ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เมนส์มามากหรือมาครั้งละนานๆ กว่าปกติ เขาเรียกว่า menorrhagia (ภาวะประจำเดือนมามากกว่าปกติ) เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคนที่ยังมีประจำเดือนอยู่ [1] เมนส์มามากกว่าปกติบางทีก็เป็นอุปสรรคต่อชีวิตประจำวันได้ ทั้งทำให้ออกแรงทำอะไรไม่สะดวก และส่งผลต่อสุขภาพจิตกับความสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังอาจก่อให้เกิดโรคร้ายแรงอย่างโลหิตจางเพราะขาดธาตุเหล็กด้วย [2] ถ้าอยากให้เมนส์มาน้อยลง ก็ลองใช้สมุนไพรและดูแลตัวเองด้วยวิธีต่างๆ ดู รวมถึงปรับเปลี่ยนอาหารการกิน

เลื่อนลงไปอ่านส่วน "ควรใช้วิธีในบทความนี้เมื่อไหร่?" ข้างล่างได้เลย ถ้าอยากรู้ว่าควรดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติไม่ให้เมนส์มามาก (เกินไป) เมื่อไหร่

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้สมุนไพรหรือดูแลตัวเองด้วยวิธีอื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีหลายสมุนไพรที่มีฤทธิ์ฝาดสมาน (astringent properties) คนเลยนิยมใช้แก้ปัญหาเลือดออกจากโพรงมดลูกมากเกินไปกันมานาน สมุนไพรยังช่วยปรับฮอร์โมนที่ไม่สมดุลและช่วยลดภาวะประจำเดือนมามากกว่าปกติด้วย
  2. lady's mantle เป็นสมุนไพรที่นิยมใช้แก้ปัญหาเรื่องประจำเดือน ถ้าชงเป็นชาดื่มจะช่วยให้เมนส์มาน้อยลงได้ [3]
    • lady’s mantle มีชื่ออื่นว่า alchemilla vulgaris และ “woman’s herb” หรือสมุนไพรสำหรับผู้หญิง [4]
    • ใบของสมุนไพรนี้ใช้ทำยาด้วย มีสรรพคุณช่วยกระชับกล้ามเนื้อ (contractile) ทำให้เลือดแข็งตัว (coagulating) และมีฤทธิ์ฝาดสมาน (astringent) คือทำให้หลอดเลือดหดตัวอย่างเห็นผล [5] สรรพคุณตามที่ว่าช่วยปรับระดับให้เมนส์มาตามปกติ ไม่มากเกินไป
    • ให้แช่ใบ lady’s mantle แห้ง 1 ออนซ์ในน้ำเดือด 1 ไพน์ (2 ถ้วยตวง) เวลาชงชา [6]
    • ให้ดื่มชานี้ 3 ครั้งต่อวันจนเมนส์มาน้อยลง [7]
    • ลองหาซื้อ lady’s mantle จากในเน็ตดู
  3. ใช้หูปลาช่อน (shepherd’s purse) เพื่อบรรเทาอาการแบบทันใจ. หูปลาช่อน (shepherd's purse) เป็นสมุนไพรที่ช่วยห้ามเลือดได้ เพราะงั้นให้ลองใช้ลดประจำเดือนมามากดู [8]
    • อีกชื่อคือ capsella bursa pastoris
    • ลองสอบถามตามร้านขายยาหรือหาซื้อในเน็ตดู ถ้าชงเป็นชาแล้วให้ดื่ม 2 แก้วต่อวัน
    • หูปลาช่อนช่วยบรรเทาอาการตกเลือดหลังคลอดได้ด้วย
  4. chasteberry เป็นสมุนไพรที่กระตุ้นให้ร่างกายยิ่งสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ระดับฮอร์โมนจะสมดุล เมนส์ไม่มามากผิดปกติ [9]
  5. ซินนามอน/อบเชย (cinnamon) ที่ปกติใช้ทำอาหารหรือทำขนม เป็นเครื่องเทศยอดนิยมที่จริงๆ แล้วช่วยทำให้เมนส์มาน้อยลงได้ด้วย ให้ผสมซินนามอนกับอาหารหรือกินแยกเพียวๆ จะช่วยลดการบีบตัวของมดลูก ไม่ให้เมนส์มามากผิดปกติ [13]
    • ซินนามอนมีฤทธิ์ฝาดสมาน ทำให้หลอดเลือดหดตัว/ปิด เลยช่วยห้ามเลือดได้ [14]
    • ลองผสมน้ำร้อน 1 แก้วกับผงซินนามอน 3 ช้อนชาดู แล้วดื่มทุก 30 นาทีจนเมนส์มาตามปกติ [15]
    • ผสมซินนามอนในอาหารก็ช่วยให้เมนส์มาน้อยลงได้เหมือนกัน
    • พยายามใช้เฉพาะผงซินนามอน ถ้าเป็นน้ำมันซินนามอนอาจทำคุณคลื่นไส้ อาเจียน หรือไตพังได้ [16]
    • ผงซินนามอนหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
  6. ก็เหมือนซินนามอน คือราสเบอร์รี่สีแดงมีสารพฤกษเคมี (phytochemicals) หรือสารเคมีตามธรรมชาติที่พบได้ในพืช ช่วยคลายกล้ามเนื้อมดลูกได้ ลองเอาใบไปชงชาดู เผื่อเมนส์จะมาน้อยลง [17]
    • ถึงจะยังไม่มีหลักฐานการวิจัยการใช้ในมนุษย์มารองรับ แต่พอมีงานวิจัยว่าใบราสเบอร์รี่มีสรรพคุณช่วยคลายกล้ามเนื้อในสัตว์ได้ [18]
    • ให้ล้างใบราสเบอร์รี่ 170 กรัม (2 ถ้วยตวง) แล้วชงในน้ำเดือดปริมาณ 1/2 ลิตร (ประมาณ 2 ถ้วยตวง) [19] กรองก่อนแล้วดื่ม 1 แก้ว หรือ 3 ครั้งต่อวัน [20]
  7. พวกนี้เป็น homeopathic remedies หรือวิธีกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กลับสู่ภาวะปกติ จะช่วยบรรเทาภาวะประจำเดือนมาผิดปกติได้ มีงานวิจัยที่ชี้ว่า black cohosh (cimicifuga racemosa) จะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกาย [21] ส่วน sabina ช่วยบรรเทาความรุนแรงและลดระยะเวลาของภาวะประจำเดือนมากผิดปกติ [22]
    • ลองกิน black cohosh แห้ง 40 – 200 มก. ต่อวัน โดยแบ่งเป็นหลายๆ โดส หรือใช้ ethanol tincture (1:10) 60% ปริมาณ 0.4 – 2 มล. ไม่ก็ดื่มชา 1 - 2 ครั้งต่อวัน
    • sabina มีแบบอัดเม็ดด้วย ยี่ห้อดังๆ ก็เช่น Hylands และ Boiron แต่ต้องกินตามคำแนะนำที่ฉลากอย่างเคร่งครัด
  8. เอาเจลแพ็คหรือถุงน้ำแข็งห่อผ้า แล้วประคบที่หน้าท้อง ช่วยห้ามเลือดได้ แถมลดปวดลดบวม [23]
    • การประคบเย็นทำให้หลอดเลือดหดตัว (vasoconstriction) ช่วยลดการเสียเลือดได้ [24]
    • ไม่ว่าจะใช้อะไรเย็นจัดมาประคบ อย่าลืมห่อด้วยผ้าขนหนู ผ้าเช็ดตัว หรือเสื้อยืดก่อน แล้วค่อยเอามาประคบที่หน้าท้อง อย่าประคบนานเกิน 20 นาที [25]
    • 2 - 4 ชั่วโมงค่อยประคบใหม่ ทำสลับไปแบบนี้จนอาการดีขึ้น [26]
    • ถ้าเย็นจัดเกินไปจนผิวชา ให้เอาออกก่อน [27]
  9. ถ้าเมนส์มามากผิดปกติ ก็ซื้อยา NSAID (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drug) กินเองได้เลย นอกจากลดการเสียเลือดแล้วยังแก้ปวดได้ด้วย [28]
    • ทำตามคำแนะนำที่ฉลากอย่างเคร่งครัด ระวังอย่ากินเกินขนาด
    • คุณหาซื้อยา NSAIDS ได้ตามร้านขายยาทั่วไป
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ ร่างกายจะได้แข็งแรง การกินอาหารดีมีประโยชน์ อุดมคุณค่าทางสารอาหารนั้นจะทำให้เมนส์มาตามปกติ ไม่ขาด และไม่มากไม่น้อยเกินไป [29]
  2. ถั่วแขก (green beans) ก็ไฟเบอร์สูง แถมมีวิตามินบีเยอะ ช่วยป้องกันไม่ให้หน้าท้องปวดเกร็งได้
  3. กินอาหารที่มีธาตุเหล็กและวิตามินซีเยอะๆ จะได้ช่วยให้เลือดแข็งตัว. ธาตุเหล็กนั้นจำเป็นมากต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ถ้าขาดธาตุเหล็กจะทำให้เป็นโรคโลหิตจาง ทำให้เมนส์มาผิดปกติได้ [37] ธาตุเหล็กกับวิตามินซีมีนั้นจะส่งเสริมกัน (synergistic effect) เพราะวิตามินซีจำเป็นต่อการดูดซึมธาตุเหล็ก ถ้ากินอาหารที่มี 2 อย่างนี้ควบคู่กันไป จะช่วยให้เมนส์มาน้อยลงแน่นอน [38]
    • กินผักอย่างบร็อคโคลี่ เคล มันหวาน และปวยเล้ง เพื่อให้ได้ธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินซี [39]
    • กินผลไม้อย่างส้มและสตรอว์เบอร์รี่ เพื่อให้ได้วิตามินซี ส่วนลูกพรุนและแอพริคอตแห้งนั้นมีธาตุเหล็กเยอะ
  4. แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิงอย่างโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนได้ ถ้าเพิ่มแมกนีเซียมจะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน ลดอาการเมนส์มาเยอะผิดปกติได้ [40]
  5. ถ้าคุณเป็นโรคโลหิตจาง ให้ลองกินอาหารเสริมธาตุเหล็ก นอกจากช่วยเรื่องโลหิตจางแล้วยังทำให้เมนส์มาน้อยลงด้วย [42]
    • กินได้แต่ต้องทำตามคำแนะนำที่ฉลากอย่างเคร่งครัด
    • อาหารเสริมธาตุเหล็กมีขายตามร้านขายยาทั่วไปและในเน็ต
  6. บางงานวิจัยพบว่าการฝังเข็มหรือกดจุดช่วยลดภาวะประจำเดือนมามากกว่าปกติได้ เพราะเป็นการหลั่งสารเคมีเข้ากล้ามเนื้อและสมอง ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมรอบเดือน ถ้ามีปัญหาเรื่องเมนส์มามากเกินไป ลองไปฝังเข็มหรือกดจุดกับผู้เชี่ยวชาญดู [43]
    • การกดจุดช่วยให้เลือดไหลเวียนไปที่หลังและมดลูกสะดวกขึ้น เลยทำให้ปวดท้องเมนส์น้อยลง [44]
    • มีงานค้นคว้าวิจัยที่ชี้ว่าการกดจุดหรือฝังเข็มช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและลดอาการปวดท้องเมนส์ได้ [45]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ควรใช้วิธีในบทความนี้เมื่อไหร่?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ต้องรักษาดูแลตัวเองเมื่อเริ่มกระทบชีวิตประจำวัน. ถ้าเมนส์มามากหรือนานเกินไป อาจทำชีวิตประจำวันยุ่งยากขึ้นกว่าปกติได้ ถ้าตอนมีเมนส์คุณทำกิจวัตรประจำวันเดิมๆ ไม่ได้ ก็ถึงเวลาต้องใช้วิธีต่างๆ ในบทความนี้ช่วยหยุดหรือชะลอการไหลของเลือด
    • ผู้หญิงส่วนใหญ่จะไม่เป็นเมนส์เยอะขนาดเข้าข่ายภาวะ "menorrhagia" หรือประจำเดือนมามากกว่าปกติ แต่ถ้าคุณเข้าข่าย จะถึงขั้นเสียเลือดและปวดท้องเมนส์รุนแรงจนทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ กระทั่งเรื่องง่ายๆ ที่เคยทำ [46]
    • ถ้าคุณเป็นเมนส์เยอะแต่ไม่ถึงขั้นอันตรายหรือผิดปกติ ก็ให้ดูแลรักษาตัวเองไปตามวิธีทางการแพทย์ทั่วไป เช่น กินยาแก้ปวด NSAIDs หรือใช้ถุงน้ำร้อนประคบ ไม่ต้องใช้สมุนไพรตามวิธีในบทความนี้ที่ถือเป็นวิธีทางเลือก ควบคู่ไปกับการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และหลีกเลี่ยงอาหารหรืออะไรที่ทำให้ยิ่งปวดท้องเมนส์
  2. ปกติถ้ามีเมนส์ก็แสดงว่าไม่ได้ท้อง แต่ที่ต้องเตือนเพราะสมุนไพรในบทความนี้หลายชนิดจะไปปรับสมดุลฮอร์โมน ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อคนท้องและเด็กที่กินนมแม่ การใช้สมุนไพรพวกนี้ก่อนเป็นเมนส์ก็เสี่ยงเหมือนกันถ้าเกิดท้องขึ้นมาไม่รู้ตัว และอาจเป็นอันตรายกับเด็กถ้าใช้สมุนไพรพวกนี้ช่วงให้นม
    • ที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ black cohosh, alchemilla, chasteberry และใบราสเบอร์รี่ ห้ามใช้ตอนท้องหรือให้นมลูกเด็ดขาด [47] [48] นอกจากนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินอาหารเสริมธาตุเหล็กและแมกนีเซียมเช่นกัน [49]
    • ถ้าใช้ยาคุมหรือฮอร์โมนทดแทนอยู่แล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยง chasteberry กับสมุนไพรอื่นๆ ที่มีผลต่อฮอร์โมนด้วย [50]
  3. วิธี "ธรรมชาติ" ไม่ได้หมายความว่าจะ "ปลอดภัย" เสมอไป ถึงปกติการใช้สมุนไพรและอาหารเสริมช่วยลดอาการเมนส์มาเยอะผิดปกติจะปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้ก่อนเริ่มใช้อยู่ดี เพราะอาจมีผลข้างเคียง โดยเฉพาะกับคนที่มีโรคประจำตัว
    • หลายวิธีทางเลือกยังไม่ค่อยมีงานวิจัยรองรับ ผู้หญิงบางคนอาจจะใช้แล้วได้ผลดี แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารับประกันว่าได้ผล 100% ยังไม่นับเรื่องผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่อาจเกิดด้วย
    • ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเกิดโรคหรือความผิดปกติอันเกิดจากฮอร์โมน เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) แล้วไปใช้สมุนไพรปรับสมดุลฮอร์โมน อาจไปเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคและอาการดังกล่าวมากกว่าเดิม สมุนไพรที่สุ่มเสี่ยงก็เช่น black cohosh, chasteberry และใบราสเบอร์รี่
    • นอกจากนี้ black cohosh ยังอาจเป็นอันตรายต่อคนที่เป็นโรคตับหรือโรคลมชักด้วย ส่วน alchemilla กับ chasteberry ก็อาจทำตับพัง [51] และ chasteberry อาจส่งผลต่อระดับโดปามีน [52]
    • ธาตุเหล็กถ้าได้รับมากไปก็อันตรายเหมือนกัน เพราะงั้นอย่ากินอาหารเสริมธาตุเหล็กเยอะๆ ติดต่อกันนานเกิน 6 เดือน ที่สำคัญคือให้ปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ (หรือเมื่อจะใช้นานเกิน 6 เดือน) [53]
  4. วิธีทางเลือกส่วนใหญ่ผู้หญิงที่เมนส์มามากใช้ได้ปลอดภัยดี แต่ถ้าปรึกษาคุณหมอก่อน ก็จะได้รู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับสภาพร่างกายของคุณ เพราะบางคนอาจมีโรคประจำตัว
    • นอกจากนี้ คุณหมอจะวินิจฉัยได้ตรงจุดกว่า ว่าทำไมคุณถึงเมนส์มามากกว่าปกติ ส่วนใหญ่มาจากสาเหตุไม่อันตรายอะไร รักษาตัวด้วยสมุนไพรเองได้ แต่บางเคสอาจเลือดออกผิดปกติเพราะโรคไทรอยด์ มะเร็งมดลูก เนื้องอก (fibroids) และโรคร้ายแรงอื่นๆ พวกนี้ต้องรับการรักษาทางการแพทย์อย่างเดียว [54]
    • คุณหมอจะวินิจฉัยให้คุณเอง ถ้าสรุปแล้วไม่ใช่โรคร้ายแรงจะได้สบายใจ นอกจากตรวจร่างกายแล้ว คุณหมออาจพิจารณาตรวจเลือด ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (pap smear) และทำอัลตร้าซาวด์ร่วมด้วย รวมถึงวิธีอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีโรคหรืออาการน่าเป็นห่วง [55]
  5. วิธีธรรมชาติช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากประจำเดือนมามากได้ ถ้าใช้สมุนไพรแล้วคุณไม่มีปัญหาสุขภาพอะไร ก็แสดงว่าถูกโรคกับคุณ ใช้ต่อไปได้เลย แต่ก็ยังแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อน หลัง หรือระหว่างใช้บ้างอยู่ดี
    • แต่ถ้าวิธีทางเลือกไม่ค่อยถูกโรคกับคุณ ให้ปรึกษาคุณหมอเพื่อรับการรักษาทางการแพทย์แทน เช่น กินยา (ยาเม็ดคุมกำเนิดกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน) หรือกระทั่งการผ่าตัดในเคสที่รุนแรงหน่อย (เช่น uterine artery embolization (อุดกั้นหลอดเลือดมดลูก) กับ hysterectomy (ผ่าตัดมดลูก)) [56]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • โรคไฮโปไทรอยด์ (hypothyroidism) หรือต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย ก็เป็นอีกสาเหตุที่พบบ่อยของภาวะประจำเดือนมามากกว่าปกติ ถ้าคุณมีอาการเข้าข่าย ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อตรวจหาโรคหรือสาเหตุที่แท้จริง
  • ไม่มีวิธีไหนหยุดประจำเดือนได้เว้นแต่กินยาคุม แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เมนส์มาน้อยลง
โฆษณา
  1. http://www.aafp.org/afp/2005/0901/p821.html
  2. http://www.aafp.org/afp/2005/0901/p821.html
  3. http://www.aafp.org/afp/2005/0901/p821.html
  4. http://fibroidnaturaltreatment.com/herbs-to-stop-heavy-bleeding-with-fibroids-the-case-for-cinnamon/
  5. http://fibroidnaturaltreatment.com/herbs-to-stop-heavy-bleeding-with-fibroids-the-case-for-cinnamon/
  6. http://fibroidnaturaltreatment.com/herbs-to-stop-heavy-bleeding-with-fibroids-the-case-for-cinnamon/
  7. http://fibroidnaturaltreatment.com/herbs-to-stop-heavy-bleeding-with-fibroids-the-case-for-cinnamon/
  8. http://www.theperiodvitamin.com/red-raspberry-for-pms.html
  9. http://www.theperiodvitamin.com/red-raspberry-for-pms.html
  10. http://www.theperiodvitamin.com/red-raspberry-for-pms.html
  11. http://www.theperiodvitamin.com/red-raspberry-for-pms.html
  12. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  13. http://www.biogetica.com/how-to-find-natural-menorrhagia-medicine-treatments-cures
  14. http://www.hersfoundation.com/docs/Heavy_bleeding.html
  15. http://www.hersfoundation.com/docs/Heavy_bleeding.html
  16. http://www.hersfoundation.com/docs/Heavy_bleeding.html
  17. http://www.hersfoundation.com/docs/Heavy_bleeding.html
  18. http://www.orthoinfo.aaos.org/topic.cfm?topic=A00147
  19. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/menorrhagia/basics/treatment/con-20021959
  20. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  21. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  22. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  23. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  24. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  25. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  26. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  27. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  28. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  29. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  30. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  31. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  32. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  33. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/menorrhagia/basics/treatment/con-20021959
  34. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  35. http://www.womenshealthmag.com/health/never-have-another-painful-period
  36. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2077876/
  37. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/menorrhagia/basics/definition/con-20021959
  38. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-309-RED%20RASPBERRY.aspx?activeIngredientId=309&activeIngredientName=RED%20RASPBERRY
  39. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-654-ALCHEMILLA.aspx?activeIngredientId=654&activeIngredientName=ALCHEMILLA
  40. http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/magnesium-supplement-oral-route-parenteral-route/before-using/drg-20070730
  41. http://www.webmd.com/vitamins-and-supplements/chasteberry-uses-and-risks
  42. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-654-ALCHEMILLA.aspx?activeIngredientId=654&activeIngredientName=ALCHEMILLA
  43. http://www.webmd.com/vitamins-and-supplements/chasteberry-uses-and-risks
  44. http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/iron-supplement-oral-route-parenteral-route/precautions/drg-20070148
  45. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/menorrhagia/basics/causes/con-20021959
  46. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/menorrhagia/basics/tests-diagnosis/con-20021959
  47. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/menorrhagia/basics/treatment/con-20021959

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 36,634 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา