ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การทักทายผู้คนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันและเป็นทักษะสำคัญที่สมควรเรียนรู้ไม่ว่าคุณจะยังเรียนหนังสืออยู่ ใช้เวลากับเพื่อน หรือทำธุรกิจ ลองอ่านคำแนะนำอันแสนเข้าใจง่ายด้านล่างเพื่อเรียนรู้ว่าจะทักทายผู้คนที่พบอย่างจริงใจและเป็นมิตรได้อย่างไร
ขั้นตอน
-
เข้าหาคน ๆ นั้น. คุณต้องเดินเข้าหาอีกฝ่ายอย่างมั่นใจและยิ้มแย้มเข้าไว้ อย่าทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อย่างกับคนโรคจิตชอบสะกดรอยตามชาวบ้านเชียวล่ะ
-
สบตาอีกฝ่ายเสียก่อนแล้วค่อยทักทาย. เมื่อคุณสบตากันแล้ว ทักทายอีกฝ่ายว่า “สวัสดีครับ/ค่ะ สบายดีไหมครับ/คะ?” หรือพูดอะไรที่ฟังดูเป็นมิตรพอ ๆ กัน
- เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เช่น ถ้าทุกคนที่นั่นทักกันว่า “เฮ้” แทนที่จะพูดว่า “หวัดดี” ก็ทัก “เฮ้” ไปกับเขา หรือถ้าเขาพูด “ฮัลโหล” กันก็ตามน้ำ “ฮัลโหล” ไปด้วยเสียเลย
-
รอจนอีกฝ่ายทักตอบ. ยิ้มและแนะนำตัวหลังจากอีกฝ่ายพูด “หวัดดี” กลับมา
- คุณอาจจะบอกไปว่าคุณรู้จักอีกฝ่ายได้อย่างไรหรืออาจจะย้ำเตือนความจำว่าอีกฝ่ายเคยพบเจอคุณมาก่อนก็ได้ เช่น “หวัดดี ผมชื่อจอห์นนี่นะ เราเคยเรียนวิชาภาพยนตร์ด้วยกันเทอมที่แล้วไง” การเกริ่นนำอย่างนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ชวนขายหน้าหรือความเงียบชวนอึดอัดเมื่อคน ๆ นั้นดันจำคุณไม่ได้
-
เริ่มชวนอีกฝ่ายคุย. หลังจากแนะนำตัวเองแล้ว คุณคงจะอยากรู้จักคน ๆ นั้นให้ดีขึ้นใช่ไหมล่ะ ถ้าคุณและคน ๆ นั้นสนใจอะไรคล้าย ๆ กันก็คุยเรื่องนั้นเสียเลยสิ คุณอาจจะพูดว่า “คุณเป็นแฟนหนังของริชาร์ด ลิงค์เลเทอร์หรือเปล่า?” หรือ “ผม/ฉันอยากคุยกับคุณต่อสักหน่อย เราหนีหนาวไปหาที่คุยกันดีไหมครับ/คะ?”
-
แสดงออกให้สอดคล้องกับท่าทีของอีกฝ่าย. ถ้าคน ๆ นั้นมองคุณแปลก ๆ และชิ่งหนี อย่าไล่ตามเขาหรือเธอ ไม่เพียงแต่คุณจะดูโรคจิตแต่คุณอาจจะเจอปัญหาใหญ่เลยก็ได้นะ แต่ถ้าอีกฝ่ายยิ้มและเริ่มพูดคุยกับคุณ ยินดีด้วย! คุณทักทายคนสำเร็จและมีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว!โฆษณา
-
ระมัดระวังกิริยามารยาท. วิธีการทักทายคนที่คุณเพิ่งรู้จักอย่างสุภาพคือการพูดว่า “สวัสดียามบ่ายครับ/ค่ะ เจสซี่ ยินดีที่ได้พบนะครับ/คะ”
- เป็นฝ่ายยื่นมือเข้าหาก่อน กระชับมือเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือกลับมา อย่าบีบมืออีกฝ่ายแรงๆ
- ถามไถ่ว่า “สบายดีไหมครับ/คะ?” การทักทายเช่นนี้จะช่วยละลายพฤติกรรมและเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ทักทายคุณกลับเช่นกัน แค่จำไว้เสมอว่าเมื่อคุณถามไถ่ใครก็ตามว่าสบายดีไหม อีกฝ่ายมักจะตอบว่า “ก็ดี” ไม่ว่าชีวิตของคน ๆ นั้นจะดีจริง ๆ หรือไม่ก็ตาม เตรียมตัวเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นไว้เลย ลองสังเกตอะไร ๆ ในตัวอีกฝ่ายสิ คน ๆ นั้นใส่เสื้อผ้าแบบไหน หรือถ้าเจ้าภาพที่จัดงานเลี้ยงวันนั้นเคยบอกคุณว่าเพื่อนใหม่คนนี้ทำงานทำการอะไรก็ชวนอีกฝ่ายคุยเรื่องนั้นซะ
-
พูดคุยเรื่องทั่ว ๆ ไปเพื่อเริ่มบทสนทนา. คุณอาจชวนอีกฝ่ายคุยเรื่องทั่ว ๆ ไปเพื่อที่จะดำเนินบทสนทนาต่อไป เช่น เรื่องดินฟ้าอากาศ ครอบครัว เคยไปเที่ยวไกลถึงไหนมาบ้าง แถวนี้มีร้านอะไรเหมาะจะไปรับประทานอาหารกลางวันไหม หรือเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นหัวข้อทั่ว ๆ ไปที่คนมักสนใจ อย่าพยายามทำให้อีกฝ่ายประทับใจเกินไป แค่ทำตัวเป็นมิตร เป็นกันเอง น่าเข้าหาก็พอแล้วล่ะ
-
สังเกตท่าทีของอีกฝ่าย. ถ้าคนที่คุณกำลังคุยด้วยเอาแต่หันหน้าหันหลังหรือก้มดูนาฬิกา นั่นเป็นสัญญาณบอกว่าเขาหรือเธอไม่ได้สนใจจะพูดคุยกับคุณสักเท่าไหร่ ผละออกมาอย่างสง่างามและไปหาอะไรจิบปลอบใจตัวเองซะโฆษณา
-
มั่นใจในตัวเองเข้าไว้. ทักคนที่พบเจออย่างเป็นมิตรแต่รักษาท่าทางอย่างมืออาชีพเอาไว้
-
ระมัดระวังเรื่องลำดับชั้นทางสังคม. คุณอาจจะเป็นกันเองได้มากกว่าเมื่อทักทายเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เช่น คุณอาจพูดว่า “ไงคะ แดน ดีใจจังที่ได้เจอคุณ ฉันได้ยินว่าคุณมีผลงานดี ๆ เพียบเลย นี่รอร่วมงานกับคุณอยู่เลยนะคะเนี่ย”
- ถ้าคุณพบกับคนที่มีหน้ามีตาในสังคมหรือเป็นคนที่คนในชุมชมให้ความเคารพนับถือ คุณอาจทักทายอีกฝ่ายด้วยชื่อชั้นทางสังคมแทนที่จะเรียกเพียงชื่อจริง เช่น “สวัสดีครับคุณแคมป์เบล ยินดีที่ได้พบนะครับ” ฟังดูเป็นมืออาชีพและสร้างความประทับใจอันยาวนานได้ดีกว่าแค่พูดว่า “ไง บิล สบายดีไหมพวก?” แน่ ๆ ล่ะ
- ลองทักทายคนที่ตำแหน่งหน้าที่การงานอยู่ในระดับล่างกว่าคุณเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ดูสิ เช่น การทักทายว่า “สวัสดีครับ คุณครอฟอร์ด ยินดีที่ได้พบนะครับ” เป็นการส่งสัญญาณว่าคุณคาดหวังให้อีกฝ่ายรักษาความเป็นมืออาชีพเมื่อต้องทำงานร่วมกับคุณ
-
พูดเรื่องธุรกิจอย่างรวบรัดแล้วเอ่ยขอตัว. ไม่มีใครอยากติดแหง่กอยู่กับบทสนทนาที่ไม่อาจหลุดพ้น เรื่องนี้สำคัญมาก ๆ เลยนะโดยเฉพาะในแวดวงธุรกิจ คุณคงไม่อยากโดนนินทาว่าเป็นพวกปากไม่มีหูรูดหรอกใช่ไหมโฆษณา
เคล็ดลับ
- ยิ้มแย้มอยู่เสมอและพดจาชัดถ้อยชัดคำ ที่สำคัญที่สุดคือต้องสบตาผู้ฟัง การทำเช่นนี้จะทำให้คน ๆ นั้นรู้สึกว่าคุณให้ความสนใจกับเขาหรือเธอจริง ๆ
- ถ้าคุณไม่รู้จักชื่อของคน ๆ นั้น ทักทายว่า “ยินดีที่ได้พบ” หรือ “ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง” แทนสิ
- ถ้าคุณกำลังจะทักทายผู้ใหญ่ ยิ้มอย่างสุภาพก่อนกล่าวสวัสดี
- หรือคุณอาจจะถามชื่อคน ๆ นั้นตรง ๆ อย่างสุภาพด้วยการพูดว่า “ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ/คะ แต่น่าเสียดายที่ผม/ดิฉันจำชื่อคุณไม่ได้” ถึงจะฟังดูไม่สุภาพอย่างไรชอบกล แต่ก็ยังดีกว่าเรียกชื่ออีกฝ่ายผิดก็แล้วกัน
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าแสดงท่าทีมั่นใจจนเกินไปเพราะจำให้คุณดูไม่น่าคบหา
- ถ้าอีกฝ่ายถามว่าคุณสบายดีหรือไม่ก่อน จะเป็นการสุภาพหากคุณตอบคำถามและถามอีกฝ่ายกลับไปบ้าง
- จำไว้ว่าการทักทายนั้นต่างกันไปตามวัฒนธรรม ถึงการทักทายทั่ว ๆ ไปอย่างตะวันตกจะแพร่หลายจนการจับมือทักทายไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอะไร ยังไงก็ระวังความแตกต่างวัฒนธรรมอันเปราะบางไว้บ้างก็ดี ตัวอย่างเช่น ในทวีปเอเชีย การสบตาและการจ้องตานั้นมีความแตกต่างกันอยู่นะ
- อย่าเข้าหาคนที่ดูไม่อยากให้คุณเข้าหา (สังเกตภาษากายอีกฝ่ายที่มีต่อคุณให้ดีเชียวล่ะ)
โฆษณา
โฆษณา