PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การรักษาห้องโดยสารของรถยนต์ให้สะอาดนั้นสำคัญพอๆ กับการดูแลสภาพภายนอกของรถ คุณอาศัยอยู่ภายในยานพาหนะทุกครั้งที่ต้องขับ จึงเป็นเรื่องดีสำหรับทั้งสุขอนามัยและทั้งความสงบของจิตใจที่จะรักษาดูแลภายในห้องโดยสารให้สะอาด โชคดีที่การทำความสะอาดเบาะหนังนั้นเป็นเรื่องง่าย ทั้งนี้ต้องขอบคุณเทคนิคอันหลากหลายและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะจุดที่ออกแบบมาสำหรับเบาะหนังในรถยนต์

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 7:

ทำความสะอาดคราบเฉพาะจุด

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณคงไม่ต้องการให้น้ำยาขจัดคราบทำลายเบาะหนังของคุณ ดังนั้นจึงต้องทดสอบบนจุดที่ไม่สะดุดตาให้มั่นใจก่อนใช้
  2. สำหรับคราบแข็งบนเบาะหนังนั้น ให้ปรับสภาพหนังด้วยน้ำยาปรับสภาพหนังเสียก่อน แล้วค่อยใช้น้ำยาขจัดคราบทาตรงจุดที่เกิดคราบและถูให้มันซึมเข้าแผ่นหนัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาทีแล้วค่อยเช็ดน้ำยาขจัดคราบออก
  3. สำหรับรอยหมึกนั้น ใช้สเปรย์แต่งผมหรือรับบิ้งแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำ ฉีดสเปรย์ลงบนรอยแล้วใช้ผ้าสะอาดเปียกหมาดๆ ซับอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้น้ำหมึกที่ละลายไปเลอะส่วนอื่นของเบาะหนัง [1]
  4. สำหรับคราบมันหรือคราบน้ำมัน อย่างเช่นรอยลิปสติกหรือน้ำมันในอาหาร ให้ใช้ทินเนอร์สูตรน้ำกับผ้าฝ้าย เททินเนอร์ลงในถ้วยแล้วเติมน้ำในปริมาณเท่ากัน จุ่มผ้าลงในถ้วยและนำมาถูตรงรอยคราบ เหยาะเกลือหรือแป้งข้าวโพดลงบนคราบแล้วทิ้งไว้ข้ามคืน เช้ามาให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดตรงบริเวณคราบนั้น [2]
    • ให้แน่ใจว่าได้ทดสอบทินเนอร์ลงบนชิ้นหนังเพื่อความมั่นใจว่ามันจะไม่เลอะหรือทำลายผืนหนังเสียเอง
  5. ถ้าคุณเกิดทำกาแฟหก ละลายกาแฟให้จางลงด้วยน้ำเย็นและซับด้วยกระดาษทิชชู ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกและทิ้งไว้ราว 5 นาที ใช้กระดาษทิชชูซับอีกครั้งเพื่อลดคราบให้จางลง [3]
    • ซับคราบทุกครั้ง อย่าใช้วิธีถู จะได้ไม่ถูมันจนเลอะเบาะหนังเป็นวงกว้างขึ้น
    • ถ้าคราบกาแฟยังเป็นรอยให้เห็น ให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่นมาถูหนังบริเวณนั้น ใช้กระดาษทิชชูซับอีกหน แล้วใช้ที่เป่าผมเป่าให้แห้ง ให้ถือที่เป่าผมห่างจากจุดนั้นสักหลายนิ้วเพื่อจะไม่ทำลายเบาะหนัง [4]
  6. หากมีใครเกิดเมารถและอาเจียนออกมาเลอะเบาะและบนพื้น ให้ทำความสะอาดทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้มันซึมเข้าเบาะ เช็ดเศษอาเจียนและละลายคราบให้จางลงด้วยน้ำเย็น ทำความสะอาดบริเวณนั้นด้วยสบู่ผสมน้ำอุ่น แล้วทำให้คราบมีสภาพเป็นกลางโดยการเทคลับโซดาลงบนผืนผ้า นำไปซับตรงรอยคราบ [5] , [6]
    • อีกทางเลือกหนึ่ง คุณสามารถผสมผงฟูกับน้ำมาเช็ด ผงฟูจะช่วยดูดกลิ่นเหม็น
  7. คราบเลือดอาจเป็นคราบที่ขจัดออกได้ยาก อย่าใช้น้ำอุ่นหรือสบู่เพราะมันจะยิ่งทำให้คราบฝังตัว ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นมาซับตรงคราบเลือด จุ่มผ้าในน้ำเย็นนำมาซับไปเรื่อยๆ จนกว่าคราบจะจาง [7]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 7:

ทำความสะอาดเบาะผ้า

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินมากมายซื้อน้ำยาที่วางขายทั่วไปเพื่อมาทำความสะอาดเบาะ ทำน้ำยาขัดเบาะด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติขึ้นเองเลย ผสมน้ำ 1 ส่วนกับน้ำยาล้างจาน 1 ส่วนในถัง ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปใส่ในขวดหัวฉีด
    • ฉีดส่วนผสมลงบนเบาะ ถือขวดให้ห่างสัก 6-8 นิ้ว
    • เช็ดเบาะเบาๆ ด้วยแปรงขนนุ่ม ใช้ผ้าขี้ริ้วจุ่มน้ำอุ่นเช็ดบริเวณนั้น เอาผ้าจุ่มน้ำบ่อยๆ
    • ทำไปทีละเบาะหรือทีละจุด ล้างแต่ละจุดให้ทั่วก่อนย้ายไปจุดใหม่
    • ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดบริเวณนั้นให้แห้ง
  2. ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสบู่ น้ำประสานทอง และน้ำร้อน. การทำสูตรน้ำยาทำความสะอาดอีกสูตรที่ใช้แต่ของธรรมชาติและมามีฤทธิ์กัดกร่อนให้คุณขูดสบู่ก้อน (อย่างลักซ์) จนกระทั่งได้เต็ม 6 ช้อนโต๊ะ ผสมมันกับน้ำประสานทอง 2 ช้อนโต๊ะในถัง ค่อยๆ รินน้ำเดือดลงไป 2 ถ้วย คุณอาจเติมน้ำมันสกัดกลิ่นลาเวนเดอร์ลงไปสัก 10 หยดเพื่อให้มีกลิ่นหอมก็ได้ ทิ้งให้มันเย็นแล้วใช้ที่ตีไข่ตีจนมันเป็นฟอง [8]
    • ใช้แปรงขนนุ่มจุ่มฟองโฟมนี้แล้วไปปาดลงบนเบาะ แล้วใช้ผ้าขี้ริ้วสะอาดชุบด้วยน้ำอุ่นล้างบริเวณนั้น ล้างผ้าผืนนั้นกับน้ำบ่อยๆ
    • ทำทีละเบาะหรือทีละจุด ล้างบริเวณนั้นให้ทั่วก่อนจะย้ายไปจุดอื่น
  3. ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะที่มีจำหน่ายในท้องตลาด. น้ำยาเหล่านี้มีขายตามร้านขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับบ้านและมีราคาไม่แพงนัก อย่างไรก็ตาม พวกมันมักใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรง ให้ทำตามคำแนะนำบนฉลาก ลงน้ำยาลงบนเบาะแล้วใช้แปรงขัดแต่ละส่วน ล้างด้วยน้ำทั่วทั้งหมด
  4. เครื่องรีดระบบไอน้ำนั้นหาเช่าได้ตามร้านหลายแห่ง มันจะทำความสะอาดทั้งเบาะทั้งพรมได้ลึกโดยการพรมน้ำร้อนไปทั่วบริเวณนั้นแล้วดูดมันกลับไปในทันที นี่จะช่วยแยกน้ำและฝุ่นผงต่างๆ ออกจากตัวเบาะ เครื่องรีดระบบไอน้ำสามารถหาเช่าได้ในราคาระหว่าง 1200-1400 บาทต่อวัน
    • ทำตามคู่มือเพื่อใช้เครื่องรีดไอน้ำได้อย่างถูกต้อง
    • คุณสามารถหาซื้อน้ำยาทำความสะอาดเบาะและพรมในท้องตลาดมาใช้กับอุปกรณ์ตัวนี้ได้ หรือไม่ก็ทำน้ำยาเองโดยผสมน้ำส้มสายชูกลั่น 1 ส่วนกับน้ำ 1 ส่วน และเติมน้ำมันสกัดกลิ่นลาเวนเดอร์ลงไปสักไม่กี่หยด [9]
    • เปลี่ยนน้ำในเครื่องรีดระบบไอน้ำบ่อยๆ เพื่อที่จะไม่ได้พยายามทำความสะอาดเบาะด้วยน้ำสกปรกอยู่
  5. เบาะที่นั่งจะมีส่วนที่ถูกเย็บเข้าด้วยกัน เศษดินและฝุ่นผงจะไปสุมอยู่บริเวณนี้ได้โดยง่ายและยากจะใช้ผ้าหรือเครื่องดูดฝุ่นเอามันออก ใช้แปรงสีฟันในบริเวณเหล่านี้ ถูมันเบาๆ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด
  6. ยกแผ่นพรมออกมาจากรถและทำความสะอาดด้วยน้ำยาแบบเดียวกับที่ใช้กับเบาะ ล้างให้ทั่วและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
    • สำหรับพรมยางหรือพรมไวนิล หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว ให้ใช้แว็กซ์ขัดรองเท้าถู จะช่วยเพิ่มความเงางามและช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น [10]
  7. ลูกกลิ้งขจัดขนนั้นใช้กระดาษกาวในการดึงบรรดาเศษขน เส้นผม เศษขนมต่างๆ ใช้มันกลิ้งไปทั่วทั้งเบาะนั่งเพื่อเอาเศษขนที่ยากแก่การเข้าถึงออกมาจากเบาะ เปลี่ยนกระดาษกาวบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามันยังเหนียวพอจะให้พวกเศษขนติดมันมา [11]
  8. เวลาที่คุณซับคราบหรือถูเบาะผ้า ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่จะไม่ทำให้ผ้าขึ้นขุย [12]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 7:

ทำความสะอาดเบาะหนังเทียม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เบาะหนังเทียมเป็นเบาะที่ทำความสะอาดได้ง่ายดายที่สุดแล้ว เนื่องจากแค่เช็ดคราบหรือรอยเลอะเทอะเหล่านั้นออก ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกอเนกประสงค์ลงบนเบาะแล้วใช้ผ้านุ่มเช็ดออก [13]
    • ทำความสะอาดไปทีละเบาะเพื่อน้ำยาเช็ดกระจกจะได้ไม่ไหลหยดลงบนพื้น
  2. คุณสามารถใช้ส่วนผสมระหว่างผงฟูกับน้ำมาทำความสะอาดและขัดเงาเบาะหนังเทียมได้ นำส่วนผสมทั้งสองมาผสมกันแล้วถูลงบนเบาะทีละเบาะ ปิดงานด้วยการล้างเบาะด้วยสบู่อ่อนผสมน้ำ ใช้ผ้านุ่มสะอาดเช็ดให้แห้ง
    • น้ำยาทำความสะอาดที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมจะทำให้เบาะหนังเทียมแข็งกระด้างขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงใช้มัน [14]
  3. เบาะที่นั่งจะมีส่วนที่ถูกเย็บเข้าด้วยกัน เศษดินและฝุ่นผงจะไปสุมอยู่บริเวณนี้ได้โดยง่ายและยากจะใช้ผ้าหรือเครื่องดูดฝุ่นเอามันออก ใช้แปรงสีฟันในบริเวณเหล่านี้ ถูมันเบาๆ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด
  4. ยกแผ่นพรมออกมาจากรถและทำความสะอาดด้วยน้ำยาแบบเดียวกับที่ใช้กับเบาะ ในการทำความสะอาดผืนพรมให้ใช้น้ำยาขัดเบาะอเนกประสงค์ที่ทำขึ้นเองโดยการผสมน้ำ 1 ส่วนกับน้ำยาล้างจาน 1 ส่วน ฉีดส่วนผสมลงไปบนพรมแล้วถูด้วยแปรงขนนุ่ม ล้างให้ทั่วด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
    • สำหรับพรมยางหรือพรมไวนิล หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว ให้ใช้แว็กซ์ขัดรองเท้าถู จะช่วยเพิ่มความเงางามและช่วยให้ทำความสะอาดง่าย [15]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 7:

ทำความสะอาดเบาะหนัง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ชุดทำความสะอาดเครื่องหนังสำหรับเบาะหนัง. เบาะหนังต้องการการดูแลอย่างระมัดระวังมากกว่าเบาะผ้าหรือเบาะหนังเทียมตรงที่มันเสี่ยงกับการดูเก่าและสีจางลงมากกว่า ทางเลือกที่ดีที่สุดของการทำความสะอาดเบาะหนังคือใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับเครื่องหนังโดยเฉพาะ เช่น น้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาปรับสภาพ ซึ่งมักจะมาคู่กันเป็นชุด เช่นชุด Wolfgang Leather Care Cockpit Kit [16] หรือ Pinnacle Contours Interior Kit [17]
  2. วัสดุหนังตอบสนองต่อความร้อนได้ดีและจะซึมซับน้ำยาทำความสะอาดกับการปรับสภาพได้ดีในสภาพอากาศอุ่น ถ้าหากคุณอาศัยอยู่ในเขตร้อน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องทำความร้อน แต่หากเป็นกลางหน้าหนาว ให้เปิดเครื่องทำความร้อนสักไม่กี่นาทีเพื่อทำให้รถอุ่นขึ้นก่อนทำความสะอาดเบาะหนัง [18]
  3. สำหรับคราบแข็งบนเบาะหนังนั้น ให้ปรับสภาพหนังด้วยน้ำยาปรับสภาพหนังเสียก่อน แล้วค่อยใช้น้ำยาขจัดคราบทาตรงจุดที่เกิดคราบและถูให้มันซึมเข้าแผ่นหนัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาทีแล้วค่อยเช็ดน้ำยาขจัดคราบออก
  4. ทาน้ำยานี้ลงบนเบาะหนัง เน้นเฉพาะจุดหรือเฉพาะเบาะในแต่ละคราว ใช้ผ้านุ่มถูน้ำยาลงบนเบาะ ล้างน้ำยาออกด้วยน้ำสะอาด
    • ทำตามคำแนะนำบนฉลากเพื่อใช้ได้อย่างถูกต้อง
  5. คุณสามารถผสมสบู่ล้างมือสูตรอ่อนโยนกับน้ำอุ่นมาล้างเบาะหนัง อย่าใช้น้ำมากเกินไป ให้แน่ใจว่าได้ล้างส่วนผสมสบู่นี้ออกจนเกลี้ยงโดยใช้ผ้าสะอาดจุ่มน้ำเช็ดคราบสบู่ออก [19]
  6. หลังจากทำความสะอาดเบาะหนัง ให้แน่ใจว่ามันแห้งสนิทแล้วถึงค่อยลงน้ำยาปรับสภาพ เพราะโดยธรรมชาติวัสดุหนังจะขับน้ำออก ถ้าเปียกอยู่มันจะไม่ซึมซับน้ำยาปรับสภาพ [20]
  7. ใช้น้ำยาปรับสภาพเครื่องหนังสูตรน้ำที่มีค่า pH เป็นกลาง. น้ำยาปรับสภาพเครื่องหนังจะเสริมน้ำมันที่ทำให้เบาะหนังนั้นเรียบนุ่มเป็นเงามัน น้ำยาปรับสภาพเครื่องหนังที่ราคาถูกกว่าอาจเป็นสูตรน้ำมันดินซึ่งมักจะเกาะอยู่บนผืนหนังและติดตามเสื้อผ้าได้ แถมยังอาจทิ้งคราบน้ำมันไว้อีก การใช้น้ำยาปรับสภาพเครื่องหนังสูตรน้ำที่มีค่า pH เป็นกลางจะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าเบาะหนังของคุณได้รับการดูแลอยู่ในสภาพดี [21]
    • ป้ายน้ำยาปรับสภาพเครื่องหนังลงบนผ้าแล้วถูให้ทั่วเบาะ เช็ดส่วนที่เกินออกแล้วทิ้งไว้ราว 15-20 นาทีก่อนใช้รถ [22]
  8. เบาะที่นั่งจะมีส่วนที่ถูกเย็บเข้าด้วยกัน เศษดินและฝุ่นผงจะไปสุมอยู่บริเวณนี้ได้โดยง่ายและยากจะใช้ผ้าหรือเครื่องดูดฝุ่นเอามันออก ใช้แปรงสีฟันในบริเวณเหล่านี้ ถูมันเบาๆ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด
  9. ยกแผ่นพรมออกมาจากรถและทำความสะอาดด้วยน้ำยาแบบเดียวกับที่ใช้กับเบาะ ในการทำความสะอาดผืนพรมให้ใช้น้ำยาขัดเบาะอเนกประสงค์ที่ทำขึ้นเองโดยการผสมน้ำ 1 ส่วนกับน้ำยาล้างจาน 1 ส่วน ฉีดส่วนผสมลงไปบนพรมแล้วถูด้วยแปรงขนนุ่ม ล้างให้ทั่วด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
    • สำหรับพรมยางหรือพรมไวนิล หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว ให้ใช้แว็กซ์ขัดรองเท้าถู จะช่วยเพิ่มความเงางามและช่วยให้ทำความสะอาดง่าย [23]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 7:

ดูดฝุ่นรถของคุณ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เครื่องดูดฝุ่นชนิดใช้ได้ทั้งเปียก/แห้งอย่างยี่ห้อ Shop-Vac นั้นมีกำลังแรงและเหมาะมือซึ่งสามารถรับมือกับงานดูดฝุ่นหลากหลายแบบ ปกติมักมีหัวท่อและสายไฟที่ยาว ทำให้ง่ายต่อการดูดฝุ่นทั่วทั้งคันรถ
    • ทางเลือกอีกทางคือใช้เครื่องดูดฝุ่นหยอดเหรียญตามร้านล้างรถ แบบนี้ก็มีท่อยาวเหมือนกัน แต่ต้องใช้เหรียญหยอดตามมิเตอร์จับเวลา ซึ่งอาจทำให้การทำความสะอาดต้องชะงักกลางคันได้
    • ยังมีเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กใช้พกพาซึ่งใช้ได้เหมือนกัน เหมาะกับการทำความสะอาดเฉพาะจุดแต่ไม่น่าจะมีแรงดูดพอที่จะดูดฝุ่นทั่วทั้งคัน
  2. เครื่องดูดฝุ่นส่วนใหญ่มีหัวต่อแบบพลาสติกซึ่งเหนือกว่าแบบที่ทำจากโลหะ เพราะถ้าใช้แบบโลหะ คุณก็เสี่ยงต่อการทำเบาะเป็นรอยขีดข่วน โดยเฉพาะถ้าเป็นเบาะหนังหรือเบาะหนังเทียม [24]
    • หัวต่อที่มีประโยชน์ก็คือหัวแปรงที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมหน้ากว้างกับหัวต่อแคบเรียวซึ่งสามารถดูดเข้าไปตามร่องได้
  3. เวลาจะดูดฝุ่นทำความสะอาดรถ ให้แน่ใจว่าคุณได้เข้าถึงตามรูร่องซอกซอยที่เป็นแหล่งสะสมเศษดินฝุ่นผง ปรับเบาะเอนราบเพื่อจะเข้าไปดูดฝุ่นที่อยู่ตามร่องในของเบาะ เลื่อนเบาะไปข้างหน้าเพื่อจะดูดฝุ่นใต้เบาะได้
    • เอาเบาะนั่งสำหรับเด็กในรถออกเช่นกัน เพื่อที่คุณจะได้ดูดฝุ่นข้างใต้ที่น่าจะเต็มไปด้วยเศษซีเรียล แท่งกราโนลาหรือสีเทียน
  4. ดูดฝุ่นส่วนบุพื้นโดยการเข้าไปใต้พรมวางพื้น จะทำให้ทำความสะอาดตามซอกลึกของพรมวางพื้นได้ง่ายขึ้น
  5. การกำจัดเศษฝุ่นผงออกจากรถจะป้องกันพวกมันไม่ให้กลายเป็นคราบเกาะติดเบาะและพื้นพรมจนแน่น ซึ่งจะทำให้กลายเป็นคราบที่ขจัดยากกว่ากันเยอะเลย วางปฏิทินสำหรับตัวเองให้ต้องดูดฝุ่นรถอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นถ้ารถคุณสกปรกไว
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 7:

จ้างร้านล้างรถมืออาชีพ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ร้านล้างรถสามารถทำความสะอาดรถคุณแบบทุกซอกทุกมุม ทั้งเบาะ แผงคอนโซล ช่องแอร์ หน้าต่าง และจุดอื่นๆ ถามเพื่อนฝูงหรือตรวจหาร้านล้างรถใกล้บ้านทางอินเตอร์เน็ต
    • ให้แน่ใจว่าทางร้านล้างรถได้รับใบรับรองหรือถูกฝึกฝนให้ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดรถยนต์อย่างถูกวิธี ให้แน่ใจด้วยว่าพวกเขารับประกันรถยนต์ที่เข้ามาใช้บริการ
    • สอบถามราคาโดยประมาณเพื่อเปรียบเทียบแต่ละเจ้า
  2. นำรถไปร้านล้างรถให้เขาเห็นว่างานมันใหญ่ระดับไหนในการทำความสะอาดรถคุณ
    • อย่างไรก็ดี ร้านล้างรถไม่ควรเสนอราคามาโดยยังไม่เห็นสภาพจริงของรถ
  3. ก่อนจะจ่ายเงินขับออกไป ตรวจดูให้แน่ใจว่าทางนั้นได้ทำความสะอาดรถจนคุณพึงพอใจ [25] ถ้าคุณมีเบาะนั่งสำหรับเด็กติดรถ ตรวจดูว่ามันถูกถอดออกมาทำความสะอาดด้านล่างหรือไม่
  4. ถามร้านล้างรถถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้. ส่วนใหญ่น่าจะใช้น้ำยาทำความสะอาดตามท้องตลาดและสารเคมีออกฤทธิ์แรงมาใช้ทำความสะอาดรถคุณ หากคุณเลือกใช้น้ำยาสูตรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลองหาดูว่ามีร้านล้างรถที่ใช้น้ำยาสูตรเหล่านี้หรือไม่
    • ร้านล้างรถบางร้านอาจพยายามลดค่าใช้จ่ายโดยใช้น้ำยาราคาถูก ซึ่งอาจมีผลทำลายหรือมีประสิทธิภาพไม่ยาวนานเหมือนผลิตภัณฑ์ตัวอื่น [26]
    • ตรงนี้อาจจะเป็นเรื่องสำคัญหากคุณเป็นพวกจมูกไวต่อกลิ่นสารเคมีหรือกลิ่นฉุนๆ ซึ่งอาจจะยังอบอวลอยู่ภายในรถ
  5. ร้านล้างรถอาจใช้เวลาขั้นต่ำสองชั่วโมง และอาจมากกว่านั้นถ้ารถคุณมีคราบหลายจุดหรือสกปรกมาก วางแผนหาทางไปทำธุระอื่นในบริเวณนั้น หรือไม่ก็หาใครมารับคุณเพื่อจะได้ไม่ต้องรอแกร่วอยู่ตรงอู่ล้างรถ
    โฆษณา
วิธีการ 7
วิธีการ 7 ของ 7:

ป้องกันความเลอะเทอะในอนาคต

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาซื้อผ้าคลุมเบาะมาใช้ป้องกันเบาะ อาจจะเป็นสีที่เข้ากับเบาะหรือแบบมีสีแปร๋นเน้นลวดลายก็ได้ มันมีวางขายทั้งแบบเบาะรัดเข็มขัด (อย่างเบาะหน้า) และสำหรับเบาะแถวยาว (อย่างเบาะหลัง) ราคาก็ประมาณ 1,000-1,500 บาท หลายแบบสามารถซักเครื่องได้ ทำให้ง่ายแก่การดูแลรถคุณ [27]
  2. น้ำยาปกป้องการเกิดคราบจะทำให้คราบยากจะฝังลึกในเบาะและจะยืดอายุการใช้งานของเบาะไปด้วย น้ำยาปกป้องการเกิดคราบอย่าง Scotchgard Fabric และ Upholstery Protector มีวางจำหน่ายตามร้านขายวัสดุตกแต่งบ้าน
    • ทำตามคำแนะนำบนฉลากเพื่อใช้งานได้อย่างถูกต้อง
  3. ถ้าเป็นไปได้อย่าปล่อยให้คราบเลอะติดอยู่ในรถนาน ถ้าไม่ทำความสะอาดในทันที มันจะเป็นคราบฝังลึกในเบาะ ทำให้ยากแก่การขจัดออก แถมยังอาจเพิ่มกลิ่นไม่ชวนประสงค์ในห้องโดยสารอีกด้วย
  4. โดยการห้ามดื่มกินบนรถ คุณสามารถลดโอกาสเกิดคราบเลอะลงได้มาก อุบัติเหตุทำเลอะนั้นเกิดง่ายมากแค่คุณเบรคกระทันหันหรือพยายามขับไปกินไป กำจัดความเสี่ยงเหล่านี้ด้วยการห้ามดื่มกินบนรถไปเลย
  5. โดยการนำเศษขยะไปทิ้งทุกครั้งหลังออกไปไหน คุณอาจลดโอกาสการเกิดคราบจากถุงอาหารที่อมคราบน้ำมันหรือกาแฟที่กระฉอกออกจากแก้วได้ ทิ้งขยะทันทีหลังใช้เพื่อไม่ให้มันสุมจนปนเปกับข้าวของภายในรถ
    • เอาสีเทียนหรือข้าวของอื่นที่สามารถละลายเวลาเจออากาศร้อนกลางแดด อุณหภูมิภายในรถจะสูงกว่าอุณหภูมิภายนอกรถและของอย่างสีเทียนจะละลายบนเบาะถ้าถูกทิ้งไว้ในรถ
  6. การกำจัดเศษฝุ่นผงออกจากรถจะป้องกันพวกมันไม่ให้กลายเป็นคราบเกาะติดเบาะและพื้นพรมจนแน่น ซึ่งจะทำให้กลายเป็นคราบที่ขจัดยากกว่ากันเยอะเลย วางปฏิทินสำหรับตัวเองให้ต้องดูดฝุ่นรถอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นถ้ารถคุณสกปรกไว
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 25,050 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา