วิธีการ ทาลิปสติก

ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ

ลิปสติกที่คุณทามันไหลเยิ้มหรือจางหายไปหลังทาไปยังไม่ทันไรหรือเปล่า เป็นไปได้ว่าคุณอาจทาไม่ถูกต้อง อ่านบทความวิกิฮาวบทนี้เพื่อเคล็ดลับในการทาลิปสติกแล้วให้มันอยู่ได้นานขึ้น!

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เตรียมริมฝีปากให้พร้อม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/0\/0d\/Apply-Lipstick-Step-1-Version-15.jpg\/v4-460px-Apply-Lipstick-Step-1-Version-15.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/0\/0d\/Apply-Lipstick-Step-1-Version-15.jpg\/v4-728px-Apply-Lipstick-Step-1-Version-15.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":259,"bigWidth":728,"bigHeight":410,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ขัดริมฝีปากของคุณ. นี่จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและให้คุณมีริมฝีปากที่เรียบเนียนสำหรับเริ่มต้น มันยังช่วยทำให้ริมฝีปากรู้สึกนุ่มขึ้น คุณสามารถขัดริมฝีปากโดยการแปรงเบาๆ ด้วยแปรงสีฟันไม่กี่วินาที หรือถูด้วยผ้าขนหนูหมาดๆ คุณยังสามารถทำสครับริมฝีปากด้วยน้ำผึ้ง โดยใช้น้ำมันส่วนหนึ่งกับน้ำผึ้งส่วนหนึ่ง
    • น้ำมันที่เหมาะจะใช้ในสครับริมฝีปากคือน้ำมันโจโจบา น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว สำหรับคนที่ไม่ชอบน้ำมันนั้นใช้น้ำผึ้งเปล่าๆ ก็ยังได้
  2. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    เปิดแท่งลิปบาล์มแล้วทาให้ทั่วทั้งริมฝีปากบนและล่าง ถ้าบาล์มนั้นมาเป็นกระปุก ก็ให้ใช้นิ้วแทน มันไม่เพียงแต่จะช่วยให้ริมฝีปากนุ่มและเนียนขึ้น แต่ยังจะช่วยให้ใช้ดินสอเขียนขอบปากกับลิปสติกทาได้สม่ำเสมอกว่าเดิม [1] ทาลิปบาล์มแล้วทิ้งไว้สักสองสามนาที คุณสามารถแต่งหน้าส่วนอื่นๆ ไปพลางๆ ระหว่างที่รอ [2]
    • พยายามเลือกลิปบาล์มแบบขี้ผึ้งและไม่เป็นไขมัน จะทำให้ทิ้งคราบมันไว้บนริมฝีปากน้อยลง [3]
  3. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    ก่อนทาลิปสติกหรือดินสอเขียนขอบปาก ตรวจดูก่อนว่ามีคราบลิปบาล์มบนริมฝีปากหรือไม่ ถ้ามีให้เช็ดออกด้วยกระดาษทิชชู่หรือค็อตตอนบัด คราบลิปบาล์มที่หลงเหลืออยู่จะทำให้ริมฝีปากลื่นเกินไปจนอาจทาลิปสติกไม่ติด [4]
  4. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    นี่จะช่วยขับสีธรรมชาติของลิปสติกออกมา แต่ก็ไม่จำเป็นนัก [5] ให้ใช้สีเดียวกับสีที่คุณจะใช้กับส่วนที่เหลือของใบหน้า และลงด้วยฟองน้ำแต่งหน้า ให้แน่ใจว่าตอนทำนั้นได้ยิ้มไปด้วย มันจะช่วยให้คุณได้เติมร่องเล็กๆ บนริมฝีปากได้หมด [6]
  5. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/e\/e9\/Apply-Lipstick-Step-5-Version-15.jpg\/v4-460px-Apply-Lipstick-Step-5-Version-15.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/e\/e9\/Apply-Lipstick-Step-5-Version-15.jpg\/v4-728px-Apply-Lipstick-Step-5-Version-15.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":259,"bigWidth":728,"bigHeight":410,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ดินสอเขียนขอบปากนั้นสำคัญมาก มันช่วยให้ลิปสติกมีที่ยึดจึงทำให้ติดทนขึ้น มันยังช่วยให้ลิปสติกทาได้สม่ำเสมอขึ้นและป้องกันไม่ให้ไหลเยิ้ม [7]
    • หากคุณต้องทาลิปสติกสีสด ให้เลือกดินสอเขียนขอบปากที่เข้มกว่าสีลิปสติกเล็กน้อย มันจะช่วยให้สีของลิปสติกมีมิติลึกขึ้นและดูทึบขึ้น [8]
    • ถ้าคุณใช้รองพื้น หรือต้องการให้ดูกลางๆ มากกว่า เลือกแมทช์สีของดินสอเขียนขอบปากกับสีริมฝีปากคุณ
  6. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    วิธีเขียนขอบปากจะเปลี่ยนหน้าตาของลิปสติกได้ คุณสามารถทำให้ริมฝีปากดูใหญ่ขึ้น เล็กลง มนขึ้น หรือกว้างขึ้น เริ่มด้วยการเขียนขอบปาก แล้วค่อยเติมภายใน นี่คือเคล็ดลับและคำแนะนำบางอย่าง: [9]
    • ทำให้ริมฝีปากดูเล็กลง โดยการเขียนขอบปากภายในเส้นริมฝีปาก ให้ทาคอนซีลเลอร์รอบริมฝีปากเพื่อซ่อนเส้นริมฝีปากธรรมชาติของคุณ
    • ทำให้ริมฝีปากดูใหญ่ขึ้น โดยการเขียนขอบปากภายนอกเส้นริมฝีปาก มันควรที่จะยังแตะเส้นริมฝีปากธรรมชาติของคุณ
    • ทำให้ริมฝีปากดูกว้างขึ้น โดยการเขียนขอบปากไปตามเส้นริมฝีปากธรรมชาติ แต่ให้ยืดเลยมุมปากออกไป ส่วนการทำให้ริมฝีปากดูแคบลง ก็ให้ทำอย่างเดียวกันแต่เขียนขอบปากให้ยังอยู่ในมุมปาก ปกปิดเส้นริมฝีปากธรรมชาติด้วยคอนซีลเลอร์
    • ในการจะทาให้ริมฝีปากบนหรือล่างดูอวบอิ่มขึ้น ให้เขียนขอบปากภายนอกเส้นริมฝีปาก ส่วนที่เหลือให้เขียนอยู่ภายในเส้นริมฝีปาก
    • สำหรับลุคที่ดูนุ่มละมุนและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ให้ใช้นิ้วแตะที่เขียนขอบปากตรงมุมปาก มันจะช่วยให้ขอบที่คมกริบดูนุ่มนวลลงกว่าเดิม [10]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ทาลิปสติก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/f\/f9\/Apply-Lipstick-Step-7-Version-15.jpg\/v4-460px-Apply-Lipstick-Step-7-Version-15.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/f\/f9\/Apply-Lipstick-Step-7-Version-15.jpg\/v4-728px-Apply-Lipstick-Step-7-Version-15.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":259,"bigWidth":728,"bigHeight":410,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    คุณจะมีความสุขมากขึ้นกับการทาลิปสติกถ้าคุณเข้าใจว่าสีลิปสติกเฉดไหนเหมาะกับโทนสีผิวและพื้นผิวของคุณที่สุด ให้จดจำปัจจัยเหล่านี้ไว้เวลาเลือกลิปสติก:
    • ถ้าคุณมีผิวเข้ม เลือกสีสดที่ให้ตู่สีตรงข้ามอย่างสวยงาม ถ้าคุณมีผิวซีดขาว สีชมพูอ่อนหรือสีกลางๆ อาจเด่นพอสำหรับคุณแล้ว สำหรับคนที่มีสีผิวกลางๆ ให้เลือกสีม่วงซีด (โมฟ), สีน้ำตาลอมเหลือง (ซินนามอน) หรือสีม่วงเข้ม (พลัม)
    • ถ้าริมฝีปากคุณค่อนไปทางแห้ง คุณอาจไม่ต้องการจะใช้ลิปสติกสีด้าน เพราะลิปแบบด้านจะทำให้ริมฝีปากยิ่งดูแห้ง มองหาลิปสติกที่มีส่วนผสมของสารหล่อลื่นผิวและสารให้ความชุ่มชื้น หรือใช้ลิปไพร์เมอร์เพื่อสร้างแนวกั้นระหว่างลิปสติกกับผิวริมฝีปากของคุณ
    • ถ้าคุณมีริมฝีปากบางและต้องการทำให้มันดูหนาขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้สีเข้ม พวกมันมักทำให้ริมฝีปากดูเล็กลง
  2. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    เริ่มจากตรงกลางริมฝีปากแล้วทาออกไปด้านนอก เติมช่องว่างทั้งหลายให้เต็ม [11] คุณสามารถทาลิปสติกจากหลอดโดยตรงหรือจะใช้พู่กันลิปสติกเพื่อความละเอียดแม่นยำขึ้นก็ได้ [12]
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Katya Gudaeva

    ช่างแต่งหน้าอาชีพ
    คาเทีย กูเดฟวาเป็นช่างแต่งหน้าอาชีพในซีแอตเทิล วอชิงตัน เธอทำงานในอุตสาหกรรมความงามมาเกือบ 10 ปี และทำงานให้กับลูกค้าอย่าง Microsoft, Amazon, Amy Schumer, และ Barneys New York
    Katya Gudaeva
    ช่างแต่งหน้าอาชีพ

    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ : สำหรับทาริมฝีปากได้คมเฉียบทุกครั้ง ให้แตะลิปสติกลงบนพู่กันขนบางแล้วใช้มันวาดเส้นขอบริมฝีปาก แล้วค่อยทาลิปสติกลงข้างใน!

  3. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    ชั้นแรกนั้นทำหน้าที่คล้ายๆ กับเป็นชั้นฐานให้ ส่วนชั้นที่สองจะทำให้คุณทาได้สีที่เข้มข้นกว่าและอยู่ได้นานกว่า [13]
  4. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    เอานิ้วเข้าไปในปาก แล้วหุบปากลงมา จากนั้นเอานิ้วออก นี่จะช่วยป้องกันไม่ให้ลิปสติกไปเปื้อนฟัน [14]
  5. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    ดึงกระดาษทิชชู่ออกจากกันเบาๆ จนคุณได้กระดาษบางๆ สองแผ่น นำแผ่นหนึ่งไปวางบนริมฝีปากแล้วเหยาะแป้งลงไปเล็กน้อย ดึงทิชชู่ออกแล้วทาลิปสติกชั้นที่สอง [15]
  6. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    ใช้คอนซีลเลอร์ทำความสะอาดลบรอยขอบนอกของริมฝีปาก. [16] จุ่มแปรงบางลงในคอนซีลเลอร์ที่สีตรงกับโทนผิวของคุณ แล้วระบายขอบริมฝีปาก ให้มันกลืนไปกับรองพื้น มันไม่เพียงแต่จะให้ริมฝีปากของคุณมีเส้นขอบที่คมชัดสวยงามแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้มันเลอะด้วย [17]
  7. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    นี่จะช่วยขับเน้นรูปทรงธรรมชาติของริมฝีปาก แค่ใช้ดินสอสีขาวหรือสีงาช้างเขียนขอบบริเวณกระจับปาก อย่าเขียนลงบนลิปสติก แต่ให้เขียนเหนือมัน
  8. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    [18] มันไม่ได้จำเป็นหรอก แต่จะช่วยเพิ่มความระยิบระยับเป็นประกาย ทั้งยังช่วยให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบ คุณไม่จำเป็นต้องทาลิปกลอสทั่วทั้งริมฝีปาก แค่เติมลงไปเล็กน้อยตรงกลางของริมฝีปากล่าง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ลองลูกเล่นคลาสสิกอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    ใช้ลิปสติกเฉดสีต่างกันสองแท่งเพื่อทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น. ทาลิปสติกแท่งปกติของคุณ แล้วใช้เฉดที่อ่อนกว่าเล็กน้อยทาตรงกลางของทั้งริมฝีปากบนและล่าง ให้แน่ใจว่าทาสีกลืนกันดี คุณยังอาจใช้ดินสอไฮไลท์สีครีมแทนก็ได้ [19]
  2. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    ใช้แป้งรองพื้นสีเดียวกันเพื่อทำให้ลิปสติกดูเป็นแบบด้าน. เลือกแป้งรองพื้นแบบด้านที่มีสีเดียวกับสีลิปสติก หลังจากทาลิปสติกกับดินสอเขียนขอบปากแล้ว ใช้นิ้วปาดแป้งรองพื้นแล้วนำมาแตะริมฝีปาก ทำแบบนี้ไปจนกระทั่งมันติดทั่วริมฝีปาก แล้วลิปสติกของคุณจะดูเป็นแบบสีด้าน [20]
    • อย่าใช้แป้งแบบมันวาว
    • วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับลิปสติกทุกสี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสีของรองพื้นที่มีวางขาย
    • หากหาแป้งรองพื้นสีที่ใช่ไม่ได้ สามารถลองใช้อายส์ชาโดว์แบบด้านที่มีสีตรงกันแทนก็ได้
  3. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    เลือกสีดินสอเขียนขอบปากที่เข้มกว่าสีลิปสติก เขียนขอบปากโดยใช้ดินสอสีนี้ จากนั้นทาปากด้วยลิปสติกปกติ ถ้าต้องการเน้นการไล่สีให้เด่น ให้ทาลิปสติกสีที่อ่อนลงไปอีกบริเวณด้านในสุดของริมฝีปาก ผสานทุกสีให้กลมกลืนกันโดยใช้ลิปกลอสแบบใส
    • สำหรับการไล่สีย้อน ให้ใช้ดินสอเขียนขอบปากที่อ่อนกว่าสีลิปสติก เขียนขอบปากโดยใช้ดินสอสีนี้ จากนั้นทาปากด้วยลิปสติกปกติ ถ้าต้องการเน้นการไล่สีให้เด่น ให้ทาลิปสติกสีที่เข้มขึ้นไปอีกบริเวณด้านในสุดของริมฝีปาก
  4. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    ลุคที่ดูเก๋ไก๋และออกหวานมากๆ นี้เคยเป็นที่นิยมในยุคแฟลปเปอร์หรือแก็ตสบี้ มันเหมาะกับการทาไปงานปาร์ตี้หรือเวลาที่คุณอยากลองอะไรใหม่ๆ เขียนขอบตรงกลางปาก แต่หยุดก่อนจะไปถึงมุมปาก แล้วทาลิปสติกสีแดงสด ปิดท้ายด้วยการ ดัดผมลอนสไตล์วินเทจยุค-30's
  5. Watermark wikiHow to ทาลิปสติก
    เลือกลิปสติกเฉดเข้มอย่างเช่น สีดำ แดงเข้ม หรือแดงมารูน หาดินสอเขียนขอบปากที่ตรงกับสีลิปสติกแล้วเขียนขอบปาก ใช้ดินสอเขียนขอบปากทาริมฝีปากแล้วทาลิปสติกทับ อย่าลืมแต่งตัวทำผมตามแนวก็อธให้เข้ากันด้วย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พกลิปสติก ดินสอเขียนขอบปาก กับลิปกลอสติดตัว เผื่อเวลาเกิดต้องเติมสีบนริมฝีปาก
  • คุณจะทาลิปสติกสีใดก็ได้ตามที่ชอบ อะไรที่เหมาะกับคุณก็ดีทั้งนั้นแหละ
  • หลังทาลิปสติกแล้ว ใช้กระดาษทิชชู่ซับแล้วเหยาะแป้งลงบนกระดาษทิชชู่ เอากระดาษทิชชู่ออกแล้วทาลิปสติกอีกครั้ง มันจะช่วยให้ติดทนนาน
  • กุญแจสำคัญในการทาสีลิปสติกที่สดใสและไม่เหมือนใครคืออยู่ที่ความมั่นใจ!
  • หากคุณมีริมฝีปากแห้ง ให้เลือกลิปบาล์มอย่าง "Vaseline- Rosy Lips"เพราะมันจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากและทำให้สีอ่อนลง
  • ใช้ดินสอเขียนขอบปากแบบใสถ้าลิปสติกชอบเลอะตรงมุมปาก ดินสอเขียนขอบปากแบบใสมีส่วนผสมเป็นขี้ผึ้งที่จะช่วยให้สีริมฝีปากไม่เลอะนอกขอบริมฝีปาก ให้ใช้ดินสอเขียนขอบปากแบบใสเขียนรอบขอบปากตรงที่ชอบเลอะหรือมีเส้นขอบปากที่จาง
  • ไฮไลท์กระจับปากด้วยดินสอเขียนขอบปากสีขาวหรืออายส์ชาโดว์แบบมันวาวแล้วเกลี่ยให้กลมกลืนกัน มันจะช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม
  • ลิปสเตนใช้ได้ดีถ้าคุณกำลังต้องไปที่ไหนที่คุณต้องดื่ม มันจะได้ไม่เลอะติดขอบแก้ว
  • ลิปไพรม์เมอร์ที่ใช้ทารองริมฝีปากจะเพิ่มความชุ่มชื้นและเป็นแนวกั้นระหว่างริมฝีปากกับลิปสติก พอมีตัวกั้นจะทำให้ลิปสติกติดทนนานขึ้นและยังช่วยไม่ให้ริมฝีปากแห้งด้วย
  • ไม่จำเป็นต้องทาแบบเน้นสีตลอดเวลา สีนู้ดก็ใช้ได้ดีเวลาออกงานและอาจทำให้คุณเจิดจรัสที่สุดเลยก็ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • หากคุณวางแผนจะจูบกัน ให้ตรวจดูเสมอว่าลิปสติกไม่ได้เลอะหรือทิ้งรอยบนตัวของอีกฝ่าย!
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ลิปสติก
  • กระจก
  • ดินสอเขียนขอบปาก
  • ลิปมันแบบแท่ง

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

วิธีการ
ทำลิปบาล์ม
วิธีการ
ทำน้ำหอมจากกลีบกุหลาบ
วิธีการ
ทำน้ำหอม
วิธีการ
ทำลิปกลอส
วิธีการ
ทำเจลว่านหางจระเข้
วิธีการ
ทำอายแชโดว์ใช้เอง
วิธีการ
ทำลิปสติกใช้เอง
วิธีการ
ทำให้ตาแดง
วิธีการ
ทาโลชั่นที่หลัง
วิธีการ
ใช้เครื่องสำอางทำรอยฟกช้ำปลอม
วิธีการ
ทำให้มีแก้ม
วิธีการ
ย้อมคิ้ว
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. ↑ Real Simple, How to Apply Lipstick
  2. ↑ Cupcakes and Cashmere, Lipstick Tricks for Novices
  3. ↑ Divine Caroline, Make Your Lip Color Last: The Secret to Long-Lasting Lipstick
  4. ↑ Cupcakes and Cashmere, Lipstick Tricks for Novices
  5. ↑ Divine Caroline, Make Your Lip Color Last: The Secret to Long-Lasting Lipstick
  6. ↑ Cupcakes and Cashmere, Lipstick Tricks for Novices
  7. ↑ A Beautiful Mess, How to Apply Lipstick & Make It Last All Day
  8. ↑ Cupcakes and Cashmere, Vamp Lip Tricks
  9. ↑ Gurl, 18 Hacks, Tips And Tricks on How to Make Your Lips Look Bigger and More Full
  1. ↑ Allure, The 10 Commandments of Lipstick
  2. ↑ Real Simple, How to Apply Lipstick
  3. ↑ Oprah, The Step-by-Step Guide to Bold Lips
  4. ↑ Cupcakes and Cashmere, Lipstick Tricks for Novices
  5. ↑ Cupcakes and Cashmere, Vamp Lip Tricks
  6. ↑ Divine Caroline, Make Your Lip Color Last: The Secret to Long-Lasting Lipstick
  7. ↑ She's in the Glow, How to Apply Lipstick Perfectly
  8. ↑ Seventeen, Get a Perfect Red Lip!
  9. ↑ Seventeen, Get a Perfect Red Lip!
  10. ↑ Gurl, 18 Hacks, Tips And Tricks on How to Make Your Lips Look Bigger and More Full
  11. ↑ The Beauty Department, Be Our Guest: Matte Lip
  12. วิดีโอจาก Rebecca Shores

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

ในภาษาอื่น
มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,480 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา