คุณสามารถอบเค้กโดยใช้ไมโครเวฟแทนเตาอบแก๊สหรือเตาอบไฟฟ้าแบบเดิมได้ โดยจะอบเค้กทั้งก้อนสำหรับงานวันเกิดหรือปาร์ตี้ หรือจะอบเค้กในถ้วยกาแฟเพื่อทานเป็นของหวานหลังมื้อเย็นก็ได้ ในบทความนี้มีทั้งสูตรเค้กช็อกโกแลตสำหรับทานทั้งครอบครัวและสูตรเค้กช็อกโกแลตในถ้วยกาแฟที่ใช้เวลาทำไม่ถึงหนึ่งนาที และยังมีไอเดียการเพิ่มฟรอสติ้งให้ดูน่าทานอีกด้วย
ส่วนประกอบ
- ไข่ 1 ฟอง
- น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
- แป้ง self-rising (แป้งอเนกประสงค์ที่ผสมผงฟู) 3 ช้อนโต๊ะ
- เนยหรือมาร์การีน 1 ช้อนโต๊ะ
- ช็อกโกแลตชิพ 2 ช้อนโต๊ะ
- มาร์การีน ¾ ถ้วย
- น้ำตาล ¾ ถ้วย
- แป้ง self-rising (แป้งอเนกประสงค์ที่ผสมผงฟู) ⅔ ถ้วย
- ผงโกโก้ ⅓ ถ้วย
- นม 3 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ขนาดกลาง 3 ฟอง
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ขั้นตอน
-
เลือกถ้วยกาแฟ. คุณสามารถเลือกใช้แก้วกาแฟแบบใดก็ได้ ถ้วยกาแฟที่กว้างจะทำให้เค้กมีเนื้อนุ่มและชุ่มฉ่ำมากขึ้น ส่วนถ้วยกาแฟที่เล็กและตื้นจะทำให้เค้กมีเนื้อแน่นยิ่งขึ้น
-
ผสมแป้งเค้ก. ใส่น้ำตาลทรายหรือน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา และแป้ง 3 ช้อนโต๊ะ (50 มล.) ลงไปในถ้วยกาแฟ
- คุณสามารถใช้แป้งทั่วไปแทนได้หากไม่มีแป้ง self-rising แต่เค้กที่อบออกมาจะมีเนื้อสัมผัสเหมือนบราวนี่มากกว่า
-
ตอกไข่ลงไป. ข้อดีของการอบเค้กในถ้วยกาแฟคือไม่มีอะไรต้องทำความสะอาดมากนัก เพียงโยนเปลือกไข่ทิ้งลงถังขยะเท่านั้น
-
เติมเนย. นำเนยสดวางตั้งทิ้งไว้ให้นิ่มลง และตักเนย 1 ช้อนโต๊ะใส่ลงไปในถ้วยกาแฟ คุณสามารถเลือกใช้เนยเค็ม เนยจืด หรือมาร์การีนก็ได้
-
เติมช็อกโกแลตชิพ 1-2 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มเติม). การเติมช็อกโกแลตชิพลงไปจะทำให้ได้เค้กรสช็อกโกแลต หากต้องการทำเค้กวานิลลา คุณสามารถเติมกลิ่นวานิลลาเพิ่มลงไป 1 ช้อนโต๊ะแทนได้
-
ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน. ใช้ช้อนคนส่วนผสมทั้งหมดในถ้วยกาแฟให้เข้ากัน โดยคนจนกระทั่งช็อกโกแลตชิพละลายหรือส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ขอบถ้วยกาแฟอาจเลอะเทอะไปบ้างเล็กน้อย แต่สุดท้ายเมื่อนำเข้าไปอบในไมโครเวฟแล้วเค้กก็จะฟูขึ้นมา
-
อบเค้ก. อบเค้กในไมโครเวฟนาน 50 วินาทีด้วยความร้อนสูงสุด หลังผ่านไปแล้ว 50 วินาที ลองเช็คดูว่าเค้กสุกแล้วหรือยังโดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปจนถึงตรงกลาง หากไม้จิ้มฟันสะอาดแสดงว่าเค้กสุกแล้วเรียบร้อย แต่หากมีเนื้อเค้กเหนียวๆ เหลือติดอยู่บนไม้จิ้มฟัน ให้นำเค้กกลับเข้าไปอบในไมโครเวฟเพิ่มอีก 30 วินาทีจนสุก [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ควรระวังอย่าอบนานจนเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อเค้กแห้งเกินไปได้ ไม่ควรอบเค้กนานเกิน 2 นาที
- ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับรูบนเค้กที่เกิดจากไม้จิ้มฟัน คุณจะมองไม่เห็นรูนี้หลังจากแต่งหน้าเค้กเสร็จแล้ว
-
วางทิ้งไว้สักพัก. ไมโครเวฟจะให้ความร้อนไม่สม่ำเสมอต่างจากเตาอบ หลังอบเสร็จแล้ว จึงควรวางเค้กทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์ประมาณ 1-2 นาที เพื่อให้ความร้อนกระจายจนทั่วถ้วยกาแฟ
-
ทานได้เลย!. หยิบช้อนและเริ่มทานได้เลย หรือจะเพิ่มฟรอสติ้งและตกแต่งหน้าเค้กก่อนก็ได้
- นำแก้วกาแฟออกจากไมโครเวฟอย่างระมัดระวัง ควรใช้ถุงมือจับของร้อนหรือผ้าขนหนู เพราะถ้วยกาแฟอาจร้อนเกินไปจนถือไม่ไหว
โฆษณา
-
ผสมแป้งเค้ก. ใส่เนยที่นิ่มแล้วหรือมาร์การีน ¾ ถ้วย น้ำตาล ¾ ถ้วย และแป้ง ⅔ ถ้วยลงไปในชามใบใหญ่ ใช้ช้อนหรือไม้พายซิลิโคนคนให้เข้ากัน
- คุณสามารถใช้แป้งทั่วไปแทนได้หากไม่มีแป้ง self-rising แต่เค้กที่อบออกมาจะมีเนื้อสัมผัสเหมือนบราวนี่มากกว่า
-
เติมส่วนผสมที่เหลือเพิ่มลงไป. เติมนม 3 ช้อนโต๊ะ ไข่ขนาดกลาง 3 ฟอง ผงฟู 1 ช้อนชา และกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชาเพิ่มลงไป
- คุณสามารถเลือกใช้นมครบส่วน นมขาดมันเนย นมพร่องมันเนย หรือนมชนิดอื่นๆ ที่คุณต้องการ
-
เติมรสชาติ. หากต้องการทำเค้กช็อกโกแลต ให้เติมผงโกโก้ ⅓ ถ้วยลงไปผสม และหากต้องการทำเค้กวานิลลา ให้เติมกลิ่นวานิลลาเพิ่มอีก 1 ช้อนชา
-
ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน. ใช้ส้อมหรือเครื่องผสมอาหารผสมส่วนผสมทั้งหมดไปเรื่อยๆ ประมาณ 4-5 นาทีหรือจนกระทั่งเข้ากัน หากมีเครื่องเตรียมอาหาร คุณสามารถใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปในเครื่องเตรียมอาหารและผสมไปเรื่อยๆ ประมาณ 60 วินาทีแทนได้
-
เทแป้งเค้กลงไปในชามสำหรับไมโครเวฟ. ห้ามใช้ถาดโลหะอบในไมโครเวฟโดยเด็ดขาด
- การใช้จานตื้นจะทำให้เค้กออกมาน่าทานยิ่งขึ้น
-
อบเค้ก. อบเค้กในไมโครเวฟนาน 3-4 นาทีด้วยความร้อนสูงสุด เค้กที่อบในไมโครเวฟจะขึ้นฟูเหมือนอบในเตาอบ หากเค้กเริ่มขยายตัว (แต่ยังคงขยับขึ้นลงอยู่) แสดงว่าอบเสร็จเรียบร้อย [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองเช็คดูว่าเค้กสุกแล้วหรือยังโดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปจนถึงตรงกลาง หากไม้จิ้มฟันสะอาดแสดงว่าเค้กสุกแล้วเรียบร้อย แต่หากมีเนื้อเค้กเหนียวๆ เหลือติดอยู่บนไม้จิ้มฟัน ให้นำเค้กกลับเข้าไปอบในไมโครเวฟเพิ่มอีก 1 นาทีจนสุก
- ควรระวังอย่าอบนานจนเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อเค้กแห้งเกินไปได้
-
ทานได้เลย!. หากเสิร์ฟเค้กในขณะที่ยังอุ่นอยู่ เนื้อเค้กจะชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษและอร่อยจนไม่สามารถหยุดทานได้ หรือจะเพิ่มฟรอสติ้งและตกแต่งหน้าเค้กก่อนก็ได้โฆษณา
-
เลือกฟรอสติ้งตามที่ต้องการ. คุณสามารถหาซื้อฟรอสติ้งได้จากร้านค้าหรือจะทำฟรอสติ้งเองก็ได้ คุณอาจทำฟรอสติ้งช็อกโกแลต วานิลลา เลมอน หรือรสอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบ ลองทำฟรอสติ้งดูหลายๆ รสเพื่อหารสชาติโปรดของคุณ
- ปล่อยให้เค้กเย็นลงก่อนเริ่มเพิ่มฟรอสติ้ง ไม่เช่นนั้นฟรอสติ้งอาจละลายได้
- เตรียมฟรอสติ้งให้มากพอ จำไว้ว่ามีฟรอสติ้งเหลือทิ้งยังดีกว่าหมดก่อนแต่งหน้าเค้กเสร็จ
-
เพิ่มฟรอสติ้ง. ควรเพิ่มฟรอสติ้งในอุณหภูมิห้อง ใช้ไม้พายยางหรือช้อนปาดฟรอสติ้งบนหน้าเค้ก
-
แต่งด้วยผลไม้. หั่นสตรอว์เบอร์รี่สดเป็นแผ่นบางๆ และนำไปตกแต่งลงบนฟรอสติ้งโดยจะวางตามแพทเทิร์นหรือวางแบบสุ่มๆ ก็ได้ ใช้แปรงทาแยมทับลงไป [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณสามารถใช้มะม่วง กล้วย หรือผลไม้เนื้อนุ่มอื่นๆ แทนสตรอว์เบอร์รี่ได้
- หากคุณใช้ผลไม้สด ให้แต่งผลไม้ในขั้นตอนสุดท้าย เพราะถ้าหากผลไม้เปียก อาจทำให้ฟรอสติ้งหลุดหรือละลายเล็กน้อย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
แต่งด้วยน้ำตาลแต่งหน้าเค้ก. การแต่งด้วยน้ำตาลแต่งหน้าเค้กจะช่วยเพิ่มสีสันให้กับเค้กของคุณ คุณยังสามารถเติมน้ำตาลแต่งหน้าเค้กลงไปผสมกับแป้งเค้กก่อนอบได้อีกด้วย
-
แต่งด้วยลูกกวาด. โปรยมาร์ชเมลโล่ชิ้นเล็กๆ ลงบนหน้าเค้กเพื่อเพิ่มความหวานเป็นพิเศษ และโรยน้ำตาลไอซิ่งเพิ่มลงไปเล็กน้อย
-
แต่งด้วยช็อกโกแลต. หากต้องการเพิ่มความกรุบกรอบให้เค้กช็อกโกแลตของคุณ ให้นำช็อกโกแลตแท่งที่ชื่นชอบมาบดเป็นชิ้นเล็กๆ และวางลงบนหน้าเค้ก หรือจะโปรยช็อกโกแลตชิพลงไปแทนก็ได้
-
แต่งด้วยมะพร้าวอบแห้ง. คุณสามารถผสมมะพร้าวลงไปในแป้งเค้กหรือจะนำมาตกแต่งก็ได้ มะพร้าวจะดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำตาลแต่งหน้าเค้กหรือลูกกวาด และยังทำให้เค้กดูน่าทานอีกด้วย ปาดฟรอสติ้งเล็กน้อยแล้วจึงตกแต่งด้วยมะพร้าว
- มะพร้าวมีรสชาติที่อ่อน จึงสามารถนำไปตกแต่งหน้าเค้กได้มากมายหลายชนิด ทั้งเค้กที่มีรสอ่อนอย่างวานิลลาและเลมอน หรือเค้กที่มีรสเข้มอย่างช็อกโกแลตหรือแครอท
-
แต่งด้วยถั่ว. คุณสามารถใช้ถั่วตกแต่งเค้กทั้งก้อนตั้งแต่หน้าเค้กจนถึงก้นเค้ก หรือจะโปรยลงบนหน้าเค้กเพียงเล็กน้อยก็ได้
- หากคุณทำเค้กช็อกโกแลต ถั่วพีแคนหวานจะเข้ากันกับเค้กเป็นอย่างดี
โฆษณา
เคล็ดลับ
- การอบเค้กในไมโครเวฟจะไม่ทำให้หน้าเค้กเป็นสีเหลืองเกรียมเหมือนอย่างเตาอบ ดังนั้น หากคุณอบเค้กวานิลลา เค้กที่ออกมาจึงอาจดูซีดเล็กน้อย ให้เติมโกโก้หรือกาแฟชงสด 2 ช้อนโต๊ะเพิ่มลงไปเพื่อให้เค้กดูน่าทานมากขึ้น [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เมื่ออบเค้กในไมโครเวฟเสร็จแล้ว ให้วางทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาทีเสมอ เพื่อให้ความร้อนกระจายไปทั่วเค้ก
- ขั้นตอนทั้งหมดทั้งการเตรียมส่วนผสม การอบ และการทำความสะอาด ควรใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งหมายความว่าคุณจะมีเวลาเหลือมากมายสำหรับเพลิดเพลินไปกับการทานของหวานแสนอร่อยที่คุณได้เตรียมไว้
- ซื้อถ้วยกาแฟเป็นของขวัญให้เพื่อนพร้อมเค้กแสนอร่อยข้างใน
โฆษณา
คำเตือน
- เค้กที่เพิ่งอบเสร็จจะร้อนมาก จึงควรจับด้วยความระมัดระวัง
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ชามผสม
- ส้อม
- ช้อน
- เครื่องผสมอาหาร
- ไมโครเวฟ
- จานสำหรับไมโครเวฟ
- ไม้พายยาง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=8MscAxRx6Zo
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=8MscAxRx6Zo
- ↑ http://www.realsimple.com/food-recipes/cooking-tips-techniques/baking/easy-cake-decorating-ideas
- ↑ http://www.goodtoknow.co.uk/recipes/pictures/35200/20-easy-ways-to-decorate-a-cake/10
- ↑ http://www.which.co.uk/home-and-garden/home-appliances/guides/more-from-your-microwave/microwave-baking-how-to-bake-cakes-in-your-microwave/
- Videos provided by OnePotChefShow
โฆษณา