ถึงจะไม่ได้เป็นกูรูด้านความงาม คุณก็มีดวงตาที่สวยงามและมีรูปตาที่สมบูรณ์ได้ไม่ยากหากเลือกสีอายแชโดว์ได้อย่างถูกต้อง การจะทาอายแชโดว์ลงบนเปลือกตาได้อย่างสวยงามสมบูรณ์แบบนั้นทำได้ไม่ยาก ขอเพียงแค่คุณมีอุปกรณ์สัก 2 – 3 ชิ้นที่ได้คุณภาพและฝึกฝนสักหน่อย ลองทำตามขั้นตอนการทาอายแชโดว์ต่อไปนี้และเริ่มเดินบนเส้นทางของเจ้าแม่ความงามที่เพื่อนๆ ต้องอิจฉาได้เลย
ขั้นตอน
-
เลือกอายแชโดว์. เนื่องจากการมีร้านทั้งร้านที่ขายอายแชโดว์โดยเฉพาะ การเลือกเนื้อ เฉดสี และยี่ห้ออายแชโดว์ที่ถูกต้องจึงเป็นอะไรที่ออกจะน่ากลัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ อย่าให้อายแชโดว์จำนวนมากมายมหาศาลทำให้คุณใจฝ่อ คุณควรดีใจสิที่มันมีให้เลือกเยอะ! การมีอายแชโดว์หลายร้อยแบบเพิ่มความยืดหยุ่นในการเลือกอายแชโดว์ที่ดีที่สุดให้กับดวงตาของคุณ อายแชโดว์มีทุกสีเท่าที่คุณจะจินตนาการได้ และมีทั้งแบบฝุ่น อัดแข็งเป็นตลับ หรือแบบเนื้อครีม
- อายแชโดว์แบบที่มีสีชัดที่สุดมักจะเป็นอายแชโดว์แบบฝุ่น แต่ก็เป็นอายแชโดว์ที่ทายากที่สุดเพราะมันเป็นฝุ่นจึงเกาะไม่ค่อยติด อายแชโดว์แบบครีมทาง่ายแต่ก็จะเกิดเป็นรอยพับเร็วกว่าอายแชโดว์แบบฝุ่น เนื้อของอายแชโดว์ที่เหมาะกับมือใหม่หัดทาอายแชโดว์มากที่สุดก็คือ อายแชโดว์แบบอัดแข็ง
- แม้ว่าคุณจะเป็นศิลปินอายแชโดว์ได้โดยไม่ต้องมีหลายสิบสี แต่คุณก็ควรมีสีอายแชโดว์อย่างน้อย 3 เฉดในพาเลตต์เดียวกัน เพราะหลายๆ ลุคต้องใช้อายแชโดว์สีอ่อน สีกลาง และสีเข้ม
- ถ้าคุณไม่อยากให้ดูเหมือนว่าคุณทาอายแชโดว์หนักเกินไป ให้เลือก 3 เฉดสีที่อยู่ในโทนสีกลาง เช่น น้ำตาลหรือเทา หรือไม่ก็เลือกสีอะไรก็ได้ที่เหมาะกับคุณหรือสไตล์ของคุณ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญผู้เชี่ยวชาญด้านสุนทรียภาพที่มีใบอนุญาตแดเนียล แวนน์เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Daredevil Cosmetics สตูดิโอแต่งหน้าในซีแอตเทิล เขาทำงานในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางมาเกิน 15 ปี และปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุนทรียภาพกับผู้ให้ความรู้เรื่องเครื่องสำอางลองใช้สีอายแชโดว์ที่มีเฉดสีแดงเพื่อเข้ากับชั้นตา แดเนียล แวนน์ ผู้อำนวยการด้านความคิดสร้างสรรค์ของ Daredevil Cosmetics บอกว่า: "ชั้นของทุกคนออกสีแดง ถ้าคุณมีผิวสีอ่อน ชั้นตาจะออกชมพูหรือส้ม ถ้ามีผิวคล้ำ ชั้นตาจะออกโทนม่วงเข้ม ถ้าคุณอย่างน้อยก็ใช้เฉดแดงโทนสีอุ่นบนดวงตา มันจะทาให้กลืนกับชั้นตาได้ง่ายขึ้น เพราะมันเข้ากันได้อยู่แล้ว เช่น ฉันชอบเอาสีเหลืองกับสีทองจับคู่กับสีอย่างสีอิฐ สีแอช ม่วง และช็อกโกแล็ต ซึ่งล้วนมีเฉดสีแดง"
-
เลือกแปรงให้ถูกต้อง. แม้ว่าคุณจะใช้ปลายนิ้วทาอายแชโดว์ได้ แต่ปลายนิ้วของคุณใหญ่เกินไปและจะติดน้ำมันตามธรรมชาติมาด้วย ซึ่งทำให้ทาอายแชโดว์ได้ยาก ลงทุนซื้อแปรงแต่งหน้าดีๆ สัก 2 – 3 อันเพื่อให้ทาอายแชโดว์ได้ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อย่าใช้แปรงอายแชโดว์ฟองน้ำเพราะสีจะไม่ค่อยติดเท่าไหร่
- ใช้แปรงแบนขนแข็งแตะอายแชโดว์แล้วทาให้ทั่วเปลือกตา แปรงชนิดนี้เหมาะใช้กับอายแชโดว์เพราะเก็บเม็ดสีได้เยอะและทากระจายได้ทั่วเปลือกตา
- แปรงปลายมนขนนุ่มหรือขนแข็งใช้สำหรับทาอายแชโดว์ลงบนรอยพับของเปลือกตาและเบลนออกด้านนอก แปรงเหล่านี้เป็นแปรงที่ต้องมีเพื่อให้สีกลมกลืนและค่อยๆ ไล่สีจากแนวขนตาไล่ขึ้นไปจนถึงโหนกคิ้ว
- ซื้อแปรงทรงดินสอขนนุ่มไว้ทาอายแชโดว์บริเวณที่ใกล้กับแนวขนตา แปรงแบบนี้เล็กและบางมากพอที่จะใช้ได้กับทั้งแนวขนตาบนและล่าง และในบริเวณที่เข้าถึงได้ยากอย่างขอบตาด้านใน
-
รู้วิธีการทาอายแชโดว์. หนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดของการทาอายแชโดว์ก็คือ การลากขนแปรงด้วยความเร็วที่ถูกต้อง การรีบแต่งหน้าหรือลากขนแปรงไม่ถูกต้องจะทำให้การทาอายแชโดว์ดูเลอะเทอะและไม่สวยงาม
- เมื่อคุณทาสีอายแชโดว์ลงบนเปลือกตาในตอนแรก ให้คุณใช้วิธีการแท็บลงบนเปลือกตาแทนที่จะปัดให้ทั่วเปลือกตา วิธีนี้จะช่วยให้สีติดกับเปลือกตามากกว่า และสีก็จะดูแน่นมากกว่าที่จะดูชัดเป็นจุดๆ
- แทนที่จะปาดกลับไปกลับมาเร็วๆ ทั่วเปลือกตา ให้ลากแปรงสั้นๆ ช้าๆ ไปในทางเดียวกันเพื่อให้สีกลมกลืน [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เวลาทาอายแชโดว์คุณไม่ควรใช้มือปัดแปรงเร็วๆ
- ถ้าไม่ใช่สีไฮไลต์ คุณไม่ควรทาอายแชโดว์ขึ้นไปจนถึงคิ้ว เพราะจะเน้นดวงตามากเกินไปและดูเหมือนว่าคุณแต่งตาเยอะเกินไป
-
แต่งหน้าตามปกติ. การแต่งตาควรเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้า เพราะฉะนั้นให้แต่งหน้าตามปกติก่อน ลงคอนซีลเลอร์ รองพื้น บรัชออนหรือบรอนเซอร์ และเขียนคิ้วก่อนแล้วค่อยแต่งตาด้วยอายแชโดว์
- ลงอายไพรเมอร์ก่อนเพื่อให้อายแชโดว์ติดทนนานทั้งวัน ถ้าคุณไม่ใช้อายไพรเมอร์ น้ำมันธรรมชาติที่ผิวคุณผลิตขึ้นมาจะค่อยๆ ซึมเข้าอายแชโดว์และทำให้มันเกาะอยู่ตรงรอยพับของเปลือกตาเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
- อย่าปัดมาสคาร่าก่อนแต่งตา และถ้าคุณไม่ได้แต่งตาสโมกกี้อายแบบพิเศษจริงๆ คุณก็ควรทาอายไลเนอร์หลังทาอายแชโดว์ด้วยเช่นกัน
โฆษณา
-
ทาสีที่อ่อนที่สุดก่อน. ปกติจะเรียกว่าเป็นสีเฉดไฮไลต์ ซึ่งโดยทั่วไปก็คืออายแชโดว์สีนู้ดครีม ใช้แปรงแบนขนแข็งแตะอายแชโดว์ทาลงบนเบ้าตาด้านใน ปาดขึ้นลงเพื่อลงสีเล็กน้อยบนเส้นขอบตาบนและล่าง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ปาดลงเบาๆ และปาดตรงใต้คิ้วด้วย
-
ทาสีกลาง. ใช้สีที่เข้มกว่าสีอ่อนสุด 1 เฉด ซึ่งก็คือสีกลาง ใช้แปรงแบนแท็บสีนี้ให้ทั่วเปลือกตาจากแนวขนตาไปจนถึงรอยพับ ระวังอย่าทาเหนือรอยพับมากเกินไปหรือออกนอกเบ้าตา
-
ใช้สีเข้มสุดวาดเส้นเปลือกตา. ใช้แปรงปลายมนแตะอายแชโดว์สีที่เข้มที่สุดเพื่อวาดเส้นเปลือกตา วาดจากด้านนอกของเบ้าตาเข้าหาด้านใน และปัดแปรงเป็นแนวครึ่งวงกลมบนและรอบๆ ตรงกลางของรอยพับ ให้อายแชโดว์สีเข้มที่สุดอยู่ตรงแนวขนตา และค่อยๆ จางลงขณะที่ปัดขึ้น คุณจะวาดอายแชโดว์ตวัดขึ้นไปทางหางคิ้วสักเล็กน้อยก็ได้เพื่อให้ได้ตารูปพัดแบบมีมุม
-
เบลนด์อายแชโดว์ให้สีดูกลมกลืน. ทำความสะอาดแปรงปลายมนด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแปรงที่กำจัดแบคทีเรียหรือสบู่กับน้ำ และใช้ผ้าขนหนูสะอาดเช็ดให้แห้ง ใช้แปรงที่สะอาดเบลนอายแชโดว์ตรงปลายเบ้าตาด้านนอกเพื่อให้สีอายแชโดว์กลมกลืนเข้ากับโทนสีผิว และเบลนตรงเปลือกตาด้วยเพื่อให้อายแชโดว์ทั้งสามสีดูกลมกลืน ปัดแปรงแบบกระจายๆ เบาๆ เพื่อให้สีอายแชโดว์กลืนกัน [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ทาอายแชโดว์สีกลางลงบนเปลือกตา. ใช้แปรงแบนขนแข็งทาอายแชโดว์สีกลางลงบนเปลือกตาโดยเน้นที่ตรงกลางเป็นหลัก ลุคนี้ใช้แค่สีกลางกับสีเข้มเท่านั้น แต่คุณก็สามารถเติมสีไฮไลต์ได้ตามต้องการ
-
ทำให้เปลือกตาดูโดดเด่นด้วยอายแชโดว์สีเข้มสุด. ใช้แปรงปลายมนแต้มอายแชโดว์สีเข้มลงบน ⅓ ของเปลือกตาด้านในและด้านนอก หมายความว่าเปลือกตาของคุณจะเป็นสี ‘เข้ม-กลาง-เข้ม’ ทั่วเปลือกตา ระวังอย่าทาอายแชโดว์สีเข้มเข้าไปด้านในของเบ้าตามากเกินไป เพราะจะทำให้ดูเหมือนเป็นรอยคล้ำใต้ตาจากการอดนอน นอกจากนี้คุณจะตวัดอายแชโดว์สีเข้มตรงเบ้าตาด้านนอกขึ้นไปทางหางคิ้วเล็กน้อยด้วยก็ได้เพื่อให้ได้ลุคที่ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
-
เบลนสีอายแชโดว์เข้าด้วยกัน. ทำความสะอาดแปรงปลายมนด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแปรงหรือสบู่กับน้ำ และใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งสนิท ปัดแปรงกระจายๆ เบาๆ เพื่อเบลนอายแชโดว์ 2 สีบนเปลือกตาเข้าด้วยกัน ระวังอย่าให้สีเข้มที่สุดอยู่ใกล้กึ่งกลางของเปลือกตามากเกินไป เพราะจะทำให้ส่วนที่คุณไฮไลต์ไว้เลอะ และเบลนอายแชโดว์บริเวณเบ้าตาด้านนอกด้วย เพื่อไม่ให้ดูเป็นเส้นขอบหรือเส้นตัดบนเปลือกตาชัดเกินไปโฆษณา
-
ใช้เฉดสีกลางทาบนเปลือกตา. รองพื้นสีเปลือกตาโดยใช้แปรงแบนขนแข็งแท็บสีกลางให้ทั่วเปลือกตา นอกจากนี้คุณอาจทาสีไฮไลต์ให้ดูฟุ้งๆ เล็กน้อยตรงเบ้าตาด้านในหรือใต้คิ้วด้วยก็ได้ตามต้องการเพื่อให้ใบหน้าดูสว่างขึ้นเล็กน้อย [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เพิ่มสีตรงรอยพับเปลือกตา. ใช้แปรงทรงดินสอแตะอายแชโดว์สีที่เข้มที่สุดเพื่อเพิ่มความเข้มของรอยพับ ปัดอายแชโดว์สีเข้มกลับไปกลับมาให้ทั่วทั้งรอยพับเพื่อให้รอยพับดูเข้มขึ้นและดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น คุณอาจจะทารอยพับรูปกล้วยธรรมดา ซึ่งก็คือทาอายแชโดว์แค่ตรงรอยพับ หรือจะทารูปกล้วยแบบปิดที่ลากอายแชโดว์ลงมาถึงแนวขนตาก็ได้ วาดอายแชโดว์เป็นเส้นค่อนข้างบางให้ตลอดแนวรอยพับเปลือกตา
-
เบลนสีให้กลมกลืนกัน. ทำความสะอาดแปรงปลายมนด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแปรงที่กำจัดแบคทีเรียหรือสบู่กับน้ำ และใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งสนิท การวาดรูปตาแบบนี้หมายความว่าคุณอยากให้รอยพับเปลือกตาดูค่อนข้างเข้ม เพราะฉะนั้นให้ใช้แปรงปัดเส้นขอบด้านนอกให้ฟุ้งๆ เล็กน้อย อย่าเบลนมากเกินไปเพื่อให้เปลือกตาของคุณดูโดดเด่นทั่วทั้งดวงตาโฆษณา
-
ทาสีไฮไลต์. ใช้แปรงแบนขนแข็งปัดอายแชโดว์สีที่อ่อนที่สุดลงบนเบ้าตาด้านในและใต้คิ้วโดยตรง ซึ่งเป็นการไฮไลต์ใบหน้าในบริเวณที่ทำให้ดวงตาของคุณดูโตขึ้นและสดใสยิ่งขึ้น [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทาอายแชโดว์สีกลาง. ใช้แปรงแบนขนแข็งทาอายแชโดว์สีกลางให้ทั่วทั้งเปลือกตา เริ่มจากฐานแนวขนตาก่อนและทาขึ้นไปเหนือรอยพับเล็กน้อย แต่ก็อย่าให้ถึงบริเวณที่ทาสีไฮไลต์ไว้
-
ทาสีอายแชโดว์เพื่อให้ได้ดวงตาแบบสโมกกี้อาย. ก่อนอื่นให้ใช้แปรงปลายมนทาอายแชโดว์สีที่เข้มที่สุดตามแนวขนตาด้านบน ปัดสีอายแชโดว์ให้ทั่วเปลือกตา แต่ลากเส้นหนักตรงเบ้าตาด้านนอกเข้ามา ⅓ ของเปลือกตา จากนั้นใช้แปรงทรงดินสอทาอายแชโดว์ตามแนวขนตาให้ดูเข้มขึ้นและชัดขึ้น
-
ลากลงมาที่ขนตาล่าง. ใช้แปรงทรงดินสอทาอายแชโดว์สีที่เข้มที่สุดไปตามแนวขนตาล่างเล็กน้อย เริ่มจากแนวขนตาด้านนอกเข้าหาด้านใน และค่อยๆ ปัดสีให้อ่อนลงเมื่อปัดเข้าไปใกล้ท่อน้ำตาด้านใน
-
เบลนอายแชโดว์ให้สีกลมกลืนกัน. ใช้แปรงปลายมนที่ทำความสะอาดดีแล้วเบลนสีอายแชโดว์ให้กลมกลืนกัน สีอายแชโดว์ต้องไล่สีกันอย่างกลมกลืน เพราะฉะนั้นใช้เวลาสัก 2 – 3 นาทีค่อยๆ ปัดอายแชโดว์สีที่เข้มที่สุดให้ดูฟุ้งๆ ขึ้นไปด้านบนจนถึงบริเวณที่เป็นสีกลาง ระวังอย่าโดนเส้นอายแชโดว์สีเข้มที่อยู่ใกล้แนวขนตามากเกินไป เพราะส่วนนั้นจะต้องไม่จางลงขณะที่คุณเบลนสีอายแชโดว์ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เสร็จแล้ว.โฆษณา
เคล็ดลับ
- ทาสีที่อ่อนที่สุดก่อนเสมอ แล้วค่อยไล่ไปหาสีที่เข้มที่สุด
- แทนที่จะแต่งตาให้เสร็จเป็นข้างๆ คือแต่งตาให้เสร็จก่อนข้างนึงแล้วค่อยเริ่มแต่งอีกข้าง ให้เปลี่ยนเป็นแต่งทีละสีแทน ทาอายแชโดว์สีอ่อนที่สุดลงบนตาทั้งสองข้างให้เสร็จก่อน จากนั้นทาสีกลางบนดวงตาทั้งสองข้าง แล้วค่อยทาสีเข้มบนตาทั้งสองข้าง วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องทำความสะอาดแปรงบ่อยๆ
- ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าทุกครั้งหลังใช้เพื่อไม่ให้สีอายแชโดว์ผสมกันหรือเปื้อน ทั้งในพาเลตต์และบนเปลือกตา
- อย่าใช้แปรงแตะอายแชโดว์มากเกินไป เพราะจะเลอะแก้มหรือไม่ก็ใต้ตา
- เวลาทาอายแชโดว์ ต้องใช้แปรงให้ถูก เพราะการเลือกใช้แปรงที่ดีทำให้อายแชโดว์ราคาถูกดูดีได้
- คุณควรมีคอตตอนบัตไว้ด้วยเผื่อทาเลอะ เพราะถ้าคุณใช้นิ้ว มันก็อาจจะเลอะได้ แค่จุ่มคอตตอนบัตลงไปในผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง ลบซะ เท่านี้ก็เสร็จแล้ว!
- เวลาใช้อายแชโดว์แบบฝุ่น คุณจะจุ่มแปรงลงในน้ำให้แปรงเปียกเพื่อเพิ่มความชัดของสีอายแชโดว์ หรือจะผสมกับเจลสำหรับผสมผลิตภัณฑ์ (Mixing Medium) ก็ได้
- การลงอายแชโดว์แบบครีมก่อนแล้วตามด้วยอายแชโดว์แบบฝุ่นนั้นจะเพิ่มความสว่างให้กับสีอายแชโดว์ แต่ก็อาจจะดูหนักเกินไปได้ทาคุณไม่เบลนอายแชโดว์ให้ดี
- อย่าทาเยอะเกินไป การทาเพิ่มนั้นง่ายกว่าการลบออก
- ทาอายแชโดว์ก่อนแล้วค่อยเริ่มขั้นตอนการรองพื้นเสมอ เพราะจะป้องกันไม่ให้สีอายแชโดว์ผสมกับรองพื้น
คำเตือน
- ถ้าคุณใส่คอนแท็กเลนส์ คุณควรเช็กให้ดีก่อนว่าเครื่องสำอางที่คุณใช้ปลอดภัยกับการใส่คอนแท็กเลนส์หรือเปล่า
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.makeup.com/how-to-use-an-eye-shadow-trio-palette
- ↑ https://www.allure.com/story/choose-makeup-brushes
- ↑ https://www.enjoyaccra.com/2017/12/04/apply-eye-shadow/
- ↑ https://www.brunet.ca/en/advices/eye-shadows.html
- ↑ http://www.realsimple.com/beauty-fashion/makeup/eyes/apply-eye-shadow-00000000002737/index.html
- ↑ https://www.makeupgeek.com/blogs/makeup-tutorial/10-shapes-for-your-eyeshadow
- ↑ https://www.makeup.com/smoky-eye-for-your-eye-shape
- ↑ http://www.makeupgeek.com/makeup-basics/makeup-101-how-to-apply-eye-makeup/