ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่มีสิ่งใดจะทำให้คุณมีความมั่นใจได้มากเท่ากับการมีผิวพรรณสดใสเปล่งประกาย การมีผิวดีจะช่วยให้คุณดูเด็กลง และรู้สึกถึงสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไรหรือมีสภาพร่างกายเช่นไร นอกจากนี้ ยังมีวิธีการดูแลผิวอันหลากหลายให้คุณได้นำไปประทินผิวตนเองอย่างเพลิดเพลิน ดังนั้น มาเริ่มทำให้ผิวพรรณคุณเปล่งปลั่งเลยดีกว่า เพราะคุณนั้น ควรค่าแก่ความงดงามและการได้สัมผัสกับมัน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

กิจวัตรประจำวันในการดูแลผิวหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การขัดผิวจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวตาย สิ่งสกปรก และน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมให้ผิวสำหรับการทำความสะอาด และการทาโทนเนอร์
    • หลังจากขัดผิวแล้ว ใช้คลีนเซอร์ทาลงบนผิว นวดเบาๆ เป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าสัก 2 3 นาที เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก และช่วยกำจัดเครื่องสำอางรวมถึงน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า หรือเซบัม
    • คลีนเซอร์หลายตัวมีส่วนผสมของเม็ดบีดขัดผิว หรือส่วนประกอบอื่นๆ ที่ช่วยให้คุณทำทั้ง 2 อย่างได้ในเวลาเดียวกัน แต่ต้องหลีกเลี่ยงคลีนเซอร์ที่มีส่วนประกอบทำให้ผิวแห้ง เช่น ผสมยาระงับกลิ่นกาย สี หรือน้ำหอม และควรหลีกเลี่ยงคลีนเซอร์ที่ระบุว่า “ต้านแบคทีเรีย” ด้วย
  2. ถูโทนเนอร์ไปทั่วใบหน้า จนไม่เหลือสิ่งสกปรกตกค้าง
  3. ทามอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณภาพ และมีส่วนผสมของน้ำมันตามธรรมชาติอย่าง โรสแมรี่หรืออัลมอนด์. นวดให้เนื้อครีมซึมลงผิวเพื่อให้ชุ่มชื่นและผิวดูมีน้ำมีนวล
    • ใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีค่า SPF อย่างน้อย 15 เพื่อป้องกันการดูแก่กว่าวัย อันเป็นผลจากแสงแดด
    • ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ซึ่งมีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นอย่าง กลีเซอรีน โพรพิลีนไกลคอล หรือยูเรีย สารเหล่านี้จะดึงดูดน้ำเข้าสู่ชั้นผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น
    • เลือกมอยเจอไรเซอร์ที่มีกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHAs) ซึ่งช่วยในการผลัดเซลล์ผิว และส่งผลให้อาการผิวแห้ง สิว ริ้วรอย และตีนกาลดลง
    • เปลี่ยนมอยส์เจอไรเซอร์ไปตามฤดูกาล ในช่วงฤดูร้อนต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนกว่าผลิตภัณฑ์สำหรับฤดูหนาว ในฤดูหนาวควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เข้มข้นและแรงขึ้น
  4. หากคุณใช้คลีนเซอร์ยี่ห้อใด ก็จงใช้โทนเนอร์และมอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อเดียวกันด้วย การใช้ยี่ห้อเดียวกันหมดเช่นนี้ จะดีต่อผิวคุณมากกว่า เพราะผลิตภัณฑ์บางตัวที่ต่างยี่ห้อกัน อาจไม่ส่งเสริมกัน
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

การดูแลผิวในส่วนอื่นของร่างกาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แน่นอนว่า มันทำให้คุณรู้สึกดี แต่มันก็จะล้างความชุ่มชื้นออกไปจากผิวคุณด้วย โดยเฉพาะในหน้าหนาว คุณต้องจำกัดการอาบน้ำให้เหลือเพียง 10 นาที และปรับอุณหภูมิให้อุ่นลงมาด้วย
  2. ใช้ครีมทำความสะอาดผิวหน้าทาบริเวณคอและหน้าอก. บริเวณเหล่านี้มักเกิดริ้วรอย อาการแห้งแตก และสัญญาณบ่งบอกความสูงอายุ ได้ง่ายเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นบนใบหน้า หลังจากทำความสะอาดบริเวณเหล่านี้ด้วยครีมดังกล่าวแล้ว ให้ทามอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวหน้าด้วย คุณยังสามารถใช้ครีมพอกหน้ากับบริเวณเหล่านี้ก็ได้ ประมาณเดือนละครั้ง
  3. หลีกเลี่ยงสบู่ที่ผสมยาระงับกลิ่นกายแบบรุนแรง. คุณควรเลือกใช้สบู่ที่ผสมไขมันเสริม เช่น ยี่ห้อ Dove, Neutrogena หรือ Oilatum ไขมันอ่อนๆ นี้จะช่วยคงความชุ่มชื้นเอาไว้เคลือบผิวหลังจากที่คุณอาบน้ำเสร็จ
  4. ทามอยเจอร์ไรเซอร์ครีมแบบเข้มข้นหรือขี้ผึ้ง บริเวณมือและเท้าในเวลากลางคืน. จากนั้น สวมถุงมือผ้าบางๆ และสวมถุงเท้าให้กับเท้าของคุณ เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นซึมซับลงทั้งมือและเท้าของคุณ
  5. ใยบวบจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวตายและช่วยป้องกันอาการอักเสบที่เกิดจากขนคุด หากต้องการให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น คุณอาจใช้คลีนเซอร์ที่มีกรดเอเอชเอ พรมลงไปบนใยบวบก่อนใช้
  6. โรยแป้งลงบนร่างกายบริเวณที่ผิวของคุณกระทบกัน. ใต้ราวนม ใต้รักแร้ และบริเวณต้นขาด้านใน ล้วนเป็นบริเวณที่ควรลอยแป้ง แป้งจะช่วยป้องกันผิวลุ่ย การเติบโตของแบคทีเรีย และผื่นคัน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

การปรับเปลี่ยนโภชนาการและอาหารเสริม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กินซีเรียลกับนมถั่วเหลืองหรือซอยไอโซฟลาโวน (Soy Isoflavone). หากคุณต้องการกินอาหารเสริม ก็เลือกบริโภคแบบ 160 มิลลิกรัมต่อวัน โปรตีนจากถั่วเหลืองมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างคอลลาเจน และปกป้องคอลลาเจนจากอนุมูลอิสระ
  2. อาหารเสริมเหล่านี้อุดมด้วยวิตามินซีและจะทำให้ผิวของคุณดูอ่อนวัยอยู่เสมอ
  3. เลือกวิตามินที่มีส่วนผสมเต็ม 100% ของปริมาณโภชนาการที่แนะนำในแต่ละวันสำหรับวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินบีประเภทต่างๆ นอกจากนี้ ควรกินอาหารที่อุดมด้วยวิตามินดังกล่าวด้วย:
    • วิตามินเอ แครอท มันหวาน ผักโขม และธัญพืชไม่ขัดสี
    • วิตามินซี พรืกหยวก พริกแดง ส้ม บล็อกโคลี่ สตอเบอรี่ และกีวี่
    • วิตามินบี เนื้อสัตว์ที่มีลีนโปรตีน เนื้อปลา โฮลเกรน และถั่วเหลือง [1]
  4. กระเทียมมีคุณประโยชน์สำหรับผิวหลายประการ เซลล์ผิวของคุณจะมีอายุยาวนานขึ้นและดูอ่อนกว่าวัย มันยังอาจช่วยป้องกันการเติบโตของเซลล์ผิวที่อาจพัฒนาเป็นมะเร็งด้วย
  5. ปลาที่เต็มไปด้วยไขมัน เช่น ปลาแซลมอนและปลาแมคเคอเรล เป็นแหล่งของโอเมก้า 3 ที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงน้ำมันมะกอกและผลวอลนัตด้วย
  6. น้ำชาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอนุมูลที่ทำร้ายผิว ผลการศึกษาพบว่า คนที่ดื่มชา มีโอกาสเสี่ยงน้อยลงต่อโรคมะเร็งผิวหนัง
  7. ดื่มน้ำแปดแก้ว (แก้วขนาด 8 ออนซ์หรือ 235 มิลลิลิตร) ต่อวัน. น้ำจะช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื่นและจะล้างสารพิษออกจากร่างกาย
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

วิธีรักษาเองที่บ้าน ซึ่งยังไม่ผ่านการรับรอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ชโลมน้ำมันมะกอกลงบริเวณผิวที่แห้ง รวมถึงใบหน้า แขนด้านหลัง ข้อศอก และหัวเข่าของคุณด้วย.
    • ใช้วิทช์ฮาเซล เปปเปอร์มินท์ และใบเสจ เป็นโทนเนอร์สำหรับผิวหน้า ผสมวิทช์ฮาเซล 120 มล. และเปปเปอร์มิ้นหั่นกับใบเสจ อย่างละ 1 ช้อนชา เก็บส่วนผสมเอาไว้เป็นเวลา 3 วัน นำมาทาบนผิวหน้าหลังจากทาคลีนเซอร์
    • ต้มน้ำ 1 ถ้วย และเติมเปปเปอร์มินท์ ฮิสสอป ยาร์โลว์ หรือใบเสจ
  2. ลองเติมส่วนประกอบเหล่านี้ลงไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งคัน:
    • นมผง 1 ถ้วย ผสมกับน้ำมันเมล็ดองุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำมันงา จมูกข้าวสาลี และน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ ในสัดส่วนเท่าๆ กัน
    • ข้าวโอ๊ตดิบ 1 ถ้วย ใส่ลงไปในถุงเท้าไนลอนหรือถุงผ้ามัสลินและผูกไว้
    • ถุงชารสโปรดของคุณ
    • ดีเกลือ 2 ถ้วย (จุ่มลงไปในเครือและถุงบริเวณที่ผิวหยาบกระด้าง)
    • เบกกิ้งโซดา 1 ปอนด์หรือ 455 กรัม และเกลือทะเล ครึ่งปอนด์ หรือ 225 กรัม
  3. เอาผ้าห่อน้ำแข็งและประคบบริเวณที่ผิวแห้งคัน. น้ำแข็งจะดึงดูดเลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณดังกล่าว เพื่อให้การไหลเวียนดีขึ้นและเกิดความชุ่มชื้น แต่ต้องมั่นใจว่าผิวของคุณจะไม่ชาหรือเย็นเกินไป
  4. คุณจะซื้อเจลว่านหางจระเข้สําเร็จรูป หรือจะตัดใบของมันมาจากต้นเองเลยก็ได้ และใช้เนื้อว่านทาลงบนผิวของคุณ
  5. ขัดทำความสะอาดผิวของคุณตอนอาบน้ำ จากนั้น หั่นเกรปฟรุตครึ่งผล จุ่มศอกของคุณลงไปข้างละครึ่งลูก และทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที กรดจากเกรปฟรุตจะช่วยให้ผิวเรียบขึ้น
    • บดข้าวโอ๊ตดิบในเครื่องบดอาหารหรือเครื่องบดกาแฟ จนกว่าจะได้ข้าวโอ๊ตเละๆ มาเต็มครึ่งถ้วย
    • เติมเมล็ดดอกทานตะวัน 1 ใน 3 ถ้วย ใบเปปเปอร์มินท์ครึ่งช้อนชา และเมล็ดอัลมอนด์ 4 ช้อนโต๊ะ ผสมให้ทั่วกัน
    • ผสมข้าวโอ๊ตที่คลุกเคล้าเตรียมไว้ 2 ช้อนชา กับเนื้อครีมเข้มข้นเล็กน้อย จนกว่าจะออกมามีเนื้อครีมเหมือนสครับขัดผิวหน้า จากนั้น นำไปขัดผิวหน้า ลำคอ และหน้าอก และล้างออกให้หมด
  6. เติมน้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น 1 ช้อนชา ลงในขวดโทนเนอร์. น้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่นจะช่วยต้านริ้วรอยแห่งวัย ด้วยการช่วยให้เซลล์ผิวของคุณฟื้นฟูตัวเอง
  7. ผสมน้ำมันสกัดจากไม้จันทน์ กุหลาบ หรือมะกรูด และน้ำเปล่า ลงในชวดสเปรย์เล็กๆ หลับตาและฉีดสเปรย์ลงบนผิวหน้าหรือบริเวณที่คุณรู้สึกว่ามันแห้ง
  8. ลองไอเดียบางอย่าง ดังต่อไปนี้:
    • กวนโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมันงาสองสามหยด นำมาทาบนใบหน้า ลำคอ และหน้าอกช่วงบนของคุณ ทิ้งไว้ 15 นาที
    • บดกล้วยและนำมาผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย ทาผิวไว้ 15 นาที
    • ผสมอโวคาโดบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ วิปครีม หนึ่งส่วนสี่ถ้วย น้ำมันมะกอกครึ่งช้อนชา และสารสกัดดอกดาวเรือง 1 ช้อนชา ทาทิ้งไว้บนใบหน้า 15 นาที ก่อนล้างออก
    • ปอกเปลือกมะม่วงสุกและนำเนื้อมาบด นำมาทาหน้าสัก 2-3 นาที เพื่อทำความสะอาดและกระชับรูขุมขน จากนั้นค่อยล้างออก
    • ต้มน้ำในกระทะแบน หย่อนแอปเปิ้ลลงไป รอจนกว่ามันจะอ่อนนุ่มลง และนำขึ้นมาบด ผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา และใบเป็ปเปอร์มิ้นท์ 1 ช้อนชา ทาส่วนผสมที่ได้ลงบนหน้าประมาณ 5 นาที ก่อนล้างออก
    • ตีไข่ อย่าใช้อุปกรณ์ตีจนมันแตกฟอง ปล่อยให้มันอยู่ในสภาพเดิม นำมาชโลมบนหน้าคุณ และรอจนกว่ามันจะแห้งหรือแข็งตัวขึ้น หากคุณเป็นคนผิวมัน ก็ใช้เฉพาะไข่ขาว [2]
  9. ทั้งบริเวณแขน ขา และหน้าท้อง และทาหลังการอาบน้ำทุกครั้งด้วย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การออกกำลังกายก็มีส่วนช่วยเหมือนกัน รวมถึงการนวดน้ำมันเดือนละ 2 ครั้ง
  • ส่วนผสมระหว่างนมระดับหนึ่ง น้ำผึ้งหนึ่งช้อนชา และน้ำมะนาว สามารถนำมาพอกหน้าได้อย่างวิเศษ พอกลงบนผิวหน้าคุณ ประมาณ 30 นาที
  • นอนหลับให้เพียงพอ หากจำเป็น คุณอาจแขวนม่านบังแดดหรือแสงจากภายนอก แบบมืดๆ ด้วย ร่างกายจะทำการฟื้นฟูผิวในระหว่างการนอนหลับ ดังนั้นอย่าละเลยเรื่องการนอนหลับ
  • คุณควรพยายามดื่มน้ำให้มากๆ พยายามคิดว่า น้ำจะช่วยชะล้างน้ำมันส่วนเกิน แทนที่น้ำมันเหล่านั้นจะไปอยู่บนผิวคุณและทำให้หน้าผากคุณมันวาว
  • ออกกำลังให้เหงื่อท่วม เหงื่อที่ออกระหว่างออกกำลังกายจะช่วยชะล้างสารพิษออกจากผิว และเพิ่มการไหลเวียนซึ่งจะช่วยให้ผิวของคุณสุขภาพดีและเปล่งปลั่ง อย่าลืมทาครีมกันแดดเวลาออกกำลังกายกลางแจ้ง
  • ทาว่านหางจระเข้ตอนกลางคืนทิ้งไว้ และไปล้างออกไปตอนเช้า คุณจะเห็นความแตกต่าง
  • สำหรับถุงใต้ตา คุณอาจใช้ผ้าร้อนหรือหุ่นประคบบริเวณดังกล่าวก่อนนอน เป็นเวลา 1 ชั่วโมงทุกคืน
  • เปิดเครื่องทำความชื้น (ไม่ใช่เครื่องทำไอน้ำ) ทิ้งไว้ในห้องนอนระหว่างช่วงฤดูหนาว คุณจะแปลกใจว่าเครื่องทำความชื้น ช่วยป้องกันผิวคุณจากอาการแห้งแตกได้มากแค่ไหน)
  • กินอาหารที่มีโภชนาการสมดุลและอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นทุกวัน และใช้สบู่แบบมอยเจอร์ไรเซอร์เท่านั้น เช่น โดฟ
  • ดื่มน้ำให้เต็มที่ จะช่วยให้เส้นผมสุขภาพดี กำจัดริ้วรอย และทำให้ผิวสดใสเป็นธรรมชาติ
  • ใช้เบบี้โลชั่นทุกคืนหลังอาบน้ำ ทาบริเวณแขน ขา และหน้าท้อง
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
  • ในช่วงฤดูหนาว ใช้เครื่องทำไอระเหยให้กับผิวของคุณ มันจะช่วยให้ผิวชุ่มชื่น
  • ใช้น้ำมันละหุ่ง เพราะมันมีเนื้อโมเลกุลเข้มข้น ดังนั้น จึงช่วยให้ผิวของคุณเปล่งปลั่งและดูมีชีวิตชีวา
  • วิธีทดสอบความแห้งของผิว ให้ใช้เล็บขูดผิวบนแขนและขาเบาๆ หากมันทิ้งร่องรอยเป็นขุยสีขาวไว้ แสดงว่าผิวแห้งเกินไป
โฆษณา

คำเตือน

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าหรือขยี้ตา เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวพรรณบอบบางติดเชื้อ และหลีกเลี่ยงการทำร้ายผิวบริเวณรอบดวงตา
  • หากต้องการหลีกเลี่ยงผิวเสีย จงงดสูบบุหรี่ อาบแดด หรือไปทางผิวสีแทน และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แค่ครั้งละแก้วก็พอ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะไปขยายเส้นเลือดใต้ผิวหน้า ทำให้ผิวเป็นสีแดงผิดธรรมชาติ
  • อย่าใช้โลชั่นที่ผสมกลิ่นหอมหรือน้ำหอม เวลาที่คุณจะออกไปถูกแสงแดด ไม่ว่าคุณจะใส่เสื้อผ้าสีอะไร มันจะกลายเป็นคราบด่างหากคุณใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นทาผิว
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ผลิตภัณฑ์ขัดผิว
  • คลีนเซอร์
  • โทนเนอร์
  • มอยเจอร์ไรเซอร์
  • สบู่ที่มีส่วนประกอบไขมัน
  • ใยบวบ
  • แป้ง
  • นมถั่วเหลือง หรือซอยไอโซฟลาโวนส์
  • โรสฮิป
  • วิตามินรวม
  • กระเทียม
  • กรดไขมันโอเมก้า 3
  • ชา
  • น้ำ
  • น้ำมันมะกอก
  • วิทช์ฮาเซล
  • ใบเป็ปเปอร์มิ้นท์
  • ใบเสจ
  • ใบฮิสสอป
  • ใบยาร์โรว
  • นมผงและน้ำมันละหุ่ง
  • น้ำมันงา จมูกข้าวสาลี น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์
  • ข้าวโอ๊ตดิบและถุงเท้าไนลอนหนึ่งคู่ และ/หรือถุงมัสลิน
  • ดีเกลือ
  • เบคกิ้งโซดาและเกลือทะเล
  • น้ำแข็ง
  • ผ้าซับ
  • ว่านหางจระเข้
  • เกรปฟรุต
  • เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ ครีมเนื้อข้น
  • น้ำมันหอมกลิ่นกุหลาบ ไม้จันทน์ หรือมะกรูด
  • ขวดสเปรย์
  • โยเกิร์ตธรรมดา
  • กล้วยและน้ำผึ้ง
  • อโวคาโด
  • มะม่วง
  • แอปเปิ้ลและน้ำมะนาว
  • ไข่หรือไข่ขาว

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,616 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา