PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

มูสลี่ เป็นรากศัพท์ภาษาเยอรมันที่ใช้เรียกอาหารเช้าซีเรียลรูปแบบต่างๆ ที่มีข้าวโอ๊ตชนิดเกล็ดเป็นส่วนประกอบหลักและมักผสมกับผลไม้แห้ง ถั่ว เมล็ดพันธุ์ และธัญพืชทั้งแบบพองกรอบและแบบแผ่นบาง มูสลี่เป็นตัวเลือกอาหารเช้าที่แสนอร่อยและดีต่อสุขภาพซึ่งมักทานคู่กับนมสดหรือโยเกิร์ต หากคุณกำลังมองหาวิธีการผสมผสานมูสลี่ในมื้ออาหารของคุณในรูปแบบที่แปลกใหม่ มาลองเรียนรู้ทั้งวิธีการทานมูสลี่ในแบบพื้นฐานและการสร้างสรรค์เมนูมูสลี่ในแบบของคุณได้ง่ายๆ จากบทความนี้ [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ทานมูสลี่ในแบบพื้นฐาน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทานเช่นเดียวกับการทานซีเรียลตามปกติ ซึ่งตามสากลแล้วมูสลี่ถูกจัดเป็นซีเรียลประเภทหนึ่ง. วิธีการทานมูสลี่ในแบบพื้นฐานที่เรียบง่ายที่สุดคือการทานมูสลี่เช่นเดียวกับการทานซีเรียลตามปกติ เพียงเติมนมสดที่คุณชื่นชอบ ½ ถ้วยลงไปในมูสลี่ในปริมาณที่เท่ากัน
    • นอกจากนมสดแล้ว คุณยังสามารถทานมูสลี่คู่กับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ (หรือโยเกิร์ตรสชาติต่างๆ หากคุณชื่นชอบความหวานเป็นพิเศษ) ได้เช่นเดียวกันเพื่อให้ร่างกายของคุณได้รับคุณประโยชน์จากโปรไบโอติกและปรับเปลี่ยนรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างไปจากเดิม
    • คุณอาจลองอุ่นนมสดให้ร้อนและแช่มูสลี่ทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้มูสลี่นุ่มลงเล็กน้อยจนมีเนื้อสัมผัสคล้ายกับโอ๊ตมีล นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้วิธีเทนมสดแช่เย็นลงไปพร้อมกับมูสลี่ในชามสำหรับไมโครเวฟและนำส่วนผสมทั้งหมดเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟพร้อมๆ กันได้เช่นเดียวกัน
    • เช่นเดียวกับซีเรียล คุณสามารถเลือกทานมูสลี่เป็นของว่างได้โดยไม่จำเป็นต้องทานคู่กับส่วนผสมอื่นๆ เหมือนกับการทานกราโนล่าเล่นเพลินๆ
  2. Watermark wikiHow to ทานมูสลี่
    หากคุณต้องการเพิ่มสีสันให้กับเมนูมูสลี่ของคุณ ลองเพิ่มผลไม้ต่างๆ ที่คุณชื่นชอบที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำลงไปประมาณ ¼ ถ้วยหรือเติมผลไม้แช่แข็งเพื่อทานเย็นๆ เพิ่มความสดชื่น เครื่องเคียงที่เหมาะสำหรับทานคู่กับมูสลี่ได้แก่:
    • กล้วยหั่นแว่น
    • บลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ หรือราสพ์เบอร์รี่
    • กีวี่
    • สตรอว์เบอร์รี่ (เมล็ดจากสตรอว์เบอร์รี่สามารถเพิ่มรสเปรี้ยวและความกรุบกรอบให้กับมูสลี่ได้เป็นอย่างดี)
    • แคบหมู (เหมาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการเปลี่ยนมูสลี่ให้มีความเป็นอาหารคาวมากขึ้น)
    • แอปเปิ้ลหั่นเต๋า
    • ลูกแพร์หั่นเป็นชิ้นๆ
    • มะม่วงหั่นแว่น
    • ลิ้นจี่ (สามารถเพิ่มรสเปรี้ยวอมหวานให้กับมูสลี่ได้เป็นอย่างดี)
    • ทับทิม
  3. ผลไม้แห้งหรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์มูสลี่บางตัวที่วางขายตามท้องตลาดในปัจจุบัน แต่หากคุณต้องการเพิ่มปริมาณผลไม้แห้งหรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่หรือใส่เพิ่มเติมลงไปในมูสลี่เปล่าที่คุณเตรียมไว้ ลองเลือกเติมเครื่องเคียงต่างๆ ต่อไปนี้:
    • แครนเบอร์รี่
    • แอปริคอท
    • โกจิเบอร์รี่
    • ลูกเกด
    • เคอร์แรนท์
  4. Watermark wikiHow to ทานมูสลี่
    วิธีหนึ่งที่จะช่วยเปลี่ยนเนื้อสัมผัสของมูสลี่ได้ง่ายๆ คือการแช่มูสลี่ทิ้งไว้ข้ามคืนในนมสด โยเกิร์ต หรือส่วนผสมอื่นๆ ตามต้องการ เพียงเติมมูสลี่และนมสดในปริมาณที่เท่ากันลงไปในชามและคลุมด้วยพลาสติกแรปหรือฝาปิดก่อนนำไปแช่ในตู้เย็นไว้ข้ามคืน มูสลี่ที่แช่ทิ้งไว้ข้ามคืนจะมีเนื้อสัมผัสเหมือนโจ๊กเย็นๆ ที่ดูน่ารับประทาน
    • กะทิเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่เหมาะสำหรับการแช่มูสลี่ ซึ่งกะทิสามารถช่วยเพิ่มรสชาติหวานอ่อนๆ ให้กับมูสลี่ของคุณได้เป็นอย่างดี แต่หากคุณไม่ชอบรสชาติของกะทิมากนัก คุณอาจผสมนมสดเพิ่มลงไปเล็กน้อยเพื่อให้รสชาติถูกปากคุณมากยิ่งขึ้น
  5. หากคุณโปรดปรานการทานสมูทตี้มากกว่าซีเรียล คุณสามารถทานมูสลี่คู่กับสมูทตี้ได้ทั้งการนำมูสลี่เติมลงไปปั่นเข้ากับสมูทตี้หรือใช้ตกแต่งด้านบนหลังเทสมูทตี้ใส่แก้ว มูสลี่สามารถผสมเข้ากับสมูทตี้ได้อย่างลงตัว ทั้งยังช่วยเพิ่มสัมผัสและคุณค่าทางสารอาหารให้กับสมูทตี้แต่ละสูตรได้อีกด้วย ลองทำสมูทตี้แบบง่ายๆ ด้วยส่วนผสมตามด้านล่างนี้:
    • สตรอว์เบอร์รี่แช่แข็งหรือผลไม้แช่แข็งอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบ 1 กำมือ
    • โยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว ½ ถ้วย
    • มะพร้าวขูดฝอย ½ ถ้วย
    • มูสลี่ 2 ช้อนโต๊ะ
  6. หากคุณมีภาวะแพ้แลคโตสหรือเพียงต้องการปรับเปลี่ยนมูสลี่ให้มีสัมผัสและรสชาติที่แตกต่างไปจากเดิม ซอสแอปเปิ้ลเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่เข้ากับมูสลี่ได้อย่างยอดเยี่ยม ลองหาซื้อซอสแอปเปิ้ลรสธรรมชาติที่ไม่มีความหวานหรือทำซอสแอปเปิ้ลจากแอปเปิ้ลสุกจัดง่ายๆ ด้วยตัวเอง
  7. Watermark wikiHow to ทานมูสลี่
    สิ่งหนึ่งที่หลายคนโปรดปรานในมูสลี่อาจเป็นสิ่งที่บางคนกลับไม่ชอบก็เป็นได้ แผ่นข้าวโอ๊ตในมูสลี่มีเนื้อสัมผัสและคุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างจากโอ๊ตมีลต้มสุกหรือกราโนล่า และยังสามารถนำไปดัดแปลงเพื่อปรุงเป็นโจ๊กได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับข้าวโอ๊ตชนิดเกล็ดที่วางขายทั่วไป
    • เตรียมนมสดและน้ำเปล่าขึ้นตั้งเตาในปริมาณเท่ากับปริมาณมูสลี่ที่คุณต้องการทาน จากนั้นเติมมูสลี่ลงไปครึ่งหนึ่งของนมสดและน้ำเปล่าที่เตรียมไว้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการทานมูสลี่ต้มสุก 1 ถ้วย ให้คุณต้มน้ำเปล่า ½ ถ้วยและนมสด ½ ถ้วยให้ร้อนก่อนเติมมูสลี่ดิบ ½ ถ้วยลงไปต้มพร้อมกัน
    • ลดอุณหภูมิของไฟลงและปิดฝาเพื่อต้มต่ออีก 10-15 นาทีโดยหมั่นคนเป็นครั้งคราว รอจนกระทั่งมูสลี่มีความข้นตามที่ต้องการจึงจัดเสิร์ฟและเริ่มรับประทาน
  8. แม้จะฟังดูแปลกๆ ไปบ้าง แต่คุณอาจลองทานมูสลี่โดยการแช่ในน้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล หรือแม้แต่กาแฟชงเองในแบบที่คุณต้องการ ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มีภาวะแพ้แลคโตส การทานมูสลี่ด้วยวิธีนี้เปรียบเหมือนกับการทานอาหารเช้าแบบครบถ้วนในมูสลี่เพียงถ้วยเดียวและคุณอาจรู้สึกแปลกใจกับรสชาติที่ประสานกันได้อย่างลงตัวมากกว่าที่คิด [2]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

สร้างสรรค์เมนูมูสลี่ในแบบของคุณ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทานมูสลี่
    ทานมูสลี่ตามแบบดั้งเดิมของเบียร์เชอร์-เบ็นเนอร์. มูสลี่ถูกคิดค้นขึ้นโดยนายแพทย์ชาวสวิสชื่อ มักซีมีเลียน เบียร์เชอร์-เบ็นเนอร์ (Maximilian Bircher-Benner) ในปัจจุบันมูสลี่ที่วางขายตามท้องตลาดจะมีสัดส่วนของข้าวโอ๊ตที่มากกว่าผลไม้ซึ่งจะแตกต่างจากมูสลี่ที่ทานกันในแบบดั้งเดิมที่มีปริมาณผลไม้และถั่วที่มากกว่า การทานมูสลี่ตามสูตรต้นตำรับของเบียร์เชอร์-เบ็นเนอร์จะมีสัดส่วนของส่วนผสมต่างๆ ดังนี้: [3]
    • ข้าวโอ๊ตชนิดเกล็ด 1 ช้อนโต๊ะ แช่ในน้ำเปล่า 2-3 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
    • ครีม 1 ช้อนโต๊ะ
    • แอปเปิ้ลรสเปรี้ยวขูดฝอย 1 ลูกใหญ่ผสมเข้าด้วยกันก่อนจัดเสิร์ฟ
    • โรยหน้าด้วยเฮเซลนัทหรืออัลมอนด์บดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  2. Watermark wikiHow to ทานมูสลี่
    มูสลี่แบบทั่วไปอาจจืดและขาดรสชาติสำหรับผู้ทานบางคน ดังนั้นหากคุณต้องการให้มูสลี่ของคุณมีรสชาติที่หวานขึ้น ลองเติมสารให้ความหวานเล็กน้อยเพิ่มลงไปเพื่อให้มูสลี่มีรสชาติที่ถูกปากมากยิ่งขึ้น โดยพยายามเติมในปริมาณที่พอเหมาะไม่ว่าคุณจะเลือกใช้สารให้ความหวานชนิดใด คุณสามารถเพิ่มความหวานได้ง่ายๆ ด้วยสารให้ความหวานหรือเครื่องปรุงต่างๆ ต่อไปนี้:
    • น้ำผึ้ง
    • กากน้ำตาล
    • น้ำตาลทรายแดง
    • อบเชย
    • มะพร้าวคั่ว
    • น้ำเลมอน
    • น้ำเชื่อมจากต้นอากาเว่
    • เมเปิ้ล ไซรัป
    • จันทน์เทศ
  3. Watermark wikiHow to ทานมูสลี่
    หากต้องการให้เนื้อสัมผัสของมูสลี่มีความกรุบกรอบมากขึ้น ลองอบมูสลี่ที่อุณหภูมิ 160 °C นานประมาณ 30 นาทีหรือจนกระทั่งมูสลี่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทอง คุณอาจเติมน้ำมันมะพร้าวหรือเนยสดละลายเพิ่มลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยให้มูสลี่ดูเกรียมน่ารับประทานยิ่งขึ้น [4]
  4. คุณสามารถพกมูสลี่ติดตัวสำหรับทานได้ทุกที่ได้อย่างง่ายดายด้วยการเปลี่ยนมูสลี่ให้เป็นรูปแบบแท่ง เริ่มจากผสมมูสลี่เข้ากับเนยถั่วลิสงหรือเนยถั่วชนิดอื่นๆ ที่คุณต้องการ 2-3 ช้อนโต๊ะเพื่อช่วยเชื่อมส่วนผสมทั้งหมดให้ติดกันพร้อมเติมส่วนผสมอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบเพิ่มลงไป ไม่ว่าจะเป็นผลไม้แห้ง ถั่ว และธัญพืชต่างๆ [5]
    • อัดส่วนผสมลงบนถาดอบให้หนาประมาณ 1 นิ้วและนำไปแช่ในตู้เย็นเพื่อให้ส่วนผสมเย็นสนิท จากนั้นตัดแบ่งเป็นแท่งๆ และแช่เย็นเพื่อเตรียมไว้สำหรับเป็นของว่างแบบเร่งด่วน
    • คุณยังสามารถเชื่อมส่วนผสมทั้งหมดให้ติดกันด้วยเนยสดละลายหรือน้ำผึ้งได้เช่นเดียวกัน จากนั้นอัดส่วนผสมลงบนถาดอบและรอให้ส่วนผสมแข็งตัวตามปกติ
  5. คุณสามารถเลือกใช้มูสลี่แทนข้าวโอ๊ตชนิดเกล็ดหรือโอ๊ตมีลในสูตรอาหารต่างๆ ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ มัฟฟิน หรือแม้แต่แพนเค้ก เพื่อให้มีรสชาติที่อร่อยและดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ลองเพิ่มมูสลี่เล็กน้อยลงไปในสูตรอาหารต่างๆ ดังนี้:
    • คุกกี้
    • แพนเค้ก
    • เค้ก
    • มัฟฟิน
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,929 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา