PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

นอกจากเปลืองแล้วยังเสียเวลา ถ้าต้องคอยหาน้ำยาทำความสะอาดแพงๆ มาใช้กับรถคู่ใจโดยเฉพาะ แต่การทำความสะอาดรถอยู่เสมอถือว่าสำคัญมาก นอกจากรถจะใหม่ท้าแดดท้าลมแล้ว ยังทำให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจและสบายใจด้วย [1] คุณทำความสะอาดรถได้โดยไม่ต้องพึ่งแต่น้ำยาทำความสะอาดแพงๆ รถของคุณจะใหม่อยู่เสมอแค่ใช้ของใช้และส่วนผสมต่างๆ ที่มีในบ้านนั่นแหละ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 5:

ทำความสะอาดตัวถัง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. พยายามฉีดหรือล้างคราบสิ่งสกปรกเป็นก้อนๆ นูนๆ ออกไปก่อน และขัดให้ทั่วทั้งรถ เพราะถ้าขจัดสิ่งสกปรกส่วนเกินออกไปให้ได้มากที่สุด จะล้างรถได้ง่ายขึ้นเยอะเลย ถ้ายังหลงเหลือคราบแห้งกรังในขั้นตอนล้างรถ อาจขีดข่วนจนสีลอกได้ [2]
  2. ให้ใส่เบคกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวงในน้ำร้อน 1 แกลลอนที่ผสมน้ำยาล้างจานแล้ว เพื่อเพิ่มพลังสลายคราบ โดยเฉพาะคราบโคลนเกรอะกรัง (หรือถ้าเป็นเมืองนอกก็หิมะผสมโคลนช่วงหน้าหนาว)
  3. ขจัดคราบยางไม้ด้วยแอลกอฮอล์แปลงสภาพ (Denatured alcohol) เช่น เอทานอล หรือเอทิลแอลกอฮอล์ เพราะขจัดได้ทั้งยางไม้และน้ำมันดิน หรือจะใช้เนยถั่วแทนก็ได้. โดยทาเนยถั่วหรือเนยขาว (solid shortening) บริเวณที่เป็นคราบแล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที หลังจากนั้นใช้ผ้าเช็ดออก อาจจะต้องเช็ดหลายทีหน่อย กว่ายางไม้เหนียวๆ จะสะอาดหมดจด
    • Denatured alcohol ขจัดคราบได้ทั้งยางไม้และน้ำมันดินเลย [3]
  4. แชมพูนี่แหละสุดยอดน้ำยาทำความสะอาดที่ใครๆ ก็มีติดบ้าน ใช้ขจัดคราบมันและคราบเหนียวจากตัวถังรถได้สบายๆ เลือกใช้แชมพูเด็กได้จะดีที่สุด เพราะส่วนผสมอ่อนโยน ไม่ทำร้ายสีรถ [4]
  5. ให้ผสมแชมพู 2 ช้อนชาในถังน้ำที่บรรจุน้ำ 2 แกลลอน (ประมาณ 8 ลิตร). เวลาเช็ดหรือขัดถู ให้ใช้ผ้านุ่มๆ เพื่อถนอมสีรถ และอย่าใช้แชมพูเยอะไป เพราะน้ำยาทำความสะอาดแรงๆ ที่ไม่ค่อยเจือจางสามารถกัดสีรถได้เลย
    โฆษณา
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

Chad Zani

ผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งรถ
แชด ซานี่เป็นผู้อำนวยการด้านการขยายแฟรนไชส์ของ Detail Garage บริษัทแต่งรถที่มีสาขาทั่วสหรัฐกับสวีเดน แชดนั้นประจำที่ลอสแองเจลิส และใช้ความหลงใหลด้านการแต่งรถของตนคอยสอนคนอื่นในระหว่างที่เขาขยายบริษัทไปทั่วประเทศ
Chad Zani
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งรถ

ให้แน่ใจว่าถังที่ใช้มีที่ดักฝุ่น ที่ดักฝุ่นจะป้องกันฝุ่นจากการติดกับผ้าขี้ริ้ว และสุดท้ายก็กลับไปอยู่ที่รถ

  1. ใช้ม็อบดันฝุ่นทำความสะอาดในส่วนที่เข้าถึงยาก. ถ้าล้างหลังคา กระโปรงรถ หรือจุดอื่นๆ ไม่ถึง ม็อบดันฝุ่นนี่แหละสุดยอดอุปกรณ์ช่วยเช็ดช่วยขัดของคุณ
  2. ล้างคราบดินโคลนเกรอะกรังที่ปัดน้ำฝนด้วยแอลกอฮอล์ล้างแผล.
  3. เอาผ้าขนหนูหรือผ้าขี้ริ้วชุบแอลกอฮอล์ ถือที่ปัดน้ำฝนไว้ แล้วรูดผ้าแบบเน้นๆ ไปตามยางของที่ปัดน้ำฝน.
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 5:

ทำความสะอาดพื้นผิวแข็งๆ และคอนโซลกลาง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อขจัดคราบสกปรกส่วนเกินจากพื้นผิวของรถ และป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกลามไปเลอะที่นั่งหรือพื้นรถ
  2. ถ้าจะขจัดคราบเลอะเบาะรถที่เป็นหนังหรือไวนิล ให้ถูเบาๆ ด้วยยาสีฟันทั่วบริเวณที่เป็นคราบ
    • ต้องทดสอบน้ำยาทำความสะอาดแค่จุดเล็กๆ ก่อนเสมอ เพราะน้ำยาบางตัวก็ทำเบาะด่างได้เลย
  3. เปลี่ยนไปใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลแทน ถ้ายาสีฟันไม่ได้ผล. พอทดสอบแล้วว่าใช้แอลกอฮอล์ได้ ปลอดภัยดี ก็ลงมือเช็ดหรือซับที่คราบเบาๆ ได้เลย
    • ยิ่งใช้แอลกอฮอล์เยอะ ก็เท่ากับน้ำยาทำความสะอาดยิ่งแรง เสี่ยงกัดสีรถด่างได้
  4. ผสมน้ำยาทำความสะอาดด้านในของรถ โดยใช้น้ำกับแอลกอฮอล์ในสัดส่วนที่เท่ากัน. ให้ฉีดพ่นน้ำยาที่ผสมแล้วบริเวณพื้นผิวแข็งๆ จากนั้นใช้แผ่นหอมปรับผ้านุ่มเช็ดออก จะได้ไม่ทิ้งฝุ่นผ้าไว้
  5. ลองผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วนกับน้ำมันเมล็ดฝ้าย 1 ส่วน. นี่ก็เป็นน้ำยาอีกสูตรที่ใช้ขจัดคราบและสิ่งสกปรกในรถได้ดี แถมถ้าใช้เช็ดเบาะหนังก็จะเงาวับเลย [5]
  6. เพื่อดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รถจะได้หอมสดชื่น ถ้าปกติคุณไม่สูบบุหรี่อยู่แล้ว ก็ใส่เบคกิ้งโซดาในที่เขี่ยบุหรี่เพื่อช่วยฟอกอากาศได้เลย
  7. เช็ดช่องเก็บของหน้ารถด้วยทิชชู่เปียกเช็ดก้นเด็ก (baby wipes). ถ้ามีขยะหรือฝุ่นหนาก็ต้องกำจัดซะก่อน เพราะขยะต่างๆ ที่คุณทิ้งไว้นานจนลืม อย่างขนมที่กินเหลือจนบูดอยู่ในช่องเก็บของ จะทำให้รถดูสกปรกอย่างที่ไม่ควรจะเป็นเลย
  8. ให้ผสมน้ำมะนาวคั้นสด 1 ส่วน กับน้ำมันมะกอก 2 ส่วน ในถ้วยที่จัดเตรียมไว้ เน้นว่าห้ามใช้เคลือบคันเร่ง เกียร์ และอื่นๆ ที่ต้องใช้บังคับรถ เพราะน้ำยานี้จะเคลือบผิวให้เรียบมัน อาจเป็นอันตรายได้ถ้าเหยียบหรือจับแล้วลื่นตอนกำลังขับรถ [6]
  9. แล้วใช้ขัดแผงหน้าปัด กับพื้นผิวที่เป็นพลาสติกและไวนิล รับรองพื้นผิวเรียบแข็งของรถจะเงาวับสวยงาม
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 5:

ทำความสะอาดส่วนที่เป็นผ้า

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูดฝุ่นให้ละเอียด รวมถึงเก็บขยะและสิ่งสกปรกทั้งหลายออกให้ได้มากที่สุด. ถ้าไม่ทำขั้นตอนนี้ให้ละเอียด จะทำความสะอาดยากขึ้นอีกเยอะ เพราะเช็ดถูแล้วคราบยิ่งฝังแน่นหรือกระจายเป็นวงกว้าง [7]
  2. ให้โรยแป้งข้าวโพดใส่คราบมันแล้วทิ้งไว้ 30 นาที พอครบตามเวลา ก็ดูดฝุ่นกำจัดผงแป้งข้าวโพด แล้วเช็คว่ายังเหลือคราบมาก-น้อยแค่ไหน [8]
    • ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดบางคนแนะนำให้ผสมน้ำในแป้งข้าวโพดด้วยนิดหน่อย ให้เหนียวข้นเป็น paste เอาไปโปะที่คราบ รอจนแห้ง แล้วปัดออกทั้งผงแป้งและคราบมัน [9]
  3. ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำในสัดส่วนที่เท่ากันในขวดสเปรย์. ใช้ฉีดพ่นที่คราบให้ชุ่ม ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยซับให้แห้ง
  4. ถ้าขจัดคราบไม่ได้ผล ให้ขัดเบาๆ หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดที่แรงขึ้น เพราะคราบบางชนิดจะขจัดออกง่ายกว่าถ้าใช้น้ำยาเฉพาะ ยังไงลองค้นในเน็ตดู ว่าคราบแบบนี้ควรใช้น้ำยาชนิดใดกำจัด
  5. ขจัดคราบดินและหญ้าด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์. โดยใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% ทิ้งไว้ให้ชุ่ม จากนั้นล้างออกตามปกติ [10]
    • ถ้าหาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ไม่ได้ ให้ขจัดคราบเบื้องต้นด้วยน้ำส้มสายชูกลั่นขาว แอลกอฮอล์ล้างแผล กับน้ำอุ่น ผสมในสัดส่วนที่เท่ากันก่อน [11] ให้ใช้น้ำยานี้ขัดถูที่คราบโดยตรง แล้วล้างออกตามปกติ
  6. ทำให้คราบเขม่าหรือรอยไหม้นิ่มลงด้วยหัวหอมดิบ. จะได้ผลเป็นพิเศษกับรอยไหม้จากบุหรี่ ให้กดหัวหอมที่หั่นแล้วแนบรอยไหม้ พอน้ำจากหัวหอมซึมเข้าไปในเนื้อผ้าแล้ว ให้ชุบน้ำให้ชุ่มต่อไป คราบจะจางลงเยอะเลย [12]
  7. ให้หาขวดสเปรย์แข็งแรงหน่อย แล้วผสมน้ำยาล้างจานยี่ห้อ Dawn (สีฟ้า) 1 ถ้วยตวง กับน้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1 ถ้วยตวง และคลับโซดา 1 ถ้วยตวง จากนั้นฉีดพ่นให้ทั่วคราบ แล้วใช้แปรงขัดให้คราบละลายออกมาจากเนื้อผ้า ทำความสะอาดได้ง่าย
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 5:

ทำความสะอาดให้อากาศบริสุทธิ์

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้แล้วอากาศที่ไหลผ่านช่องแอร์จะสะอาดสดชื่นขึ้นเยอะเลย และหมั่นเปลี่ยนน้ำหอมปรับอากาศใหม่เรื่อยๆ กลิ่นจะได้ไม่ถูกกลบ
  2. โดยฉีดพ่นสเปรย์ที่ผสมจากน้ำกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หาช่องลมนี้ได้โดยศึกษาจากคู่มือรถยนต์
  3. ผสมน้ำ 1 ถ้วยตวงกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ช้อนโต๊ะ ในขวดสเปรย์. ให้เขย่าผสมเบาๆ จนเข้ากัน
  4. เปิดประตูและหน้าต่างทั้งหมด แล้วเร่งแอร์แรงสุด. ฉีดพ่นน้ำยาที่ผสมจากน้ำและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ในช่องลมเข้า สเปรย์นี้ช่วยฆ่าเชื้อโรคและเชื้อราในรถได้ แต่เป็นน้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนกว่าน้ำยาอื่นๆ ไม่ต้องกลัวระคายเคืองปอดหรือดวงตา [13]
  5. เทเบคกิ้งโซดา 1/4 ถ้วยตวงใส่ขวดโหลเล็กๆ แล้วเจาะรู 2 - 3 รูที่ฝา หรือใช้ผ้าขาวบางปิดปากขวดแทน จากนั้นวางตรงที่วางแก้ว หรือตรงช่องในมุมอับ [14]
    • ใช้น้ำมันหอมระเหยสัก 2 - 3 หยด เท่านี้ก็ได้กลิ่นหอมถูกใจ ช่วยเพิ่มความสดชื่นที่ได้จากเบคกิ้งโซดา
  6. ซ่อนแผ่นหอมอบผ้าไว้ใต้ที่นั่ง พรมเช็ดเท้า และที่เก็บของหลังเบาะ. เท่านี้ก็หมดปัญหารถมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ถ้าใครชอบเล่นกีฬาหรือออกแรงเยอะจนมีเหงื่อประจำ ลองสอดแผ่นหอมอบผ้าไว้ในช่องเก็บของด้านหน้าหรือที่หลังเบาะดู จะช่วยขจัดกลิ่นเหงื่อกลิ่นอับชื้นได้เป็นอย่างดี
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 5:

ทำความสะอาดกระจกรถ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. บางคนชอบเช็ดกระจกก่อนเพื่อน แต่ส่วนใหญ่คนจะเก็บไว้ทำความสะอาดหลังสุด เพราะน้ำจะได้ไม่กระเด็นใส่ หรือกระจกชื้นจนกระจกที่อุตส่าห์ล้างซะดิบดีเป็นฝ้า ตอนทำความสะอาดส่วนอื่นๆ ของรถ
  2. หนังสือพิมพ์กับผ้าไมโครไฟเบอร์เป็นวัสดุที่ซึมซับได้ดี ไม่ต้องกลัวมีฝุ่นผ้าติดหรือทิ้งรอยเป็นริ้วๆ ไว้ที่กระจก แถมยังประหยัดกว่า เพราะผ้าซักแล้วใช้ใหม่ได้ ส่วนหนังสือพิมพ์ก็ถูกกว่าทิชชู่แน่นอน
  3. จะได้ไม่ต้องมานั่งเช็ดน้ำที่หยดหรือไหลลงมาเป็นทางจากด้านบน [15] ถ้าด้านนอกกับด้านในเช็ดต่างทิศทางกัน จะทำให้เห็นจุดที่พลาดไปได้ชัดเจน
  4. นอกจากประหยัดงบกว่าแล้ว ยังภูมิใจด้วยว่าน้ำยาทำเองนี้ช่วยรักษ์โลกอย่าบอกใคร
  5. ผสมน้ำ 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง กับแอลกอฮอล์ 1/4 ถ้วยตวง ก็จะได้น้ำยาเช็ดกระจกทำเอง. ให้เทผสมทั้งหมดนี้ในขวดสเปรย์ แล้วเขย่าเบาๆ จนเข้ากัน เท่านี้น้ำยาก็พร้อมใช้
    • ถ้าไม่มีแอลกอฮอล์ ใช้แค่น้ำส้มสายชูผสมน้ำก็เห็นผลแล้ว [16]
  6. อย่าลืมเช็ดจากบนลงล่าง โดยใช้ผ้าขนหนู ผ้าขี้ริ้ว หรือกระดาษและผ้าอื่นๆ ถ้ากระจกสกปรกเป็นพิเศษ ให้เตรียมผ้าไว้ 2 ผืน ผืนหนึ่งเช็ดคราบสกปรก อีกผืนเก็บงานและเช็ดให้แห้ง
  7. ฉีดพ่นที่กระจกหน้าหรือกระจกรอบคัน แล้วเช็ดออกให้สะอาด ถ้าซากแมลงเละเทะเป็นพิเศษ อาจจะพ่นน้ำส้มสายชูทิ้งไว้ให้ออกฤทธิ์ แล้วค่อยเช็ดออกก็ได้
    • น้ำมีฟองอย่าง Seltzer water บางคนก็ว่าช่วยให้ซากแมลงเช็ดออกง่ายขึ้น หลังฉีดพ่นทิ้งไว้ 2 - 3 นาที [17]
  8. ให้ใช้ฝอยขัด (Steel Wool) เบอร์ 0000 ถ้ารอยน้ำติดแน่นทนนาน.
  9. โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ให้เช็ดกระจกหน้ากับกระจกรถรอบคัน รวมถึงพื้นผิวอื่นๆ ที่เป็นกระจกทีหลังสุด
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าให้สัดส่วนของแอลกอฮอล์ล้างแผลหรือน้ำเยอะเกินไปเวลาผสมน้ำยาทำความสะอาดด้านในของตัวรถ สัดส่วนที่พอดีของวัตถุดิบที่เอามาผสมทำน้ำยาถือว่าสำคัญมาก ต้องผสมตามสัดส่วนและขั้นตอนตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
  • บางประเทศจะมีเรื่องของกฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้บางพื้นที่จำกัดการใช้น้ำในฤดูแล้ง การล้างรถหรือล้างรถบ่อยๆ จะทำให้เปลืองน้ำ ถือเป็นการเอาเปรียบคนอื่นและผิดกฎหมายได้ เพราะงั้นก็ต้องศึกษากฎหมายของพื้นที่นั้นๆ ให้ดี และล้างรถเฉพาะกรณีที่จำเป็น
  • ห้าม เอาสเปรย์ฉีดห้องมาใช้กับรถ เพราะอาจทิ้งร่องรอยหรือคราบให้เห็นเด่นชัดตรงเบาะที่นั่งของรถ
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ทิชชู่เปียกเช็ดก้นเด็ก (baby wipes)
  • เบคกิ้งโซดา
  • ถังน้ำ
  • แปรงขัด
  • แผ่นหอมอบผ้า (dryer sheets)
  • ม็อบดันฝุ่น
  • แผ่นหอมปรับผ้านุ่ม (fabric softener sheets)
  • ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
  • แชมพูสระผม
  • ขวดโหล (สำหรับใส่น้ำหอมปรับอากาศ)
  • น้ำมันเมล็ดฝ้าย (Linseed oil)
  • แอลกอฮอล์ล้างแผล
  • ผ้าขนหนูหรือผ้าขี้ริ้วนุ่มๆ ไม่ก็หนังสือพิมพ์
  • ขวดสเปรย์
  • น้ำส้มสายชู
  • น้ำสะอาด

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,343 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา