ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ว่ากันว่าวาฟเฟิลถือกำเนิดเกิดมาตอนอัศวินสวมเกราะบังเอิญนั่งทับแพนเค้ก เลยกลายเป็นขนมลายตาราง หนึ่งในอาหารเช้ายอดนิยมของฝรั่งไปได้ โชคดีที่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปหาอัศวินที่ไหน เพราะมีเตาหรือเครื่องอบวาฟเฟิลขายกันเกร่อ ว่าแล้วก็เลื่อนลงไปอ่านวิธีการทำวาฟเฟิลให้ออกมาเป๊ะเวอร์ แบบกรอบนอกนุ่มในกันดีกว่า
- เตรียมตัว: 10 - 15 นาที
- ลงมือทำ: 2 นาที (ต่อวาฟเฟิล 1 แผ่น)
- รวมแล้ว: 12 - 35 นาที
ส่วนประกอบ
- แป้ง 1 ถ้วยตวง (จะใช้แป้งขนมปังโฮลวีทหรือแป้งบักวีตแทนในปริมาณครึ่งหนึ่งก็ได้)
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ผงฟูหรือเบคกิ้งโซดา 2 ช้อนชา
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ 5 ฟอง แยกไข่แดงไข่ขาว
- นม 1 ½ ถ้วยตวง (ฝรั่งเขาใช้ half & half 1 ถ้วยตวงแทน หรือก็คือนมผสมวิปปิ้งครีม)
- เนยละลายหรือน้ำมันพืช 2 - 5 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ท็อปปิ้ง
- เมเปิ้ลไซรัป
- ผลไม้สดสับเป็นชิ้นเล็กๆ
- ใบมินต์ (สะระแหน่)
- วิปครีม
- น้ำตาลไอซิ่ง
- น้ำตาลทรายแดง
- ซินนามอน (อบเชย)
- ผักทอด
- ชีสขูดฝอย
- เบอร์รี่
ขั้นตอน
-
อุ่นเครื่องอบวาฟเฟิล. เสียบปลั๊กแล้วรอจนเครื่องร้อน หรือปรับไปที่อุณหภูมิที่ต้องการ อันนี้ก็แล้วแต่รุ่นเครื่องที่คุณใช้ แต่ส่วนใหญ่ไฟจะติดตอนที่เครื่องร้อนพร้อมทำ [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
- วิธีทดสอบอุณหภูมิง่ายๆ ก็คือหยดน้ำ 1 - 2 หยดลงในเตาวาฟเฟิล ถ้าน้ำไหม้ดังฉ่าประมาณ 2 - 3 วินาทีแล้วระเหยไป แสดงว่าได้ที่แล้ว แต่ถ้าหยดน้ำอยู่นานกว่านั้น แสดงว่ายังร้อนไม่พอ แต่กลับกัน ถ้าหยดน้ำระเหยเร็วกว่านั้น แสดงว่าเตาร้อนเกินไป [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
-
ผสมส่วนผสมแห้ง. เทแป้ง เกลือ น้ำตาล แล้วก็ผงฟูลงในชามใหญ่ปานกลาง ถ้าอยากให้วาฟเฟิลนุ่มฟูสุดๆ ก็ต้องค่อยๆ ร่อนแต่ละส่วนผสม อย่าเทลงไปรวมกันทีเดียว
-
แยกไข่. ใช้ที่แยกไข่ แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว แล้วเอาไปใส่ถ้วยอีกใบ
- หรือจะแยกไข่แบบง่ายๆ โดยตอกไข่ให้ได้เปลือกไข่ 2 อัน แล้วเทไข่แดงสลับไปมา ให้ไข่ขาวหยดลงในชามที่รองไว้
- ถ้ามีไข่ขาวปนไปในไข่แดงนิดหน่อยไม่เป็นไร แต่ห้ามมีไข่แดงปนไปในไข่ขาวเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไข่ขาวไม่ขึ้นฟู ถึงปนไปหยดเดียวก็ไม่ได้
-
ตีไข่ขาว. ใช้ตะกร้อมือหรือเครื่องผสมอาหารตีไข่ขาวจนขึ้นฟูตั้งยอดอ่อน หนังสือ Joy of Cooking แนะนำไว้ว่าไข่ขาวที่ได้ที่ต้อง "ตั้งยอดแต่ไม่แห้งแข็ง" [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
-
ตีส่วนผสมเหลวที่เหลือ. ตีเนยหรือน้ำมันให้เข้ากับไข่แดงในอีกชาม จากนั้นเติมนมกับวานิลลา แล้วตีต่อจนทุกอย่างเป็นเนื้อเดียว
-
ผสมส่วนผสมแห้งและเหลว. ขุดหลุมตรงกลางส่วนผสมแห้ง แล้วเทไข่แดงที่ผสมแล้วลงไป จากนั้นก็คนให้เข้ากัน ให้ได้ส่วนผสมไม่เหนียวหรือเหลวเกินไป ไม่ต้องผสมนานไป ไม่งั้นวาฟเฟิลจะเหลวเกิน ถึงแป้งวาฟเฟิลไม่เนียน มีจับตัวเป็นก้อนบ้างนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร
-
ผสมไข่ขาว. ค่อยๆ ผสมไข่ขาวลงไปในแป้งวาฟเฟิลจนได้เนื้อแป้งกำลังพอดี ไม่ต้องคนแรงหรือนานไป ค่อยๆ ผสมแบบบนลงล่าง
โฆษณา
-
ทาน้ำมันบนเตา. ใช้แปรงสำหรับทาขนมโดยเฉพาะหรือจะใช้กระดาษซับน้ำมันมาทาเตาวาฟเฟิลทั้งบนและล่างก็ได้ ต้องทำซ้ำทุกครั้งที่จะอบวาฟเฟิลแต่ละแผ่น ไม่งั้นวาฟเฟิลติดเตาแน่ [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
-
ค่อยๆ เทแป้ง. ใช้แป้งวาฟเฟิล 1/2 - 1 ถ้วยตวง หรือกะเอาตามขนาดเครื่องอบวาฟเฟิลของคุณ แต่ถ้าไม่แน่ใจ ก็ให้เทลงไปน้อยกว่าที่คิดหน่อยหนึ่ง เพราะพอแป้งสุกจะฟูขึ้น ให้ใช้ช้อนตักแป้งใส่เตาล่างของเครื่องอบวาฟเฟิล
-
ปิดฝาเครื่องแล้วรอจนสุก. กว่าจะได้ที่ต้องรอประมาณ 2 นาที แต่ถ้าชอบวาฟเฟิลสีเข้มๆ ก็อบนานกว่านั้นหน่อย [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
- ปิดฝาแล้วไม่ต้องเอามือกด ยังไงเขาออกแบบมาให้ฝาปิดพอดีอยู่แล้ว พอสุกเดี๋ยววาฟเฟิลก็ฟูเต็มเครื่องเอง (อาจมีล้นขอบออกมาบ้าง ไม่เป็นไร) [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
- สังเกตว่าไอน้ำจะหายไปหรือน้อยลงตอนวาฟเฟิลเสร็จเรียบร้อย
- สังเกตและฟังเสียงเทอร์โมสตัทควบคุมอุณหภูมิของเครื่องอบวาฟเฟิลว่าติดหรือดับ บางทีถ้าดับ ก็แปลว่าวาฟเฟิลสุกดีแล้ว
- ถ้าวาฟเฟิลสุกดีเครื่องจะเปิดง่ายไม่เหนียวหรือติด แต่ถ้าเปิดยากทั้งๆ ที่ทาน้ำมันดีแล้ว ให้ลองอบเพิ่มอีกสักนาที [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
