ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ข้าวโอ๊ตนั้นเป็นเมนูง่ายๆ และดีเยี่ยมในการ เพิ่มไฟเบอร์ คุณสามารถปรับเมนูข้าวโอ๊ตของคุณและทำเมนูข้าวโอ๊ตที่มีเครื่องแน่น มีรสหวาน หรือแบบอร่อยๆ โดยการเพิ่มส่วนผสมอย่างถั่วหรือเบอร์รี่ น้ำผึ้ง เนย หรือเกลือ บทความนี้ของวิกิฮาวจะสอนวิธีในการทำข้าวโอ๊ตเมนูต่างๆ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ทำเมนูข้าวโอ๊ตจากข้าวโอ๊ตแบบ Rolled Oats หรือ Old Fashioned Oats

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เติมน้ำ 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร) ลงไปในหม้อและนำไปตั้งที่เตา. หากอยากทำข้าวโอ๊ตมากขึ้นอีก ให้เติมน้ำ 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร) ต่อข้าวโอ๊ต 1 หน่วย [1]
  2. นี่จะทำให้ข้าวโอ๊ตออกมาดูดีและเนื้อแน่น หากคุณต้องการข้าวโอ๊ตที่เละเป็นครีม ให้ใส่ข้าวโอ๊ตลงไปในน้ำก่อน จากนั้นนำไปต้ม [2]
  3. Watermark wikiHow to ทำเมนูข้าวโอ๊ต
    หากต้องการทำเพิ่ม ให้เพิ่มข้าวโอ๊ต ½ ถ้วย (40 กรัม) ข้าวโอ๊ตแบบ Rolled Oats และ Old Fashioned Oats นั้นเป็นข้าวโอ๊ตประเภทเดียวกันแต่แค่มีชื่อต่างกัน ข้าวโอ๊ตประเภทนี้เป็นข้าวโอ๊ตแบบมาตรฐานและมันจะเป็นเกล็ดๆ
  4. Watermark wikiHow to ทำเมนูข้าวโอ๊ต
    ข้าวโอ๊ตจะเริ่มดูดน้ำและจะข้นขึ้นในที่สุด
  5. มีบางสิ่งที่คุณสามารถเพิ่มไปในข้าวโอ๊ตได้ขณะที่ต้มข้าวโอ๊ตอยู่ แต่บางอย่างก็ควรใส่เพิ่มทีหลังดีกว่า นี่เป็นคำแนะนำบางอย่าง
    • หากอยากเพิ่มรสชาติให้ข้าวโอ๊ต ให้เพิ่มเกลือไปนิดหน่อยและใส่เนยลงไป
    • หากอยากได้ข้าวโอ๊ตที่มีรสค่อนข้างหวาน ให้ใส่น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ลและคนลงไปที่ข้าวโอ๊ต คุณอาจจะใช้ซินนามอนหรือน้ำตาลทรายก็ได้
    • หากอยากได้ข้าวโอ๊ตที่เน้นเครื่องเยอะ ให้ใส่ลูกเกดหรือแครนเบอร์รี่แห้ง คุณอาจจะใส่อัลมอนด์สไลด์หรือถั่วพีแคนหรือวอลนัทบดก็ได้
  6. Watermark wikiHow to ทำเมนูข้าวโอ๊ต
    ต้มข้าวโอ๊ตเป็นเวลา 5 นาทีหรือจนกว่าคุณจะได้เนื้อและความข้นของข้าวโอ๊ตแบบที่คุณต้องการ. ยิ่งคุณต้มข้าวโอ๊ตนานมากเท่าไหร่ ข้าวโอ๊ตก็จะข้นและนุ่มขึ้น
    • เมื่อข้าวโอ๊ตสุกแล้ว ลองปิดฝาหม้อและปล่อยทิ้งไว้ (ปิดฝาไว้) เป็นเวลา 2 นาที นี่จะทำให้ข้าวโอ๊ตดูดน้ำมากมากขึ้น [3]
  7. คุณอาจจะเพิ่มท้อปปิ้งเพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้มันอิ่มท้อง สำหรับไอเดียของการใส่ท้อปปิ้งมีดังนี้
    • หากอยากได้ข้าวโอ๊ตที่มีรสหวาน ให้ใส่น้ำตาลทราย ซินนามอน น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ล
    • หากอยากได้ข้าวโอ๊ตที่มีเนื้อครีม ให้ใส่ครีมหรือเนย
    • หากอยากได้ข้าวโอ๊ตที่มีผลไม้ ให้เพิ่มนมหรือครีมและโรยด้วยบลูเบอร์รี่ พีชหั่นเป็นชิ้นๆ หรือสตรอว์เบอร์รี่ที่หั่นเป็นชิ้น คุณอาจจะใส่แอปเปิ้ลสไลด์และซินนามอนนิดหน่อย
    • สำหรับข้าวโอ๊ตที่เครื่องเยอะ ให้เพิ่มลูกเกดหรือแครน์เบอร์รี่อบแห้ง คุณอาจจะเพิ่มอัลมอนด์สไลด์ วอลนัทหรือถั่วพีแคนบด
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ทำเมนูข้าวโอ๊ตจากข้าวโอ๊ตแบบ Steel-Cut Oats

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เติมน้ำ ¾ ถึง 1 ถ้วย (180-240 มิลลิลิตร) ลงไปในหม้อต่อข้าวโอ๊ต 1 หน่วย. [4] เทน้ำลงไปในหม้อขนาดกลาง ยิ่งคุณใช้น้ำมากเท่าไหร่ ข้าวโอ๊ตก็จะยิ่งนุ่มและเป็นครีม
  2. ใช้ไฟ "แรง" และรอให้น้ำเริ่มเดือด
  3. คุณจะต้องใช้ข้าวโอ๊ต ¼ ถ้วย (20 กรัม) ต่อหนึ่งหน่วย คุณอาจจะเพิ่มเกลือลงไปนิดหน่อยเพื่อรสชาติ รอให้เดือดอีกครั้ง ขอให้แน่ใจว่าได้ดูที่หม้อไว้เพื่อที่ข้าวโอ๊ตจะได้ไม่เดือดและล้นออกมาที่เตา
    • ข้าวโอ๊ตแบบ Steel-Cut นั้นมีเนื้อที่ละเอียดเป็นผงกว่าและมีรสชาติคล้ายถั่วเทียบกับข้าวโอ๊ตประเภทอื่นๆ
  4. ถ้าคุณไม่สามารถบอกได้ว่าข้าวโอ๊ตกำลังอุ่นอยู่หรือไม่ ให้ดูที่น้ำและฟองน้ำที่จะมีในบางครั้ง
  5. ยิ่งคุณต้มข้าวโอ๊ตนานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งนุ่มมากเท่านั้น เมื่อต้องคนข้าวโอ๊ต ขอให้แน่ใจว่าได้ขูดที่ก้นหม้อด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้มันติดกับหม้อ
    • หากคุณอยากจะเพิ่มรสชาติให้ข้าวโอ๊ต คุณอาจจะเพิ่มเกลือหรือเนย ท้อปปิ้งเพิ่มรสชาติอื่นๆ อย่าง น้ำผึ่ง เบอร์รี่ และถั่ว นั้นควรจะใส่ในภายหลังดีกว่า นี่เป็นเพราะว่าเวลาในการต้มข้าวโอ๊ตที่ค่อนข้างนาน
  6. เสิร์ฟข้าวโอ๊ตในชามก้นลึก ในตอนนี้ คุณสามารถเพิ่มท้อปปิ้งเพิ่ม เช่น น้ำผึ้ง ผลไม้ ซินนามอน หรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ล สำหรับไอเดียท้อปปิ้งเพิ่มเติม ดู ได้ที่นี่ หากคุณมีข้าวโอ๊ตเหลือคุณสามารถเก็บมันไว้ในตู้เย็นได้ถึง 1 อาทิตย์
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ทำเมนูข้าวโอ๊ตจากข้าวโอ๊ตพร้อมทาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถใช้ชามแบบใดก็ได้ที่ต้องการ แต่ชามที่ก้นลึกจะเก็บความร้อนได้ดีกว่าชามตื้นๆ มันจะช่วยป้องกันไม่ให้ข้าวโอ๊ตแห้งและแข็งเกินไปด้วย
  2. หากข้าวโอ๊ตมาในรูปแบบกระป๋อง กะประมาณ ¼-½ ถ้วย (20-40 กรัม) นี่ก็จะเพียงพอสำหรับ 1 เสิร์ฟ
  3. ข้าวโอ๊ตพร้อมทานส่วนใหญ่มักจะเพิ่มรสชาติมาอยู่แล้ว แต่ถ้ามันไม่มีรสชาติคุณอาจจะเพิ่มรสชาติเอง เช่น เกลือ หรือเนย สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติม คลิก ได้ที่นี่
  4. คุณอาจจะต้มน้ำในกา กาไฟฟ้า หรือต้มน้ำในหม้อที่เตา คุณอาจจะต้มน้ำโดยใช้เครื่องทำกาแฟ (ขอให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรอยู่ตรงที่กรองไม่งั้นคุณจะได้น้ำที่มีรสชาติแบบกาแฟ)
  5. ที่บรรจุภัณฑ์จะบอกคุณว่าคุณควรเทน้ำเท่าไร่ อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วคุณจะต้องใช้น้ำร้อนประมาณ ½-¾ ถ้วย (120-180 มิลลิลิตร) ต่อข้าวโอ๊ต 1 หน่วยเสิร์ฟ คนข้าวโอ๊ตด้วยช้อนเพื่อผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
  6. ยิ่งคุณรอนานมากเท่าไหร่ ข้าวโอ๊ตก็จะยิ่งข้นมากขึ้น
  7. หากข้าวโอ๊ตของคุณข้นไป ให้เพิ่มน้ำ นม หรือครีม เพื่อทำให้มันเหลว และเพิ่มข้าวโอ๊ตเพิ่ม คนข้าวโอ๊ตเพื่อผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
  8. อย่าทิ้งข้าวโอ๊ตไว้ไม่เช่นนั้นมันจะข้นและแห้ง เพราะว่าข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปส่วนใหญ่มักจะเพิ่มรสชาติมาแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำทั้งหมดก็มีแค่ใช้ช้อนคนเร็วๆ และกิน อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะเพิ่มท้อปปิ้งให้กับข้าวโอ๊ตเปล่าๆ เช่น น้ำตาลทราย ซินนามอน ครีม ผลไม้แห้ง น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมเมเปิ้ล หรือถั่ว
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ทำเมนูข้าวโอ๊ตด้วยวิธีอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณกำลังรีบ คุณก็อาจจะทำข้าวโอ๊ตโดยใช้ไมโครเวฟได้ ขอให้แน่ใจว่าได้ดูที่ไมโครเวฟเพื่อที่ข้าวโอ๊ตจะไม่เดือดเกินไปและเลอะไมโครเวฟ นอกจากนี้ ข้าวโอ๊ตจากไมโครเวฟอาจจะข้นไปนิดหน่อย แต่คุณสามารถแก้ได้โดยการเติมน้ำเพิ่ม นม หรือครีม ก่อนทาน นี่เป็นสัดส่วนและเวลาในการเข้าไมโครเวฟสำหรับข้าวโอ๊ต [5]
    • หากใช้ข้าวโอ๊ตแบบ Rolled Oats หรือ Old Fashioned Oats เทน้ำ 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร) และข้าวโอ๊ต ½ ถ้วย (40 กรัม) ไปในชามทนความร้อน และไมโครเวฟเป็นเวลา 2 ½ -3 นาที
    • หากใช้ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูป ให้เพิ่มน้ำ 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร) และข้าวโอ๊ต ½ ถ้วย (40 กรัม) ในชามกันความร้อนและนำไปเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 1 ½ - 2 นาที
  2. ทำข้าวโอ๊ตค้างคืนในขวดโหลแบบไม่ต้องต้ม (overnight oatmeal). ผสมส่วนผสมลงในชาม และตักใส่ขวดเมสันจาร์ 2 โหล (โหลขนาด 240 มิลลิลิตร) ปิดฝาโหลและนำไปแช่เย็นทั้งคืน ในเช้าวันต่อมา นำโหลออกจากตู้เย็นและเปิดออก คุณจะทานข้าวโอ๊ตจากโหลเลยก็ได้หรือจะเทข้าวโอ๊ตใส่ชามก่อนก็ได้ อาจจะลองเพิ่มน้ำผึ้งหรือครีมลงไปบนข้าวโอ๊ตก่อนทาน ข้าวโอ๊ตจะชุ่มไปด้วยของเหลวที่อยู่ในโหลตลอดทั้งคืนและจะกลายเป็นข้าวโอ๊ตที่เข้มข้นเป็นเนื้อครีม นี่เป็นสิ่งที่คุณต้องใช้ [6]
    • โยเกิร์ต 165 กรัม คุณอาจจะใช้โยเกิร์ตธรรมดา โยเกิร์ตไขมันต่ำ หรือกรีกโยเกิร์ตก็ได้
    • ข้าวโอ๊ตแบบ Rolled Oats หรือ Old Fashioned Oats 2/3 ถ้วย (55 กรัม)
    • นม 2/3 ถ้วย (160 มิลลิลิตร)
    • ส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น เบอร์รี่สด ผลไม้อบแห้ง น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมเมเปิ้ล หรือถั่ว คุณสามารถใส่ได้มากตามต้องการหากมันมีปริมาณพอดีกับโหลหรือคุณสามารถทานมันได้หมด
  3. เสียบปลั๊กหม้อ ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปในหม้อและคนให้ทุกอย่างเข้ากัน ปิดฝาและเปิดสวิทช์หม้อ ทิ้งไว้เป็นเวลา 8-9 ชั่วโมง เมื่อข้าวโอ๊ตสุกดีแล้ว ปิดสวิทช์หม้อ และตักข้าวโอ๊ตใส่ชาม ลองทำเมนูนี้ในคืนก่อนหน้าเพื่อที่มันจะได้สุกพร้อมในตอนที่คุณตื่นตอนเช้า นี่เป็นส่วนผสมที่คุณต้องใช้ [7]
    • น้ำ 4 ถ้วย (950 มิลลิลิตร)
    • ข้าวโอ๊ต Steel Cut 1 ถ้วย (80 กรัม)
    • แครนเบอร์รี่อบแห้ง 1 ถ้วย (120 กรัม)
    • ลูกฟิกอบแห้ง 1 ถ้วย (150 กรัม)
    • ฮาล์ฟแอนด์ฮาล์ฟ (นมและครีมในสัดส่วนอย่างละครึ่ง) ½ ถ้วย (120 มิลลิลิตร)
  4. เปิดเตาอบและตั้งอุณหภูมิที่ 176.66 °C ผสมส่วนผสมแห้งเข้าด้วยกัน (ข้าวโอ๊ต น้ำตาลทราย ผงฟู ซินนามอน และเกลือ) ลงในชาม ในชามที่สอง ให้ผสมส่วนผสมที่เป็นของเหลว (เนย ไข่ และนม) โดยใช้ไม้ตี เทส่วนผสมเปียกลงไปในส่วนผสมแห้งและผสมให้เข้ากันด้วยช้อน เทส่วนผสมทั้งหมดลงไปในจานที่สามารถเข้าเตาอบได้ นำจานเข้าเตาอบและอบเป็นเวลา 40-45 นาที เมื่อข้าวโอ๊ตสุกแล้ว นำออกจากเตาอบและนำไปเสิร์ฟ คุณอาจจะตักข้าวโอ๊ตจากจานโดยใช้ทัพพีเสิร์ฟและนำมาใส่ชาม นี่เป็นส่วนผสมที่คุณต้องการ [8]
    • ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูป 3 ถ้วย (240 กรัม)
    • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย (200 กรัม)
    • ผงฟู 2 ช้อนชา
    • ซินนามอนบด 1 ช้อนชา
    • เกลือ 1 ช้อนชา
    • เนยละลาย ½ ถ้วย (115 กรัม)
    • ไข่ 2 ฟอง
    • นม 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร)
  5. ระลึกไว้ว่าข้าวโอ๊ตจะพองตัวในกระเพาะของคุณ ดั้งนั้น ถ้าคุณทานมากเกินไปคุณก็อาจจะรู้สึกอิ่มในภายหลังและอาจจะปวดท้อง เพียงแค่ผสมของเหลว 2 ส่วนและข้าวโอ๊ตที่ยังไม่สุก 1 ส่วน เพิ่มท้อปปิ้ง เช่น น้ำตาลทราย ผลไม้อบแห้ง น้ำเชื่อมเมเปิ้ล หรือถั่ว ใช้ช้อนคนให้เข้ากันและเสิร์ฟ สำหรับของเหลวนั้นคุณอาจจะใช้เป็นนมหรือโยเกิร์ตก็ได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ลองนำข้าวโอ๊ตไว้มากๆ และเก็บไว้ในตู้เย็น คุณสามารถตักมาทานได้มากเท่าที่ต้องการ เพิ่มน้ำหรือนม 1-2 ช้อนโต๊ะ และอุ่นข้าวโอ๊ตด้วยไมโครเวฟ ข้าวโอ๊ตสามารถเก็บได้ในตู้เย็นเป็นเวลามากถึง 3 วัน
  • ระลึกไว้ว่าจะต้องคนข้าวโอ๊ตบ้างเพื่อให้มันมีเนื้อที่ดีขึ้น
  • ทดลองเพิ่มท้อปปิ้งเพิ่ม เช่น ผลไม้อบแห้ง หรือน้ำผึ้ง
โฆษณา

คำเตือน

  • ล้างหม้อทันทีหลังจากที่ทำข้าวโอ๊ต อย่าปล่อยให้มีข้าวโอ๊ตแห้งกรังที่หม้อเพราะจะลำบากในการทำความสะอาด
  • อย่าปล่อยเตาหรือเตาอบทำงานโดยไม่ได้ดูไว้ตลอด มันอันตราย และมันอาจจะทำให้ข้าวโอ๊ตของคุณไหม้ด้วย
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Huffington Post, How to Cook Oatmeal
  2. Bon Appetite, How Not to Ruin Oatmeal: 9 Common Oatmeal Mistakes
  3. Better Homes and Gardens, How to Make Oatmeal
  4. The Kitchn, How to Cook Steel-cut Oats in 30 Minutes
  5. Better Homes and Gardens, How to Make Oatmeal
  6. Better Homes and Gardens, Overnight Oats
  7. Food Network, Overnight Oatmeal
  8. Taste of Home, Baked Oatmeal Recipe

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 29,793 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา