ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ในโลกใบนี้มีสิ่งต่างๆ ที่เราต้องการมากมาย บางอย่างเราสามารถหามาได้ด้วยตนเอง บางอย่างเราอาจต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้อื่น เช่น พ่อแม่ เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น การรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและเรียนรู้ที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นบ้างเป็นกุญแจสำคัญสู่การบรรลุเป้าหมายของเรา

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ค้นหาเป้าหมายให้พบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เราต้องรู้ว่าอะไรที่ทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการได้ สิ่งต่างๆ ที่เราต้องการต้องสอดคล้องกับสิ่งที่เราให้ความสำคัญ ถ้าทั้งสองอย่างนี้ไม่สอดคล้องกัน เราก็ไม่อาจดำเนินชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการได้หรืออาจสูญเสียบางอย่างที่สำคัญระหว่างมุ่งสู่เป้าหมายได้ [1]
    • ในตอนแรกเราไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งที่สำคัญขัดแย้งกับความต้องการของตนเองหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ถ้าเป้าหมายของเราคือเริ่มธุรกิจซึ่งต้องอาศัยการทุ่มเทเวลาอย่างมากถึงจะประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของตนเองมากๆ ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าความต้องการของเราขัดแย้งกับสิ่งที่สำคัญสำหรับเรา
  2. เป้าหมายกว้างๆ อย่างเช่น "มีรายได้มากขึ้น" หรือ "มีสุขภาพที่ดีขึ้น" ก็เป็นเป้าหมายที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องเพิ่มรายละเอียดให้มากกว่านี้ กำหนดความสำเร็จและวิธีวัดความก้าวหน้าให้ชัดเจน เราจะได้รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไรและรู้ว่าต้องทำขั้นตอนใดบ้างถึงจะบรรลุเป้าหมาย
    • ตัวอย่างเช่น เราอาจปรับเป้าหมายกว้างๆ อย่าง "มีสุขภาพที่ดีขึ้น" ให้กลายเป็นเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นอย่างเช่น "สามารถวิ่งได้ถึง 10 กิโลเมตร" หรือ "สามารถลดน้ำหนักลงได้ประมาณ 9 กิโลกรัม "
  3. รวมทั้งเหตุผลที่เราต้องการสิ่งนั้นด้วย การเขียนจะทำให้ความปรารถนาของเราดูเป็นรูปธรรมมากขึ้นและช่วยเตือนตนเองว่าเราต้องการสิ่งใด การเขียนยังช่วยให้เราเข้าใจอย่างชัดเจนขึ้นว่านี้คือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ หรือเปล่า มีอะไรอย่างอื่นที่เราต้องการอีกไหม [2]
  4. ผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงไม่กล้าร้องขอสิ่งทีต้องการ เพราะรู้สึกว่าตนเองไม่ดีพอหรือไม่สมควรได้รับ ลองคิดสิว่าทำไมเราถึงรู้สึกแบบนี้ การสำรวจและยอมรับว่าตนเองกลัวบางสิ่งบางอย่าง สามารถช่วยให้เราเข้าใจได้อย่างชัดเจนมากขึ้นว่าเราจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ตนเองได้ในสิ่งที่ต้องการ [3]
    • อย่ากังวลว่าผู้อื่นจะต้องการเหมือนเราไหมและเขาจะเดือดร้อนหรือเปล่า ชีวิต ขอบเขต และความปรารถนาของเรากับของผู้อื่นนั้นแตกต่างกันและนั่นก็ดีแล้ว รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและรู้ว่าความต้องการนั้นเป็นความต้องการของเราโดยเฉพาะ ทั้งสองอย่างนี้เป็นขั้นตอนสำคัญของการทำให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการ [4]
  5. ถ้าตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร อาจลองเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ทำงานสายอื่น เปิดรับประสบการณ์ใหม่ หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ความคิดของเรากว้างขึ้น เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อโลกใบนี้ [5]
    • ถ้าไม่รู้ว่าจะลองทำอะไรดี ขอให้เพื่อนช่วยแนะนำกิจกรรมใหม่ๆ และลองทำตามคำแนะนำนั้นอย่างเช่น ลงเรียนวิชาที่สนใจ ท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ เป็นต้น เราอาจค้นพบงานอดิเรกใหม่ๆ หรือค้นพบเป้าหมายในชีวิตของตนเองในที่สุด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ลงมือทำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลิกสงสัย . ผู้คนจำนวนมากไม่กล้าไขว้คว้าสิ่งที่ตนเองต้องการ เพราะสงสัยในความสามารถของตนเอง ฉะนั้นเราต้องรู้ว่าตัวเองสงสัยเรื่องอะไรและเพราะอะไรถึงสงสัยเรื่องนี้ รวมทั้งต้องหาทางป้องกันไม่ให้ความสงสัยนี้มาขัดขวางการทำให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการ [6] [7]
  2. หลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้คนต้องการ เช่น สิ่งของ ทักษะ หรือแม้แต่งานใหม่ต้องใช้เงิน คำนวณค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างมุ่งสู่เป้าหมายของตนเองและดูสิว่าเรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง [8]
    • ถ้าเรากำลังคิดจะใช้จ่ายครั้งใหญ่หรือคิดจะทำอะไรที่มีค่าใช้จ่ายสูง เก็บเงินทีละเล็กทีละน้อยทุกเดือนหรือทุกครั้งที่เงินเดือนออกให้เก็บเงินไว้ส่วนหนึ่ง เราจะได้สามารถนำเงินที่เก็บนั้นมาใช้จ่ายเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ การเก็บเงินไว้ซื้อในสิ่งที่ต้องการนั้นยังช่วยฝึกให้เรามีนิสัยประหยัดและอดออมมากขึ้น
    • อย่าดูแค่สิ่งที่เราต้องการจะซื้อเท่านั้น ตรวจดูสิ่งของที่เราจ่ายเงินซื้อไปแล้วด้วย ถ้ามีสิ่งใดที่เราเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายและสามารถตัดออกไปได้ ให้ตัดออกไป
  3. วางแผน . เมื่อเรารู้ว่าตัวเองต้องการอะไรแล้ว ให้กำหนดขั้นตอนที่เราต้องทำตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ
    • คิดว่าจะมีอุปสรรคหรือปัญหาใดเกิดขึ้นบ้างและหาวิธีรับมือหรือป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น การนึกถึงอุปสรรคและปัญหาจะทำให้เราเกิดความสงสัยในความสามารถของตนเองอยู่แล้ว ปัจจัยที่อาจเป็นอุปสรรคของเรา เช่น เงิน เวลา ความสามารถ ผู้อื่น เป็นต้น
    • กำหนดขั้นตอนว่าตนเองจะทำอะไรบ้างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ การทำขั้นตอนต่างๆ ให้สำเร็จไปทีละขั้นตอนภายในระยะเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้เรามีกำลังใจที่จะทำตามเป้าหมายของตนเองต่อไป การทำเป้าหมายเล็กๆ ให้สำเร็จง่ายกว่าการพยายามทำเป้าหมายใหญ่ให้สำเร็จในคราวเดียว ตัวอย่างเช่น ถ้าเป้าหมายของเราคือการลดน้ำหนัก เริ่มจากตั้งเป้าหมายลดน้ำหนักลง 2 กิโลกรัมภายในสองสัปดาห์ ลดน้ำหนักลงทีละนิดง่ายกว่าการกินอาหารน้อยๆ และพยายามลดน้ำหนักลงเก้ากิโลกรัมภายในสองสัปดาห์
    • กำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน กำหนดวันหรือกรอบเวลาที่ควรจะบรรลุเป้าหมายของตนเอง เราจะได้มีความกระตือรือร้นและมุ่งมั่นที่จะทำให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการ การมีกำหนดเวลายังช่วยให้เราทำตามแผนจนได้ผลลัพธ์ออกมา
    • ทำตามแผน สาเหตุที่คนจำนวนมากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เพราะคนเหล่านั้นยอมแพ้เร็วเกินไป ความท้อแท้ย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา ฉะนั้นพยายามทำตามแผนต่อไป ถึงแม้จะพบเจออุปสรรคมากมายก็ตาม [9]
  4. บางครั้งเราก็ไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองหวังเอาไว้ แทนที่จะใช้ความผิดหวังเป็นเหตุผลในการหยุดอยู่แต่เพียงเท่านี้ ให้ถือเสียว่านี้เป็นโอกาสที่เราจะได้ในสิ่งที่ต่างออกไปและอาจเป็นสิ่งที่ดีกว่า [10] [11]
    • ตัวอย่างเช่น เรากำลังเก็บเงินเพื่อซื้อของชิ้นหนึ่งที่มีราคาแพงมาก แต่พอเก็บเงินได้ตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ของที่อยากได้กลับหมด เราอาจเลือกซื้อของชิ้นอื่นหรือของที่ดีกว่าชิ้นที่เราต้องการนั้น อีกทางหนึ่งคือรอของที่ดีกว่าวางจำหน่ายก็ได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผู้อื่นไม่ได้รู้ใจเราหมดไปเสียทุกเรื่อง ถ้าเราไม่บอกเขาไปตามตรงว่าเราต้องการอะไร เขาก็ไม่มีทางรู้ [12] โดยส่วนใหญ่ผู้อื่นยินดีที่จะช่วยเหลือเราอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราเป็นเพื่อนหรือคนในครอบครัวของเขา [13]
    • ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นโดยตรง การเข้าไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นโดยตรงดีกว่าการโทรศัพท์หรือส่งอีเมลไปหาเขา การเข้าไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นโดยตรงทำให้เขาปฏิเสธเราได้ยากขึ้น
    • ให้รายละเอียดที่ชัดเจน เมื่อเราขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ให้รายละเอียดไปว่าเราต้องการอะไรและต้องการเมื่อไร อย่าใช้คำที่คลุมเครืออย่างเช่น "เร็วๆ นี้" กำหนดระยะเวลาให้ชัดเจนไปเลย คำขอร้องที่มีรายละเอียดชัดเจนจะทำให้ผู้อื่นเห็นว่าเราได้ใช้เวลาใคร่ครวญมาเป็นอย่างดีแล้วและทำให้รู้ว่าเขาสามารถช่วยเราได้อย่างไรบ้าง
  2. แสดงความกระตือรือร้นว่าอยากได้ในสิ่งที่ต้องการ. นี้คือสิ่งที่เราต้องการและเราอยากได้จริงๆ แสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าสิ่งที่เราต้องการมีความหมายกับเรามาก ถ้าผู้อื่นรู้สึกแบบเดียวกับเรา เขาก็จะปฏิเสธคำขอร้องของเราได้ยากขึ้น ถ้าเราแสดงความกระตือรือร้นออกมาให้ผู้อื่นเห็น เขาอาจรู้สึกว่าเราต้องการสิ่งนั้นจริงๆ และอยากช่วยเหลือเพื่อให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการ [14]
  3. เราไม่ควรขอให้ผู้อื่นทำทุกอย่างให้เราทั้งหมด ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่อยากช่วยเราเท่าไรนัก เราควรขอให้เขาช่วยในส่วนที่เขาจำเป็นต้องช่วยจริงๆ ถ้าเห็นว่าในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งมีแต่เขาเท่านั้นที่ช่วยเราได้ บอกเขาไปตามตรงและขอให้เขาช่วยเราแค่เฉพาะขั้นตอนนั้น
    • แทนที่จะขอให้ผู้อื่นทำบางสิ่งบางอย่างให้เรา เราอาจขอคำแนะนำจากเขาแทนแล้วทำตามคำแนะนำนั้น ถ้าเป้าหมายของเราคือปรับปรุงการทำงานของตนเองให้ดีขึ้น ผู้อื่นอาจแนะนำว่าเราสามารถเรียนรู้เรื่องนี้จากแหล่งใดได้บ้าง เขาจะได้ไม่ต้องสอนวิธีปรับปรุงการทำงานให้เราด้วยตนเอง
  4. ถ้ามีคนช่วยทำอะไรสักอย่างให้เรา เราต้องหาทางตอบแทนเขาด้วย อาจตอบแทนผู้อื่นด้วยการให้ความช่วยเหลือเขากลับไปเช่นกัน เมื่อเขาต้องการ หรือถ้าเรายืมเงินผู้อื่นมา ก็ต้องนำเงินไปคืนเขา
    • ถ้าเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานให้ความช่วยเหลือเรา เราอาจตอบแทนเขาอย่างง่ายๆ ด้วยการอาสาออกไปซื้อข้าวกลางวันให้หรือให้ความช่วยเหลือด้านอื่น เราสามารถอาสาช่วยงานบางส่วนของเพื่อนได้เพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาช่วยเหลือเรา
    • ถ้าพ่อแม่ช่วยเหลือเรา อย่าคิดว่าไม่สามารถหาอะไรมาตอบแทนพวกท่านได้ เพราะตนเองยังเรียนหนังสืออยู่และยังไม่มีรายได้ เราสามารถตอบแทนพ่อแม่ได้อย่างเช่น ช่วยทำงานบ้านและปรับปรุงผลการเรียนให้ดีขึ้น [15]
  5. บางครั้งผู้อื่นอาจปฏิเสธคำขอร้องของเราได้ หรือเราต้องโน้มน้าวเขาอีกสักหน่อย เขาถึงจะยอมช่วยเหลือเรา ลองคิดสิว่าเขาจะปฏิเสธเราว่าอย่างไรบ้างและเตรียมรับมืออย่างเหมาะสม [16] ผู้อื่นอาจสงสัยในเรื่องเดียวกันกับที่เราเคยสงสัยเช่นกัน ฉะนั้นเราสามารถใช้เหตุผลของตนเองในการโน้มน้าวให้เขายอมช่วยเหลือเราได้
    • ถ้าผู้อื่นปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเรา อย่ากลัวที่จะถามเหตุผล ถ้าคำตอบของเขาคลุมเครือหรือไม่ชัดเจนพอ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมมากกว่านี้ อาจถามว่า "ฉันควรทำยังไงดี"เผื่อจะได้รายละเอียดเพิ่มเติมและรู้ว่าควรจะทำอย่างไรเขาถึงจะเปลี่ยนใจยอมช่วยเหลือเรา [17]
    • อย่าชักสีหน้าหรือประชดใส่ผู้อื่น ถึงแม้เขาไม่ช่วยเราก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนไม่ดี การแสดงกิริยาที่ไม่ดีใส่ผู้อื่นจะทำให้เขาอยากช่วยเหลือเราน้อยลงในคราวหน้า
  6. ถ้าใครก็ตามให้ความช่วยเหลือเรา เราก็ควรขอบคุณเขา กล่าวขอบคุณออกมาจากใจจริงและกล่าวว่าผู้อื่นได้ทำอะไรให้แก่เราบ้าง การกล่าวขอบคุณยังทำให้ผู้อื่นอยากช่วยเหลือเราอีกในคราวหน้า
    • เราควรเขียนข้อความแสดงการขอบคุณอย่างเป็นทางการโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราได้รับความช่วยเหลือจากคนในที่ทำงาน ข้อความขอบคุณควรสั้นกะทัดรัดและออกมาจากใจจริง
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,079 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา