ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ต้นไม้บางชนิด เช่น คามีเลีย ลูปิน ลิลลี่ และพริมโรส ชอบดินที่เป็นกรด เพราะฉะนั้นถ้าดินของคุณไม่มีความเป็นกรดมากพอ หรือมีปูนขาวมากเกินไป ก็มีวิธีที่จะช่วยเพิ่มความเป็นกรดในดินได้เล็กน้อยเพื่อให้ต้นไม้ที่ชอบกรดของคุณเติบโตอย่างมีความสุข

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ทดสอบค่า pH ในดินและน้ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้ชุดทดสอบมืออาชีพในการทดสอบดินเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเที่ยงตรงที่สุด. ถ้าคุณจริงจังกับการปลูกต้นไม้หรือการเพิ่มกรดให้ดินมากๆ​ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คุณควรจะใช้ชุดทดสอบมืออาชีพมากกว่าจะใช้ชุดทดสอบทำเอง เพราะความแตกต่างระหว่างค่า pH 5.5 กับ 6.5 นั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ แม้ว่ามันจะต่างกันแค่ 1 หน่วยก็ตาม!
    • คุณสามารถหาซื้อชุดทดสอบความเป็นกรด-ด่างของดินได้ทางออนไลน์ โดยชุดทดสอบความเป็นกรด-ด่างจะวัดค่า pH ซึ่งเป็นการทดสอบดินขั้นพื้นฐาน
  2. ลองใช้ชุดทดสอบแบบทำเอง . ถ้าคุณไม่ได้อยากใช้ชุดทดสอบดินแบบมืออาชีพ คุณก็สามารถทดสอบค่า pH ของดินที่บ้านได้ง่ายๆ เพียงแต่ต้องเข้าใจก่อนว่ามันอาจจะไม่ได้เที่ยงตรงเท่ากับค่าที่มาจากชุดทดสอบแบบมืออาชีพ วิธีการที่จะช่วยให้คุณได้ค่า pH ของดินที่บ้านได้เที่ยงตรงประมาณหนึ่งก็เช่น
    • ใช้กระดาษทดสอบความเป็นกรดด่างหาค่า pH วิธีนี้จะบอกได้แค่ว่าดินเป็นกรดหรือเป็นด่างมากกว่ากัน​ แต่ก็เป็นการทดลองสนุกๆ​ ที่คุณสามารถใช้กับดอกไม้​ ผัก​ และสมุนไพรได้หลายชนิด
    • ใช้น้ำส้มสายชูกับเบกกิ้งโซดา​ทดสอบค่า​ pH ซึ่งเป็นอีกวิธีพื้นฐานในการทดสอบความเป็นกรด-ด่าง​ วิธีนี้คือตักดินมา​ 1 ถ้วยแล้วแบ่งใส่ในภาชนะ​ 2 ใบ ใส่น้ำส้มสายชูลงในภาชนะในหนึ่ง​ และเบกกิ้งโซดากับน้ำลงในภาชนะอีกใบหนึ่ง​ แล้วดูว่าใบอันไหนฟู่ ถ้าใบที่ใส่น้ำส้มสายชูฟู่​ ก็แสดงว่าเป็นด่างหรืออัลคาไลน์​ แต่ถ้าใบที่เป็นเบกกิ้งโซดาฟู่​ ก็แสดงว่าเป็นกรด
    • ซื้อชุดทดสอบพื้นฐาน. ชุดทดสอบพื้นฐานจะสามารถบอกค่า pH ของดินเป็นตัวเลขได้​ ซึ่งตัวเลขนี้จะละเอียดกว่าชุดทดสอบทำเองที่บอกได้แค่ว่า "ดินนี้เป็นกรด" หรือ "ดินนี้เป็นด่าง"
  3. ค่า pH ของน้ำบาดาลที่คุณใช้รดน้ำต้นไม้มีค่า​ pH ตั้งแต่​ 6.5 - 8.5 แต่ก็มักจะเป็นด่างมากกว่า​ มันจึงไม่กัดเซาะท่อน้ำ [1] ถ้าน้ำที่คุณใช้รดน้ำต้นไม้เป็นด่างตั้งแต่แรก​ และดินของคุณก็เป็นด่างด้วยเหมือนกัน​ คุณก็ต้องใส่ "ของดี" เพิ่มเติมเล็กน้อยเพื่อให้ดินเป็นกรดและให้ต้นไม้งามดั่งใจ
    • วิธีหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้คือใช้น้ำกรองบริสุทธิ์​ น้ำบริสุทธิ์​มีค่า​ pH 7​ ซึ่งเกือบจะเป็นกลางเลย​ การใช้น้ำกรองบริสุทธิ์​อาจจะได้ผล​ แต่ก็เพิ่มค่าใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว
  4. ​ ค่า​ pH คือมาตรวัดว่าสสารนั้นมีความเป็นกรดหรือด่างแค่ไหน​ ซึ่งมาตรวัดนี้จะมีค่าตั้งแต่​ 0​ -​ 14 0​ คือเป็นกรดมาก​ๆ​ (ลองนึกถึงแบคเตอรี่แบบกรด)​ และ​ ​14 คือเป็นด่างมากๆ​ (ลองนึกถึงน้ำยาล้างท่อระบายน้ำ)​ [2] 7 จึงถือว่าเป็นค่า pH ที่ "เป็นกลาง"
    • เช่น ถ้าดินของคุณมีค่า pH อยู่ที่ 8.5 ก็แสดงว่าดินเป็นด่างเล็กน้อย คุณจะต้องใส่สิ่งที่เป็นกรดลงไปเล็กน้อยเพื่อให้ดินเป็นด่างน้อยลง ถ้าค่า pH ของดินอยู่ที่ 6.5 ก็แสดงว่าดินเป็นกรดเล็กน้อย ถ้าคุณอยากให้ดินเป็นกรดมากยิ่งขึ้น คุณก็จะต้องใส่สิ่งที่เป็นกรดเพิ่มเข้าไปอีก
    • ถ้าคุณอยากเข้าใจพื้นฐานของความเป็นกรดด่างจริงๆ ให้มองค่า pH แบบสเกลลอการิทึม ซึ่งก็คือแต่ละค่าแทนการเปลี่ยนแปลง 10 เท่า เพราะฉะนั้นค่า pH ที่ 8 ก็คือค่าที่เป็นด่างกว่าค่า pH 7 อยู่ 10 เท่า และค่า pH ที่ 8.5 ก็มีค่าความเป็นด่างมากกว่า 15 เท่า เป็นต้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ทำให้ดินเป็นกรด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีนี้ไม่เหมือนกับการดูค่า pH ของดิน และก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะชนิดของดินจะเป็นตัวบอกว่าคุณจะทำให้ดินเป็นกรดด้วยวิธีไหน
    • ดินที่ระบายน้ำได้ดีและค่อนข้างร่วนจะเพิ่มความเป็นกรดได้ง่าย​โดยการใช้สารประกอบอินทรีย์ในปริมาณมากๆ​ ที่จะช่วยเพิ่มความเป็นกรดให้ดินขณะที่ย่อยสลาย
    • ดินที่เป็นดินเหนียวอัดแน่นจะทำให้เป็นกรดได้ยากมากๆ เพราะการใส่วัตถุอินทรีย์ลงไปในดินชนิดนี้จะทำให้ดินยิ่งเป็นด่าง มากขึ้น แทนที่น้อยลง
  2. ใส่วัตถุอินทรีย์ลงไปในดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี. ในการเพิ่มความเป็นกรดให้ดินชนิดนี้นั้น วัตถุอินทรีย์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะวัตถุอินทรีย์จะเพิ่มความเป็นกรดในดินขณะย่อยสลาย แต่ก็ต้องใช้ในปริมาณมากจึงจะลดค่า pH ลงได้ [3] วัตถุอินทรีย์ที่น่านำมาใช้ได้แก่
    • สแฟคนั่มมอสพีทมอส
    • ใบโอ๊คหมัก
    • ปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอก
  3. เติมธาตุกำมะถันลงไปในดินที่อัดแน่นหรือมีส่วนประกอบของดินเหนียวอยู่เยอะ. อย่างที่กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า การใส่วัตถุอินทรีย์ลงไปในดินที่มีความหนาแน่นสูงจะทำให้ดินเป็นด่างยิ่งกว่าเก่า เพราะดินจะยิ่งกักเก็บความชื้นซึ่งจะทำให้ดินยิ่งเป็นด่างมากขึ้น ด้วยเหตุนี้การเติมธาตุกำมะถันหรือเหล็กซัลเฟตจึงเป็นวิธีที่เพิ่มกรดในดินที่มีดินเดียวเป็นส่วนประกอบอยู่มากที่ได้ผลที่สุด
    • ธาตุกำมะถันเพิ่มความเป็นกรดให้ดินเนื่องจากแบคทีเรียเปลี่ยนธาตุกำมะถันให้กลายเป็นกรดซัลฟูริก [4] ธาตุกำมะถัน 1 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 100 ตารางฟุตสามารถลดค่า pH ของดินที่ 7 ให้เหลือ 4.5 ได้
    • เนื่องจากธาตุกำมะถันตอบสนองช้า คุณจะควรใส่ธาตุกำมะถันลงไปในดิน 1 ปีก่อนปลูกต้นไม้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
    • ใส่ธาตุกำมะถันลงไปในดินให้ลึกประมาณ 6 นิ้ว
  4. ใส่เหล็กซัลเฟตลงไปในดินที่อัดแน่นหรือมีส่วนประกอบของดินเหนียวอยู่เยอะ. เหล็กซัลเฟตอาศัยปฏิกิริยาเคมีในการสร้างกรด เพราะฉะนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับสภาพอุณหภูมิน้อยกว่าธาตุกำมะถันที่ต้องอาศัยแบคทีเรียในการสร้างปฏิกิริยาทางชีวภาพ [5]
    • คุณอาจจะต้องใช้เหล็กซัลเฟตมากกว่า 5 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 100 ตารางฟุตในการลดค่า pH ลงทีละหน่วย
    • ถ้าคุณจะใส่เหล็กซัลเฟตมากกว่า 5 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 100 ตารางฟุต คุณก็ต้องแบ่งใส่สองครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 1 หรือ 2 เดือน วิธีนี้จะช่วยให้ดินมีเวลาดูดซึมธาตุซัลเฟต
    • เหล็กซัลเฟตตอบสนองเร็วกว่าธาตุกำมะถันมาก โดยสามารถลดค่า pH ลงมากๆ ได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ ไม่เหมือนธาตุกำมะถันที่ต้องใช้เวลาหลายเดือน [6] จึงมีประโยชน์มากขึ้นไปอีกตรงที่ว่าคุณสามารถใช้ดินในฤดูกาล​ที่คุณตั้งใจจะปลูกต้นไม้ได้เลย
    • เวลาใช้เหล็กซัลเฟตต้องระวัง เพราะว่ามันอาจจะทิ้งคราบสนิมไว้บนเสื้อ ทางเท้า และลานบ้าน คุณควรแยกเสื้อผ้าที่เปรอะเหล็กซัลเฟตออกจากเสื้อผ้าอื่นๆ แล้วซักแยกต่างหากเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนไปยังเสื้อผ้าอื่นๆ
  5. หลายครั้งเราสามารถใช้ปุ๋ยที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนประกอบพื้นฐานในการทำให้ดินเป็นกรดได้ เพราะปุ๋ยหลายชนิดที่ใช้กับต้นไม้ที่ชอบกรดจะมีแอมโมเนียซัลเฟตหรือยูเรียเคลือบกัมมะถันเป็นส่วนประกอบ
    • ทั้งนี้คุณไม่ควรใช้แคลเซียมไนเตรทและโพแทสเซียมไนเตรตเป็นปุ๋ยแม้ว่ามันจะมีส่วนประกอบของแอมโมเนียก็ตาม เพราะจริงๆ แล้วปุ๋ยพวกนี้จะไปเพิ่มค่า pH ของดิน [7]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

รักษาค่า pH ที่เหมาะกับต้นไม้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณบังเอิญปลูกดอกไม้หรือต้นไม้ไปแล้ว ให้ใช้ธาตุกำมะถัน. เนื่องจากว่าธาตุกำมะถันตอบสนองช้า จึงไม่น่าจะเกิดข้อผิดพลาดหากใช้ในปริมาณที่กำหนด ใส่ธาตุกำมะถันลงไปในดินชื้นๆ ให้ได้มากที่สุดโดยที่ไม่รบกวนระบบราก หลังจากนั้น 2-3 ก็คอยเช็กค่า pH ของดิน
  2. น้ำส้มสายชู จะ ลดค่า pH ของดินทันที แต่ในกรณีนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน หายไปอย่างรวดเร็ว และฆ่าสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ในดิน เพราะฉะนั้นอย่าใส่น้ำส้มสายชูลงไปยกเว้นว่าถ้าต้นไม้ตายก็ไม่เป็นไร
  3. ใช้กากเมล็ดฝ้ายเป็นปุ๋ยเพิ่มกรดในดินตลอดทั้งปี. พอคุณทำให้ดินเป็นกรดมากขึ้นด้วยวิธีต่างๆ ในข้างต้น เช่น ใส่ธาตุกำมะถันลงไป และตอนนี้คุณก็เพิ่งจะปลูกต้นบลูเบอร์รี่ ให้รักษาค่า pH ของดินให้ต่ำเข้าไว้ด้วยการใส่ปุ๋ยที่เพิ่มกรดในดินตามธรรมชาติอย่างกากเมล็ดฝ้ายลงไปเยอะๆ กากเมล็ดฝ้ายซึ่งเป็นผลผลิตที่ได้จากการผลิตฝ้ายนั้นเหมาะกับต้นไม้ที่ชอบกรดอย่างชวนชม คามีเลีย และโรโดเดนดรอนเป็นอย่างมาก [8]
  4. เช็กค่า pH ของดินตรงฐานต้นไม้ แล้วใส่ปุ๋ย เช่น อะลูมิเนียมซัลเฟต (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นต้นไฮเดรนเยีย)​ โดยไม่ทำลายระบบราก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ใช้ชุดทดสอบค่า pH ที่มีขายทั่วไปหรือส่งตัวอย่างดินไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจ
    • ไม้ประดับและผักส่วนใหญ่จะชอบสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดเล็กน้อยที่มีค่า pH ของดินระหว่าง 6.5 - 6.8
    • ไฮเดรนเยีย ชวนชม โรโดเดนดรอน และบลูเบอร์รี่จะชอบสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดมากกว่า โดยค่า pH ควรจะอยู่ที่ 5 - 5.5
  5. ถ้าจำเป็นให้เพิ่มค่า pH ของดินด้วยการโรยปูนขาว. ในบางกรณีความพยายามในการเพิ่มความเป็นกรดในดินก็อาจจะได้ผลดีเกินไป จนกลายเป็นว่าคุณได้ดินที่เป็นกรดเกินกว่าที่ต้นไม้หรือผักที่คุณต้องการปลูกจะชอบ ในกรณีนี้คุณจะต้องใช้ปูนขาวเพื่อให้ดินเป็นด่างมากขึ้น ปูนขาวแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักด้วยกันคือ หินปูนขาว ปูนเผา/ดิบ หรือปูนขาวไฮเดรต และปริมาณที่ใส่จะขึ้นอยู่กับประเภทของดินและประเภทของปูนขาวที่ใช้ เพราะฉะนั้นอ่านวิธีใช้ข้างกล่องให้ดีหรือปรึกษาชาวสวนเพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • กำมะถันแบบผงจะเป็นกำมะถันบริสุทธิ์ที่เป็นแป้งเนื้อละเอียด คุณสามารถหาซื้อกำมะถันแบบผงได้ตามร้านขายต้นไม้หรือสั่งซื้อออนไลน์ก็ได้
  • เกลือของเหล็กก็อาจจะใช้ได้เหมือนกัน พราะดินที่เป็นด่างมากเกินไปอาจจะ "กักเก็บ" เหล็กเอาไว้ ทำให้ต้นไม้ไม่สามารถดูดซึมเหล็กได้ตามต้องการ เพราะฉะนั้นให้ดูก่อนว่าหลังจากเพิ่มกรดให้ดินแล้วผลออกมาเป็นอย่างไร​ แล้วค่อยเติมเหล็กลงไปด้วย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 20,093 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา