เคสมือถือเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียจำนวนมาก ดังนั้นการหมั่นทำความสะอาดเคสมือถือเป็นประจำจึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คุณสามารถทำความสะอาดเคสมือถือได้ง่ายๆ เพียงใช้สบู่และน้ำเปล่า รวมทั้งหมั่นฆ่าเชื้อโรคด้วยรับบิ้งแอลกอฮอล์และขจัดคราบเปื้อนด้วยเบคกิ้งโซดาอย่างสม่ำเสมอ ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยให้เคสมือถือของคุณกลับมาดูสะอาดเหมือนใหม่ได้ดังเดิมแล้ว
ขั้นตอน
-
ถอดเคสมือถือออกจากโทรศัพท์. ห้ามทำความสะอาดเคสมือถือโดยที่ยังไม่ได้ถอดออกจากโทรศัพท์โดยเด็ดขาด เนื่องจากน้ำอาจซึมผ่านรอยแยกเข้าไปจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อโทรศัพท์ได้ ดังนั้นคุณจึงควรถอดเคสมือถือออกให้เรียบร้อยและวางโทรศัพท์ไว้ในบริเวณที่ไม่เสี่ยงต่อการเปียกน้ำ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากเคสมือถือของคุณมีทั้งส่วนประกอบที่เป็นพลาสติกและ ซิลิโคน ให้คุณถอดแยกส่วนประกอบทั้งสองส่วนออกจากกันโดยดึงชิ้นส่วนที่เป็นซิลิโคนยืดหยุ่นออกจากชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกแข็งที่อยู่ด้านนอกของตัวเคส
-
ผสมน้ำอุ่น 1 ถ้วย (240 มล. ) และน้ำยาล้างจาน 1 หยดในชาม. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างจานเกินกว่า 1 หยดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำสบู่ที่เตรียมไว้เต็มไปด้วยฟองสบู่มากเกินไป ใช้ช้อนคนให้น้ำยาล้างจานละลายในน้ำจนหมด [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
จุ่มแปรงสีฟันที่ใหม่และสะอาดลงไปในน้ำสบู่. หากไม่สามารถหาแปรงสีฟันอันใหม่ได้ คุณสามารถเลือกใช้ผ้าสะอาดแทนได้เช่นกัน แกว่งแปรงสีฟันไปมาในน้ำสบู่เพื่อให้ขนแปรงชุ่มน้ำ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้แปรงสีฟันขัดให้ทั่วพื้นผิวของเคสมือถือ. ใช้แปรงสีฟันขัดไปมาหรือวนเป็นวงกลมให้ทั่วพื้นผิวของเคสมือถือทั้งชิ้นส่วนพลาสติกและชิ้นส่วนซิลิโคนรวมถึงตามซอกมุมที่เข้าถึงได้ยาก ควรแน่ใจว่าคุณทำความสะอาดอย่างทั่วถึงทั้งด้านในและด้านนอกของเคสมือถือ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ล้างออกให้สะอาดและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเนื้อนุ่ม. ล้างน้ำสบู่ออกให้สะอาดหมดจดก่อนเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเนื้อนุ่มเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวของเคสมือถือ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ผึ่งลมให้แห้งอย่างน้อย 1 ชั่วโมง. อย่าเพิ่งรีบร้อนใส่โทรศัพท์กลับเข้าไปในเคสมือถือโดยทันที เพราะเคสมือถือจะดูเหมือนแห้งสนิทดีแล้วอาจมีน้ำหลงเหลืออยู่จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อโทรศัพท์ของคุณได้ ดังนั้นคุณจึงควรผึ่งลมให้แห้งสัก 1 ชั่วโมงก่อนใส่โทรศัพท์กลับเข้าไปในเคสมือถือดังเดิม [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ทำความสะอาดเคสมือถือด้วยสบู่และน้ำเปล่าทันทีเมื่อเคสมือถือเริ่มดูสกปรกหรือมีคราบเปื้อนติดอยู่
โฆษณา
-
ถอดเคสมือถือออกจากโทรศัพท์. หลีกเลี่ยงการฆ่าเชื้อเคสมือถือโดยที่ยังไม่ได้ถอดออกจากโทรศัพท์ เนื่องจากน้ำยาฆ่าเชื้ออาจไหลซึมเข้าไปในโทรศัพท์จนก่อให้เกิดความเสียหายได้ หากเคสโทรศัพท์มีส่วนประกอบอยู่หลายส่วน ให้คุณถอดแยกส่วนประกอบแต่ละชิ้นออกจากกันโดยดึงชิ้นส่วนซิลิโคนที่อยู่ด้านในออกจากชิ้นส่วนพลาสติกแข็งที่อยู่ด้านนอก [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ปลายผ้าจุ่มลงไปในรับบิ้งแอลกอฮอล์. เลือกใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไป หากแอลกอฮอล์ที่เลือกใช้บรรจุอยู่ในขวดสเปรย์ คุณสามารถฉีดพ่นลงไปบนเคสมือถือได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าจุ่มลงไป [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เช็ดให้ทั่วด้วยผ้าที่จุ่มแอลกอฮอล์จนชุ่ม. ใช้ผ้าที่จุ่มแอลกอฮอล์เช็ดให้ทั่วทุกส่วนของเคสมือถือทั้งส่วนที่เป็นพลาสติกและส่วนที่เป็นซิลิโคนควรแน่ใจว่าคุณทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์อย่างทั่วถึงทั้งด้านในและด้านนอกของเคสมือถือ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เช็ดออกให้สะอาดด้วยผ้าเนื้อนุ่มที่แห้ง. พยายามเช็ดแอลกอฮอล์ออกไปให้แห้งมากที่สุดเพื่อให้เคสมือถือของคุณเกือบแห้งสนิทเมื่อเช็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงก่อนใส่โทรศัพท์กลับเข้าไปในเคสมือถือ. วางเคสมือถือทิ้งไว้เพื่อผึ่งลมให้แห้งสัก 1 ชั่วโมงก่อนใส่โทรศัพท์กลับเข้าไปในเคสมือถือดังเดิม
- หมั่นฆ่าเชื้อโรคบนเคสมือถือเป็นครั้งคราวอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อให้เคสมือถือสะอาดหมดจดอยู่เสมอ
โฆษณา
-
ถอดเคสมือถือออกจากโทรศัพท์. ในการทำความสะอาดเคสมือถือด้วยน้ำหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวทุกครั้ง อย่าลืมถอดเคสมือถือออกจากโทรศัพท์ก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ได้รับความเสียหายได้ หากเคสมือถือประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายส่วน ให้คุณถอดแยกส่วนประกอบแต่ละชิ้นออกจากกันโดยดึงชิ้นส่วนซิลิโคนที่อยู่ด้านในออกจากชิ้นส่วนพลาสติกแข็งที่อยู่ด้านนอก [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
โรยเบคกิ้งโซดาลงไปบนคราบเปื้อน. โรยเบคกิ้งโซดาลงไปให้พอปกคลุมทั่วคราบเปื้อนที่ต้องการกำจัดออกเท่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณมากเกินไป คุณสามารถเลือกใช้เบคกิ้งโซดาชนิดใดก็ได้ตามต้องการ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้แปรงสีฟันชุบน้ำขัดเบคกิ้งโซดาตรงบริเวณที่มีคราบเปื้อน. ใช้แปรงสีฟันขัดไปมาให้ทั่วบริเวณที่มีคราบเปื้อน โดยขัดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคราบเปื้อนหลุดออกจนหมด [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เบคกิ้งโซดาอาจไม่สามารถช่วยขจัดคราบเปื้อนออกได้อย่างหมดจด ดังนั้นหากคราบเปื้อนยังคงไม่จางลงหลังจากขัดไปแล้วสักพัก คุณอาจจำเป็นต้องใช้น้ำยาขจัดคราบที่มีฤทธิ์รุนแรงยิ่งขึ้นในการขจัดคราบเปื้อนดังกล่าว
-
ล้างออกให้สะอาดและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเนื้อนุ่ม. หลังจากที่ล้างเบคกิ้งโซดาออกอย่างสะอาดหมดจดและเช็ดจนแห้งดีแล้ว ให้คุณนำเคสมือถือไปผึ่งลมให้แห้งอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนใส่โทรศัพท์กลับเข้าไปในเคสมือถือดังเดิมโฆษณา
สิ่งของที่ใช้
ทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่
- น้ำอุ่น
- น้ำยาล้างจาน
- ชาม
- แปรงสีฟัน
- ผ้าเนื้อนุ่ม
ฆ่าเชื้อโรคให้หมดจด
- รับบิ้งแอลกอฮอล์
- ผ้าเนื้อนุ่ม
ขจัดคราบเปื้อนให้หลุดออก
- เบคกิ้งโซดา
- แปรงสีฟัน
- ผ้าเนื้อนุ่ม
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.cnet.com/how-to/spring-cleaning-clean-your-device-and-its-case/
- ↑ https://www.cnet.com/how-to/spring-cleaning-clean-your-device-and-its-case/
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=J8t4xhi1H1I&feature=youtu.be&t=162
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=J8t4xhi1H1I&feature=youtu.be&t=158
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=J8t4xhi1H1I&feature=youtu.be&t=199
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=J8t4xhi1H1I&feature=youtu.be&t=199
- ↑ https://www.cnet.com/how-to/spring-cleaning-clean-your-device-and-its-case/
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=J8t4xhi1H1I&feature=youtu.be&t=210
- ↑ https://www.cnet.com/how-to/spring-cleaning-clean-your-device-and-its-case/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,780 ครั้ง
โฆษณา