ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าเราอยากทำความปรารถนาของตนเองให้เป็นจริงในชั่วข้ามคืน เราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ต้องคิดบวก และใช้โชคช่วยเล็กน้อย อย่าคิดว่าแค่บนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิแล้วเราจะได้สิ่งที่ต้องการเลย เราต้องนึกภาพว่าสิ่งที่ตนเองปรารถนากลายเป็นความจริงและมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ เขียนสิ่งที่ต้องการลงไปในกระดาษ ลองพิจารณาสิ่งที่เขียนนั้น ปรับข้อความให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และอ่านข้อความนั้นออกมาดังๆ ซ้ำไปซ้ำมา ทำกระดานวิสัยทัศน์หรือกำหนดคติประจำใจเพื่อให้ตัวเราเข้าใจความต้องการของตนเองมากขึ้น ทำความปรารถนาให้เป็นจริง ถ้าทำได้ จำไว้ว่าไม่มีอะไรสามารถเกิดขึ้นได้เองในชั่วข้ามคืนราวกับใช้เวทมนตร์เสกขึ้นมา

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ถ่ายทอดความปรารถนาออกมาเป็นถ้อยคำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เราต้องยอมรับว่าการปรารถนาไม่สามารถทำให้อะไรเกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการปรารถนานั้นไร้ประโยชน์หรือสูญเปล่า การเขียนความปรารถนาลงไปในกระดาษและพิจารณาความปรารถนานั้นสามารถช่วยเราให้เรียนรู้ที่จะยอมรับมัน รู้สาเหตุว่าทำไมเราต้องการให้ความปรารถนานั้นเป็นจริง และรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างความปรารถนานั้นถึงจะเป็นความจริง การอธิษฐานเป็นเทคนิคการนึกภาพแบบหนึ่งมากกว่าการอ้อนวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ ฉะนั้นเราจะต้องรู้สึกดีแน่ ถ้านึกภาพว่าความปรารถนาของตนเองเป็นจริง [1]
    • คิดสิว่าเราสามารถทำอะไรให้สำเร็จในชั่วข้ามคืนได้บ้างและลงมือทำสิ่งนั้นได้เลย ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อบรรลุเป้าหมาย
  2. เริ่มจากการถามตนเองว่า "ฉันอยากให้เหตุการณ์ใดเกิดขึ้น" ลองเจาะจงและกำหนดให้ชัดเจนว่าเราต้องการให้เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงถัดไป ถ้าเห็นว่าความปรารถนาของตนเองไม่มีทางเป็นจริงได้ในชั่วข้ามคืน ลองเปลี่ยนความปรารถนานั้นให้เป็นเป้าหมายระยะยาวแทน [2]
    • ตัวอย่างเช่น ถ้ามีความปรารถนาว่า"ฉันอยากเรียนจบ" แต่วันพรุ่งนี้ไม่ใช่วันจบการศึกษาและเรายังทำงานที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ไม่เสร็จ ให้เปลี่ยนความปรารถนานี้เป็นเป้าหมายระยะยาวดีกว่า
    • ถ้าไม่รู้ว่าตนเองปรารถนาสิ่งใดอยู่ พยายามคิดสิว่าเหตุการณ์ที่จะทำให้เรามีความสุขในวันพรุ่งนี้คือเหตุการณ์ใด ลองนึกภาพเหตุการณ์ที่ดีที่สุดซึ่งจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยทางทฤษฎีแล้วอะไรก็ตามที่เราอยากให้เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ สามารถถือว่าเป็นความปรารถนาของเราได้
    • ความปรารถนาบางอย่างก็ต้องใช้โชคช่วยในการทำให้เป็นความจริง ฉะนั้นไม่ต้องวิตกกังวลมากเกินไป หากความปรารถนานั้นไม่เป็นความจริง
  3. กำหนดความปรารถนาให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้. พอรู้คร่าวๆ ว่าต้องการทำความปรารถนาใดให้เป็นความจริงแล้ว จำกัดความปรารถนานั้นให้แคบลงไปอีกนิดหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากมีแฟน ก็พยายามเพิ่มรายละเอียดให้มากกว่านี้ อยากได้แฟนเรียนที่ไหน อยากได้แฟนไว้ทรงผมแบบไหน เราทั้งสองจะพบกันได้อย่างไร คำถามเหล่านี้สามารถทำให้เรากำหนดความปรารถนาได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น [3]

    เคล็ดลับ ถ้าความปรารถนาของเรานั้นกว้าง ก็จะบอกได้ยากว่าความปรารถนานั้นจะเป็นจริงหรือไม่ ตัวอย่างเช่น เราอยากมีสุขภาพดี แต่เกิดน้ำมูกไหลขึ้นมา แสดงว่าความปรารถนาของเราไม่เป็นจริงใช่หรือเปล่า ยิ่งเราสามารถเจาะจงให้แคบลงได้ เราก็จะยิ่งรู้ได้ง่ายขึ้นว่าความปรารถนานั้นจะเป็นจริงหรือไม่

  4. ถามตนเองว่าทำไมถึงอยากให้ความปรารถนานี้เป็นจริงและปรับความคิดใหม่อีกครั้ง. เราคิดอย่างไร ก็จะได้อย่างนั้น ถ้าเราต้องการให้ความปรารถนาเป็นจริงเพราะเห็นแก่ตนเองหรือละโมบ ก็ควรปรับความปรารถนาเดิมให้กลายเป็นความปรารถนาที่ก่อให้เกิดประโยชน์มากขึ้น พอเราเข้าใจความปรารถนาของตนเองพอสมควรแล้ว ถามตนเองว่า "ทำไมถึงอยากให้ความปรารถนานี้เป็นจริง" และ "โลกจะดีขึ้นหรือไม่ถ้าความปรารถนาของฉันเป็นความจริง" คำตอบที่ได้จะทำให้เรารู้ว่าควรทำความปรารถนานี้ให้เป็นจริงหรือไม่ [4]
    • ตัวอย่างเช่น หากเราต้องการให้ผลการเรียนออกมาดี เราไม่ควรคิดว่า "ฉันอยากให้ผลการเรียนออกมาดี เพื่อนๆ จะได้เห็นว่าฉันเป็นคนเก่ง" ให้คิดว่า "ฉันอยากให้ผลการเรียนออกมาดีเพราะมันจะแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและความตั้งใจของฉัน"
    • อย่าปรารถนาที่จะสร้างความเดือดร้อนหรือเจ็บปวดแก่ผู้อื่น

    เคล็ดลับ อย่ามีความปรารถนาเกินหนึ่งอย่าง ถ้าเรามีความปรารถนาเกินหนึ่งอย่าง ก็มีโอกาสที่ความปรารถนาของเราจะไม่เป็นจริงสักอย่าง

  5. เขียนความปรารถนาลงในกระดาษ แก้ไข และติดไว้ในห้อง. เขียนความปรารถนาลงในกระดาษเปล่า ดูข้อความที่เขียนนั้นสัก 1-2 นาทีและอ่านซ้ำไปซ้ำมาดังๆ ลองปรับภาษาให้ชัดเจนและพยายามปรับเนื้อหาให้เฉพาะเจาะจงหรือชัดเจน ลองคิดสิว่าความตั้งใจของเรานั้นดีหรือไม่ พอเราตัดสินใจได้ว่าความปรารถนาของตนเองคืออะไรแล้ว จะเขียนใหม่หรือเก็บฉบับร่างนี้เอาไว้ก็ได้ ติดไว้ในห้องของตนเอง เราจะได้มองเห็นอย่างชัดเจน [5]
    • การหมั่นนึกถึงสิ่งที่ปรารถนาจะช่วยให้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้ความปรารถนานั้นเป็นจริง การติดข้อความไว้ในบริเวณที่ผู้คนมองเห็นจะทำให้เรายังคงทำตามเป้าหมายของตนเองต่อไป หากความปรารถนานั้นไม่สามารถเป็นจริงได้ในชั่วข้ามคืน
  6. ทำกระดานวิสัยทัศน์เพื่อช่วยให้เห็นภาพความสำเร็จได้ง่ายขึ้น. เตรียมแผ่นโฟมหรือกระดาษสำหรับทำบอร์ดแผ่นใหญ่ หาภาพจากนิตยสารหรืออินเตอร์เน็ตมาสักสองสามภาพ เลือกภาพที่เกี่ยวข้องกับความปรารถนาของตนเอง ตัดภาพออกมาแล้วติดกาวหรือเทปกาว นำภาพไปแปะบนกระดาษทำบอร์ดเพื่อทำกระดานวิสัยทัศน์ ทำกระดานวิสัยทัศน์ออกมาแบบไหนก็ได้ตามที่เราต้องการ! แปะรูปภาพซ้อนกันและเพิ่มภาพประกอบในแบบที่ตนเองเห็นว่าเหมาะสมเพื่อทำให้กระดานวิสัยทัศน์ออกมาในแบบของเราเองจริงๆ [6]
    • กระดานวิสัยทัศน์ช่วยให้เราจดจ่อกับเป้าหมายและนึกภาพความสำเร็จออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไร การทำกระดานวิสัยทัศน์สามารถนำมาเป็นกิจกรรมเพื่อการผ่อนคลายหรือฝึกความคิดสร้างสรรค์ได้
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าความปรารถนาของเราคือ "อยากให้การไปโรงเรียนวันแรกเป็นไปอย่างราบรื่นและอยากให้เพื่อนใหม่ชอบเรา" เราอาจตัดภาพเพื่อนๆ กำลังเดินไปด้วยกัน ภาพคุณครูยิ้มให้นักเรียน หรือภาพเพื่อนสนิทกอดกันก็ได้ แล้วนำมาแปะบนกระดานวิสัยทัศน์
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ตั้งใจนึกถึงความปรารถนานั้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าปล่อยให้ความวิตกกังวลหรือความกลัวเข้าครอบงำความคิดของเรา นึกภาพทุกสิ่งที่เราอยากให้เป็นความจริง นึกแต่ภาพเหตุการณ์ดีๆ เท่านั้น นึกภาพความปรารถนาของตนเองเป็นจริงไปเรื่อยๆ ขณะที่เตรียมตัวเข้านอน ทำกระดานวิสัยทัศน์ หรือคุยโทรศัพท์ หมั่นคิดบวกเสมอเพื่อเราจะได้สามารถนึกภาพความปรารถนาเป็นจริงได้ง่าย! [7]
    • ถ้าเราไม่สามารถคิดบวกได้ พยายามหาสาเหตุของการคิดลบและท้าทายความคิดลบในหัว
    • ตัวอย่างเช่น ถ้ากลัวว่าเราจะไม่ได้สิ่งที่ตนเองต้องการในวันเกิด พยายามสำรวจความคิดว่าที่จริงแล้วตนเองกลัวอะไร ถ้าเรากลัวว่าครอบครัวหรือเพื่อนจะลืมวันเกิดของเรา ให้ต่อสู้กับความกลัวนั้น หาเหตุผลว่าทำไมบุคคลที่สำคัญสำหรับเราจะไม่มีทางลืมวันเกิดของเรา!
  2. นั่งสมาธิเพื่อทำจิตใจให้สงบและยอมรับความปรารถนาของตนเอง. เวลานั่งสมาธิ ให้นั่งหลังตรงบนเก้าอี้หรือนั่งขัดสมาธิท่าดอกบัวที่พื้นก็ได้ หรี่แสงไฟและปิดอุปกรณ์ทุกชนิด หลับตาและนับลมหายใจเข้า-ออกเพื่อจะได้จดจ่ออยู่กับลมหายใจ พอรู้สึกผ่อนคลายแล้ว เริ่มนึกถึงความปรารถนาของตนเอง ปล่อยจิตใจของตนเองให้ล่องลอยไปและสำรวจความคิดต่างๆ ของตนเอง [8]

    เคล็ดลับ การนั่งสมาธิจะทำให้เราได้นึกถึงผลลัพธ์และองค์ประกอบต่างๆ ของสิ่งที่ตนเองปรารถนา ตัวอย่างเช่น ถ้าความปรารถนาของเราคือการมีเพื่อนแท้ เราก็อาจคิดว่าจะดีสักแค่ไหนถ้าเราและเพื่อนคนนั้นยังคงสนิทกันไม่เปลี่ยนแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน

  3. เขียนความปรารถนาซ้ำแล้วซ้ำอีกและทำให้เป็นคติประจำใจ. คติประจำใจคือวลีหรือข้อความที่เรามักจะยืดเป็นหลักในการดำเนินชีวิต เป้าหมายของการเขียนความปรารถนาซ้ำแล้วซ้ำอีกและทำให้เป็นคติประจำใจคือช่วยให้เราจดจ่อกับข้อความที่เขียนนั้นเพื่อจะได้นึกภาพสิ่งที่ปรารถนาและทำให้เป็นความจริง เตรียมกระดาษเปล่าและปากกา เริ่มเขียนความปรารถนาของตนเองที่บรรทัดแรก คัดลอกข้อความที่เขียนในบรรทัดแรกลงในบรรทัดต่อมา คัดลอกข้อความเดิมลงในแต่ละบรรทัดจนเต็มหน้ากระดาษ [9]
    • ปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปขณะที่เขียน นึกถึงแต่ละคำที่เรากำลังเขียนอยู่และใคร่ครวญดูสิว่าร่างกายของเรารู้สึกอย่างไรตอนที่เขียน
  4. ยอมรับว่าการปรารถนาอะไรสักอย่างมีข้อกำจัดและไม่ท้อแท้. เราอาจเกิดตระหนักขึ้นมาได้ว่าความปรารถนาของเรามีจุดบอดที่ควรแก้ไข ถ้าช่วงใดช่วงหนึ่งเราเกิดรู้ว่าความปรารถนาของตนเองนั้นมีจุดบอด ให้ปรับเปลี่ยนความปรารถนาเสียใหม่ เรายังต้องยอมรับอีกด้วยว่าการปรารถนาไม่สามารถทำให้ตนเองบรรลุเป้าหมายได้ การปรารถนาสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นแค่เครื่องมือที่ช่วยให้เรารู้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เมื่อความปรารถนานั้นเป็นจริงและทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำความปรารถนาให้เป็นจริง [10]
    • การปรารถนาไม่สามารถทำให้อะไรเกิดขึ้นได้ จึงไม่สามารถทำความปรารถนาของตนเองให้เป็นจริงได้
    • ข้อจำกัดอีกอย่างคือ เราไม่สามารถหวังให้ผู้อื่นเป็นผู้ทำความปรารถนาของเราให้เป็นจริงได้ ตัวอย่างเช่น "ฉันอยากให้พ่อซื้อวีดีโอเกมใหม่ให้ฉันในวันพรุ่งนี้" ความปรารถนานี้จำเป็นต้องมีพ่อเป็นผู้ทำให้เป็นจริง อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา ลองเปลี่ยนความปรารถนาใหม่เป็น "ฉันอยากได้วีดีโอเกมใหม่ในวันพรุ่งนี้"
  5. อย่าใช้เครื่องราง คาถา หรือกลอุบายต่างๆ ในการทำให้ความปรารถนาเป็นจริง. เครื่องราง คาถา กลอุบาย และเวทมนตร์ไม่สามารถทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้ เราสามารถใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือช่วยนึกภาพหรือช่วยในการนั่งสมาธิได้ แต่ไม่สามารถช่วยให้ความปรารถนาของเราเป็นจริงได้เสียทีเดียว
    • เราจะผิดหวังอย่างหนัก ถ้าเราฝากความหวังไว้กับเครื่องราง หรือคาถาแต่เพียงอย่างเดียวและความปรารถนาไม่เป็นจริง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ลงมือทำเพื่อให้ความปรารถนาเป็นจริง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูสิว่าเราสามารถทำอะไรให้สำเร็จได้บ้างในคืนนั้น. ถ้ามีส่วนใดของความปรารถนาที่สามารถทำให้สำเร็จก่อนวันถัดไปได้ ให้ทำเสีย ตัวอย่างเช่น ถ้าเราปรารถนาอยากให้ตนเองทำคะแนนสอบครั้งสำคัญออกมาได้ดี ให้ทบทวนบทเรียนในคืนก่อนสอบและอ่านเนื้อหาที่ได้จดบันทึกไว้! ถ้าเราปรารถนาอยากออกเดตกับคนที่ตนเองชอบ ให้โทรศัพท์ไปหาเขาและขอเดตเลย! [11]
    • เราไม่สามารถนั่งเฉยๆ และหวังว่าความปรารถนาจะเป็นจริงได้โดยไม่ลงมือทำอะไรให้สำเร็จเลย

    เคล็ดลับ การลงมือทำจะช่วยให้เราสมปรารถนาได้ การลงมือทำจะช่วยทำให้ความปรารถนาของเราเป็นจริง!

  2. สนทนาเรื่องเป้าหมายของตนเองกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวเผื่อพวกเขาจะช่วยเราได้. ถ้าความปรารถนาของเราสามารถเป็นความจริงได้ หากได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น ก็ให้ลองขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทหรือสมาชิกในครอบครัว บอกพวกเขาไปว่าความปรารถนาของเรานั้นคืออะไรและเราต้องการทำอะไรให้สำเร็จภายในคืนนี้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่สามารถออกแรงช่วยเหลือเราได้ แต่พวกเขาสามารถให้คำแนะนำดีๆ เพื่อให้เราเข้าไปใกล้เป้าหมายมากขึ้นได้ [12]
    • บอกพวกเขาไปว่า "ฉันอยากทำภารกิจบางอย่างให้เสร็จภายในคืนนี้ ขอเวลาคุยสักเดี๋ยวได้ไหม"
  3. เขียนรายการสิ่งที่ต้องทำเพื่อจะได้รู้ว่าตนเองต้องทำอะไรบ้างความปรารถนาถึงจะเป็นจริง. ก่อนเข้านอน ให้หยิบกระดาษเปล่าขึ้นมาหนึ่งแผ่นและหยิบปากกาหรือดินสอขึ้นมาหนึ่งแท่ง เขียนขั้นตอนที่สามารถทำได้ในสองสามวันถัดไปเพื่อทำความปรารถนาให้เป็นจริง ติดสิ่งที่เขียนไว้ในห้อง โดยติดในตำแหน่งที่เห็นชัดเจน และทำตามรายการที่เขียนไว้นั้นตั้งแต่รายการแรกจนถึงรายการสุดท้าย ขีดฆ่ารายการที่ตนเองทำเสร็จแล้ว [13]
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าความปรารถนาคือการจบจากวิทยาลัยดีๆ ขั้นตอนที่จะทำให้ความปรารถนานี้เป็นจริงคือ "หาคณะดีๆ ที่เราสามารถจ่ายค่าเทอมได้" "ศึกษาขั้นตอนการสมัคร" และ "ไปเยี่ยมชมคณะต่างๆ ช่วงปิดเทอม"
    • ใส่ขั้นตอนที่ทำได้ง่ายที่สุดลงในรายการแรกสุด เราจะได้ทำสำเร็จได้โดยง่าย เราจะเริ่มต้นทำความปรารถนาให้เป็นจริงได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น
  4. ก่อนนอน นำกระดาษแผ่นแรกซึ่งเราเขียนความปรารถนาเอาไว้มาพับและวางไว้ใต้หมอน พอเข้านอนในคืนนั้น ให้คิดว่าความปรารถนาของเราเป็นจริง เราจะนอนหลับได้ดีขึ้นในคืนนั้น เพราะรู้ว่าความปรารถนาของตนเองถูกเก็บไว้อย่างดีอยู่ใต้หมอน และการเก็บไว้ใกล้ศีรษะจะช่วยให้เราจดจ่อกับความคิดของตนเองขณะหลับ! [14]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,563 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา