวและอุ่น ให้ค่อยๆ แกะเปลือกออก แล้วใช้ช้อนคันใหญ่ตักเนื้อไข่ออกมาเพื่อไม่ให้เปลือกแตก [8]
    • ถ้าคุณชอบไข่สุกปานกลาง ให้เอาไข่ออกจากน้ำภายใน 5-7 นาที ไข่แดงจะกึ่งนุ่มๆ อยู่ตรงกลาง และไข่ขาวจะแน่นมาก ยังต้องถือไข่อย่างอ่อนโยน แต่ไม่ต้องห่วงว่าเปลือกมันจะแตกมากนัก
    • ถ้าคุณชอบไข่ต้มสุกๆ ให้ทิ้งเอาไว้ในน้ำร้อนประมาณ 9-12 นาที ไข่แดงจะแน่นทั้งลูก และไม่ต้องห่วงเรื่องที่ว่าเปลือกมันจะแตกเลย ถ้าหากคุณอยากได้ไข่ต้มสุกและไข่แดงเป็นสีเหลือง ให้ทิ้งไข่ไว้ในน้ำสัก 9-10 นาที ถ้าหากได้ไข่ที่สุกขึ้น ไข่แดงเป็นสีเหลืองซีดตรงกลาง ก็พักไว้ 11-12 นาที
  3. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    หลังจากผ่าน 12 นาทีไป ไข่แดงจะเริ่มเกิดรอยรอบๆ เป็นสีออกเทา หรือออกเขียว ไข่ก็ยังกินได้อยู่ และรอยสีนั่นก็ไม่ได้มีผลกระทบกับรสชาติมากมายนัก แต่บางคนก็รู้สึกว่ารอยสีเทาสีเขียวทำให้ความอยากอาหารลดลงไปอยู่ [9] ลองพิจารณาที่จะซื้อตัววัดเวลาไข่เปลี่ยนสีดู มันคือตัววัดที่ตอบสนองกับความร้อนที่คุณสามารถใส่ลงไปในน้ำพร้อมกับไข่ที่กำลังต้มได้เลย คุณสามารถหาซื้อตัวจับเวลานี้ได้ตามร้านที่มีแผนกเครื่องครัว [10]
  4. รู้ว่าไข่ที่แตกตอนไหนถึงจะปลอดภัยต่อการรับประทาน. ถ้าไข่แตกขณะที่ต้มอยู่ ก็ยังสามารถกินได้ และยังสามารถต้มต่อไปได้ถ้าหากว่ารอยแตกไม่ได้ใหญ่มากนัก ถ้าไข่แตกก่อนที่จะนำมาต้ม ก็อย่าดื้อจะต้มมัน แบคทีเรียอาจแทรกซึมเข้าไปในเปลือกไข่ และก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพคุณได้ [11]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

แช่ไข่ให้เย็น แกะเปลือก และเก็บไข่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    ขณะที่ใช้น้ำร้อนต้มไข่อยู่ ให้เติมน้ำเย็นใส่ลงชามขนาดใหญ่ ละลายเกลือ ¼ - ½ ช้อนชาลงในน้ำ จากนั้นก็เติมน้ำแข็งลงไปเพื่อลดอุณหภูมิของน้ำไปอีก เมื่อไข่ต้มเสร็จแล้ว ก็ให้ค่อยๆ ย้ายมาลงชามนี้เพื่อไม่ให้ไข่สุกไปมากกว่านี้
  2. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    หลังจากที่ต้มไข่ได้ตามเวลาที่ต้องการแล้ว ให้รินน้ำร้อนออกจากหม้อ แล้วย้ายไข่ลงชามน้ำแข็งเพื่อให้ไข่หยุดสุก ค่อยๆ ใช้กระชอนย้ายไข่ลงมาทีละลูกเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่แตก ค่อยๆ หย่อนไข่ลงชามน้ำแข็งเพื่อเปลี่ยนอุณหภูมิให้ลดลง จากนั้นก็รอไปอีก 2-5 นาที
  3. เมื่อไข่เย็นพอที่จะถือได้แล้ว เก็บมันไว้ในตู้เย็นสัก 20-30 นาทีเพื่อให้เปลือกไข่หลวมขึ้น ถ้าคุณไม่ได้แคร์ว่าจะต้องปอกออกมาให้สวย หรือชอบไข่อุ่นๆ มากกว่า ก็ไม่ต้องแช่ตู้เย็น แต่แกะทันทีที่ไข่เย็นลงได้เลย
  4. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    หมุนไข่บนโต๊ะเพื่อพิสูจน์ว่าไข่ต้มสุกแล้วโดยไม่ต้องแกะเปลือกมันออกมา ถ้าไข่หมุนไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย ก็แปลว่ามันต้มสุกแล้ว แต่ถ้าไข่ยังดูแกว่งไปมา ให้ต้มต่อนานขึ้นอีกสักหน่อย
  5. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    กดไข่ไว้บนพื้นเรียบสะอาด แล้วใช้มือกลิ้งเพื่อทำให้เปลือกไข่แตก เริ่มปอกตั้งแต่ส่วนฐานที่กว้างกว่าขึ้นไป ซึ่งจะเป็นส่วนที่มีพื้นที่ว่างเล็กๆ อยู่ใต้เปลือก ทำให้ไข่ง่ายต่อการปอกขึ้นมาอีกหน่อย
    • ล้างไข่ด้วยน้ำเย็นตอนที่คุณปอกมัน มันจะช่วยให้เปลือกไข่และเยื่อหุ้มไม่ติดกัน
    • ถ้าไข่แตกแล้วก็จะปอกไข่ได้ง่ายกว่าเป็นเรื่องปกติ นำไข่ใส่กลับไปยังหม้อที่มีฝาปิด จากนั้นเขย่าหม้อไปด้านหน้าด้านหลังเพื่อทำให้เปลือกไข่แตก อาจต้องทำหลายครั้งหน่อยเพื่อให้ไข่ทุกใบแตกทั้งหมด
  6. ให้ปอกเปลือกไข่และเยื่อหุ้มออกเล็กน้อยตรงก้นไข่ สอดช้อนเข้าไปในเปลือกไข่และเยื่อหุ้มเพื่อให้ครอบไข่ จากนั้นให้เลื่อนช้อนไปให้ทั่วเพื่อปอกเปลือกทุกส่วนออกมา
  7. Watermark wikiHow to ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก
    ไข่นั้นพร้อมที่จะกินได้ทันทีเมื่อคุณปอกเปลือกมันออกมาแล้ว ให้เก็บไข่ที่เหลือไว้ในภาชนะมีฝาปิด ห่อไว้ด้วยทิชชู่แผ่นหนาเปียกๆ เปลี่ยนแผ่นทิชชู่ทุกวันเพื่อไม่ให้ไข่แห้ง รีบกินภายในสี่ถึงห้าวันก่อนที่มันจะเสียล่ะ
    • คุณสามารถเก็บไข่ไว้ในน้ำเย็นได้เช่นกัน เปลี่ยนน้ำทุกวันเพื่อไม่ให้ไข่เสีย
    • หรือจะเก็บไข่ต้มสุกไว้หลายๆ วันก่อนที่จะปอกเปลือกไข่ก็ได้ อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่ามันอาจจะแห้งและมีผิวคล้ายยาง การเก็บไข่ที่ปอกเปลือกแล้วด้วยความชุ่มชื้นไว้ในตู้เย็นย่อมดีกว่าเก็บไข่ที่ยังไม่ปอกเปลือก
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ไข่ที่มีขนาดใหญ่มากก็ต้องใช้เวลาต้มนานกว่าไข่ขนาดใหญ่สักหน่อย เพิ่มเวลาต้มไปอีกสักสามนาที ขึ้นอยู่กับความใหญ่ของไข่ใบนั้นด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากต้มไข่ใบใหญ่พิเศษให้สุก ก็อาจต้องใช้เวลาสัก 15 นาที
  • ถ้าคุณจะใช้ไข่ขาว ให้ใส่เปลือกหัวหอม (ส่วนที่เป็นสีน้ำตาล) ลงในน้ำต้มขณะที่ต้มไข่อยู่ เปลือกหัวหอมจะไปย้อมสีไข่ให้สีค่อนข้างน้ำตาลลงหน่อย และคุณก็จะแยกไข่ต้มและไข่ดิบออกจากกันได้ด้วยตาเปล่า มันจะมีประโยชน์มากถ้าคุณเป็นคนที่เก็บไข่ต้มรวมไว้กับไข่ดิบอยู่แล้ว
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 49,422 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา