ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

มีดอกไม้หลายสายพันธุ์ที่สามารถคงความสดอยู่ได้เป็นสัปดาห์หรือนานกว่านั้นหากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี แม้แต่ดอกไม้ที่เฉาเร็วก็ยังสามารถสดอยู่ได้นานขึ้นอีก 2 – 3 วัน การวางดอกไม้ไว้ในที่เย็นปราศจากลมก็ช่วยได้มาก แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรเติมกรดและน้ำตาลให้ดอกไม้ รักษาความสะอาดของภาชนะที่ใส่ให้ปราศจากแบคทีเรียและเชื้อราด้วยสารฟอกขาวหรือสารฆ่าจุลินทรีย์

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ตัดและเตรียมดอกไม้ที่เพิ่งตัดใหม่ ๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดอกไม้ต่างชนิดกันก็มีอายุและระดับการเจริญเติบโตที่ต่างกัน ดอกไม้ที่มีหน่อหลายๆ หน่อบนก้าน เช่น ดอกเดลฟินเนียมและดอกไลแลคนั้นควรรอให้มีหน่ออย่างน้อย 1 หน่อที่กำลังแตกหน่อและเริ่มเห็นสีข้างในก่อนค่อยตัด [1] แต่ถ้าเป็นพืชที่ก้านหนึ่งมีดอกเดียวเช่นดอกดาวเรืองและดอกทานตะวันนั้นต้องรอให้ดอกไม้บานเต็มที่ก่อนแล้วค่อยตัดจึงจะสดได้นานที่สุด [2]
  2. Watermark wikiHow to ทำให้ดอกไม้สดอยู่เสมอ
    ดอกไม้สูญเสียน้ำน้อยกว่าในช่วงที่อากาศเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอากาศเย็นของวงจรกลางวัน/กลางคืน ถ้าเป็นไปได้ให้ตัดดอกไม้สดตอนเช้ามืดเพื่อให้ดอกไม้กักเก็บน้ำและคงความสดได้นานกว่า [3] หรือจะตัดตอนหัวค่ำก็ได้ แต่ดอกไม้จะไม่ได้รับประโยชน์จากน้ำค้างตอนกลางคืน
  3. Watermark wikiHow to ทำให้ดอกไม้สดอยู่เสมอ
    ใช้ภาชนะที่สะอาดเพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้ดอกไม้ติดเชื้อแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์อื่นๆ เลือกภาชนะที่มีคอกว้างพอที่จะใส่ก้านดอกไม้ลงไปได้ง่ายๆ
    • แยกดอกไม้ที่มีความยาวก้านต่างกันไว้คนละภาชนะเพื่อให้เห็นดอกไม้ทุกดอกได้ชัด ๆ
  4. Watermark wikiHow to ทำให้ดอกไม้สดอยู่เสมอ
    หลังจากตัดดอกไม้แล้ว ให้นำก้านใส่ลงไปในน้ำร้อนที่ความร้อน 43.5 องศาเซลเซียสทันทีและวางภาชนะในที่เย็นสัก 1 – 2 ชั่วโมง โมเลกุลของน้ำร้อนจะเคลื่อนขึ้นไปที่ก้านได้เร็วกว่าและดอกไม้ก็สูญเสียน้ำน้อยกว่าในที่ที่มีอากาศเย็น 2 วิธีนี้รวมกันทำให้ดอกไม้กักเก็บน้ำได้มากกว่าเดิมหลายเท่าซึ่งช่วยให้ดอกไม้คงความสดได้นานขึ้น [4]
    • กระบวนการนี้เรียกว่า "การทำให้แข็งตัว"
  5. ปลายก้านดอกไม้ที่ถูกตัดควรได้รับน้ำเสมอ น้ำที่ค่อนข้างอุ่นช่วยให้ดอกไม้ดูดซึมน้ำได้ง่ายขึ้น ดังนั้น เติมน้ำที่อุณหภูมิห้องลงไปในภาชนะถ้าคุณไม่ได้ใส่น้ำร้อนตามขั้นตอนที่แล้ว [5]
    • ดอกไม้ที่ยังติดอยู่กับหน่อควรใส่ไว้ในน้ำเย็น [6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

รักษาความสดให้ดอกไม้ที่ตัด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทำให้ดอกไม้สดอยู่เสมอ
    ใบไม้ที่อยู่ในระดับน้ำอาจเน่าและเป็นอาหารให้แบคทีเรียที่อาจทำให้ดอกไม้ติดเชื้อและทำลายดอกไม้ทั้งก้าน [7] เพราะฉะนั้นถ้าสังเกตเห็นว่ามีใบไม้จุ่มลงในน้ำให้ตัดออกให้หมด
  2. Watermark wikiHow to ทำให้ดอกไม้สดอยู่เสมอ
    เปลี่ยนน้ำทุกวันเพื่อให้ดอกใหม่สดอยู่เสมอ เทเศษผงต่างๆ ออกจากภาชนะให้หมดก่อนเติมน้ำลงไปใหม่เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ [8]
    • ถึงจะเป็นดอกไม้ที่เสียบอยู่ใน Floral Foam ก็ต้องการน้ำเช่นกัน ปล่อยให้ Floral Foam จมลงไปในน้ำตามระยะเวลาของมัน อย่ากดมันลงไปในน้ำเพราะอาจทำให้ฟองอากาศที่เป็นอันตรายค้างอยู่ในก้าน
  3. Watermark wikiHow to ทำให้ดอกไม้สดอยู่เสมอ
    คุณอาจจะเล็มก้านทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำหรืออย่างน้อย 2 – 3 วันครั้ง ใช้กรรไกรคมๆ กรรไกรตัดกิ่ง หรือมีดตัดปลายก้านที่มุม 45 องศา ปลายก้านที่ถูกตัดเป็นมุมช่วยเพิ่มบริเวณพื้นผิวที่ดอกไม้จะสามารถดูดซึมน้ำได้มากขึ้น [9]
    • เล็มปลายก้านดอกไม้ที่ซื้อมาจากร้านทันทีก่อนแช่ลงในน้ำ
    • ดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่มักมีฟองอากาศติดอยู่ในก้านซึ่งทำให้ดอกไม้ดูดซึมน้ำไม่ได้ แก้ไขได้ด้วยการตัดดอกกุหลาบในน้ำ [10]
  4. สารกันบูดดอกไม้หรือ "อาหารดอกไม้" สำหรับดอกไม้ที่ถูกตัดนั้นมีขายตามร้านดอกไม้ ร้านขายอุปกรณ์สำหรับทำสวน และซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ในสารกันบูดดอกไม้ควรมีสารอาหารทุกอย่างที่ดอกไม้ต้องการเพื่อคงความสดใหม่ ได้แก่น้ำตาลเพื่อเพิ่มพลังงาน กรดเพื่อให้ดอกไม้สีสดได้นานและคงค่า pH ในน้ำ รวมทั้งไบโอไซด์ที่ฆ่าแบคทีเรียและเชื้อราด้วย [11] [12] ปฏิบัติตามวิธีใช้ที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์
    • ถ้าคุณไม่อยากซื้อสารกันบูดดอกไม้ที่มีขายตามร้านทั่วไป หรือถ้าผลิตภัณฑ์ที่มีขายตามร้านทั่วไปไม่ได้ผล อ่านเพิ่มเติมในขั้นตอนทำสารกันบูดดอกไม้ใช้เองเพื่อเอาไว้เป็นทางเลือกที่คุณสามารถทำเองง่ายๆ ได้ที่บ้าน
  5. วางดอกไม้ให้ห่างจากความเสี่ยงในสภาพแวดล้อม. วางดอกไม้ให้ห่างจากแสงแดดโดยตรง ฮีตเตอร์ บนโทรทัศน์ และที่อื่นๆ ที่มีความร้อน และอย่าวางไว้ในห้องที่มีผลไม้ เพราะผลไม้จะปล่อยก๊าซเอทิลีนที่ทำให้ดอกไม้เหี่ยว [13] ลมแม้จะเป็นลมเย็นๆ ก็ทำให้ดอกไม้สูญเสียน้ำและทำให้ดอกไม้เหี่ยวเร็วได้ [14]
  6. Watermark wikiHow to ทำให้ดอกไม้สดอยู่เสมอ
    เมื่อสังเกตเห็นดอกไม้ที่เหี่ยวให้ตัดออกทันที ไม่อย่างนั้นก๊าซเอทิลีนที่ดอกไม้เหี่ยวปล่อยออกมาอาจทำให้ดอกไม้ดอกอื่นๆ เหี่ยวตามไปด้วย เอาดอกไม้ที่เหี่ยวแล้วไปหมักเป็นปุ๋ย ทำดอกไม้แห้งสำหรับตกแต่ง หรือเอาไปทิ้งไว้ห้องอื่น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทำสารกันบูดดอกไม้ใช้เอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เติมน้ำอัดลมกลิ่นซิทรัสและสารฟอกขาวลงไปในน้ำ. Sprite 7 Up หรือน้ำอัดลมสีขาวใสยี่ห้ออื่นๆ ช่วยเพิ่มน้ำตาลและกรดที่จำเป็นต่อการคงความสดของดอกไม้ เติมน้ำอัดลมลงไป 1 ส่วนต่อน้ำ 3 ส่วน จากนั้นเติมสารฟอกขาวลงไป 2 – 3 หยดเพื่อฆ่าจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย [15] ไม่แน่ว่าส่วนผสมนี้อาจได้ผลมากกว่าสารกันบูดดอกไม้บางยี่ห้อที่มีขายตามร้านค้าทั่วไป
    • อย่าใช้น้ำอัดลมสูตรน้ำตาลน้อย เพราะไม่มีน้ำตาลที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้ดอกไม้
    • อย่าใช้โคล่าหรือน้ำอัดลมอื่นๆ ที่มีสีเข้มเพราะอาจมีกรดมากเกินกว่าที่ดอกไม้จะรับได้ [16]
  2. Watermark wikiHow to ทำให้ดอกไม้สดอยู่เสมอ
    ลองเติมน้ำมะนาวลงไปแค่ 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร) ในน้ำ 1 ลิตร เติมน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) ลงไปในส่วนผสมเพื่อเพิ่มอาหารให้ดอกไม้ [17] และเติมสารฟอกขาวลงไป 2 – 3 หยดเช่นเดียวกับขั้นตอนด้านบนเพื่อควบคุมแบคทีเรียและจุลินทรีย์
    • สำหรับภาชนะที่เล็กลงมาหน่อย ให้เติมน้ำมะนาวลงไปสัก 2 – 3 หยดและน้ำตาล 2 – 3 หยิบมือ [18]
    • ถ้าน้ำที่คุณใส่มีแร่ธาตุสูง คุณอาจจะต้องใส่น้ำมะนาวเพิ่มอีกสักเล็กน้อยเพื่อให้แร่ธาตุสมดุลขึ้น แต่ระวังอย่าให้มากเกินไป เพราะกรดที่มากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายต่อดอกไม้ได้
    • ดอกเดซี่ ดอกทานตะวัน และดอกไม้อื่นๆ ในตระกูล Asteraceae อาจมียางออกมาจากก้าน กรดจำเป็นมากถ้าคุณใส่ดอกไม้อื่นๆ ลงในภาชนะเดียวกับดอกไม้ประเภทนี้ เพราะดอกไม้ประเภทนี้ช่วยป้องกันไม่ให้ก้านดอกไม้อื่นๆ ปิด [19]
  3. วอดก้าเพียง 2 – 3 หยดช่วยยับยั้งการผลิตก๊าซเอทิลีนที่ทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา [20] วอดก้ามีประโยชน์ก็จริง แต่ก็ไม่สามารถฆ่าจุลินทรีย์ได้อย่างสารฟอกขาวหรือสารฆ่าจุลินทรีย์อื่น ๆ
  4. บางครั้งสารฟอกขาวก็ถูกนำมาใช้เป็นสารกันบูดในสัดส่วนที่เข้มข้นมากเกินไป ในภาชนะหนึ่งใส่เพียง 2 – 3 หยดก็พอ การใส่สารฟอกขาวมากเกินไปนั้นเป็นอันตรายเพราะการใช้สารฟอกขาวเป็นสารกันบูดนั้นให้ผลไม่แน่นอนและอาจทำให้ก้านและดอกไม้สีซีดได้ [21] [22]
  5. ระมัดระวังเรื่องการใส่ยาแอสไพรินหรือน้ำส้มสายชู. แอสไพรินบดหรือน้ำส้มสายชูใสสามารถใช้เติมกรดให้ดอกไม้ได้ แต่มักมีประสิทธิภาพน้อยกว่าน้ำมะนาวหรือน้ำอัดลมกลิ่นซิทรัส [23] [24] และหากใส่แอสไพรินมากเกินไปก็อาจทำให้ดอกไม้เหี่ยวเร็วกว่าเดิมหรือทำให้ก้านเปลี่ยนเป็นสีเทา [25] [26]
  6. เข้าใจว่าเพราะอะไรการใส่เหรียญทองแดงถึงไม่ได้ผล. แม้ว่าทองแดงจะฆ่าเชื้อราได้จริง แต่ทองแดงที่อยู่ในเหรียญสตางค์และเหรียญชุบทองแดงอื่นๆ นั้นไม่ละลายน้ำ [27] เพราะฉะนั้นการใส่เหรียญสตางค์ลงไปในน้ำจึงไม่ได้ช่วยให้ดอกไม้สดได้นานขึ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าดอกกุหลาบเริ่มเหี่ยวและก้านเริ่มตก ให้นำก้านทั้งก้านแช่ไว้ในน้ำอุ่นเพื่อเพิ่มน้ำให้ดอกกุหลาบ วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายที่ช่วยได้แต่ไม่รับประกันว่าจะได้ผลทุกครั้ง [28]
โฆษณา

คำเตือน

  • ดอกแดฟโฟดิลและดอกไฮยาซินธ์ที่ถูกตัดอาจปล่อยสารเคมีที่ฆ่าดอกไม้อื่นๆ ที่แช่ลงในน้ำเดียวกัน เพราะฉะนั้นแยกดอกไม้เหล่านี้ไว้ในภาชนะต่างหากอย่างน้อย 12 ชั่วโมงก่อนนำไปจัดรวมกับดอกไม้อื่นๆ [29]
  • แม้ว่าคุณจะสามารถนำหนามออกจากก้านกุหลาบส่วนที่แช่อยู่ในน้ำได้ แต่การนำหนามออกก็ลดอายุความสดของดอกกุหลาบที่ถูกตัดเช่นกัน [30]
  • สเปรย์ฉีดผมใช้สำหรับทำให้ดอกไม้ในช่อคงรูปขณะที่มันแห้ง แต่ไม่ได้ช่วยให้ดอกไม้ของคุณสด
โฆษณา
  1. http://www.nbcnews.com/id/17116132/ns/business-consumer_news/#.VCzx6OeVspM
  2. http://www.plantea.com/cutflowers.htm
  3. http://www.extension.umn.edu/garden/yard-garden/flowers/keeping-cut-flowers-and-flowering-plants/index.html
  4. http://www.nbcnews.com/id/17116132/ns/business-consumer_news/# .VCzwReeVspM
  5. http://www.extension.umn.edu/garden/yard-garden/flowers/keeping-cut-flowers-and-flowering-plants/index.html
  6. http://www.livescience.com/38901-keep-cut-flowers-fresh.html
  7. https://www.mastergardeners.org/picks/extendlife.html
  8. https://www.mastergardeners.org/picks/extendlife.html
  9. http://thebestgardening.com/keep-cut-flowers-alive-longer/
  10. http://thebestgardening.com/keep-cut-flowers-alive-longer/
  11. http://www.livescience.com/38901-keep-cut-flowers-fresh.html
  12. http://www.gardenista.com/posts/tried-and-tested-can-you-make-fresh-flowers-last-longer
  13. http://www.realsimple.com/home-organizing/gardening/gardening-flowers/keep-cut-flowers-fresh/bleach
  14. http://www.livescience.com/38901-keep-cut-flowers-fresh.html
  15. https://www.mastergardeners.org/picks/extendlife.html
  16. http://www.realsimple.com/home-organizing/gardening/gardening-flowers/keep-cut-flowers-fresh
  17. http://www.gardenista.com/posts/tried-and-tested-can-you-make-fresh-flowers-last-longer
  18. http://www.livescience.com/38901-keep-cut-flowers-fresh.html
  19. http://www.nbcnews.com/id/17116132/ns/business-consumer_news/#.VCzx6OeVspM
  20. http://www.teleflora.com/flowercare.asp
  21. http://gardening.solveyourproblem.com/rose-garden/remove-rose-thorns.shtml

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 39,321 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา