PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

บทความนี้จะแสดงให้คุณเห็นวิธีการเขียนจดหมายมอบอำนาจ คุณสามารถเขียนจดหมายมอบอำนาจเพื่ออนุญาตให้โรงพยาบาลเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ อนุญาตให้เพื่อนถอนเงินของคุณ อนุญาตให้เพื่อนร่วมงานทำธุรกรรมแทนคุณหรืออนุญาตให้เด็กที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์เดินทางโดยไม่มีผู้ปกครองคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

การเตรียมตัวเขียนจดหมายมอบอำนาจ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. จดหมายมอบอํานาจอนุญาตให้บุคคลอื่นกระทำการแทนคุณในเรื่องที่เฉพาะเจาะจง จดหมายมอบอำนาจมักจะใช้ในสถานการณ์ที่ซึ่งผู้เขียนจดหมายไม่สามารถทำการด้วยตัวเองได้ ตัวอย่างของสถานการณ์ที่อาจจะต้องใช้จดหมายมอบอำนาจ ได้แก่:
    • พ่อแม่หรือผู้ปกครองสามารถมอบอํานาจให้กับผู้ดูแลเด็กเพื่อตัดสินใจทางการแพทย์ในสถานการณ์เร่งด่วนให้กับเด็กที่อยู่ในความดูแลของพวกเขา [1]
    • คุณควรให้จดหมายมอบอำนาจกับเยาวชนที่เดินทางกับผู้ใหญ่ซึ่งไม่ใช่พ่อแม่หรือผู้ปกครอง สิ่งนี้จะช่วยป้องกันเยาวชนจากการถูกลักพาตัวและปัญหาของการครอบครองเด็ก [2]
    • ถ้าหากคุณมีเงินฝากอยู่ในธนาคารท้องถิ่นที่คุณไม่สามารถไปทำธุรกรรมได้เองอย่างง่ายดาย คุณสามารถเขียนจดหมายมอบอำนาจเพื่ออนุญาตให้ใครบางคนจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับบัญชีหรือสถาบันการเงิน
    • จดหมายมอบอํานาจสามารถอนุญาตการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว เช่น ประวัติทางการแพทย์ [3]
    • คุณอาจจะต้องมอบอำนาจให้กับอีกฝ่ายเพื่อเป็นผู้แทนในการจัดการกับรายการทางการเงินที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่การตัดสินใจทางธุรกิจทั้งหมดที่สามารถรอคุณได้ ถ้าหากคุณไม่ว่างชั่วคราว คุณสามารถเขียนจดหมายมอบอำนาจและมอบหมายอำนาจในการตัดสินใจชั่วคราวให้กับเพื่อนร่วมงานที่คุณไว้ใจ
  2. ระบุฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในจดหมายมอบอำนาจนี้. มี 3 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในจดหมายมอบอำนาจนี้ ฝ่ายแรกคือผู้ที่มีสิทธิ์ดั้งเดิม เช่น พ่อแม่ของเด็กหรือเจ้าของบัญชีธนาคาร ฝ่ายที่ 2 คือกลุ่มคนที่ฝ่ายแรกทำธุรกรรมด้วย เช่น สถาบันทางการเงินหรือโรงพยาบาล ฝ่ายที่ 3 คือคนที่ถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของฝ่ายแรก จดหมายควรจ่าหน้าถึงฝ่ายที่ 2
    • จดหมายจะอธิบายอำนาจที่มอบให้กับตัวแทนซึ่งจะทำหน้าที่แทนคุณ [4]
    • ถ้าหากฝ่ายที่ 2 ไม่เป็นที่ปรากฏ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่คุณมอบหมายอำนาจสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อาจจะเกิดขึ้น) คุณควรเขียนหัวจดหมายว่า “เรียนผู้ที่เกี่ยวข้อง”
  3. จดหมายที่เขียนด้วยมืออาจจะอ่านได้ยากและดูไม่เป็นมืออาชีพเท่ากับจดหมายที่พิมพ์ จดหมายมอบอำนาจเป็นเอกสารสำคัญที่มอบหมายอำนาจให้กับใครบางคนเพื่อทำธุรกรรมด้านกฏหมายหรือการเงินให้กับคุณ คุณจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ถ้าหากคนที่ใกล้ชิดกับคุณต้องการคัดค้านอำนาจของจดหมาย เอกสารนี้อาจจะถูกใช้เป็นหลักฐานในศาล
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

การเขียนหัวจดหมาย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขียนชื่อและที่อยู่ด้านบนซ้ายของหน้ากระดาษ. ทำตามรูปแบบพื้นฐานของจดหมายธุรกิจ ชื่อของคุณควรอยู่บรรทัดแรก ข้อมูลที่อยู่อยู่บรรทัดที่ 2 และจังหวัดและรหัสไปรษณีย์อยู่บรรทัดที่ 3 ทุกบรรทัด (รวมไปถึงบรรทัดที่ตามหลังนี้) ควรเว้นระยะห่างกันเพียง 1 บรรทัดเท่านั้น [5]
  2. เว้น 1 บรรทัดหลังจากชื่อและที่อยู่และลงวันที่ในบรรทัดถัดไป เขียนที่อยู่เต็ม (เช่น วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558) อย่าเขียนวันที่ย่อ
  3. เว้นบรรทัดระหว่างวันที่และส่วนแรกของชื่อและที่อยู่ของผู้รับ ข้อมูลของผู้รับควรมีรูปแบบเดียวกับข้อมูลของคุณ
    • จำไว้ว่าผู้รับไม่ใช่คนที่ได้รับมอบหมายให้ตัดสินใจแทนคุณ คุณกำลังมอบอำนาจให้กับฝ่ายที่ 3 (ตัวแทน) เพื่อทำหน้าที่แทนคุณแต่จดหมายต้องถูกส่งไปยังฝ่ายที่ 2 (คนที่คุณและตัวแทนกำลังเจรจาด้วย) [6]
    • คุณอาจจะต้องเว้นช่องนี้ให้ว่างถ้าหากคุณไม่รู้จากฝ่ายที่คุณกำลังเจรจาอยู่ด้วย เช่น ถ้าหากคุณมอบอำนาจการตัดสินใจสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ของเด็กให้กับผู้ดูแลซึ่งคุณไม่สามารถติดต่อได้ คุณอาจจะไม่รู้ว่าโรงพยาบาลใดที่ตัวแทนของคุณจะต้องเจรจาด้วย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

การเขียนเนื้อหาของจดหมาย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้คำนำหน้าที่เหมาะสม เช่น “ดอกเตอร์” “นางสาว” “นาง” หรือ “นาย” นำหน้าชื่อ คุณสามารถใช้คำว่า “ที่รัก” เป็นคำทักทายหรือเพียงใช้คำว่า “เรียน” อย่างเป็นทางการ
    • ใช้ชื่อเต็มและคำนำหน้าของผู้รับจดหมาย
    • ถ้าคุณไม่รู้ชื่อที่เฉพาะเจาะจงของฝ่ายที่ตัวแทนของคุณจะต้องเจรจาด้วย คุณสามารถเขียนว่า “เรียนผู้ที่เกี่ยวข้อง”
  2. จดหมายที่มีความยาวมากจะระบุข้อมูลที่สามารถนำไปตีความได้หลายแบบ จดหมายสั้นๆ ที่ระบุใจความสำคัญโดยใช้ภาษาที่ฟุ่มเฟือยเพียงเล็กน้อยน่าจะนำไปสู่การตีความที่ขัดแย้งกันได้น้อยกว่า
  3. ระบุหน้าที่ที่คุณมอบหมายให้ตัวแทนกระทำแทนคุณ. ทำจดหมายมอบอำนาจให้สั้นและได้ใจความ คุณต้องให้รายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการมอบอำนาจนี้ เช่น ตัวแทนของคุณสามารถอนุญาตขั้นตอนการรักษาทางการแพทย์ ลงชื่อเอกสารทางกฎหมายแทนคุณหรือถอนเงินจากธนาคารของคุณได้ เช่น เริ่มเขียนจดหมายมอบอำนาจ ดังนี้:
    • ข้าพเจ้า (ใส่ชื่อเต็มของคุณ) ขอมอบอำนาจให้แก่ (ใส่ชื่อเต็มของตัวแทน) ในการส่งมอบข้อมูลทางการแพทย์จากประวัติการรักษาส่วนตัวของข้าพเจ้าให้กับ (ใส่ชื่อขององค์กรที่จะได้รับประวัติการรักษาของคุณ) ดังนี้: (รายการข้อมูลทางการแพทย์) [7]
    • ลงรายละเอียดของการมอบอำนาจนี้อย่างเฉพาะเจาะจง ถ้าหากจดหมายนี้มีสำหรับข้อมูลทางการแพทย์ คุณก็ควรระบุเลขที่กรมธรรม์ของประกันสุขภาพและข้อมูลการเบิกเงินเคลม ถ้าหากคุณต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องทางกฎหมาย คุณก็ควรระบุเลขคดี สำหรับเรื่องของการเงิน คุณต้องระบุข้อมูลของบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง
  4. ระบุว่าการมอบอำนาจนี้มีผลเมื่อไหร่ ระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุด เช่น คุณสามารถเขียนว่า “ตัวแทนมีอำนาจในการตัดสินใจทางการแพทย์สำหรับลูกของฉันในขณะที่พักรักษาอยู่ที่ (ที่อยู่) ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558”
    • ในบางกรณีคุณอาจจะไม่แน่ใจเกี่ยวกับวันที่ เช่น ถ้าหากคุณกำลังมอบอำนาจสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน สำหรับการมอบอำนาจประเภทนี้ คุณต้องระบุช่วงเวลา เช่น คุณสามารถเขียนว่า “ในกรณีของเหตุฉุกเฉิน ตัวแทนมีอำนาจกระทำการใดๆ แทนข้าพเจ้าเป็นเวลา 30 วัน”
  5. อธิบายว่าทำไมคุณจึงต้องให้ตัวแทนกระทำการแทนคุณ คำอธิบายอาจจะระบุว่าคุณป่วย ออกนอกเมืองหรือไม่สามารถติดต่อได้ในช่วงเวลาต่างๆ
  6. คุณอาจจะต้องการระบุขอบเขตที่คุณไม่ได้มอบอำนาจ เช่น คุณสามารถพูดว่าตัวแทนไม่สามารถใช้ข้อมูลทางการแพทย์ของคุณสำหรับจุดประสงค์ใดๆ ที่นอกเหนือจากที่ระบุในจดหมายหรือคุณสามารถพูดว่าตัวแทนไม่สามารถทำการตัดสินใจทางการเงินแทนคุณโดยไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้า [8]
  7. ปิดสรุปจดหมายด้วยคำพูดปิด เช่น “จึงเรียนมาเพื่อทราบ” เว้นบรรทัดเปล่า 4 บรรทัดสำหรับการลงชื่อของคุณและจึงพิมพ์ชื่อเต็มของคุณ
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

การทำให้จดหมายเสร็จสมบูรณ์

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. จดหมายมอบอำนาจเป็นจดหมายธุรกิจและควรใช้รูปแบบที่เป็นทางการ จดหมายธุรกิจทั่วไปใช้รูปแบบบล็อค เนื้อหาของจดหมายควรเว้นบรรทัดแบบบรรทัดเดียวและไม่ใช้การย่อหน้าในแต่ละย่อหน้า เว้นบรรทัดระหว่างคำทักทายและย่อหน้าแรกเช่นเดียวกับระหว่างแต่ละย่อหน้า [9]
  2. หาพยานหรือบุคคลที่รับรองเอกสารและลายมือชื่อ. พยานคือใครบางคนที่จะสังเกตการณ์เมื่อคุณลงลายมือชื่อจดหมายมอบอำนาจ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้ลงชื่อจดหมายเพราะถูกข่มขู่และคุณคือคนที่มอบอำนาจ ในบางกรณีคุณควรให้บุคคลที่สามารถรับรองเอกสารได้มารับรองจดหมายของคุณ [10] บุคคลนี้คือคนที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับรองเอกสารทางกฎหมาย
    • บุคคลนี้ไม่ควรมีชื่ออยู่ในจดหมาย
  3. พิมพ์จดหมายและลงชื่อด้วยปากกาน้ำเงินหรือปากกาดำ คุณสามารถระบุวันที่ข้างๆ ลายมือชื่อของคุณ ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณสามารถเขียนวันที่ที่คุณลงลายมือชื่อบนเอกสาร
    • ให้พยานลงชื่อและวันที่บนจดหมายเช่นกันหรือขอให้บุคคลที่รับรองเอกสารรับรองจดหมายฉบับนี้
  4. ในกรณีส่วนใหญ่ตัวแทนจะเป็นฝ่ายเก็บจดหมายเพื่อที่เขาจะได้มีเอกสารที่ถูกต้องของการมอบอำนาจ เช่น ตัวแทนสามารถแสดงจดหมายให้แก่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองถ้าหากเขาเดินทางไปต่างประเทศกับลูกของคุณ
  5. ทำสำเนาของจดหมายไว้เป็นหลักฐาน คุณสามารถแสดงหลักฐานนี้ถ้าหากมีข้อสงสัยเกิดขึ้นเกี่ยวกับการมอบอำนาจที่คุณให้แก่ตัวแทน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าหากคุณต้องการเปลี่ยนแปลง (เพิ่มเติมหรือตัดเนื้อหา) ในจดหมายมอบอำนาจ คุณควรเขียนจดหมายมอบอํานาจฉบับใหม่และให้บุคคลที่รับรองเอกสารรับรองจดหมายฉบับนี้หรือให้พยานลงชื่อ [11]
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,594 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา