ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการทวงสิทธิ์แอดมินของเพจ Facebook ของคุณเองหรือขององค์กร ถ้าบัญชีคุณถูกแฮก แล้วถูกแฮกเกอร์ถอนสิทธิ์แอดมิน เข้าเพจตัวเองไม่ได้ ก็ต้องรายงาน (report) ไปที่ Facebook ว่าเพจถูกแฮก แล้วยื่นคำร้องขอทวงเพจคืน ถ้าถูกแอดมินเก่ายึดเพจ แล้วลดสิทธิ์หรือถอนสิทธิ์การเข้าถึงเพจของคุณ จะทวงเพจคืนมาได้ต่อเมื่อพิสูจน์ให้ Facebook รู้ว่าคุณเป็นเจ้าของเพจตัวจริง (เป็นเจ้าของเนื้อหาในเพจ) และถ้าไปเจอเพจยี่ห้อสินค้าหรือองค์กรของคุณ โดยที่คนอื่นเป็นผู้สร้าง ก็สามารถทวงสิทธิ์ หรือควบรวมเพจนั้นกับเพจทางการของคุณได้ด้วย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

กู้คืนเพจกรณีบัญชีแอดมินถูกแฮก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าบัญชีส่วนตัวของคุณหรือแอดมินคนอื่นของเพจถูกแฮก แฮกเกอร์ก็อาจจะยึดเพจ official ขององค์กรหรือแบรนด์คุณไปด้วย ถ้าเจ้าของบัญชีที่ถูกแฮก เข้าบัญชีตัวเองไม่ได้ ก็ต้อง report หรือรายงานปัญหาไปที่ https://www.facebook.com/hacked เพื่อทวงบัญชีคืนมา [1] พอ Facebook ยืนยันว่าคุณถูกแฮกจริงๆ แล้ว ก็ทำตามขั้นตอนของวิธีการนี้ต่อไปได้เลย
    • วิธีนี้จะใช้ได้ก็เฉพาะถ้าคุณได้รับสิทธิจากแอดมินแล้วถูกคนอื่นเตะออก
    • ถ้าเพื่อนแอดมินหรือคนอื่นในองค์กร/แบรนด์ เป็นคนเตะคุณออกจากฐานะแอดมินเพจ ให้อ่าน วิธีการกู้คืนเพจจากแอดมินที่ขโมยเพจไป แทน
  2. เข้าเว็บ https://www.facebook.com/help/contact/1280439701975125 . ถ้าไม่ได้ล็อกอินบัญชีที่ถูกแฮกไว้ และต้องการทวงสิทธิ์แอดมินเพจคืนมา ก็ต้องทำขั้นตอนนี้ก่อน
  3. เพจที่เห็นในเมนู คือเพจที่บัญชีคุณเคยมีสิทธิ์แอดมิน
    • ถ้าแฮกเกอร์เปลี่ยนคุณเป็นตำแหน่งอื่นในเพจ ที่ไม่ใช่แอดมิน (เช่น Moderator, Analyst หรือ Jobs Manager) เพจนั้นจะไม่ขึ้นในเมนูนี้ เพราะในแง่หนึ่งคุณยังเป็นสมาชิกอยู่ วิธีเดียวที่จะไปต่อได้ คือต้องลบตัวเองออกจากตำแหน่งปัจจุบัน [2] โดยคลิก Settings ในเพจ คลิก Page Roles ในกรอบซ้าย คลิก Edit ล่างบัญชีตัวเอง แล้วเลือก Remove
  4. เพื่อ report ไปยัง Facebook เจ้าหน้าที่ของ Facebook จะตรวจสอบเองว่าบัญชีถูกแฮกจริงหรือเปล่า แล้วติดต่อกลับมาที่คุณทางอีเมล พร้อมขั้นตอนการยืนยันตัวตน ขั้นตอนนี้ปกติใช้เวลาประมาณ 1 วัน ไปจนถึงหลายอาทิตย์
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

กู้คืนเพจจากแอดมินที่ขโมยเพจไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไปที่ https://www.facebook.com/help . นี่จะพาไปยังศูนย์ความช่วยเหลือของ Facebook ถ้ามีคนอื่นเข้าควบคุมยึดเพจที่ควรจะเป็นของคุณและไม่ให้คุณเข้าถึง คุณสามารถรายงานเพจว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของคุณได้
    • ใช้วิธีนี้ถ้าคุณเป็นเจ้าขององค์กรหรือบริษัทที่เพจนั้นเป็นตัวแทน แต่คุณไม่เคยมีสิทธิ์อำนาจของแอดมินในเพจนั้น
    • วิธีนี้จะทำให้คอนเทนต์หรือเพจที่ถูกรายงาน ถูกลบ ออกไปจาก Facebook เท่านั้น แต่ Facebook จะไม่ เปลี่ยนแปลงการควบคุมของแอดมินเพจ
    • ถ้าคุณเคยเป็นแอดมินเพจแต่ถูกเตะออก ให้ใช้ วิธีนี้ แทน
    • ถ้าคุณยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ Facebook ก็ต้องทำในตอนนี้
  2. อยู่ทางแผงซ้ายมือ
  3. อยู่ทางแผงซ้ายเช่นกัน
  4. อยู่ใต้ "Intellectual Property" ทางแผงซ้าย
  5. นี่เป็นลิงก์ในย่อหน้าแรกของด้านบนของแผงขวา
  6. หากคุณกำลังจะรายงานการละเมิดของนายจ้างหรือองค์กรอื่นๆ ให้เลือก I am reporting on behalf of my organization or client แทน
    • คุณอาจต้องเลือก Copyright แล้วก็ Continue with your copyright report ก่อนจะเห็นตัวเลือกนี้
  7. คุณต้องใส่ชื่อเต็ม (แม้จะรายงานแทนผู้อื่นก็ตาม) ที่อยู่ กับอีเมล ชื่อบุคคลที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และประเทศที่เจ้าของสิทธิ์อาศัยอยู่
    • ถ้าคุณรายงานเพจด้วยตัวคุณเอง แค่ใส่ชื่อคุณในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์
    • Facebook จะใส่ชื่อเต็มของคุณเวลาติดต่อกับบุคคลอื่น จงจำเรื่องนี้ไว้ด้วย
  8. คุณจะเจอตัวเลือกนี้ในเมนูที่กำกับว่า "Which of these best describes the copyrighted work?"
  9. ใส่ URL อย่างน้อยหนึ่งชื่อเพื่อพิสูจน์ว่าคุณเป็นเจ้าของเนื้อหานั้น. ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณานิตยสารที่ทางเพจถูกยึด คุณสามารถลิสต์เว็บไซต์หลักของนิตยสารไว้ตรงนี้ เช่นเดียวกับเพจที่มีชื่อเต็มของคุณปรากฏอยู่ นี่จะใส่ในกล่องใหญ่ที่กำกับไว้ว่า "Please provide links (URLs) to the copyrighted work or describe it in the box below."
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นเจ้าของ wikiHow และเพจถูกยึด คุณก็ลิสต์ www.wikihow.com ไว้ที่นี่
    • หากคุณไม่มีหลักฐานยืนยันความเป็นเจ้าของออนไลน์ คุณสามารถพิมพ์คำอธิบายอย่างละเอียดลงไปในกล่องข้อความนี้ก็ได้
  10. เลือก Other เป็นชนิดของเนื้อหาที่คุณต้องการจะรายงาน. เนื่องจากคุณกำลังจะรายงานเพจ Other จึงเป็นตัวเลือกที่ใกล้เคียงที่สุด
  11. คุณจะต้องใส่มันลงในกล่องข้อความที่กำกับไว้ว่า "Please provide links (URLs) leading directly to the specific content you are reporting."
    • เช่น ถ้าคุณเป็นเจ้าของหน้าเพจ Facebook ของ wikiHow คุณต้องใส่ www.facebook.com/wikiHow ที่นี่
  12. นี่เป็นตัวเลือกแรกในเมนู "Describe why you are reporting this content"
  13. ตอนนี้คุณสามารถใส่รายละเอียดของเรื่องราว ให้ Facebook รู้ว่าคุณควรเป็นแอดมินเพจตัวจริงแต่ถูกแอดมินปัจจุบันยึดการเข้าถึง ให้อธิบายตรงไปตรงมาและเข้าใจ
    • เช่น หากมีพนักงานคนหนึ่งออกจากบริษัทแล้วปฏิเสธที่จะยกสิทธิ์ของแอดมินเพจคืนบริษัท ให้ระบุในกล่องข้อความตรงๆ โดยไม่ต้องเจาะลึดถึงรายละเอียด
    • การจะแนบไฟล์ เช่น ใบอนุญาตทางการค้า เอกสารภาษี หรือหลักฐานอื่นๆ ให้คลิก Choose Files เลือกไฟล์แล้วคลิก Open
  14. อ่านข้อตกลงเหนื่อช่องเซ็นชื่อก่อนจะเซ็นชื่อ โดยการเซ็นชื่อนั้น คุณกำลังระบุว่าบุคคลที่กำลังบริหารเพจนั้นอยู่ไม่ใช่ผู้มีอำนาจชอบธรรม แต่เป็นทางคุณหรือบริษัทของคุณต่างหาก การเซ็นแบบฟอร์มนั้นก็แค่พิมพ์ชื่อของคุณลงในช่องทางด้านล่าง
    • พอ Facebook ทำการตัดสินใจ (หรือเห็นว่ายังต้องการหลักฐานเพิ่มเติม) พวกเขาจะติดต่อคุณทางอีเมล กระบวนการควรใช้เวลาตั้งแต่ 24 ชั่วโมงไปถึงสองสามสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับว่าทางฝ่ายดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ของ Facebook นั้นมีงานยุ่งแค่ไหน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ทวงสิทธิ์แอดมินของเพจที่ไม่เป็นทางการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บางทีก็เจอเพจองค์กรหรือแบรนด์ตัวเอง ทั้งๆ ที่ไม่เคยสร้างเพจ ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่ามีคน "เช็คอิน" ที่ร้านหรือธุรกิจของคุณ ไม่ก็มีการสร้างเพจอัตโนมัติโดย Wikipedia [3] ถ้าเจอเพจองค์กรหรือแบรนด์ตัวเอง ที่ไม่ใช่ของคุณ ให้เริ่มจากพิมพ์ชื่อเพจในแถบค้นหาของ Facebook แล้วคลิกผลการค้นหาที่โผล่มา
  2. ที่เป็นลิงค์ที่โผล่มาล่างรูปหน้าปกของเพจ ทางด้านบนของหน้าต่าง ทางขวาของคำเตือน "Unofficial Page" (นี่ไม่ใช่เพจทางการ)
    • ถ้าไม่เจอตัวเลือกนี้ แสดงว่าเพจนี้มีคนยื่นหลักฐานอ้างสิทธิ์การเป็นเจ้าของแบรนด์หรือธุรกิจแล้ว
    • ถ้าคุณมีเพจ official ของแบรนด์หรือองค์กรที่คุณดูแลอยู่แล้ว และอยากควบรวม (merge) กับเพจที่ว่า ให้เลือก "Merge xxx into a Verified Page you manage"
    • ถ้ายังไม่มีเพจตัวเองให้ควบรวม ก็เลือก "Claim and verify xxx with a phone call or documents" แทน
  3. ถ้าเลือก merge หรือควบรวมเพจอื่นกับเพจที่คุณดูแลอยู่แล้ว ปกติจะทำได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน ขอแค่เพจของคุณผ่านการตรวจสอบแล้ว และมีที่อยู่ เบอร์โทร และข้อมูลอื่นๆ ตรงกัน [4] ขั้นตอนคือ
    • คลิกเมนู Select Page ให้ขยายลงมา
    • คลิกเพจที่จะ merge
    • คลิก Submit
    • ถ้า Facebook อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบก่อนรวมเพจ จะติดต่อคุณมาเอง พร้อมบอกขั้นตอนที่ต้องทำ
  4. ถ้าได้รวมเพจไปในขั้นตอนก่อนหน้า ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้ แต่ถ้าเลือก claim and verify คือทวงคืนแล้วยืนยันเพจที่เคยดูแล ก็จะมีขั้นตอนตรวจสอบและยืนยันตัวตนทางโทรศัพท์ หรือส่งเอกสารการจดทะเบียนธุรกิจและอื่นๆ ไปยัง Facebook พอยื่นหลักฐานที่จำเป็นไปทั้งหมดแล้ว Facebook จะตรวจสอบข้อมูล ถ้าผ่านก็จะคืนสิทธิ์แอดมินมาให้ (หรือติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม) ใช้เวลาประมาณ 1 วัน ไปจนถึง 2 - 3 อาทิตย์
    • ยืนยันทางโทรศัพท์
      • พิมพ์เบอร์โทรของร้านหรือบริษัท ถ้าต้องต่อแผนกอื่น ให้ระบุเบอร์ที่ต้องกดด้วย ซึ่งเบอร์โทรนี้ต้องเป็นเบอร์เดียวกับที่คุณลงรายละเอียดหรือลงโฆษณาแบบเปิดเผยไว้
      • เลือกภาษาที่จะใช้ในการโทร
      • คลิก Call Now เมื่อพร้อมรับโทรศัพท์ยืนยัน
      • พิมพ์โค้ด 4 หลัก เพื่อยืนยันตัวตนให้เสร็จสิ้น
    • ยืนยันโดยยื่นเอกสาร
      • คลิก Verify this Page with documents instead ทางด้านล่างของหน้าต่าง
      • สแกนหรือถ่ายรูปเอกสารที่ Facebook รับยื่นเป็นหลักฐาน จะได้อัพโหลดแล้วส่งไปได้เลย เอกสารที่ว่าก็เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ เอกสารการยื่นภาษี ทะเบียนธุรกิจ หรือบทความข่าวสารที่กล่าวถึงแบรนด์ของคุณก็ได้ โดยที่อยู่ในเอกสารต้องตรงกันกับร้านหรือบริษัทของคุณ
      • คลิก Choose File
      • เลือกเอกสาร แล้วคลิก Open
      • คลิก Submit
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ป้องกันการเสียสิทธิ์แอดมิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อให้มีหลักฐานทางกฎหมาย ในกรณีที่บัญชีถูกแอดมินอีกคนยึดไป แนะนำให้พนักงานหรือผู้ใช้ที่มีตำแหน่งในเพจ Facebook คุณทุกคน เซ็นสัญญานี้ก่อนมีสิทธิ์เข้าถึงและดูแลเพจของแบรนด์หรือบริษัท
  2. เวลาสร้างเพจ Facebook ตอนแรก ระวังอย่าให้พนักงานมีตำแหน่งในเพจสูงไปกว่า Editor จะได้แน่ใจว่าเขาทำได้แค่ดูแลเพจ เขียนโพสต์ ไม่มีสิทธิ์เตะคุณออกจากตำแหน่งแอดมินเพจ
    • ตำแหน่งของคุณในเพจต้องสูงสุด หรือก็คือตำแหน่ง "Admin" นั่นเอง ห้ามใครมาทำหน้าที่ซ้ำซ้อน
  3. เพราะถ้าพนักงานโพสต์ข้อมูลที่ละเมิดกฎ Facebook ด้านลิขสิทธิ์หรือเครื่องหมายการค้า เพจอาจถูก Facebook บล็อกไม่ให้โพสต์อะไรได้ จนกว่าจะลบข้อมูลที่ละเมิดกฎออกไป
  4. ถ้าคุณและพนักงานมีความสัมพันธ์อันดี ก็คงไม่มีใครลุกขึ้นมายึดเพจ หรือขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของคุณไป การพูดคุยสื่อสารให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน รับฟังความคิดเห็นของคนในแบรนด์/องค์กร ถือเป็นปัจจัยสำคัญของสภาพแวดล้อมอันดีในที่ทำงาน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าเพื่อนแอดมินด้วยกันเตะคุณออกจากเพจ แนะนำให้ลองพูดคุยกันดีๆ ด้วยเหตุผลก่อน ว่าเกิดอะไรขึ้น และพอมีทางแก้ไขไหม
  • การตรวจสอบบัญชีและคำร้องแบบนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน ถ้าไม่มีหลักฐานเพียงพอหรือคำอธิบายที่ดี บางที Facebook ก็ไม่ยอมคืนสิทธิ์แอดมินหรือเพจให้คุณง่ายๆ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 70,055 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา