ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

สะดือเป็นอวัยวะที่คุณอาจจะเผลอลืมไปได้ง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วมันก็ต้องการการดูแลไม่ต่างจากส่วนอื่นของร่างกาย โชคดีที่การทำความสะอาดสะดือไม่ต้องใช้อะไรเลยนอกจากสบู่กับน้ำนิดหน่อยเท่านั้น! แต่ถ้าทำความสะอาดเป็นประจำแล้วกลิ่นเหม็นที่สะดือก็ยังไม่หายไป ให้สังเกตสัญญาณของการติดเชื้อ เมื่อได้รับการรักษาทางการแพทย์ที่ถูกต้องแล้ว ที่มาของกลิ่นก็จะหายไปและสะดือของคุณก็จะหายเหม็นและกลับมาสะอาดอีกครั้ง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

กำหนดกิจวัตรการทำความสะอาดเป็นประจำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาที่เหมาะทำความสะอาดสะดือมากที่สุดก็คือระหว่างที่คุณอาบน้ำตามปกติ พยายามทำความสะอาดสะดือระหว่างอาบน้ำเป็นประจำทุกวัน [1]
    • คุณอาจจะต้องทำความสะอาดสะดือบ่อยกว่านั้นถ้าคุณเหงื่อออกมาก (เช่น หลังจากออกกำลังกายหรืออากาศร้อน)
  2. คุณไม่จำเป็นต้องสรรหาอุปกรณ์ในการทำความสะอาดสะดือมากมาย แค่น้ำอุ่นกับสบู่อ่อนก็เอาอยู่แล้ว! ทาสบู่และน้ำลงบนนิ้วมือหรือผ้าขัดตัวแล้วถูสะดือเบาๆ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก คราบ และขุยผ้า เสร็จแล้วใช้น้ำล้างสบู่ออกอย่างระมัดระวัง [2]
    • โดยทั่วไปสบู่หรือผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ทำความสะอาดร่างกายก็สามารถใช้ล้างสะดือได้ แต่ถ้าสบู่ที่มีกลิ่นหอมทำให้สะดือแห้งหรือระคายเคือง ก็เปลี่ยนไปใช้สบู่ที่ไม่มีกลิ่นและเจลอาบน้ำแทน
    • หรือคุณจะใช้น้ำเกลือค่อยๆ เช็ดทำความสะอาดสะดือก็ได้ ผสมเกลือบริโภค 1 ช้อนชา (ประมาณ 6 ก.) กับน้ำอุ่น 1 ถ้วย (240 มล.) และจุ่มผ้าขัดตัวในน้ำเกลือ ค่อยๆ นวดวนน้ำเกลือในสะดือ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด [5]
    • น้ำเกลือช่วยฆ่าเชื้อโรคและขจัดคราบสกปรกออกได้ง่ายขึ้น และคุณอาจจะรู้สึกว่ามันแห้งและระคายเคืองน้อยกว่าสบู่

    เคล็ดลับ: ถ้าคุณเจาะสะดือ คุณจะต้องรักษาความสะอาดมากเป็นพิเศษ ใช้สารละลายน้ำเกลืออุ่นๆ ทำความสะอาดบริเวณรอบๆ รูที่เจาะอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง หรือตามที่ช่างเจาะหรือแพทย์แนะนำ [3] รูเจาะที่สะดือใช้เวลานานกว่าจะหาย เพราะฉะนั้นคุณอาจจะต้องทำความสะอาดบ่อยๆ แบบนี้ไปอีกหลายเดือนหรือเป็นปี [4]

  3. ใช้ผ้าขัดตัวหรือสำลีพันก้านทำความสะอาดสะดือโบ๋อย่างหมดจด. สิ่งสกปรกและขุยผ้าอาจเข้าไปสะสมอยู่ลึกในสะดือ และก็อาจจะแคะออกมาได้ยาก! ถ้าสะดือของคุณโบ๋ คุณอาจจะต้องใช้ผ้าขัดตัวหรือสำลีพันก้านล้วงเข้าไปข้างในเพื่อทำความสะอาดให้หมดจด [6] เช็ดสบู่กับน้ำเข้าไปในสะดือและอย่าลืมล้างออกให้เกลี้ยง
    • อย่าถูแรงเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวหนังบอบบางข้างในและรอบๆ สะดือระคายเคืองได้
  4. คุณต้องเช็ดสะดือให้แห้งเพื่อไม่ให้แบคทีเรียหรือเชื้อราเจริญเติบโตมากเกินไป เมื่อคุณทำความสะอาดเสร็จแล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนูที่แห้งและสะอาดค่อยๆ เช็ดด้านในและรอบๆ สะดือให้แห้ง หรือถ้าคุณมีเวลาก็อาจจะผึ่งลมให้แห้งสักพักก่อนค่อยใส่เสื้อผ้า [7]
    • คุณสามารถป้องกันไม่ให้ความชื้นหมักหมมอยู่ในสะดือได้ด้วยการใส่เสื้อผ้าตัวหลวมที่เย็นสบายเมื่ออากาศร้อนหรือทกครั้งที่เหงื่อออก
  5. อย่าทาครีมหรือโลชั่นเข้าไปในสะดือยกเว้นว่าแพทย์จะเป็นคนแนะนำ เพราะจะทำให้ความชื้นหมักหมมอยู่ในสะดือ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อยีสต์ที่ไม่พึงประสงค์เป็นอย่างมาก [8]
    • ถ้าสะดือของคุณจุ่น คุณก็สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับสะดืออย่างปลอดภัยได้ด้วยการทาเบบี้ออยล์หรือโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นสูตรบางเบาเพียงเล็กน้อย [9] และหยุดใช้มอยซ์เจอไรเซอร์หากสะดือมีกลิ่นเหม็น คันและระคายเคือง หรือมีสัญญาณการติดเชื้ออื่นๆ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

จัดการกับกลิ่นสะดือที่ไม่หายไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สังเกตสัญญาณของการติดเชื้อถ้าทำความสะอาดเป็นประจำแล้วกลิ่นยังไม่หาย. สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้สะดือเหม็นก็คือสิ่งสกปรกและเหงื่อไคล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแค่ล้างด้วยสบู่กับน้ำเพียงเล็กน้อยกลิ่นเหม็นก็จะหายไปแล้ว แต่ถ้าไม่หาย คุณก็อาจจะติดเชื้อได้ สังเกตอาการ เช่น: [10]
    • ผิวแดงตกสะเก็ด
    • อาการกดเจ็บหรือบวมข้างในหรือรอบสะดือ
    • คัน
    • มีของเหลวสีเหลืองหรือสีเขียว หรือน้ำหนองไหลออกจากสะดือ
    • มีไข้หรือรู้สึกไม่สบายหรืออ่อนเพลียทั่วไป

    คำเตือน: การติดเชื้อมักเกิดจากการเจาะสะดือ ถ้าคุณเจาะสะดือ ให้สังเกตอาการติดเชื้อ เช่น เจ็บหรืออาการกดเจ็บที่มากขึ้น บวม แดง รู้สึกร้อนรอบๆ รูที่เจาะ หรือมีหนอง

  2. พบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยหากคุณมีอาการติดเชื้อ. ถ้าคุณคิดว่าคุณติดเชื้อ ให้ไปพบแพทย์ทันที แพทย์จะสามารถประเมินได้ว่าคุณติดเชื้อแบบไหนและบอกได้ว่าต้องรักษาอย่างไรจึงจะถูกต้อง [11]
    • การรักษาที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับว่าการติดเชื้อนั้นเกิดจากแบคทีเรีย เชื้อรา หรือว่าเชื้อยีสต์ อย่าพยายามเดาว่าเป็นการติดเชื้ออะไร เพราะการรักษาที่ไม่ถูกต้องอาจก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าผลดี
    • แพทย์อาจจะป้ายสะดือเพื่อนำตัวอย่างส่งตรวจ ซึ่งจะทำให้รู้ว่าสาเหตุของการติดเชื้อคืออะไร
  3. ใช้ยาทาเฉพาะที่รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อยีสต์. ถ้าคุณเกิดติดเชื้อที่สะดือขึ้นมาจริงๆ คุณก็อาจจะต้องใช้ขี้ผึ้งหรือผงยาปฏิชีวนะหรือต้านเชื้อราสักระยะ แพทย์อาจจะสั่งยาหรือบอกให้คุณไปซื้อยาทั่วไปที่ร้านขายยา การรักษาอาการติดเชื้อยังช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นหรือสารคัดหลั่งที่ไหลออกมาได้ด้วย! [12] นอกจากนี้ก็ปฏิบัติตามวิธีการดูแลตัวเองที่บ้านตามแพทย์สั่ง เช่น:
    • อย่าเกาหรือจิกสะดือที่ติดเชื้อ
    • เปลี่ยนและซักผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้าเป็นประจำเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
    • อย่าใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น
    • ใส่เสื้อผ้าตัวหลวมสบายๆ เพื่อให้สะดือเย็นและแห้ง
    • ใช้สารละลายน้ำเกลือล้างทำความสะอาดสะดือทุกวัน
  4. หากคุณมีซีสต์ที่สะดือ ขอให้แพทย์เจาะเพื่อระบายน้ำออกให้. บางครั้งคุณก็อาจจะมีซีสต์ขึ้นในสะดือ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวม ปวด และมีของเหลวที่มีกลิ่นเหม็นไหลออกมาได้ ถ้าคุณมีซีสต์ที่ติดเชื้อในสะดือ แพทย์ก็อาจจะเจาะซีสต์ในห้องตรวจ นอกจากนี้แพทย์ก็อาจจะสั่งยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานหรือทาเฉพาะที่เพื่อรักษาการติดเชื้อด้วย ปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลตัวเองที่บ้านเพื่อให้ซีสต์หายสนิท [13]
    • สอบถามแพทย์เกี่ยวกับวิธีการทำความสะอาดและดูแลซีสต์ที่บ้านอย่างละเอียด แพทย์อาจจะแนะนำให้คุณประคบอุ่นและแห้งเหนือบริเวณที่เป็นซีสต์วันละ 3-4 ครั้ง ถ้าแพทย์ปิดผ้าแปะแผลไว้ คุณก็ต้องเปลี่ยนอย่างน้อยวันละครั้งจนกว่าแพทย์จะบอกว่าเลิกปิดได้ [14]
    • ถ้าแพทย์ปิดผ้าก๊อซเอาไว้ หลังจากนั้น 2 วันคุณจะต้องกลับไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อเอาผ้าก๊อซออก ใช้น้ำอุ่นล้างแผลวันละครั้งจนกว่าแผลจะหาย (โดยทั่วไปแล้วจะหายภายใน 5 วัน) [15]
    • ถ้าคุณกลับมาเป็นซีสต์อีก คุณอาจจะต้องผ่าตัดเพื่อเอาซีสต์ออกให้หมด ถ้าเป็นซีสต์ที่อยู่ลึก เช่น ซีสต์ที่ชิดผนังหน้าท้อง ศัลยแพทย์อาจจะใช้เครื่องมือที่ละเอียดอ่อนที่มีกล้องติดอยู่ด้วยผ่าเป็นแผลเล็กแล้วนำซีสต์ออกมา [16]
    • หลังผ่าตัดคุณน่าจะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 2-3 วัน และน่าจะกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ภายในประมาณ 2 สัปดาห์ [17]
  5. ถ้าจำเป็นให้ไปพบแพทย์เพื่อนำนิ่วในสะดือออก. ถ้าสะดือของคุณโบ๋มากและไม่ได้ทำความสะอาดบ่อยอย่างเพียงพอ สิ่งสกปรก ขุยผ้า และน้ำมันก็อาจจะหมักหมมอยู่ด้านใน และในที่สุดสิ่งเหล่านี้ก็จะกลายเป็นก้อนแข็งๆ ที่เรียกว่านิ่วในสะดือ [18] ถ้าคุณมีนิ่วในสะดือ ให้ไปพบแพทย์ แพทย์จะใช้คีมหนีบค่อยๆ ดึงนิ่วออกมา
    • มีหลายกรณีที่นิ่วในสะดือไม่ทำให้เกิดอาการใดๆ แต่บางครั้งก็อาจทำให้เจ็บและติดเชื้อในภายหลังได้
    • คุณสามารถป้องกันไม่ให้เป็นนิ่วในสะดือได้ด้วยการใช้สบู่และน้ำทำความสะอาดสะดือเป็นประจำ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เด็กแรกเกิดต้องการการดูแลเรื่องสะดือมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ตอสะดือเพิ่งหลุด ถ้าลูกของคุณยังเล็ก ให้สอบถามกุมารแพทย์เกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดและดูแลสะดือของทารก
  • ถ้าคุณมักจะมีขุยผ้าติดอยู่ในสะดือ คุณก็สามารถลดขุยผ้าในสะดือได้ด้วยการใส่เสื้อผ้าตัวใหม่และเล็มหรือโกนขนที่ขึ้นใกล้กับสะดือ [19]
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณสงสัยว่าตรงที่เจาะสะดือจะติดเชื้อ ให้ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง
  • อย่าพยายามใช้ของมีคม เช่น แหนบหรืออุปกรณ์ทำเล็บที่เป็นโลหะทำความสะอาดหรือดึงขุยผ้าออกจากสะดือเด็ดขาด เพราะคุณอาจจะบาดเจ็บได้ ใช้นิ้วมือ ผ้าสะอาด หรือสำลีพันก้านเสมอ
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • น้ำอุ่น
  • สบู่อ่อนหรือเจลอาบน้ำ
  • ผ้าขัดตัว
  • สำลีพันก้าน

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 52,599 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา