PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

คุณทำความสะอาดลำโพงของ iPhone ได้หลักๆ 3 วิธีด้วยกัน วิธีแรกคือปัดฝุ่นด้วยแปรงสีฟันขนนุ่ม วิธีที่ 2 คือใช้สเปรย์ลม (อากาศอัดกระป๋อง) ฉีดพ่นกำจัดฝุ่นผงออกจากซอกมุมของลำโพง สุดท้ายคือใช้เทปกาวกำจัดคราบเหนียวข้างในหรือรอบๆ ลำโพง ถ้ามีปัญหาเสียงไม่ออก นอกจากทำความสะอาดลำโพงแล้ว ให้ลองทำความสะอาดรูเสียบหูฟังด้วย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ลองทำความสะอาดเบื้องต้น

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม แปรงเบาๆ ที่รูของลำโพง แค่แปรงเบาๆ แบบนี้ ก็น่าจะกำจัดคราบและสิ่งสกปรกจากลำโพงได้แล้ว [1]
    • ถ้าหากลำโพงสกปรกมาก เหยาะแอลกอฮอล์ลงบนคอตตอนบัด แล้วใช้มันแทนแปรงสีฟัน
    • หรือเอาแปรงสีฟันไปจุ่มแอลกอฮอล์แค่ปลายๆ ขนแปรง จะช่วยให้ทำความสะอาดได้หมดจดยิ่งขึ้น ระวังอย่าจุ่มแอลกอฮอล์ทั้งแปรงล่ะ [2]
  2. painter’s tape ก็คือเทปกาวสีฟ้าที่ช่างเขาใช้กันเวลาทาสีกำแพง เทปชนิดนี้มีกาวที่ไวต่อแรงดัน (pressure-sensitive adhesive) เลยทำให้เหมาะจะใช้ทำความสะอาดลำโพงของ iPhone [3]
    • ให้ฉีกเทปมาชิ้นเล็กๆ แล้วม้วนเป็นแท่งโดยหันด้านกาวออก ต้องม้วนให้ได้เส้นผ่านศูนย์กลางพอๆ กับความกว้างของนิ้วชี้
    • สอดนิ้วชี้เข้าไปในเทป แล้วเอาไปกดที่ลำโพงของ iPhone
    • คราบเหนียวและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ตรงลำโพง ก็จะติดเทปกาวขึ้นมา
    • แต่ละครั้งที่แปะลงไป ให้เช็คด้วยว่ามีอะไรติดเทปขึ้นมาบ้าง ถ้ามีฝุ่นผงกับคราบเหนียวติดขึ้นมา ก็ให้ทิ้งเทปเก่า ม้วนเทปใหม่ใส่นิ้วตามเดิม แล้วทำความสะอาดซ้ำ
  3. ใช้อากาศอัดกระป๋องฉีดพ่นกำจัดฝุ่นผ้าและเศษผงจากลำโพง compressed air ก็คือสเปรย์ลม หรืออากาศอัดกระป๋องนั่นเอง ปกติใช้ฉีดพ่นทำความสะอาดคอมและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ขั้นแรกคือให้วางมือถือราบไปกับโต๊ะ คว่ำหน้าจอลง [4]
    • อ่านคำแนะนำการใช้งานที่ฉลากซะก่อน เพราะถ้าใช้ผิดวิธีจะเป็นอันตรายได้
    • เล็งหัวฉีดของสเปรย์ลมที่ลำโพง ตามทิศทางที่แนะนำในฉลากข้างกระป๋อง
    • กดฉีดสเปรย์ครู่สั้นๆ แล้วปล่อยมือ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ทำความสะอาดรูเสียบหูฟัง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้ามีเสียงในหูฟังหลังรีเซ็ตมือถือแล้ว เป็นไปได้ว่าอาจจะมีฝุ่นผงในรูเสียบหูฟัง เลยทำให้ส่งสัญญาณหลอกไปที่มือถือ ว่ามีหูฟังเสียบอยู่ ทำให้เสียงไม่ออกมาทางลำโพงของเครื่อง แบบนี้ให้ถอดหูฟังจาก iPhone แล้วทำความสะอาดรูเสียบหูฟัง [5]
  2. แกะสำลีออกจากปลายคอตตอนบัดข้างหนึ่ง โดยดึงออกด้วยนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ เสร็จแล้วก็ทิ้งสำลีนั้นไปเลย จากนั้นเอานิ้วบีบปลายเดิม ที่ตอนนี้เหลือสำลีเล็กน้อย แล้วบี้คอตตอนบัดหมุนไปมา ให้เศษสำลีพันรอบไม้แน่นๆ เดี๋ยวเราจะเอาปลายไม้ฝั่งนี้จิ้มเข้าไปทำความสะอาดในรูเสียบหูฟัง ค่อยๆ สอดปลายแคบๆ ของคอตตอนบัดด้านนี้เข้าไปในรูเสียบหูฟัง หมุนทำความสะอาดไปมา 2 - 3 ครั้ง แล้วดึงออกมา
    • ทดสอบว่าลำโพงใช้ได้หรือยังหลังทำความสะอาด [6]
    • ใช้คอตตอนบัดเช็ดทำความสะอาดในรูเสียบหูฟังนี่แหละ เป็นวิธีกำจัดฝุ่นที่ง่ายที่สุดแล้ว
    • ห้ามเอาปลายคอตตอนบัดข้างนั้นไปชุบน้ำหรือแอลกอฮอล์เด็ดขาด หมาดๆ ก็ไม่ได้ เพราะถึงขั้นทำให้ iPhone เจ๊งได้เลย
  3. วางมือถือบนพื้นราบ ลักษณะการวางแบบนี้ จะช่วยให้รูเสียบหูฟังหันมาทางคุณ ก็เล็งหัวฉีดของสเปรย์ลมที่รูเสียบหูฟังได้เลย ส่วนจะห่างแค่ไหน ฉีดทำมุมยังไง ต้องอ่านคำแนะนำที่ฉลากข้างกระป๋องให้ดีๆ เวลาฉีดพ่นให้กดค้างไว้ช่วงสั้นๆ แล้วปล่อยมือ [7]
    • canned oxygen คืออากาศอัดกระป๋องหรือสเปรย์ลม เป็นอุปกรณ์ที่คนนิยมใช้เวลาทำความสะอาดชิ้นส่วนต่างๆ ของคอม หาซื้อได้ตามร้านคอมและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป
    • ถ้าวิธีนี้แก้ปัญหาเรื่องรูเสียบหูฟัง iPhone ไม่ได้ ให้ส่องดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมไปอุดตันอยู่ข้างในหรือเปล่า ซึ่งถ้ามีก็ต้องค่อยๆ เอาออกอย่างระวัง โดยเขี่ยด้วยอุปกรณ์เรียวยาว อย่างคลีบหนีบกระดาษหรือหลอด
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ลองแก้ปัญหาการใช้งานลำโพงด้วยวิธีอื่นๆ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เข้าเมนู Settings แล้วเลือก Sounds จากนั้นลากแถบเลื่อน Ringer And Alerts เพื่อเพิ่ม volume ถ้าเสียงยังไม่ออก ให้ลองติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Apple ดู [8]
    • ถ้าปรับแถบเลื่อน Ringer And Alerts แล้วเสียงออกทางลำโพง ให้เช็คสวิตช์ Ring/Silent ที่ด้านข้างของเครื่อง ถ้าสวิตช์อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นจุดเล็กๆ สีส้ม แสดงว่าเครื่องอยู่ในโหมด silent (ไม่มีเสียง) ให้เลื่อนสวิตช์ไปทิศทางตรงกันข้าม เท่านี้ก็เปิดเสียงเรียกเข้ากลับมา
  2. ถ้าทดสอบ settings ของลำโพง แล้วไม่ได้ช่วยเรื่องการทำงานของลำโพง ให้รีสตาร์ท iPhone ด้วยปุ่มที่กำหนด เพื่อปิดเครื่อง iPhone แล้วเปิดขึ้นมาใหม่ ปกติคุณรีสตาร์ท iPhone ได้โดยกดปุ่ม sleep และปุ่ม home ค้างไว้ จนโลโก้ Apple โผล่มา [9]
    • หลังรีสตาร์ทแล้ว ลองทดสอบเสียงดู
  3. ถ้า iPhone มีเคส เป็นไปได้ว่าเคสอาจจะไปอุดให้เสียงอู้อี้ หรือปิดลำโพงจนเสียงออกไม่ได้ แบบนี้ให้ลองถอดเคสมือถือออกก่อน แล้วลองเปิดเพลงหรือกดเสียงอะไรดู [10]
  4. บางทีที่เสียงขัดข้อง อาจเป็นเพราะไดรฟ์เวอร์หรือ firmware ไม่อัพเดท คุณอัพเดท iPhone ได้โดยเชื่อมต่อ Wi-Fi แล้วเข้าเมนู Settings คลิก General แล้วคลิก Software Update สุดท้ายคลิก Download และ Install [11]
    • ถ้าระหว่างอัพเดท เครื่องขอให้คุณลบบางแอพชั่วคราว ก็คลิก Continue ไป หลังจากนั้นแอพจะกลับมาอัตโนมัติ
    • อาจจะมีให้ใส่ passcode ด้วย ก็ใส่ไปตามที่ตั้งไว้
    • ก่อนอัพเดท อย่าลืม backup ข้อมูลในเครื่องไว้ก่อน โดยต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi คลิก Settings แล้วคลิก iCloud จากนั้นแตะ Backup แล้วเปิด iCloud Backup ถ้ายังไม่ได้เปิด สุดท้ายแตะ Back Up Now
    • ถ้าจะเช็คว่า backup เสร็จหรือยัง ให้ไปที่ Settings ต่อไปที่ iCloud และ Storage และ Manage Storage สุดท้ายเลือกมือถือตัวเอง จะเห็นไฟล์ backup ที่แสดงเวลาที่สร้างไฟล์ และขนาดของไฟล์ [12]
  5. ไปที่ Apple store แล้วปรึกษาพนักงานผู้เชี่ยวชาญของ Apple ถ้า Apple store ไกลบ้านไปหน่อย ลองเข้าเว็บช่วยเหลือของ Apple ดู โดยพิมพ์ https://support.apple.com/th-th/contact ขั้นแรกให้คลิก “Set up a repair” จากนั้นคลิก “iPhone” [13]
    • ต่อมาเลือก “Repairs and Physical Damage” แล้วคลิกเลือก “Unable to hear through receiver or speakers”
    • ในหน้าจอถัดมา ให้คลิก “Built-in speaker”
    • ถึงตอนนี้ จะเห็นหลากหลายตัวเลือก เช่น chat, schedule a call และ send in for repair ให้เลือกอะไรที่ตรงสถานการณ์ที่สุด
  6. ถ้าทาง Apple ช่วยคุณไม่ได้ อาจจะแนะนำทางเลือกที่โหดร้ายหน่อยแต่เห็นผล คือรีเซ็ตเครื่องใหม่เลย การรีเซ็ต iPhone จะทำให้เสีย contacts, calendars, รูปถ่าย และข้อมูลอื่นๆ ที่เซฟไว้ แต่ SMS, ประวัติการโทร (call history), notes, sound settings และบางตัวเลือก custom จะยังอยู่ในระบบคลาวด์ [14]
    • ถ้าจะรีเซ็ต iPhone ให้เสียบมือถือกับคอม โดยใช้สายชาร์จที่มี แล้วเปิด iTunes ในคอม
    • ใส่ passcode หรือคลิก Trust This Computer ตอนที่ขึ้น
    • เลือกมือถือตอนโผล่มาใน iTunes ในกรอบ summary ให้คลิก Restore [เครื่องตัวเอง] คลิกอีกรอบเพื่อยืนยันตัวเลือก
    • ก่อนจะเริ่มขั้นตอนรีเซ็ต แนะนำให้ backup ข้อมูลก่อน ด้วยวิธีเดียวกับที่ทำตอนอัพเดท iOS
    โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • แปรงสีฟันขนนุ่ม
  • แอลกอฮอล์ล้างแผล
  • คอตตอนบัด
  • painter’s tape (เทปกาวสีฟ้าที่ช่างทาสีนิยมใช้)
  • compressed air (สเปรย์ลม)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 77,372 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา