ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ก็คล้ายๆ กับแป้งพิตาทั่วๆ ไป จาปาตีของอินเดียนั้น คือขนมปังที่ทำมาจากแป้งโฮลวีต มักเสิร์ฟพร้อมกับแกงกะหรี่ แต่ว่ามันทำได้มากกว่านั้นนะ ก็เหมือนกับขนมปังปิ้งทั่วๆ ไป ที่เอาไปเคียงกับเมนูอื่นๆ ได้อีกหลากหลาย จาปาตีนี้พบได้หลากหลายถิ่นที่อยู่ โดยเฉพาะในแอฟริกา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแห่งแป้งข้าวโพดและมันฝรั่งนั่นเอง
- เวลาเตรียมส่วนผสม: 50-60 นาที
- เวลาปรุง: 10 นาที
- เวลาทั้งหมด: 60-70 นาที
ส่วนประกอบ
- แป้งสาลี หรือ แป้ง Durum wheat atta (แป้งข้าวสาลีดูรัมแบบละเอียด) 2 ถ้วย
- น้ำอุ่น 1 ถ้วย
- เกลือ 1 ช้อนชา (ไม่มีก็ได้)
- เนยใส (Ghee) 1-2 ช้อนชา (ไม่มีก็ได้)
- ทำจาปาตีได้ 10-12 อัน
ขั้นตอน
-
เทแป้งสาลี เกลือ และเนยใสลงในชามและผสมส่วนผสมให้เข้ากัน. ถ้าได้ใช้แป้ง durum wheat atta ก็จะได้จาปาตีที่อร่อยที่สุด แม้ว่าแป้งสาลีจะใช้ได้เหมือนกัน แต่มันก็จะทำให้เนื้อหนุบหนับมากกว่า และอาจเหี่ยวได้ง่ายกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ใส่แป้งสาลีหรือแป้งละเอียด 2 ถ้วย เกลือ 1 ช้อนชา และเนยใสประมาณครึ่งช้อนชาลงในชาม แล้วใช้มือของคุณคนส่วนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเนียน มือนี่แหละที่ได้ผลมากกว่าเครื่องมือที่ใช้ในการผสมใดๆ ทั้งสิ้น แล้วก็ถ้าหากจะร่อนแป้งกับเกลือก่อนที่จะใส่เนยใสลงไปก็ได้นะ
- ถ้าเกิดเป็นคนที่รักสุขภาพมากๆ จะไม่ใส่เนยใสเข้าไปด้วยก็ได้ แต่จาปาตีจะไม่อร่อยเท่าที่ควรนะ และถ้าคุณไม่สามารถหาเนยใสได้เลย จะใส่น้ำมันมะกอกแทนก็ได้ มันอาจไม่อร่อยเท่าที่ควรเป็นแต่ก็ควรลองดู
- แม้การทำจาปาตีแบบดั้งเดิมจะใช้ส่วนผสมที่จำเป็นแค่นี้ก็ตาม แต่คุณจะใส่เครื่องเทศที่ชอบสักหนึ่งช้อนชา อย่างเช่นพริกป่นอะไรประมาณนั้นก็ได้ ถ้าหากว่าคุณต้องการเพิ่มอะไรนิดหน่อยให้กับสูตรดั้งเดิม
-
ใส่น้ำลงไปในส่วนผสมของแป้งครึ่งถ้วยแล้วคนให้อ่อนนุ่ม. คนส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้น้ำอุ่น แต่จะใช้น้ำที่อุ่นไม่มากก็ได้ ซึ่งจะทำให้นวดแป้งโดว์ได้ง่ายกว่า เพื่อผลที่ออกมาดีที่สุด ให้ใช้นิ้วผสมแป้งวนเป็นวงกลมพร้อมค่อยๆ ใส่น้ำลงไปทีละหน่อย ถ้าเทลงไปรวดเดียวจะทำให้การผสมส่วนผสมยากขึ้นไปอีก ในตอนแรกส่วนผสมจะดูหยาบร่วน แต่พอใส่น้ำไปเรื่อยๆ มันจะเริ่มจับตัวกันเอง
-
ใส่น้ำที่เหลืออยู่ลงไปช้าๆ แล้วผสมจนกว่ามันจะเข้ากัน. เติมน้ำต่อจนกว่าจะหมดถ้วย และแป้งโดว์จะติดหนึบเข้าหากันพอดี พอส่วนผสมเข้ากันอย่างดีแล้ว คุณจะสามารถนวดแป้งโดว์ด้วยข้อนิ้วจนกว่ามันจะนุ่มและเป็นวงกลม นวดไปประมาณ 10 นาที การนวดแป้งโดว์นั้นสำคัญพอๆ กับการที่ทำให้สารกลูเตนฟูขึ้นมาได้ เมื่อนวดเสร็จแล้ว แป้งโดว์จะดูเรียบเนียนสวยงาม ถ้าเกิดว่ามันแข็งเกินไป แป้งจาปาตีก็จะไม่พองตัว แต่ถ้ามันนุ่มเกินไปก็จะยากต่อการม้วนแป้ง และมันก็จะไม่ฟูขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นมากที่จะต้องหาความพอดีของมัน
-
นำแป้งโดว์ใส่ลงชามที่ทาด้วยน้ำมันและห่อหุ้มเอาไว้ประมาณ 25 นาที. ห่อชามไว้ด้วยผ้า โดยใช้แรปพลาสติกเป็นกรณีสุดท้ายเท่านั้น คราวนี้ก็ต้องให้เวลาพอที่แป้งโดว์จะรวมตัวกัน ถ้าเกิดทิ้งไว้นานเกินไป แป้งโดว์อาจเสียความชุ่มชื้นไปได้ มีคนบางคนกล่าวไว้ว่าควรจะต้องทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีหรือมากกว่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เริ่มด้วยเวลาที่ต่ำกว่าแล้วค่อยเพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้แป้งจาปาตีที่ต้องการจะดีกว่านะ
- มีทางเลือกอีกทางหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะลองทามือตัวเองด้วยน้ำมันหรือเนยใสแล้วนวดแป้งโดว์ต่ออีกสัก 5 นาที จะทำให้แป้งนุ่มเนียนขึ้นด้วยล่ะ
-
แบ่งแป้งโดว์เป็นก้อนเล็กๆ 10-12 ก้อน แล้วจุ่มลงไปในแป้ง. เส้นผ่าศูนย์กลางของก้อนแป้งแต่ละก้อนควรอยู่ที่ประมาณ 3 นิ้ว (7.5 เซนติเมตร) แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้มันเท่ากันทุกก้อนหรอก คุณควรใช้มือหรือไม้นวดแป้งในการแผ่ก้อนแป้งแต่ละก้อนเบาๆ แล้วจุ่มลงในผงแป้งทั้งสองด้าน เพื่อผลที่ออกมาดีที่สุด ให้เก็บก้อนแป้งที่เหลือไว้ในผ้าระหว่างที่กำลังนำก้อนแป้งชิ้นอื่นไปคลุกแป้งอยู่ ถ้าเกิดนำออกมาจากผ้าหมดในรวดเดียว จะทำให้ก้อนแป้งเสียความชุ่มชื้นไปได้
-
นวดแป้งโดว์ให้แผ่ด้วยไม้นวดแป้ง จนกว่าก้อนแป้งจะบางและกลมคล้ายแพนเค้ก. ตอนที่นวดไปครั้งแรก อย่าเพิ่งคิดว่ามันจะออกมากลมสวยงาม มันยังใช้ได้ ยังมีรสชาติที่ดีอยู่ และคุณจะเรียนรู้มันเพื่อทักษะที่สมบูรณ์แบบนี้นั่นเอง การนวดแป้งอย่างสม่ำเสมอจะทำให้จาปาตีพองตัวขึ้นมา
-
อุ่นกระทะ กระทะตาวา (กระทะโค้งแบนเล็กน้อยเหมือนที่ทำโรตี) หรือเตากริดเดิ้ล (เตาสำหรับปิ้ง) ด้วยไฟกลาง และทอดจาปาตีทั้งสองด้าน. วางแป้งจาปาตีลงในกระทะ แล้วทอดจนกว่ามันจะเกือบสุก จากนั้นก็กลับด้านและเพิ่มไฟขึ้นอีกเล็กน้อย เมื่อกลับด้านจาปาตีแล้ว อากาศก็จะเข้าไปในตัวแป้ง ควรทอดมันต่อไปจนกว่าปุ่มพองจะขึ้นมาทั้งสองด้านของแผ่นขนมปัง และควรหมุนกลับจาปาตีทุกๆ 2-3 วินาทีเพื่อให้แน่ใจว่าแป้งสุกเท่าๆ กันทุกด้านแล้ว
- อย่างที่เห็นว่าแป้งจาปาตีจะมีอากาศเข้าไปด้วย จะกดปุ่มพองเหล่านั้นเบาๆ เพื่อให้อากาศผ่านไปทั่วแผ่นแป้งก็ได้ ปุ่มเหล่านั้นจะทำให้จาปาตีนุ่มขึ้นและดูดีขึ้น เมื่อจาปาตีพองตัวเต็มที่แล้วก็นำออกมาจากกระทะได้เลย
- บางคนก็กล่าวไว้ว่า เมื่อกำลังจะทอดด้านที่สองของแป้งจาปาตีแล้ว ก็ควรทอดด้วยไฟจากเตาแก๊สโดยตรง โดยใช้ที่หนีบกลับด้านไปหา ถ้าต้องการจะทำวิธีนี้ ต้องดูให้แน่ใจว่าเตาแก๊สของคุณสะอาดมากๆ และต้องระมัดระวังในระหว่างที่ทอดด้วย
-
นำจาปาตีออกมาจากกระทะ และใช้กระดาษห่อเอาไว้จนกว่าจะนำไปเสิร์ฟ. หรือจะวางแผ่นแป้งจาปาตีไว้ในภาชนะที่ปูด้วยกระดาษก็ได้ ต้องให้แน่ใจนะว่าห่อแผ่นแป้งจาปาตีหลังจากที่นำขึ้นมาแล้วทันที เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาดูดีที่สุด
-
เสิร์ฟ. ขอให้อร่อยกับจาปาตีรสเลิศเคียงคู่แกงกะหรี่หรือแตงกวาดอง หรือจะเอาแป้งไว้ห่อก็ย่อมได้ คุณสามารถทาเนยใสลงบนจาปาตีเพื่อรสชาติที่นุ่มลึกกว่าเดิมได้อีกด้วย และสามารถกินจาปาตีในลักษณะของอาหารอินเดียอันเป็นแก่นดั้งเดิมได้เช่นกันโฆษณา
เคล็ดลับ
- ต้องห่อแป้งโดว์เอาไว้ตลอดในตอนที่พักแป้ง
- เพื่อให้จาปาตีเป็นอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นและมีความนุ่มขึ้น ให้ใช้นมอุ่นๆ ครึ่งถ้วยกับน้ำอุ่นครึ่งถ้วยแทนการใช้น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- ห้ามใช้เนยใสจากมาการีนมากเกินไป
- จาปาตีนั้น ควรที่จะ พองตัวขึ้นเมื่ออยู่บนกระทะ
- น้ำตาลสักหยิบมือจะช่วยเพิ่มรสชาติของจาปาตี และลดอาการกระหายน้ำที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากกินมันเข้าไปแล้ว
- ตรวจสอบปริมาณเกลือในแป้งโดว์โดยการชิมสักชิ้นเล็กๆ
- ใส่นมเปรี้ยวลงไปในขณะทำแป้งโดว์ จะทำให้จาปาตีนุ่มขึ้น
- จะใช้มาการีนแทนเนยใสก็ได้ ถ้าคุณชอบ
- ถ้าไม่สามารถหาแป้งทำจาปาตีได้ จะใช้แป้งสาลี 5 ถ้วยกับแป้งอเนกประสงค์ 3 ถ้วยแทนก็ได้
- สูตรนี้สามารถทำจาปาตีได้ 1-2 แผ่น
- ปกติแล้วจาปาตีจะเสิร์ฟในรูปร่างที่เป็นวงกลมหรือทรงกลม แต่จะลองทำเป็นรูปแบบอื่นๆ ก็ได้นะ!
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,429 ครั้ง
โฆษณา