- ถ้าเป็นไปได้อย่าเปิดฝาระหว่างทำวาฟเฟิล ให้อบทีเดียวไปเลยยาวๆ แต่ถ้าคุณเปิดฝาดูแล้วเห็นวาฟเฟิลยังสีซีดอยู่ ให้ค่อยๆ ปิดฝาแล้วอบต่ออีกนิด
-
เอาวาฟเฟิลออกจากเตา. ใช้ไม้พายนี่แหละค่อยๆ แซะวาฟเฟิลออกจากเครื่อง วาฟเฟิลจะได้ยังอยู่ดีแถมนิ้วคุณก็ไม่พอง ได้แล้วก็เอาวาฟเฟิลวางในจาน จากนั้นก็เทแป้งทำวาฟเฟิลแผ่นต่อไปได้เลย ทำซ้ำเรื่อยๆ จนแป้งที่ผสมไว้หมดชามโฆษณา
-
เสิร์ฟวาฟเฟิลตอนร้อนคู่เนยกับเมเปิ้ลไซรัป. ถ้าไม่มี จะใช้น้ำผึ้งหรืออย่างอื่นก็ได้ แต่บอกเลยว่าไม่มีอะไรสู้เมเปิ้ลไซรัปแท้ๆ ได้
-
เสิร์ฟพร้อมไอซิ่งกับผลไม้. นี่ก็เป็นวาฟเฟิลอีกหน้าที่คนนิยมกัน หวานๆ เปรี้ยวๆ สดชื่นได้ใจ ผลไม้ที่ว่าก็เช่น สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ กล้วย แล้วก็ลูกพีช เป็นต้น
- ถ้าอยากได้น้ำเชื่อมผลไม้ ให้สับผลไม้เป็นชิ้นๆ แล้วผสมน้ำตาล 2 - 3 ช้อนชา กับน้ำครึ่งถ้วยตวงในหม้อเล็กๆ จากนั้นตั้งไฟกลาง คนไปเรื่อยๆ จนเหนียวข้นเหมือนไซรัป เท่านี้ก็เอามาราดหน้าวาฟเฟิลได้เลย
- หรือจะผสมผลไม้ลงไปตอนทำแป้งวาฟเฟิลก็ได้ ให้คนบลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่หั่น กล้วยฝาน หรือผลไม้อื่นๆ ให้เข้ากันกับแป้งวาฟเฟิลก่อนจะตักใส่เครื่องทำวาฟเฟิล
-
ใครๆ ก็ชอบวาฟเฟิลช็อคโกแลต. เสิร์ฟวาฟเฟิลที่ราดด้วยไซรัปช็อคโกแลต แล้วตามด้วยวิปครีม เท่านี้ก็ยังกับไปกินตามร้าน หรือจะผสมเม็ดช็อคโกแลตชิปลงในแป้งวาฟเฟิลเลยก็ได้ แล้วค่อยตักใส่เครื่องอบวาฟเฟิลโฆษณา
-
วาฟเฟิลรสเบคอน. ไม่รู้จะกินวาฟเฟิลหรือเบคอนเป็นอาหารเช้าดีใช่ไหม? จะเลือกไปทำไม ในเมื่อคุณกินพร้อมกันได้ทั้ง 2 อย่างในแผ่นเดียว ที่ต้องมีก็แค่ส่วนผสมแป้งวาฟเฟิลตามปกติ แล้วเพิ่มเบคอนสักห่อ เท่านี้ก็ได้วาฟเฟิลเบคอน แต่นี่ไม่เหมือนพวกวาฟเฟิลแช่แข็งที่เราซื้อมาอุ่นแล้วโรยหน้าด้วยเบคอนนะ ของแบบนี้ต้องทำเองผสมเองถึงจะได้ใจ
-
วาฟเฟิลกล้วยซินนามอน. ผสมซินนามอน (อบเชย) ลงไปหน่อยให้เด็กๆ กินแล้วสดใสตาสว่างยามเช้า ก็กินวาฟเฟิลเดิมๆ ทุกวันมันน่าเบื่อจะตาย แถมสูตรนี้ผสมกล้วยด้วยนะ อร่อยอย่าบอกใคร
-
วาฟเฟิลช็อคโกแลตชิป. ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดทำอาหารหรือแม่ครัว/พ่อครัวสุดเก๋าก็ทำได้ สูตรนี้เหมาะสำหรับคนไม่ชอบวาฟเฟิลสำเร็จรูป ผสมช็อคโกแลตชิปเพิ่มรสชาติและความแปลกใหม่ จะกินเป็นอาหารเช้าหรือของว่างยามบ่ายก็อร่อยไม่แพ้กัน!
-
วาฟเฟิลชูโรส. ชูโรสปกติก็อร่อยอยู่แล้ว พอจับมารวมกับวาฟเฟิลก็คงไม่ต้องอธิบาย นานๆ ทีลองเปลี่ยนบรรยากาศให้คุณและเด็กๆ ในบ้านบ้างก็ดี เพราะวาฟเฟิลสูตรนี้เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี
-
วาฟเฟิลสำเร็จรูป. นึกไม่ออกบอกวาฟเฟิลแช่แข็ง ถ้าทำไม่เป็นจริงๆ ก็ซื้อโลด เดี๋ยวนี้ในซูเปอร์ก็มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ แกะกล่องปุ๊บอบปั๊บก็อร่อยทันใจ!โฆษณา
เคล็ดลับ
- กว่าจะกะถูกว่าต้องใส่แป้งเข้าไปในเครื่องแค่ไหน ใช้ความร้อนประมาณไหน และเมื่อไหร่จะสุก ก็คงต้องลองผิดลองถูกสัก 2 - 3 ครั้ง แต่อย่าเพิ่งเบื่อหรือถอดใจล่ะ ใครๆ ก็ผ่านวาฟเฟิลบูดเบี้ยว ดิบบ้าง ไหม้บ้างมาแล้วทั้งนั้น
- วางเครื่องทำวาฟเฟิลบนเคาน์เตอร์กระเบื้องหรือเขียงเซรามิกไม่ก็แก้ว เพราะใต้เครื่องก็ร้อนได้ วาฟเฟิลอาจล้นจนไหลออกมาเลอะ
- อย่าใช้สเปรย์ทำอาหารแบบฉีดแล้วไม่ติดกระทะ เพราะส่วนใหญ่เตาของเครื่องอบวาฟเฟิลก็เป็นแบบแป้งไม่ติดอยู่แล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวจะไปตีกัน ลองอ่านคู่มือก่อนดีกว่า
- ยกเครื่องมือทำวาฟเฟิลที่โต๊ะอาหารเลย แล้วรีบเสิร์ฟตอนยังร้อนๆ ถ้ายังเสิร์ฟทันทีไม่ได้ให้หาอะไรครอบไว้ก่อน แล้วเอาจานไปใส่ในเตาที่ตั้งไฟต่ำมากๆ หรือเพิ่งอบอะไรเสร็จแล้วปิดเครื่อง
- ถ้าอยากกินวาฟเฟิลแบบทำเอง แต่วิธีทำที่เราบอกดูยุ่งยากเกินไป ให้ใช้แป้งแพนเค้กสำเร็จรูป (pancake mix) กับน้ำมัน 2 - 3 ช้อนโต๊ะ
- ผสมแป้งแล้วต้องทำวาฟเฟิลให้หมดในคราวเดียว อย่าเก็บไว้ แต่ถ้าอบเรียบร้อยแล้วกินเหลือ ให้เก็บวาฟเฟิลในทัพเพอร์แวร์หรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท จากนั้นก็เอาแช่ตู้เย็น พอจะกินก็ค่อยอุ่นในไมโครเวฟหรือเครื่องปิ้งขนมปัง
- จริงๆ จะทำวาฟเฟิลในเครื่องปิ้งขนมปังก็ได้
- ก่อนอบวาฟเฟิลแต่ละแผ่นต้องทาน้ำมันหรือเนยที่เตาก่อนแล้วค่อยเทแป้ง ไม่งั้นติดเตาแน่นอน แต่ถ้าเป็นเครื่องอบวาฟเฟิลแบบ nonstick ก็จะติดน้อยลง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- เครื่องอบวาฟเฟิล
- ถ้วย/ชาม ช้อน มีด และถ้วยตวง
- ส่วนผสมสำหรับทำแป้งวาฟเฟิล
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,052 ครั้ง
โฆษณา
