ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความนี้ของวิกิฮาวจะสอนคุณหลากหลายวิธีในการทำความสะอาดรูจมูก

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ใช้ยาล้างจมูก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ซื้อยาล้างจมูกที่มีน้ำเกลือหรือทำน้ำเกลือเอง. ยาล้างจมูกนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีในการบรรเทาอาการที่จมูกหากคุณมีปัญหาที่จมูกเรื้อรังหรือปัญหาไซนัส การล้างด้านในจมูกด้วยน้ำเกลือจะช่วยลดอาการบวม ทำให้หายใจสะดวก และเปิดทางเดินไซนัส มันจะช่วยขจัดมูกที่จมูกและช่วยบรรเทาอาการแน่นหรือคัดจมูก ให้มองหายาล้างจมูกที่ร้านขายยาใกล้บ้านหรือทำน้ำเกลือเองโดยใช้ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน [1]
    • ในการทำน้ำเกลือเอง ให้ผสมน้ำกลั่น 1 ลิตร เกลือโคเชอร์ 1 ช้อนชา และเบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชาลงในขวดแก้วที่สะอาด คนสารละลายและเก็บไว้ที่ที่มีอุณภูมิห้อง เปลี่ยนน้ำเกลือหลังจากผ่านไป 1 อาทิตย์ด้วยน้ำ เกลือ และเบกกิ้งโซดา
    • อย่าใช้น้ำก๊อก หากคุณไม่มีน้ำกลั่นคุณสามารถนำน้ำก๊อกไปฆ่าเชื้อโดยการต้มให้เดือดเป็นเวลาอย่างน้อย 1 นาที จากนั้น ปล่อยให้เย็นจนน้ำมีอุณหภูมิห้อง นี่จะช่วยขจัดสารปนเปื้อนที่อาจเป็นอันตราย [2]
  2. ในการล้างจมูกของคุณอย่างได้ผลด้วยน้ำเกลือ คุณจำเป็นต้องใช้ลูกสูบยางหรือหม้อล้างจมูก ซึ่งมันจะคล้ายๆ หม้อชาที่มีตรงปลายที่ออกแบบมาสำหรับเทที่จมูกของคุณ [3] คุณสามารถหาซื้อลูกสูบยางและหม้อล้างจมูกได้ที่ร้านขายยาใกล้บ้าน
    • ล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะล้างจมูกเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อของแบคทีเรียและเชื้อโรค จากนั้นให้เติมลูกสูบยางหรือหม้อล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
  3. ยืนให้อยู่เหนืออ่างล้างมือหรืออ่างอาบน้ำ เมื่อคุณใช้ยาล้างจมูก คุณจำเป็นต้องยืนเหนือบริเวณที่สามารถกักน้ำหรือน้ำมูกที่อาจจะหยดออกมาจากจมูกหรือจากลูกสูบยาง [4]
    • สอดปลายของลูกสูบยางไปที่จมูกซ้ายและค่อยๆ บีบน้ำเกลือไปที่รูจมูกซ้าย พยายามพ่นไปที่ด้านล่างของศีรษะไม่ใช่ด้านบนของศีรษะ อย่าหายใจผ่านทางจมูกขณะที่คุณบีบสารละลาย ลูกสูบยางนั้นควรจะปล่อยสารละลายไปในจมูกโดยที่ไม่มีการหายใจเข้าเลย
    • หากคุณใช้หม้อล้างจมูก ให้สอดบริเวณปลายไปที่จมูกซ้ายและยกหม้อขึ้นเพื่อที่จะได้เทสารละลายเข้าไปในจมูก หากสารละลายไม่ไหลออกมาจากหม้อล้างจมูก ให้ยกหม้อขึ้นจนมันอยู่สูงกว่าศีรษะคุณนิดหน่อยแต่อย่าเอียงศีรษะไปทางไหล่ พยายามให้หน้าผากเงยอยู่เหนือคาง [5]
  4. นี่จะทำให้สารละลายส่วนเกินไหลออกจาจมูกลงไปที่อ่างล้างมือหรืออ่างน้ำ คุณอาจจะถือผ้าไว้เช็ดใต้คางเพื่อช่วยซับสารละลายส่วนเกิน อย่ากลืนสารละลายหากมันเข้าปาก ให้บ้วนมันออกมาที่อ่างล้างมือหรืออ่างน้ำ [6]
    • หลังจากที่คุณทำความสะอาดรูจมูกซ้าย คุณก็ควรจะหมุนศีรษะของคุณเพื่อที่คุณจะได้หันหน้ามาที่อ่างล้างมือหรืออ่างน้ำและหายใจออกแรงๆ ทั้งผ่านทั้งสองรูจมูก นี่จะช่วยขจัดมูกหรือน้ำที่มากไป คุณอาจจะใช้ทิชชู่เช็ดมูกหรือน้ำที่ออกมา อย่างไรก็ตาม อย่ากดที่รูจมูกข้างหนึ่งขณะที่สั่งน้ำมูกผ่านรูจมูกหนึ่ง นี่จะเป็นการเพิ่มแรงกดที่ช่องหูด้านใน
    • ให้ทำวิธีเดียวกันกับรูจมูกด้านขวาโดยใช้ลูกสูบยางหรือหม้อล้างจมูกและน้ำเกลือ
  5. ให้ล้างเปลี่ยนข้างรูจมูกหลายๆ ครั้งจนกระทั่งน้ำเกลือหมด มันอาจจะรู้สึกแสบเล็กน้อยที่จมูกเมื่อคุณใช้ยาล้างจมูกเป็นครั้งแรกหลายๆ ครั้ง นี่เป็นปฏิกิริยาปกติต่อเกลือที่อยู่ในสารละลายและจะรู้สึกเบาไปเองหากใช้น้ำยาล้างจมูกซ้ำๆ [7]
    • หากสารละลายนั้นทำให้จมูกของคุณระคายเคืองไปเรื่อยๆ มันอาจจะมีเกลือไม่มากพอหรือมีเกลือมากเกินไป ให้ชิมน้ำเกลือเพื่อระบุว่าหากมันมีเกลือเยอะเกินไปหรือเค็มเกินไป (คุณชิมเกลือไปเยอะเกินไป) หรือไม่เค็มพอ (คุณไม่ค่อยจะชิมเกลือได้เลย) ให้ปรับน้ำเกลือจนคุณสามารถรับรู้รสชาติของเกลือแต่ไม่ได้มีรสชาติเข้มข้นเกินไป [8]
    • หากคุณมีอาการปวดหัวหลังจากที่ใช้ยาล้างจมูก หน้าผากของคุณอาจจะอยู่ต่ำกว่าคางซึ่งก้ทำให้น้ำไหลไปที่ไซนัสด้านหน้า เมื่อผ่านไปสักพัก น้ำก็จะไหลออกไปเอง
  6. ใช้ยาล้างจมูกแค่ 1 ครั้งต่อวันในตอนเช้าหรือในตอนกลางคืน หากอาการของคุณนั้นรุนแรงกว่าเดิมหรือคุณมีการติดเชื้อที่รุนแรง ให้เพิ่มปริมาณเป็น 2 ครั้งต่อวัน [9]
    • มันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กๆ ในการใช้ยาล้างจมูก ให้ช่วยเหลือเด็กๆ เมื่อพวกเขาใช้ยาล้างจมูกและขอให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้นอนราบเมื่อใช้ยาล้างจมูก ยาล้างจมูกนั้นได้ผลมากกว่าเมื่อทำขณะที่นั่งหรือยืน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ใช้สเปรย์จมูก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาสเปรย์จมูกที่ซื้อได้ตามร้านขายยาใกล้บ้าน. หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับอาการคัดจมูก คันที่จมูก หรือน้ำมูกไหลเพราะว่าไข้ฟางหรืออาการแพ้ ละอองเกสรดอกไม้ เชื้อรา ฝุ่น หรือสัตว์เลี้ยง การใช้สเปรย์จมูกนั้นสามารถช่วยคุณบรรเทาอาการได้ คุณไม่ควรใช้สเปรย์จมูกเพื่อรักษาอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ เพราะมันจะช่วยบรรเทาแค่ชั่วคราวเท่านั้น ให้ไปพบแพทย์และถามเกี่ยวกับการใช้ยาอื่นๆ ที่ได้ผลกว่าหากคุณมีปัญหาที่จมูกที่เกิดจากไข้หวัดใหญ่หรือไข้หวัด [10]
    • สเปรย์จมูกประเภทที่พบได้ทั่วไปที่สุดก็คือสเปรย์พ่นจมูกฟลูติคาโซน ซึ่งเป็นยาในกลุ่มที่มีชื่อว่าคอร์ติโคสเตียรอยด์ คอร์ติโคสเตียรอยด์จะช่วยทำให้ปัญหาเกี่ยวกับจมูกของคุณดีขึ้นโดยจะช่วยป้องกันการปล่อยสารธรรมชาติที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ มันควรใช้แค่กับอาการแพ้เรื้อรังเท่านั้น
    • คุณอาจจะใช้เป็นสเปรย์จมูกที่มีไซลิทอล น้ำบริสุทธิ์ เกลือ และสารสกัดจากเมล็ดเกรปฟรุต สเปรย์จมูกประเภทนี้จะไม่มีผลข้างเคียงและไม่มีส่วนผสมของยา มันปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ทุกอายุ [11]
  2. ใช้ตามปริมาณการใช้ที่แนะนำที่ระบุบนฉลากของสเปรย์จมูก. สำหรับผู้ใหญ่ที่จะใช้สเปรย์จมูก ให้เริ่มจากปริมาณการใช้ที่มากและค่อยๆ ลดการใช้ลงเมื่ออาการดีขึ้น ปกติแล้วการสเปรย์ 1 ครั้งต่อรูจมูก 1 ข้างใน 1 วัน หรือจะสเปรย์ 1 ครั้งในรูจมูก 1 ข้าง 2 ครั้งต่อวัน (ครั้งหนึ่งในตอนเช้าและอีกครั้งในตอนกลางคืน) หากแพทย์แนะนำปริมาณการใช้ที่สูงขึ้นสำหรับอาการของคุณ หากคุณจะใช้สเปรย์จมูกให้เด็กๆ ให้เริ่มจากการใช้น้อยๆ จากนั้นค่อนใช้เพิ่มขึ้นหากอาการของเด็กๆ ไม่ดีขึ้น [12]
    • ให้ทำตามปริมาณการใช้ที่อยู่บนฉลากของสเปรย์เสมอและถามเภสัชกรให้อธิบายการใช้งานใดๆ ก้ตามที่คุณไม่เข้าใจ อย่าใช้การคาดเดาแทนการปริมาณที่เฉพาะที่อยู่บนผลิตภัณฑ์หรือที่เภสัชกรแนะนำ หากคุณลืมใช้ อย่าเพิ่มปริมาณเป็นสองเท่า ให้รอวันต่อไปแทนและใช้ปริมาณที่แนะนำต่อวันเหมือนเดิม
    • เด็กๆ ที่มีอายุน้อยกว่า 4 ขวบไม่ควรใช้สเปรย์จมูก เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 12 ขวบควรได้รบความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ขณะที่ใช้สเปรย์จมูก
    • ใช้สเปรย์จมูกแค่กับจมูกเท่านั้น อย่าสเปรย์ไปที่ตาหรือปาก นอกจากนี้ คุณไม่ควรใช้สเปรย์จมูกร่วมกับคนอื่นๆ เพราะมันจะเป็นการแพร่เชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคได้
  3. เขย่าสเปรย์จมูกก่อนการใช้แต่ละครั้ง จากนั้นให้เช็ดเอาฝุ่นที่อยู่บนสเปรย์ออก หากคุณใช้สเปรย์เป็นครั้งแรก คุณจำเป็นต้องเตรียมหัวปั้มเพื่อที่คุณจะได้ใช้มันได้ properly. [13] [14]
    • จับที่หัวปั้มให้นิ้วชี้และนิ้วกลางจับที่ตัวพ่นและหัวนิ้วโป้งอยู่ที่ก้นขวด ให้ที่ฉีดอยู่ตรงๆ เพื่อที่มันจะได้หันมาหาใบหน้าของคุณ
    • กดลงและปล่อยหัวปั้ม 6 ครั้ง หากคุณใช้หัวปั้มมาก่อนหน้านี้แต่ไม่ใช่ภายในอาทิตย์ที่แล้ว ให้กดลงและปล่อยจนกว่ามันจะสเปรย์เป็นละอองละเอียด
  4. สั่งน้ำมูกจนกระทั้งรู้สึกว่ารูจมูกโล่ง.หากคุณแน่นจมูกมากๆ มันก็อาจจะยากที่จะทำ ให้พยายามให้ดีที่สุดในการสั่งน้ำมูกก่อนที่จะใช้สเปรย์เพราะนี่จะทำให้แน่ใจว่าสเปรย์เข้าไปในจมูกของคุณอย่างเหมาะสม [15]
  5. เอียงศีรษะไปด้านหน้าและให้ปลายของเสปรย์เข้าไปอยู่ที่รูจมูกข้างหนึ่ง จับกระป๋องสเปรย์ให้ตรงและฉีดเสปรย์เข้าไปให้ถูกต้อง คุณยังคงจะต้องถือตัวพ่นให้อยู่ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง [16]
    • หายใจเข้าทางจมูก ขณะที่คุณหายใจเข้า ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางกดที่หัวฉีดและปล่อยสเปรย์เข้าไปในจมูก
    • เมื่อคุณปล่อยสเปรย์แล้ว ให้หายใจเข้าทางปาก
    • หากแพทย์แนะนำให้คุณใช้เสปรย์ 2 ครั้งต่อรูจมูก 1 ข้าง ให้ทำซ้ำขั้นตอนนี้อีกครั้งที่รูจมูกข้างเดิม หากคุณใช้แค่สเปรย์ครั้งเดียวต่อรูจมูกแต่ละข้างเท่านั้น ให้ทำซ้ำขั้นตอนนี้ในรูจมูกอีกข้าง
  6. เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรักษาหัวฉีดให้สะอาดเพื่อที่จะได้ไม่แพร่เชื้อโรคและแบคทีเรียไปในจมูกเมื่อคุณใช้สเปรย์ คุณควรปิดสเปรย์จมูกด้วยหัวครอบกันฝุ่นเพื่อป้องกันอนุภาคเล็กๆ เข้ามาในสเปรย์ [17]
    • เก็บสเปรย์จมูกไว้ที่ที่ที่แห้งที่มีอุณหภูมิห้อง ไม่ใช่ในห้องน้ำที่อากาศชื้นและเปียก หากหัวฉีดอุดตัน คุณอาจจะนำมันไปแช่ในน้ำอุ่นและล้างออกด้วยน้ำเย็น ตากให้แห้งและนำไปเก็บอย่างเหมาะสม อย่าใช้เข็มหรือสิ่งที่แหลมคมขจัดสิ่งที่อุดตันออกเพราะอาจจะทำให้สเปรย์ปนเปื้อนได้
  7. ระวังผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ของการใช้สเปรย์จมูก. ให้ตรวจสอบที่ฉลากของสเปรย์เสมอเพื่อดูรายชื่อส่วนผสม หากคุณคิดว่าคุณแพ้ฟลูติคาโซนหรือส่วนผสมอื่นๆ ในสเปรย์ ให้พูดคุยกับแพทย์หรือเภสัชกร หากคุณใช้ยาต้านเชื้อราหรือยาสเตียรอยด์ คุณควรบอกแพทย์หรือเภสัชกร คุณจำเป็นต้องปรับปริมาณการใช้ยาหรือตรวจดูอาการข้างเคียงของการใช้สเปรย์ หากคุณพบอาการข้างเคียงต่อไปนี้ คุณควรหยุดการใช้สเปรย์จมูกและไปพบแพทย์ทันที [18]
    • ปวดหัว มึนงง คลื่นเหียน ท้องเสีย หรืออาเจียน
    • จมูกแห้ง รู้สึกเจ็บเหมือนเข็มทิ่ม แสบร้อนหรือระคายเคืองที่จมูก
    • มีน้ำมูกที่มีเลือดปน มีเลือดกำเดาไหล หรือมีน้ำมูกหนา
    • มีปัญหาเรื่องการมองเห็น ปวดที่ใบหน้าอย่างรุนแรง
    • เป็นไข้ หนาวสั่น ไอ เจ็บคอ หรืออาการอื่นๆ ของการติดเชื้อ
    • เกิดลมพิษ ผื่น คันอย่างรุนแรง
    • มีเสียงลมเบาๆ จากจมูก
    • มีอาการบวมที่ใบหน้า คอ ริมฝีปาก ตา ลิ้น มือ ขา ข้อเท้า และขาช่วงล่าง
    • เสียงแหบ หายใจมีเสียงหวีด หายใจหรือกลืนลำบาก
    • หากคุณเคยผ่าตัดที่จมูกเมื่อเดือนก่อนหรือบาดเจ็บที่จมูก คุณควรไปพบแพทย์ก่อนใช้สเปรย์จมูก นอกจากนี้หากคุณเจ็บที่จมูกหรือมีปัญหาที่ดวงตา คุณควรไปพูดคุยกับแพทย์ก่อนใช้ยาใดๆ ที่จมูก
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,205 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา