ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การดูร้อนแรงเป็นวิธีที่ดีเพื่อดึงดูดความสนใจและรู้สึกดีกับตัวเอง! มีหลากหลายวิธีเพื่อนำเสนอรูปร่างหน้าตาที่น่าดึงดูดให้กับชาวโลก อย่างไรก็ตาม การเป็นคนที่ร้อนแรงไม่เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาทางกายแต่เกี่ยวกับวิธีที่คุณวางตัวและปฏิบัติ ดูขั้นตอนที่ 1 เพื่อเริ่มต้น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การดูร้อนแรงด้วยเครื่องสำอางและทรงผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผิวของคุณคือสิ่งแรกที่คนอื่นมองเห็นในตัวคุณ นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณต้องดูแลผิวพรรณเป็นอย่างดี คนส่วนใหญ่ (รวมถึงคนที่มีชื่อเสียง) มีสิวและไม่ได้มีผิวพรรณที่สมบูรณ์แบบ พยายามดูแลสุขภาพผิวโดยรวมแทนที่จะเครียดเกี่ยวกับสิว 1 เม็ด [1]
    • การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เรียบง่ายทุกวันจะช่วยกำจัดน้ำมันและสิ่งสกปรกที่ไม่พึงประสงค์โดยไม่ดึงน้ำมันตามธรรมชาติที่ดีออกจากผิว ล้างหน้าตอนเช้าเมื่อตื่นนอนและล้างหน้าอีกครั้งก่อนเข้านอน
    • ดูว่าผิวของคุณเป็นแบบไหนเพื่อที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสมกับผิว คนที่มีผิวแห้งมักจะมีผิวลอก ผิวมันจะดูมันหรือวาว 2-3 ชั่วโมงหลังจากล้างหน้า ผิวบอบบางมักจะรู้สึกตึงและคัน และอาจจะแพ้สารเคมีหลายชนิด
    • เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า มือ และผิวกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศแห้งของปี (ฤดูหนาวหรือฤดูร้อน) การรักษาผิวให้ชุ่มชื้นจะช่วยให้คุณดูเปล่งประกายและมีสุขภาพดี
    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าเพราะน้ำมันบนนิ้วของคุณอาจจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองและทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น
  2. เครื่องสำอางไม่ได้จำเป็นสำหรับทุกคนแต่มันเป็นวิธีที่ดีเพื่อให้คุณรู้สึกดีและน่าดึงดูด คุณสามารถใช้เครื่องสำอางเพื่อเน้นองค์ประกอบต่างๆ ของใบหน้า [2]
    • นี่คือช่วงเวลาที่เครื่องสำอางสามารถเป็นประโยชน์ได้ ถ้าคุณมีวันที่ผิวไม่สวย คุณสามารถปกปิดสิวเหล่านั้นและใช้เครื่องสำอางเพื่อเน้นดวงตาของคุณ (ถ้ามันคืออวัยวะที่ดูดีที่สุดในร่างกาย)
    • ถ้าคุณมีดวงตาที่สวย (แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ) คุณสามารถทำให้สีตาของคุณโดดเด่นได้ ด้วยการใช้อายแชโดว์ หลีกเลี่ยงการใช้อายแชโดว์ที่มีสีเดียวกับดวงตาของคุณเพราะมันจะดูมีสีเดียวจนเกินไป เช่น ถ้าคุณมีตาสีฟ้าก็ให้ลองใช้อายแชโดว์สีม่วง (สีลาเวนเดอร์ระหว่างวันและสีม่วงเข้มในตอนกลางคืน) ถ้าคุณจะออกไปเต้นก็ให้ใช้เฉดสีเมทัลลิค เช่น สีเทอร์ควอยซ์หรือสีเงิน
    • ลิปสติกยังเป็นวิธีที่ดีเพื่อให้คุณดูเร้าใจและมีชีวิตชีวา ลิปสติกสีแดงคือเพื่อนรักของสาวๆ จับคู่มันกับดวงตาแบบสโมกกี้อายและชุดสีดำคลาสสิกและคุณก็จะพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ [3]
  3. การแต่งหน้าแบบนี้คือการรักษารูปลักษณ์แบบธรรมชาติของใบหน้าไว้ในขณะที่ปั้นแต่งตามความต้องการที่จะดูร้อนแรงของคุณ มันช่วยส่งเสริมลุคของคุณโดยไม่ทำให้ดูน่าตื่นเต้นหรือชัดเจนจนเกินไป (โดยเฉพาะดวงตาของคุณ)
    • เติมความชัดเจนให้กับดวงตาด้วยการกรีดอายไลเนอร์ด้วยเฉดที่กลมกลืนและเป็นธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาล ปัดอายแชโดว์เล็กน้อยด้วยสีแชมเปญหรือสีน้ำตาลอ่อน
    • การปัดมาสคาร่าเล็กน้อยช่วยทำให้ขนตางอนและดูยาวขึ้น คุณต้องใช้มาสคาร่าที่เหมาะสมกับคุณเพราะมาสคาร่าบางตัวอาจจะจับตัวกันและเป็นก้อนซึ่งคุณคงไม่อยากได้แบบนั้น
    • คอนทัวร์ใบหน้าโดยใช้บรอนเซอร์เพื่อทำให้โหนกแก้มโดดเด่น การปัดแก้มยังช่วยให้ใบหน้าดูกว้างหรือยาวขึ้นโดยขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการแบบใด (ปัดเป็นแนวนอนเพื่อทำให้ใบหน้าดูกว้างขึ้นหรือปัดบริเวณขมับและขากรรไกรเพื่อทำให้หน้าดูยาวขึ้น)
  4. สโมกกี้อายทันสมัยเสมอและเข้ากับการแต่งตัวทุกแบบ มันดึงดูดความสนใจมาที่ดวงตาของคุณทำให้สีตาของคุณโดดเด่น ลงไพรเมอร์บริเวณเปลือกตาด้วยอายแชโดว์เบสเพื่อให้อายแชโดว์สีเข้มไม่เลอะเทอะ
    • ปัดอายแชโดว์สีนู้ดทั่วทั้งเปลือกตา ลงอายแชโดว์แบบชิมเมอร์ตั้งแต่ฐานไปจนถึงคิ้ว กรีดเส้นแนวขนตาล่างบนด้วยอายไลเนอร์สีเข้ม (สีน้ำตาลหรือสีดำ) เกลี่ยอายไลเนอร์ด้วยคอตตอนบัด
    • ปัดอายแชโดว์สีเข้มกว่าทั่วทั้งเปลือกตาและบริเวณหางตา เกลี่ยสีขึ้นข้างบนและออกไปทางหางตา
    • ลงสีไฮไลท์ใต้โหนกคิ้วและหัวตา กรีดแนวเส้นขนตาด้านในด้วยอายไลเนอร์เพื่อทำให้ดูชัดเจนขึ้น ปัดขนตา 2-3 ครั้งด้วยมาสคาร่าและดัดขึ้นด้านบน
  5. ไม่ว่าผมของคุณจะเป็นทรงไหนแต่ผมที่มีสุขภาพดีคือผมที่น่าดึงดูดมากที่สุด สระผมให้บ่อยเท่าที่จำเป็น อย่างไรก็ตาม สำหรับผมทุกประเภท คุณต้องสระเฉพาะบริเวณหนังศีรษะ การสระผมบริเวณปลายผมอาจทำให้ผมแห้งได้ [4]
    • คุณต้องสระผมที่มีลักษณะปกติทุกวันไปจนถึง 3 วันครั้งโดยขึ้นอยู่กับว่าวิธีใดที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับคุณ มีคนกล่าวไว้ว่าการสระผมทุกวันอาจทำให้ผมแห้งได้ไวกว่าและจะผลิตน้ำมันมากขึ้น คุณอาจจะต้องทดลองด้วยการสระผมให้น้อยลงหรือเปลี่ยนแชมพู
    • ถ้าผมของคุณมักจะมีลักษณะมัน คุณอาจจะต้องสระผมทุกวัน คุณยังอาจจะต้องเปลี่ยนแชมพูเพราะแชมพูอาจจะเป็นสาเหตุของผมมัน
    • คุณไม่จำเป็นต้องสระผมที่หยิกและฟู (และหนา) บ่อยครั้ง เพียงแค่อาทิตย์ละ 2 ครั้งหรือ 3 ครั้งเป็นอย่างมาก ไม่เช่นนั้นผมจะแห้งได้เร็วและทำให้ผมชี้ฟู [5]
  6. ผมคือสิ่งที่คุณสามารถทำให้ดูโดดเด่นและเสริมใบหน้าหรือตรงกันข้ามได้ เมื่อคุณรู้ว่าใบหน้าของคุณเป็นทรงใด คุณก็จะสามารถเลือกทรงผมที่เข้ากับใบหน้าได้ มีใบหน้าทั้งหมด 6 แบบ: รูปไข่ ทรงกลม ทรงเหลี่ยม ทรงยาว รูปหัวใจ และรูปเพชร [6] [7]
    • สำหรับใบหน้ารูปไข่ หน้าของคุณมีขนาดใหญ่กว่าความกว้างของหน้าประมาณ 1 เท่าครึ่ง หน้าผากของคุณมักจะใหญ่กว่าคาง สำหรับใบหน้ารูปไข่ คุณโชคดีเพราะคุณสามารถไว้ผมทรงอะไรก็ได้
    • ใบหน้าทรงกลมมีแก้มที่ชัดเจนและความยาวเท่ากับความกว้างของใบหน้า หลีกเลี่ยงผมหน้าม้าและพยายามสร้างโวลุ่มให้กับผมด้านบน (เกล้าผมและขมวดผมเป็นซาลาเปาคือทรงผมที่แนะนำ) วิธีนี้จะช่วยให้คุณดูมีใบหน้ารูปไข่
    • หน้าทรงเหลี่ยมมีขากรรไกรที่ชัดเจนและคางเหลี่ยม แนวขากรรไกรและหน้าผากมีความกว้างเท่ากัน ผมหน้าม้าและผมสั้นจะทำให้ใบหน้าของคุณดูเหลี่ยมกว่าเดิม เพราะฉะนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงทรงผมเหล่านี้ ไว้ผมซอยและผมยาวประบ่าหรือยาวกว่านั้นเพื่อช่วยคอนทัวร์ใบหน้าของคุณ
    • ใบหน้าทรงยาวมีลักษณะยาวกว่าหน้ารูปไข่เล็กน้อย (ซึ่งมักจะทำให้สับสน) และไม่กว้างเท่ากับใบหน้ารูปไข่ คนที่มีหน้ายาวมักจะมีคางแหลม ผมหน้าม้าและผมซอยสั้นระดับคางเหมาะสำหรับใบหน้าทรงนี้ซึ่งจะช่วยทำให้ใบหน้าของคุณดูสั้นลง
    • สำหรับใบหน้ารูปหัวใจ หน้าผากและโหนกแก้มของคุณกว้าง รูปหัวใจหมายถึงคุณมีขากรรไกรแคบและคางแหลม คุณควรไว้ผมยาวที่ยาวกว่าบริเวณคาง
    • สำหรับใบหน้ารูปเพชรแนวขากรรไกรและหน้าผากของคุณแคบ โหนกแก้มของคุณคือส่วนที่กว้างที่สุดของใบหน้า สร้างโวลุ่มบริเวณแนวผมและขากรรไกรโดยลดระดับบริเวณขากรรไกร ผมหน้าม้าและผมที่แต่งบริเวณปลายสามารถช่วยปกปิดความแคบของแนวผมและคางได้
  7. บางครั้งการเป็นคนที่ร้อนแรงคือการมีทรงผมที่เหมาะสม ลองหาทรงผมสัก 2-3 ทรงที่ทำให้คุณดูดีและคุณชอบ สลับไปมาระหว่างสัปดาห์เพื่อไม่ให้คุณดูน่าเบื่อ ลองทำผมทรงใหม่ๆ เพื่อทำให้น่าสนใจ [8]
    • สำหรับผมที่เป็นลอนให้ลองเกล้าผมแบบยุ่งๆ ด้วยกรอบใบหน้าที่นุ่มนวล หรือดึงผมด้านข้างของศีรษะขึ้นแล้วยึดไว้ด้านหลังโดยปล่อยให้ปลายม้วน หรือลองขมวดผมเป็นซาลาเปาด้านข้างแบบยุ่งๆ
    • สำหรับผมตรงให้ลองแสกข้างโดยปล่อยผมที่เหลือทั้งหมดลง หรือเกล้าผมให้มีโวลุ่มบริเวณกระหม่อมด้วยสเปรย์ฉีดผมเล็กน้อย หรือถักเปียฝรั่งเศสที่ด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะที่คุณสามารถยึดไว้ด้านหลังโดยปล่อยส่วนที่เหลือทั้งหมดลง
    • สำหรับผมหยิกให้ลองตัดผมสั้น หรือปล่อยผมด้วยผลิตภัณฑ์ชิ้นเล็กๆ และแสกข้างให้ชัดเจนเพื่อสร้างโวลุ่มด้านบน หรือรวบผมช่อเล็กๆ ที่ด้านบนของแนวผมและดึงไปด้านหลังโดยปล่อยด้านข้างไว้และดึงลงมา หรือรวบผมช่อเล็กๆ หลายๆ ช่อและติดกิ๊บไว้ด้านหลัง
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การดูร้อนแรงด้วยเสื้อผ้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เสื้อผ้าที่ใหญ่หรือเล็กจนเกินอาจจะทำให้คุณดูไม่เรียบร้อย คุณอาจจะรู้สึกไม่สบายตัวซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจและน่าดึงดูดน้อยลง เสื้อผ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับคุณจะช่วยอวดรูปร่างไม่ว่าจะเป็นอย่างไร
    • ลองวัดขนาดของคุณ วัดขนาดรอบอกที่กว้างที่สุดโดยถือสายวัดให้แน่นแต่อย่าแน่นจนเกินไป วัดรอบเอวหลวมๆ ซึ่งเป็นส่วนของร่างกายที่เว้าเข้าอย่างเป็นธรรมชาติ วัดรอบสะโพกที่กว้างที่สุดและด้านหลัง จดจำขนาดเอาไว้เมื่อคุณดูตารางขนาดของเสื้อผ้า
    • ลองเสื้อชั้นใน ผู้หญิงส่วนใหญ่ใส่เสื้อชั้นในผิดขนาด ไม่ว่าจะใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไป วิธีที่ดีที่สุดเพื่อช่วยให้คุณใส่ขนาดที่เหมาะสมคือลองเสื้อชั้นในจากร้านขายเสื้อชั้นในโดยเฉพาะ (ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตแต่ชุดชั้นใน เช่น Victoria's Secret)
  2. ส่วนหนึ่งของการดูร้อนแรงคือการมีเสื้อผ้าที่ทำให้คุณดูดีและเสริมสร้างรูปร่างหน้าตาของคุณ ถ้าคุณใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยให้คุณดูดี มันก็จะไม่จำเป็นว่าคุณดูเป็นอย่างไร การหาเสื้อผ้าที่เข้ากับคุณจะต้องใช้ความอดทนและการทดลอง
    • เลือกชุดยูนิฟอร์มของคุณ สิ่งนี้หมายถึงเสื้อผ้า 2-3 ชุดที่คุณชอบใส่และคุณรู้ว่ามันทำให้คุณดูดี การใช้เสื้อผ้าเหล่านี้เป็นฐานจะสร้างสไตล์ที่ทำให้ผู้คนสนใจคุณ เช่น ถ้าคุณมักจะสวมชุดเดรสก็ให้หาสไตล์ของชุดเดรสที่สามารถเป็นยูนิฟอร์มของคุณได้ เช่น แบบย้อนยุค 50 คุณสามารถเพิ่มเข็มขัดและชุดเดรสสีต่างๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายได้ คุณยังสามารถใส่เลกกิ้งและรองเท้าบู๊ตหรือไม่ใส่เลกกิ้งและใส่รองเท้าแตะโดยขึ้นอยู่กับว่าอากาศเป็นอย่างไร
    • การแต่งตัวแบบกลางๆ สามารถช่วยให้คุณจำกัดเครื่องแต่งกายได้เพื่อไม่ให้มันอยู่เหนือการควบคุมของคุณ สิ่งนี้หมายถึงเสื้อยืดและกางเกงและกระโปรงเรียบๆ ที่มีสีกลางๆ (เช่น สีดำ สีกรมท่า สีขาว สีเทา) คุณสามารถจับคู่สิ่งเหล่านี้กับเสื้อเชิ้ตหรือกางเกงพองๆ หรือเครื่องประดับ เช่น สวมเสื้อยืดมีลวดลายสีแดงกับยีนส์แบบสกินนี่สีดำ แจ็คเก็ตสีเทากับรองเท้าบูทสีเทา คุณยังสามารถเพิ่มต่างหูอันใหญ่ๆ สีสดใส (สีเหลืองหรือสีส้ม) หรือผ้าพันคอได้
    • เป็นที่ประจักษ์ว่าสีแดงคือสีที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุด ผู้หญิงที่ใส่สีแดงมักจะดูเซ็กซี่กว่าคนที่ไม่ใส่ (หรือคนที่ไม่ได้ใส่สีแดงในขณะนั้น) ใส่ชุดเดรสสีแดงสดหรือแม้แต่ผ้าพันคอสีแดงเพื่อเพิ่มระดับความร้อนแรง [9]
  3. ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าถือ เข็มขัดเส้นใหญ่ หรือต่างหูสีสันสดใส เครื่องประดับคือวิธีแสดงความเป็นตัวตนโดยไม่เยอะจนเกินไป มีวิธีมากมายที่จะทำให้เครื่องแต่งกายของคุณดูดีจนผู้คนสังเกตเห็นสไตล์ของคุณ!
    • กระเป๋าถือคือชิ้นส่วนที่แสดงสไตล์ได้ดีที่สุดและยังมีประโยชน์อีกด้วย ถ้าคุณมักจะเลือกใช้สีใดสีหนึ่ง (เช่นสีเขียวและสีน้ำตาล) ก็ให้ใช้กระเป๋าถือที่ช่วยขับสีเหล่านั้น (เช่น สีทองประกาย)
    • เครื่องประดับเป็นวิธีที่ดึงดูดความสนใจ ลองดูว่าคุณชอบอะไรและอวดมันออกมา ต่างหูเพชรแบบห้อยเหมาะสำหรับคนที่มีผมสั้นหรือเกล้าผม การสวมเครื่องประดับมุกกับกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสามารถทำให้คุณดูมีคลาสได้ คุณยังสามารถใช้เครื่องประดับเพื่อดึงสีสันของเสื้อผ้า (เช่น ถ้าคุณใส่ชุดสีทองที่มีขอบสีเขียว คุณสามารถใส่ต่างหูสีเขียวเพื่อให้เข้ากับชุด)
    • ผ้าพันคอ เข็มขัด และถุงเท้ายาว (เลคกิ้ง ถุงเท้า ถุงน่อง เป็นต้น) คือชิ้นส่วนที่ใช้งานได้จริงและสามารถดูร้อนแรงได้ด้วย คุณสามารถใช้ผ้าพันคอและเข็มขัดสีสันสดใสกับกางเกงและเสื้อยืดสีเรียบ คุณยังสามารถสวมชุดเดรสสีเทาเข้มกับเลกกิ้งสีสันสดใสที่มีลวดลายได้
  4. คุณต้องใส่รองเท้าที่เข้ากับเสื้อผ้าและสวมใส่สบาย เช่น ถ้าคุณไม่สามารถเดินบนรองเท้าส้นสูงได้ก็ไม่ควรใส่รองเท้าส้นสูงและสวมรองเท้าส้นเตี้ยตามเดิม ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายตัว ผู้อื่นจะสังเกตได้และอาจจะไม่คิดว่าคุณร้อนแรง
    • รองเท้าส้นเตี้ยเป็นรองเท้าที่หลากหลาย คุณสามารถแต่งตัวแบบเรียบง่ายหรือแต่งตัวเต็มยศได้ รองเท้าส้นเตี้ยสามารถเป็นตัวไฮไลท์ (เช่น สีแดง) หรือเพิ่มความเรียบง่าย (เช่น สีเทาหรือสีน้ำตาล) โดยขึ้นอยู่กับสีของรองเท้า
    • รองเท้าบูทช่วยเพิ่มลุคแบบมีคลาสให้กับเสื้อผ้าส่วนใหญ่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นบูทแบบมีส้น รองเท้าบูทสีดำมีความหลากหลายและถ้ามันสวมใส่สบาย คุณก็สามารถสวมใส่มันได้ทุกสถานการณ์ รองเท้าบูทระดับข้อเท้าเข้ากันได้ดีกับกางเกงยีนส์แบบสกินนี่ กระโปรง หรือแม้แต่กางเกงขาสั้นและถุงน่อง
    • รองเท้าส้นสูงคือสิ่งที่คุณควรใส่ให้ชินก่อนที่จะสวมใส่กับเครื่องแต่งกาย การสวมรองเท้าส้นสูงสีสดใสสามารถทำให้คุณรู้สึกและดูร้อนแรงได้ มันจะช่วยทำให้เครื่องแต่งกายดูดีได้ทันที (แม้แต่กางเกงยีนและเสื้อยืด) แต่ถ้าคุณสวมแล้วเดินไม่ถนัดก็อาจจะทำให้คุณดูไม่สบายตัว
  5. การแต่งตัวตามกระแสคือวิธีที่จะไม่ดึงดูดความสนใจอย่างแน่นอน มันคือผู้คนที่รวบรวมกระแสในปัจจุบันกับสไตล์ของตัวเองที่ระบุว่าร้อนแรง สิ่งนี้เป็นเพราะคนเหล่านี้โดดเด่นและรู้ว่าใส่อะไรให้เหมาะกับตัวเอง
    • วิธีที่ดีเพื่อสร้างสไตล์ที่ไม่เหมือนใครโดยไม่ดูแปลกประหลาดคือหาบางชิ้นส่วนที่ชัดเจน สิ่งเหล่านี้ ได้แก่ เครื่องประดับ ผ้าพันคอ รองเท้า และแม้แต่สีที่เป็นตัวของคุณเอง เช่น คุณอาจจะสวมเดรสและกระโปรงเรียบๆ แต่เลกกิ้งของคุณเก๋และมีสีสันสดใส (เช่น ใช้ลวดลายภาพวาดของโมเน่ต์หรือใส่เลกกิ้งแนวอวกาศ)
    • หาเสื้อผ้าจากที่ที่ไม่เหมือนใคร เสื้อผ้าของผู้หญิงมักจะดูเหมือนกันแต่คุณสามารถหาเสื้อยืดเก๋ๆ (ที่มีลายอวกาศ ไดโนเสาร์ และตัวการ์ตูน) จากส่วนของเสื้อผ้าผู้ชาย คุณสามารถหาชิ้นส่วนที่มีเพียงชิ้นเดียว เช่น เครื่องประดับแฮนเมดที่จะช่วยให้คุณดูโดดเด่นได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การมีวิถีชีวิตแบบร้อนแรง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สุขภาพสำคัญอย่างยิ่งกับสุขภาพกาย สุขภาพจิต และรูปร่างหน้าตา สิ่งต่างๆ เช่น การพักผ่อนที่เพียงพอและการออกกำลังกายส่งผลต่อรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างมาก (โดยเฉพาะผิวของคุณ)
    • การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญมากของการดูร้อนแรง มันไม่เกี่ยวกับการลดน้ำหนักเสมอไปแต่เป็นการรักษาสุขภาพ การออกกำลังกายช่วยปล่อยสารเคมีที่กระตุ้นอารมณ์และทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ปริมาณการออกกำลังกายที่แนะนำคือ 30 นาทีต่อวัน เพราะฉะนั้น เปิดเพลงและเต้น หรือออกไปวิ่ง [10]
    • พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอนอกจากจะทำให้คุณดูเหนื่อยแล้วยังทำให้คุณรู้สึกไม่ดีและขยายปัญหาที่มีอยู่ พยายามนอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อคืน (ถ้าคุณเป็นวัยรุ่นก็ควรนอนให้ได้ 9 ชั่วโมง) ยิ่งคุณนอนก่อนเที่ยงคืนได้เท่าไหร่ ร่างกายของคุณก็จะมีความสุขมากเท่านั้น ปิดเครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ (โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ iPod) อย่างน้อย 30 นาทีก่อนเข้านอน
    • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ขาดน้ำเพราะดื่มน้ำไม่เพียงพอ การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยจัดการน้ำหนักตัว ทำให้ผิวดูดีขึ้น และทำให้คุณรู้สึกมึนงงน้อยลง พยายามดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ถ้าคุณไม่ชอบน้ำเปล่าก็สามารถดื่มน้ำโซดาหรือน้ำรสเปรี้ยว หรือใส่มะนาวชิ้นเล็กลงในขวดน้ำ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือน้ำตาลมากเกินไปเพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้คุณขาดน้ำ
  2. สิ่งที่คุณใส่ในร่างกายสร้างความแตกต่างมากมายให้กับสุขภาพผิวและผม มันยังสร้างความแตกต่างให้กับสุขภาพจิตด้วย คุณต้องทานอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตแทนอาหารที่จะทำให้คุณรู้สึกแย่ลง [11]
    • การทานอาหารเพื่อสุขภาพคือการทานผักและผลไม้จำนวนมาก ทานผักและผลไม้อย่างน้อย 5 ส่วนต่อวัน ผักและผลไม้ที่ดีที่สุดคือผักที่มีใบเขียว มีสีสันสดใส (เช่น พริกหยวกสีแดง หอมแดง เป็นต้น) และบลูเบอร์รี่ สตรอเบอรี่ และกล้วย
    • ลองทานอาหารที่มีกรดไขมันจำเป็น เช่น ปลาแซลมอน วอลนัท อะโวคาโด และเมล็ดแฟลกซ์ซีด อาหารเหล่านี้ดีต่อสุขภาพจิตเช่นเดียวกับผิวของคุณ
    • ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมไขมันต่ำซึ่งมีวิตามินเอและอะซิโดฟิลัสสามารถช่วยควบคุมระบบลำไส้ซึ่งช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกายของคุณ ในทางกลับกัน สิ่งนี้จะทำให้ร่างกายและผิวของคุณมีสุขภาพดีขึ้น
    • หลีกเลี่ยงอาหารขยะ อาหารแปรรูป และอาหารที่มีน้ำตาลสูงให้มากที่สุด อาหารเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะมีผลเสียต่อผิวแต่ยังทำให้คุณรู้สึกแย่ลงและอารมณ์ไม่ดีมากขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องเลิกทานอาหารเหล่านี้ทั้งหมดแต่ควรลดปริมาณลง
    • ทานอาหาร 3 มื้อหลักต่อวัน (มื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น) และอาหารว่าง 2 ครั้ง (ระหว่างมื้อเช้าและมื้อกลางวันและระหว่างมื้อกลางวันและมื้อเย็น) สิ่งนี้จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระบบเผาผลาญของร่างกาย คุณต้องทานอาหารเช้าเพราะสิ่งนี้จะช่วยเหลือคุณตลอดวัน โดยปกติใน 1 วันคุณควรทานโอ๊ตมีล ลูกเกด และวอลนัทสำหรับมื้อเช้า ไข่ต้มและแอปเปิ้ลสำหรับอาหารว่าง พาสต้าโฮลวีท ซอสมะเขือเทศโซเดียมต่ํา และชีสสำหรับมื้อกลางวัน เซอเลอรี่หั่นแท่งและเนยถั่วสำหรับอาหารว่าง ไก่อบ ข้าวกล้อง และสลัดผักสำหรับมื้อเย็น
  3. ความมั่นใจจะทำให้คุณเป็นที่สังเกตและดูร้อนแรงนอกเหนือจากความน่าดึงดูดทางกาย คุณสามารถดูจืดๆ สำหรับมาตรฐานของสังคมและยังมีความมั่นใจซึ่งทำให้ผู้คนเหลียวมามองคุณ โชคดีที่ความมั่นใจคือสิ่งที่คุณสามารถฝึกฝนจนเก่งได้ [12]
    • หลีกเลี่ยงการตัดสินตัวเองแรงจนเกินไป ทุกคนทำผิดพลาด พูดสิ่งที่ไม่ควร และไม่มีใครที่ดูร้อนแรงตลอดเวลา ยิ่งคุณตัดสินตัวเองเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่หวังมากเท่าไหร่ คุณก็จะรู้สึกมั่นใจในตัวเองน้อยลงเท่านั้น
    • หลีกเลี่ยงการตัดสินผู้อื่น นักวิทยาศาสตร์พบว่าผู้คนที่มักจะตัดสินผู้อื่นแรงๆ กำลังสะท้อนตัวตนของเขาออกมาและมีความมั่นใจน้อยลงในที่สุด ถ้าคุณกำลังตัดสินผู้อื่นก็ควรหยุดและกล่าวคำชมเชยหรือพูดอะไรที่เป็นกลางแทน เช่น ถ้าคุณกำลังพูดว่า “ว้าว เสียงของเธอแย่ที่สุด” เลยก็ควรพูดว่า “ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงเสียงของตัวเองได้” หรือ” เธอเล่าเรื่องตลกได้ดีที่สุด” [13]
    • หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น นี่คือสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ มันมักจะมีคนที่ร้อนแรงกว่าคุณ ได้รับความสนใจมากกว่าคุณ และมีผมสวยกว่าคุณ การเปรียบเทียบตัวเองกับทุกคนจะทำให้คุณรู้สึกแย่เกี่ยวกับตัวเองและทำลายความมั่นใจของคุณ
    • ใช้ภาษากายที่มั่นใจ เดินด้วยความมั่นใจ ยืนหลังตรงไม่ห่อไหล่ และแอ่นอก สบตากับผู้คน การสบตาไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่เซ็กซี่เท่านั้นแต่ยังเป็นสัญญาณของความมั่นใจด้วย [14]
  4. คุณจะต้องกำจัดสิ่งที่เป็นลบเพื่อรักษาทัศนคติที่เป็นบวกและเพิ่มความมั่นใจของตัวเอง ความคิดเชิงลบเกี่ยวกับตัวเองและผู้อื่นจะทำให้คุณรู้สึกแย่ลงกับตัวเอง และผู้อื่นจะสัมผัสความรู้สึกนั้นได้ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
    • เช่น ถ้าคุณส่องกระจกทุกเช้าและพูดกับตัวเองว่า “ว้าว ฉันดูน่าเกลียดจัง” ไม่เพียงแต่ว่าคุณจะเกลี้ยกล่อมตัวเองว่าคุณเป็นคนที่น่าเกลียดแต่คุณยังจะทำให้ผู้อื่นคิดแบบเดียวกัน
    • ใส่ใจกับรูปแบบความคิดและความคิดเชิงลบเกี่ยวกับตัวเอง คุณจะเริ่มสังเกตเห็นสิ่งที่ไม่ดีที่คุณพูดกับตัวเองทุกวันด้วยการใส่ใจกับสิ่งที่คุณคิดเกี่ยวกับตัวเอง เมื่อคุณสามารถระบุความคิดเหล่านี้ได้ คุณก็จะเปลี่ยนแปลงมันได้
    • เมื่อคุณมีความคิดเชิงลบเกี่ยวกับตัวเองก็ควรแทนที่มันด้วยความคิดเชิงบวกหรือความคิดกลางๆ เช่น ถ้าคุณคิดว่า “ว้าว ฉันดูน่าเกลียดจัง” ทุกครั้งที่คุณส่องกระจกก็ควรหยุดและคิดว่า “วันนี้ฟันของฉันสวยจัง” หรือขอบคุณร่างกายที่มีสุขภาพดีของคุณ คุณยังสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นกลางให้เป็นบวกได้ เริ่มด้วยการบอกตัวเองว่าคุณเป็นคนสวยและในที่สุดคุณจะเริ่มเชื่อสิ่งนั้น
    • กำจัดคนที่เป็นลบออกจากชีวิตให้มากที่สุด คนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่เกี่ยวกับตัวเอง วิจารณ์คุณตลอดเวลา ดึงพลังงานออกจากคุณคือคนที่คุณต้องหลีกเลี่ยงมากที่สุด ถ้าคุณไม่สามารถตัดขาดพวกเขาออกจากชีวิตได้ทั้งหมดก็ควรจำกัดเวลาที่คุณต้องใช้กับพวกเขาให้น้อยที่สุด
  5. ถึงแม้ว่าความร้อนแรงมักจะมาจากรูปลักษณ์ภายนอกและความมั่นใจ แต่ผู้คนที่นิสัยดีน่าดึงดูดมากกว่าคนที่นิสัยไม่ดี [15]
    • ความปราณี การเป็นผู้ฟังที่ดี และการเคารพผู้อื่นคือคุณสมบัติที่ทุกคนคิดว่าน่าดึงดูดมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก การมีคุณสมบัติเหล่านี้จะเพิ่มความน่าดึงดูดสำหรับผู้อื่นได้
    • ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ขับรถพาเพื่อนไปพบแพทย์ ซื้อกาแฟให้ลูกน้อง อุทิศเวลาและเงินให้กับบ้านพักคนจร
    • สิ่งนี้ไม่ได้แปลว่าคุณต้องใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น การช่วยเหลือผู้อื่นและการรับฟังคือสิ่งที่ดีตราบใดที่คุณดูแลตัวเองในเวลาเดียวกัน
  6. สิ่งหนึ่งที่คุณต้องจำไว้เมื่อคุณพยายามดูร้อนแรงคือสิ่งที่ร้อนแรงจะเปลี่ยนไปเสมอ นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเป็นตัวของตัวเองและมีความมั่นใจในตัวเองคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด
    • เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับผู้หญิงและสาวๆ ในนิตยสารและในทีวี ผู้หญิงที่ “สมบูรณ์แบบ” เหล่านั้นแท้จริงแล้วไม่ได้ดูเป็นแบบนั้น พวกเขามีทีมช่างผม ช่างแต่งตัว ช่างแต่งหน้า ช่างไฟ และ Photoshop เพื่อทำให้ดูเป็นแบบนั้น [16]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ตัดผมอย่างน้อย 2-3 วันก่อนโรงเรียนเปิดหรือก่อนเริ่มงานใหม่ วิธีนี้คุณจะมีโอกาสทำความคุ้นเคยกับมันก่อนจะอยู่ในสถานการณ์ใหม่
  • ถ้าตาของคุณแดงและบวมเพราะคุณนอนไม่พอ คุณสามารถวางถุงชาที่เย็นและเปียกหมาดบนตาและใช้ผ้าเย็นเพื่อจัดการกับอาการตาแดงและบวม
  • ถ้าคุณชอบใส่น้ำหอมก็ใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ ยิ่งใครบางคนต้องเข้าใกล้คุณเพื่อได้กลิ่นน้ำหอมของคุณเท่าไหร่ คุณทั้งคู่ก็จะรู้สึกเย้ายวนมากเท่านั้น
  • เดินด้วยศักดิ์ศรี ความ มั่นใจในตัวเอง คือส่วนหนึ่งของการดูร้อนแรง
โฆษณา

คำเตือน

  • จำไว้ว่าไม่มีใครน่าดึงดูดได้ 100% ตลอดเวลา สิ่งนี้เป็นเรื่องจริงสำหรับทุกคนรวมไปถึงคนมีชื่อเสียงและคนที่ร้อนแรงทุกคน น้อยคนที่จะลุกออกจากเตียงในตอนเช้าและดูเหมือนอยู่ในหนัง
  • จำไว้ว่าความงามของคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร เป็นไปได้ยากที่จะบรรลุมาตรฐานความงานในปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิง ถึงแม้ว่าคุณแต่งหน้าทุกวันและแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่น่าดึงดูดมากที่สุดแต่คุณก็ไม่สามารถบรรลุมาตรฐานของทุกคนได้ อย่าพยายาม ใช้มาตรฐานความงามของตัวเองก็พอ
  • พยายามหลีกเลี่ยงการหมกมุ่นกับการดูร้อนแรง มันคือมาตรฐานที่จะบรรลุได้ยาก สิ่งนั้นไม่ได้แปลว่าคุณจะสามารถเพลิดเพลินกับการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าต่างๆ แต่งหน้า และดึงดูดความสนใจไม่ได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,255 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา