ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

Buttercream frosting หรือบัตเตอร์ครีมสำหรับแต่งหน้าเค้ก นั้นเป็นท้อปปิ้งเข้มข้นแสนอร่อย ได้รสละลายในปาก แถมเนื้อสัมผัสใช้ง่าย ทำอะไรก็อร่อย ทั้งแต่งหน้า เค้ก วันเกิด คัพเค้ก และแฟรี่เค้ก เป็นต้น บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการทำบัตเตอร์ครีมฟรอสติ้งให้คุณเอง รวมถึงแนะนำไอเดียแต่งเติมรสชาติให้ฟรอสติ้งยิ่งอร่อยน่าสนใจ

ส่วนประกอบ

บัตเตอร์ครีมสูตรดั้งเดิม [1]

  • น้ำตาลทรายละเอียดผสมแป้ง (ไอซิ่ง) 3 ถ้วยตวง (ประมาณ 380 กรัม)
  • เนยจืด 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 230 กรัม)
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (ถ้ามี)
  • วิปปิ้งครีม นมสด หรือนมสดไขมันสูงที่เอาไว้เติมกาแฟ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 หยิบมือ (ไม่จำเป็น)

ไอซิ่งบัตเตอร์ครีมช็อคโกแลต [2]

  • เนยจืด 2 ถ้วยตวง (450 กรัม)
  • ช็อคโกแลต semisweet 12 ออนซ์ (350 กรัม) ละลายและทิ้งไว้จนเย็นตัวแล้ว
  • นมสด 3 ช้อนโต๊ะ
  • กลิ่นวานิลลา 1 ½ ช้อนชา
  • น้ำตาลไอซิ่ง 5 ถ้วยตวง (ประมาณ 630 กรัม)

บัตเตอร์ครีมเมอแรงก์ [3]

  • ไข่ขาว ½ ถ้วยตวง (ประมาณ 4 ฟองใหญ่ๆ)
  • น้ำตาลทรายละเอียด 1 ¼ ถ้วยตวง (280 กรัม)
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • เนยจืด 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 230 กรัม)
  • เกลือ 1 หยิบมือ (ไม่จำเป็น)
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

บัตเตอร์ครีมสูตรดั้งเดิม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตัดเนยที่นิ่มลงแล้วเป็นลูกเต๋า แล้วเอาใส่ชาม. ถ้าหั่นเนยก้อนเล็กหน่อย จะผสมง่ายกว่า
  2. ตีเนยด้วยความเร็วช้าสุด 5 นาทีขึ้นไป จนบางเบาขึ้นฟู สีจะอ่อนลงเยอะ (เกือบขาว) แต่ขนาดใหญ่ขึ้นเท่าตัว. คุณจะใช้ตะกร้อมือ เครื่องผสมอาหารไฟฟ้า หรือเครื่องเตรียมอาหาร แล้วเสียบหัวตะกร้อเข้าไปแทนก็ได้
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Mathew Rice

    นักทำขนมปังมืออาชีพและผู้ทรงอิทธิพลในวงการของหวาน
    แมทธิว ไรซ์ทำของหวานในภัตตาคารทั่วอเมริกามาตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1990 ผลงานของเขาเคยตีพิมพ์ในนิตยสาร Food & Wine, Bon Appetit, และ Martha Stewart Weddings ในปี 2016 เหล่านักกินเลือกแมทธิวเป็นหนึ่งในยอดเชฟ 18 คนที่สมควรติดตามอินสตาแกรม
    Mathew Rice
    นักทำขนมปังมืออาชีพและผู้ทรงอิทธิพลในวงการของหวาน

    ถ้าอยากได้ไอซิ่งเนียนๆ:

    Mathew Rice เชฟขนมอบ แนะนำว่า "ให้เริ่มจากไขมันอุณภูมิห้องเสมอ ไม่ว่าคุณจะใช้เนยธรรมดา เนยขาว (shortening) หรือผสมทั้ง 2 อย่างเข้าด้วยกัน ปกติเทคนิคผมคือตีไขมันที่ไม่ผสมอย่างอื่นในเครื่องผสมอาหารนานๆ จนบางเบา"

  3. เดี๋ยวเราค่อยเติมน้ำตาลที่เหลือทีหลัง ถ้าค่อยๆ ผสมน้ำตาลไปทีละนิด จะป้องกันไม่ให้ตีผสมแล้วน้ำตาลกระจายเต็มไปหมด
  4. เติมครีมหรือนม 1 ช้อนชาแล้ว ฟรอสติ้งจะแข็งขึ้น เหมาะสำหรับเค้กแบบที่อยากได้ฟรอสติ้งตั้งยอด แต่ถ้าชอบบัตเตอร์ครีมเหลวหน่อย 'ปาดง่าย' ก็ปรับเป็น 2 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 30 มล.) ได้ ถ้ายังไม่แน่ใจว่าควรเติมนมหรือครีมเท่าไหร่ ก็ใส่ 1/2 ช้อนชาไปก่อน จะเปลี่ยนกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชาเป็นกลิ่นอื่นที่ชอบก็ได้ ถ้าอยากได้ไอเดียเพิ่มเติมให้คลิป ตรงนี้ ถ้าอยากได้บัตเตอร์ครีมเบาๆ ให้ใช้นมแทนวิปปิ้งครีม
    • ถ้าอยากให้บัตเตอร์ครีมหวานน้อยลง ให้เติมเกลือ 1 หยิบมือ
  5. จะเป็นบัตเตอร์ครีมธรรมดา หรือแต่งสีด้วยสีผสมอาหารสัก 2 - 3 หยด หรือสีเจลสำหรับแต่งสีไอซิ่งก็ได้ แต่บางวัตถุดิบก็ทำให้รสของบัตเตอร์ครีมเปลี่ยนไปได้ เช่น ผงโกโก้ แถมทำให้ไอซิ่งสีเข้มขึ้น แต่งสีอะไรไปก็ไม่ขึ้น
  6. เติมน้ำตาลที่เหลือลงไป แล้วตีไอซิ่งอีกรอบแบบเร็วๆ. จะได้ฟรอสติ้งที่ฟูนุ่มบางเบา แนะนำให้ตีไปประมาณ 2 - 3 นาที
    • ถ้าครีมข้นไป ให้เติมครีม นม หรือนมไขมันสูงสำหรับใส่กาแฟลงไป เริ่มจาก 1 ช้อนโต๊ะ ตีผสม แล้วใส่เพิ่มถ้าจำเป็น [4]
    • ถ้าครีมเหลวไป ให้เพิ่มน้ำตาลไอซิ่ง
  7. ถึงตอนนี้ คุณก็เอาบัตเตอร์ครีมไปแต่งหน้าเค้ก หรือ คัพเค้ก ได้เลย แต่ถ้าอยากเก็บ ให้ใส่ถุงซิปล็อคหรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดไว้ จนกว่าจะถึงเวลาใช้งาน
    • บัตเตอร์ครีมจะสดใหม่พร้อมใช้ได้นานถึง 2 อาทิตย์ถ้าแช่ตู้เย็น [5]
    • เค้กกับคัพเค้กที่แต่งหน้าด้วยบัตเตอร์ครีม จะอยู่ได้นานประมาณ 3 วัน [6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ไอซิ่งบัตเตอร์ครีมช็อคโกแลต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำ double-boiler ซ้อนชามน้ำร้อน แล้วตุ๋นด้วยความร้อนปานกลาง. เติมน้ำใส่หม้อ แล้ววางชามใบใหญ่ด้านบน อย่าให้ก้นชามแตะน้ำ เปิดเตารอไว้จนเริ่มตุ๋นได้
  2. ปาดช็อคโกแลตกระจายที่ก้นชาม แล้วคนบ่อยๆ ด้วยไม้พาย ไม่ให้ไหม้
  3. เอาช็อคโกแลตที่ละลายแล้วออกจาก double-boiler ไปพักไว้. ต้องทิ้งไว้ให้ช็อคโกแลตเย็นตัวก่อน ถึงค่อยใส่บัตเตอร์ครีม ไม่งั้นเนยจะละลาย
  4. จะใช้เครื่องตี ตะกร้อมือ หรือเครื่องผสมอาหารก็ได้ ปกติใช้เวลาประมาณ 2 - 3 นาทีเนยถึงจะได้เนื้อสัมผัสที่ใช่
  5. ถ้าตอนแรกตีผสมด้วยความเร็วสูง ตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนไปตีแบบช้าๆ ใส่ช็อคโกแลตแล้วตีผสมเพิ่ม บางทีก็ต้องใช้ไม้พายถึงจะตักช็อคโกแลตได้หมดชาม
  6. ใส่ส่วนผสมที่เหลือ แล้วตีผสมด้วยความเร็วปานกลาง. ทำไปเรื่อยๆ จนบัตเตอร์ครีมเนียนเสมอกัน ไม่มีก้อนหรือริ้ว
    • ถ้าไม่ชอบกลิ่นวานิลลา ให้ลองเปลี่ยนเป็นเอสเพรสโซ หรือกาแฟชงเข้มๆ แทน
  7. ถึงตอนนี้ คุณก็เอาบัตเตอร์ครีมไปแต่งหน้าเค้ก หรือ คัพเค้ก ได้เลย แต่ถ้าอยากเก็บ ให้ใส่ถุงซิปล็อคหรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด แช่ตู้เย็นไว้ได้ 2 - 3 อาทิตย์
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

บัตเตอร์ครีมเมอแรงก์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หั่นเนยเป็นลูกเต๋าเล็กๆ แล้วผสมตามสูตรภายหลังได้ง่าย เข้าเป็นเนื้อเดียวกับวัตถุดิบอื่นอย่างรวดเร็ว
  2. เอาชามทนความร้อนซ้อนบนหม้อใส่น้ำอีกที อย่าให้ก้นชามแตะผิวน้ำ จากนั้นยกหม้อขึ้นตั้งไฟกลาง
  3. ถ้าไม่รู้ว่าน้ำตาลละลายหมดหรือยัง ให้ขยี้ส่วนผสมด้วยนิ้ว ถ้ายังมีเม็ดสากๆ แสดงว่าน้ำตาลยังละลายไม่หมด [7]
  4. เพื่อฆ่าเชื้อไข่ขาว ไม่ให้มีแบคทีเรียอันเป็นต้นเหตุของ salmonella อย่าลืมใช้เทอร์โมมิเตอร์ดิจิตอลด้วย
  5. เอาส่วนผสมออกจาก double-boiler แล้วคนผสมต่อจนไข่ขาวแข็งตัว. ถึงตอนนี้ ก็ใช้เครื่องตีไข่หรือเครื่องผสมอาหารได้เลย อย่าลืมต่อหัวตะกร้อ แล้วใช้ความเร็วปานกลางสัก 10 นาที ไข่ขาวจะฟู ตั้งยอดแข็ง [8]
  6. ลดความเร็วเหลือช้าปานกลาง จากนั้นเติมวานิลลากับเนย ถ้าไม่ชอบวานิลลา จะเปลี่ยนเป็นกลิ่นอื่น 1 ช้อนชาก็ได้ เช่น อัลมอนด์ ให้คลิก ตรงนี้ เพื่อดูตัวเลือกเพิ่มเติม
    • ถ้าอยากได้บัตเตอร์ครีมหวานน้อยหน่อย ให้เติมเกลือสักหยิบมือ
  7. พอได้บัตเตอร์ครีมเนียนๆ แล้ว ก็ใช้ปาดแต่งหน้าเค้ก หรือ คัพเค้ก ได้เลย แต่ถ้าอยากเก็บ ให้ใส่ถุงซิปล็อคหรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดไว้ อยู่ได้นาน 2 อาทิตย์
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

บัตเตอร์ครีมแบบอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้กลิ่นสังเคราะห์หรือน้ำมันแต่งรสให้บัตเตอร์ครีมมีรสชาติ. ถ้าไม่อยากได้บัตเตอร์ครีมธรรมดา ก็แต่งรสให้แปลกใหม่ โดยใช้กลิ่นสังเคราะห์ น้ำมันแต่งรส หรือนมสด แต่น้ำมันแต่งรสจะเข้มข้นกว่ากลิ่นสังเคราะห์ เพราะงั้นไม่ต้องใส่มาก [9] ต่อไปนี้คือวัตถุดิบแนะนำ
    • กลิ่นสังเคราะห์ 1 ช้อนชา เช่น กลิ่นอัลมอนด์ เลมอน เปปเปอร์มินต์ และวานิลลา
    • น้ำมันแต่งรส 2 - 3 หยด เช่น บัตเตอร์สก็อตช์ เลมอน ส้ม และราสเบอร์รี่
  2. ใส่เครื่องเทศบด กาแฟสำเร็จรูป หรือผงโกโก้เล็กน้อย เพื่อให้ได้รสพิเศษ. แค่ผสมวัตถุดิบที่ว่าลงในน้ำตาลไอซิ่งแล้วผสมให้เข้ากัน ที่แนะนำก็เช่น [10]
    • เครื่องเทศ 1 - 2 ช้อนชา เช่น พายแอปเปิ้ล ซินนามอน พายฟักทอง พวกนี้จะทำให้ได้บัตเตอร์ครีมกลิ่นแปลกใหม่ เหมาะสำหรับช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือคริสต์มาส
    • กาแฟสำเร็จรูป 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ จะได้บัตเตอร์ครีมรสกาแฟ หรือจะผสมผงโกโก้ 1 หยิบมือด้วย จะได้บัตเตอร์ครีมรสมอคค่า
    • เปลี่ยนน้ำตาล ½ ถ้วยตวง (50 กรัม) เป็นผงโกโก้ จะได้บัตเตอร์ครีมรสช็อคโกแลต
  3. แทนที่จะใช้วิปปิ้งครีม นม หรือนมไขมันสูง หรือใช้ของเหลวอื่นปริมาณ 1 - 2 ช้อนโต๊ะแทน เช่น น้ำผลไม้ และวัตถุดิบต่อไปนี้
    • น้ำส้ม
    • น้ำมะนาว (เลมอน)
    • กาแฟชงเข้มๆ
    • แอลกอฮอล์ อย่าง Bailey's, Kahlua, บรั่นดี หรือรัม
  4. ใช้น้ำมะนาวหรือน้ำส้ม 1 - 2 ช้อนโต๊ะแทนวิปปิ้งครีม นม หรือนมไขมันสูง พอทำบัตเตอร์ครีมเสร็จแล้ว ให้คนผสมผิวส้มหรือผิวเลมอนลงไป ½ ช้อนชา [11]
  5. เติมแยมรสที่ชอบสัก 1/3 ถ้วยตวง (ประมาณ 100 กรัมกว่าๆ) ในเนย จากนั้นตีจนเนียน ผสมน้ำตาลทรายละเอียด กับวิปปิ้งครีม นมสด หรือนมสดไขมันสูงตามปกติ [12] ใส่แยมแล้ว สีของฟรอสติ้งจะเปลี่ยนไป จะใช้แยมแบบไหนก็ได้ แต่ราสเบอร์รี่หรือสตรอว์เบอร์รี่จะออกมาคุ้นลิ้นกันมากที่สุด
  6. โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าไอซิ่งเจือจางไป ให้เพิ่มน้ำตาล
  • ถ้าไอซิ่งข้นไป ให้เพิ่มครีม นม หรือนมสดไขมันสูงที่เอาไว้เติมกาแฟ
  • ถ้าเอาบัตเตอร์ครีมไปแช่ตู้เย็นไว้แล้วจะใช้ ต้องเอาออกมาพักที่อุณภูมิห้องก่อนจนอ่อนตัว
  • เนยที่ใช้ต้องอุณหภูมิห้อง หรือคือประมาณมากน้อยกว่า 20°C ไม่เกิน 5°C (มากน้อยกว่า 68°F ไม่เกิน 9°F หรือมากน้อยกว่า 293 เคลวิน ไม่เกิน 5 เคลวิน)
  • ยิ่งฟรอสติ้งอ่อนตัว ก็ยิ่งปาดหน้าเค้กง่าย
  • ถ้าอยากให้ไอซิ่งหวานน้อยลง ให้เติมเกลือเข้าไปสักหยิบมือ
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ชามผสม
  • เครื่องผสมอาหาร
  1. Better Homes and Gardens, How to Make Frosting
  2. Better Homes and Gardens, How to Make Frosting
  3. Better Homes and Gardens, How to Make Frosting

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 30,158 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา