การสวมใส่รองเท้าจนสกปรกเป็นเรื่องที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นสละเวลาสักนิดเพื่อทำความสะอาดรองเท้าของคุณตามวิธีที่เหมาะสมตามวัสดุของรองเท้า เพียงเท่านี้รองเท้าของคุณก็จะกลับมาดูสะอาดเหมือนใหม่อีกครั้ง ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรองเท้าให้นานขึ้นได้อีกด้วย
ขั้นตอน
-
กำจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนรองเท้า. ใช้แปรงสีฟันเก่าหรือแปรงขัดรองเท้าขนาดเล็กขัดเบาๆ ตรงบริเวณที่มีเศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกติดแน่น โดยกดแปรงด้วยความแรงมากพอเพื่อให้เศษฝุ่นและสิ่งสกปรกมีแรงเกาะบนพื้นผิวน้อยลงและหลุดออกมาได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำความสะอาดพื้นรองเท้าด้วยเบคกิ้งโซดาผสมน้ำเปล่า. พื้นรองเท้าผ้าใบเป็นส่วนที่ทำความสะอาดค่อนข้างยาก ดังนั้นเพื่อให้สามารถขจัดคราบได้ง่ายยิ่งขึ้น ให้คุณนำเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เท่ากัน จากนั้นใช้แปรงสีฟันจุ่มลงไปและนำไปขัดให้ทั่วพื้นรองเท้า เสร็จแล้วจึงเช็ดให้สะอาดด้วยผ้าชุบน้ำ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ขจัดคราบสกปรกในเบื้องต้นด้วยน้ำยาขจัดคราบ. หากมีคราบสกปรกติดอยู่ตามรองเท้า ให้คุณป้ายน้ำยาขจัดคราบลงไปเล็กน้อยตรงบริเวณที่มีคราบสกปรกติดอยู่แล้วทิ้งไว้สักพักตามระยะเวลาที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองแต้มน้ำยาลงไปตรงจุดที่ไม่เป็นที่สังเกตดูก่อนเพื่อทดสอบให้แน่ใจว่าน้ำยาขจัดคราบที่ใช้จะไม่ทำให้รองเท้าของคุณสีตกหรือเป็นคราบได้
-
ซักในเครื่องซักผ้าด้วยโปรแกรมซักแบบนุ่มนวล. เติมน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนลงไป เลือกอุณหภูมิของน้ำให้เป็นน้ำเย็น และตั้งโปรแกรมซักแบบนุ่มนวล เมื่อน้ำถูกเติมลงไปประมาณสามส่วนสี่ของถังซักแล้ว ให้คุณใส่รองเท้าลงไปในเครื่องและปิดฝาให้เรียบร้อย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ผึ่งลมให้แห้ง. เมื่อเครื่องซักผ้าซักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คุณนำรองเท้าออกมาจากเครื่องและตากไว้ตรงบริเวณที่ห่างจากแสงแดด ความร้อน หรือช่องระบายอากาศ ผึ่งลมทิ้งไว้ข้ามคืนให้รองเท้าแห้งสนิท [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
กำจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกบนพื้นผิวรองเท้า. ใช้แปรงขนแข็งหรือแปรงสีฟันเก่าขัดเบาๆ เพื่อกำจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามจุดต่างๆ ของรองเท้า อย่าขัดแรงจนเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขูดขีดบนพื้นผิวรองเท้า [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เช็ดคราบน้ำมันและรอยเปื้อนบนพื้นผิวรองเท้า. ใช้ผ้าที่แห้งและสะอาดเช็ดเบาๆ เพื่อขจัดคราบน้ำมันและรอยเปื้อนที่ติดอยู่ตามจุดต่างๆ ของรองเท้า โดยคุณอาจใช้ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดจาน หรือผ้าเช็ดมือผืนเก่าสำหรับเช็ดในขั้นตอนนี้ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ. หลังใช้ผ้าแห้งเช็ดคราบน้ำมันหรือรอยเปื้อนแล้ว ให้คุณจุ่มผ้าลงไปในน้ำอุ่นให้พอหมดและนำไปเช็ดเบาๆ ให้ทั่วพื้นผิวรองเท้า พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้หนังของรองเท้าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำมากเกินไปเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายต่อรองเท้าของคุณ
-
ผึ่งลมให้แห้ง. หลังจากทำความสะอาดรองเท้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องรอสักพักเพื่อให้รองเท้าแห้งสนิทก่อนนำกลับไปสวมใส่อีกครั้ง โดยผึ่งลมทิ้งไว้นานอย่างน้อย 30 นาทีตรงบริเวณที่ห่างจากแสงแดด ความร้อน หรือช่องระบายอากาศ
-
บำรุงรักษาหนัง. ใช้ผ้าเนื้อนุ่มทาน้ำยาเคลือบเงาหนังให้ทั่วพื้นผิวรองเท้า จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาทีแล้วจึงนั้นขัดด้วยผ้าเพื่อให้หนังขึ้นเงา วิธีนี้จะช่วยปกป้องและยืดอายุการใช้งานของรองเท้าหนังของคุณโฆษณา
-
กำจัดเศษฝุ่นด้วยแปรงขนนุ่มสำหรับทำความสะอาดหนังกลับโดยเฉพาะ. ขัดเบาๆ ให้ทั่วพื้นผิวรองเท้าเพื่อกำจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามจุดต่างๆ ของรองเท้า อย่าออกแรงกดมากจนเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขูดขีดบนพื้นผิวรองเท้าจนเกิดความเสียหายได้
- พยายามขัดไปในทิศทางเดียวกันเพื่อป้องกันไม่ให้หนังกลับกลายเป็นสองสีแตกต่างกันจากการขัดไปคนละทิศทาง
- ห้ามใช้แปรงลวดกับรองเท้าเท้ากลับโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำให้รองเท้าของคุณได้รับความเสียหายได้
-
ใช้ยางลบถูรอยเปื้อนหรือสิ่งสกปรกออก. หากรองเท้าของคุณมีรอยเปื้อนตามจุดต่างๆ คุณสามารถขจัดรอยเปื้อนเหล่านี้ออกได้อย่างง่ายดายด้วยยางลบก้อนหนึ่ง โดยใช้ยางลบถูเบาๆ จนกระทั่งรอยเปื้อนหรือสิ่งสกปรกหลุดออกไป
- ในกรณีส่วนใหญ่ เพียงใช้แปรงขัดเพื่อกำจัดเศษฝุ่นและถูรอยเปื้อนออกด้วยยางลบก็เพียงพอสำหรับการทำความสะอาดรองเท้าหนังกลับของคุณ
-
บำรุงรักษาด้วยสเปรย์ซิลิโคน. สเปรย์ซิลิโคนจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยเปื้อนใหม่ๆ หรือการเปียกน้ำจนเกิดความเสียหายต่อรองเท้าหนังกลับของคุณ ดังนั้นหลังจากกำจัดเศษฝุ่น สิ่งสกปรก และรอยเปื้อนออกจนสะอาดหมดจดแล้ว ให้คุณใช้สเปรย์ซิลิโคนฉีดลงไปให้ทั่วพื้นผิวรองเท้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องและยืดอายุการใช้งานของรองเท้าให้นานยิ่งขึ้นโฆษณา
-
กำจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกด้วยแปรงสีฟันเก่าหรือแปรงขนนุ่ม. เริ่มต้นทำความสะอาดรองเท้าไวนิลด้วยการกำจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามพื้นผิวและพื้นรองเท้า โดยใช้แปรงขัดเบาๆ เพื่อให้เศษฝุ่นและสิ่งสกปรกหลุดออกมาให้หมดจดก่อนเริ่มทำความสะอาดในขั้นตอนต่อไป
-
ขจัดรอยครูดบางๆ ด้วยยางลบ. อุปกรณ์ที่หาได้ง่ายๆ จากในบ้านอย่างยางลบสามารถช่วยในการขจัดรอยครูดหรือรอยเปื้อนบนรองเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงใช้ยางลบงานศิลปะหรือยางลบดินสอทั่วไปถูเบาๆ ตรงบริเวณที่มีรอยครูดหรือรอยเปื้อนโดยระมัดระวังอย่าออกแรงกดมากจนเกินไป
-
เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ. ใช้ผ้าเนื้อนุ่ม เช่น ผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดมือ จุ่มลงไปในน้ำอุ่นให้พอหมาด โดยคุณอาจหยดน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนเพิ่มเติมลงไปบนผ้าเล็กน้อย จากนั้นนำไปเช็ดทำความสะอาดเบาๆ ให้ทั่วพื้นผิวรองเท้า และอย่าลืมเช็ดคราบสบู่ที่เหลือตกค้างอยู่ออกให้หมดจดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ อีกครั้งก่อนนำไปผึ่งลมให้แห้ง
-
ผึ่งลมให้แห้ง. หลังจากทำความสะอาดรองเท้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คุณนำรองเท้าไปผึ่งลมให้แห้งสนิทก่อนนำกลับไปสวมใส่อีกครั้ง โดยตากไว้ตรงบริเวณที่ห่างจากแสงแดด ความร้อน และช่องระบายอากาศเพื่อผึ่งลมให้แห้งนานอย่างน้อย 30 นาทีโฆษณา
-
ทำความสะอาดรองเท้าหนังสีขาวด้วยผ้าชุบน้ำและน้ำยาทำความสะอาดรองเท้า. หมั่นใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดให้ทั่วพื้นผิวรองเท้าทุกๆ 2-3 วัน และหากมีรอยเปื้อนตามจุดต่างๆ บนรองเท้า ให้คุณแต้มน้ำยาทำความสะอาดสำหรับรองเท้าสีขาวโดยเฉพาะหรือยาสีฟันสูตรฟันขาวลงไปตรงบริเวณที่มีรอยเปื้อนและถูเบาๆ ด้วยผ้าชุบน้ำ เสร็จแล้วจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดออกให้สะอาด [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบสีขาวด้วยน้ำยาซักผ้า. ทำการทดสอบด้วยการแต้มน้ำยาซักผ้าลงไปตรงจุดที่ไม่เป็นที่สังเกตของรองเท้าดูก่อน และหากน้ำยาไม่ส่งผลใดๆ ต่อวัสดุหรือสีของรองเท้าจึงเริ่มป้ายลงไปให้ทั่วพื้นผิวรองเท้าและขัดเบาๆ ด้วยแปรงขัดรองเท้า จากนั้นล้างออกให้สะอาดและจุ่มลงไปในน้ำผสมน้ำยาฟอกขาวก่อนนำไปผึ่งลมให้แห้ง [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำความสะอาดรองเท้าผ้าตาข่ายสีขาวในเครื่องซักผ้า. หลังใช้แปรงสีฟันกำจัดเศษฝุ่นออกไปแล้ว ให้คุณนำรองเท้าเข้าไปซักในเครื่องซักผ้าโดยเติมน้ำยาซักผ้าลงไปและตั้งอุณหภูมิของน้ำให้เป็นน้ำร้อน อย่าลืมถอดเชือกผูกรองเท้าออกให้เรียบร้อยก่อนนำไปซักและหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาฟอกขาวที่อาจทำให้เส้นใยสังเคราะห์เปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ถอดพื้นในรองเท้าออกมา. เพื่อให้คุณสามารถทำความสะอาดพื้นในรองเท้าที่สกปรกและมีกลิ่นเหม็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจะต้องถอดพื้นในรองเท้าออกมาให้เรียบร้อยเสียก่อน เริ่มจากใช้มือจับที่ด้านหลังของพื้นในรองเท้าตรงบริเวณใกล้กับส้นเท้าแล้วค่อยๆ ดึงออกมาให้หลุดออกจากรองเท้า
-
กำจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกออกด้วยแปรงสีฟันเก่าหรือแปรงขนนุ่ม. ใช้แปรงขัดเบาๆ บนพื้นในรองเท้าจนกระทั่งสิ่งสกปรกที่มองเห็นหลุดออกจนหมด อย่าออกแรงขัดมากจนเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้พื้นในรองเท้าลอกออกจนเป็นขุย
-
เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำและน้ำยาซักผ้า. นำผ้าลงไปชุบในน้ำอุ่นให้เปียกและเทน้ำยาซักผ้าลงไปบนผ้าเล็กน้อย จากนั้นขัดให้ทั่วพื้นในรองเท้าและล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นก่อนนำไปผึ่งลมให้แห้ง
-
ผึ่งลมให้แห้งก่อนใส่กลับเข้าไปในรองเท้าดังเดิม. หลังจากทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คุณนำพื้นในรองเท้าไปตากไว้ตรงบริเวณที่ห่างจากแสงแดด ความร้อน หรือช่องระบายอากาศเพื่อผึ่งลมให้แห้งสนิทก่อนใส่กลับเข้าไปในรองเท้าดังเดิมโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://cleanmyspace.com/clean-your-canvas-shoes-toms-keds/
- ↑ http://cleanmyspace.com/clean-your-canvas-shoes-toms-keds/
- ↑ http://cleanmyspace.com/clean-your-canvas-shoes-toms-keds/
- ↑ http://cleanmyspace.com/clean-your-canvas-shoes-toms-keds/
- ↑ http://cleanmyspace.com/clean-your-canvas-shoes-toms-keds/
- ↑ https://www.cleanipedia.com/in/materials-surfaces/how-to-clean-leather
- ↑ https://www.cleanipedia.com/in/materials-surfaces/how-to-clean-leather
- ↑ http://www.mensjournal.com/style/shoes/how-to-clean-white-shoes-20140528
- ↑ http://www.mensjournal.com/style/shoes/how-to-clean-white-shoes-20140528
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,764 ครั้ง
โฆษณา