ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การถ่ายท้องนาน ๆ ครั้งทำให้ปวดท้อง อยากอาหารน้อยลง และท้องอืด ถ้าคุณยังไม่ถ่ายท้องเลย เรามีวิธีช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้นและทำให้คุณปวดท้องถ่าย เริ่มจากวิธีเบา ๆ ก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนไปรักษาแบบจริงจังมากขึ้นหากอาการท้องผูกยังคงอยู่

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สิ่งที่ต้องทำในวันแรก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว (2 ลิตร) เพราะถ้าลำไส้ของคุณมีของเหลวน้อยเกินไป ระบบย่อยอาหารก็จะทำงานช้าลง อุจจาระจะจับตัวเป็นก้อนใหญ่ทำให้เจ็บก้น
  2. ดื่มชาและกาแฟที่มีกาเฟอีนวันละ 1 – 2 แก้วเพื่อกระตุ้นการขับปัสสาวะ. ร่างกายต้องดึงน้ำออกมาจากลำไส้ขณะจัดการกับกาเฟอีน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการขับถ่าย แต่อย่าดื่มกาเฟอีนมากเกินไปเพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำและทำให้ท้องผูกหนักกว่าเดิม
    • เครื่องดื่มอุ่น ๆ อย่างชาและกาแฟอาจช่วยให้ขับถ่ายเป็นเวลามากขึ้น ควรดื่มตอนเช้าเพื่อให้ความร้อนแก่ลำไส้ [1]
  3. จริง ๆ แล้วการออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้อลำไส้หดตัวซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร แม้ว่าอาการท้องผูกจะทำให้คุณไม่สบายตัวก็ห้ามนั่ง ๆ นอน ๆ เด็ดขาด ออกไปเดินเหินขยับตัวบ้าง [2]
  4. ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาที่มีสารมอร์ฟีนให้ท้องผูก เพราะฉะนั้นถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง ถ้ารู้สึกว่าต้องใช้ยาแก้ปวดช่วยจริง ๆ ให้เปลี่ยนไปกินยาระบาย ยาที่ทำให้อุจจาระนิ่ม หรือใยอาหารเสริมทุกครั้งจะดีกว่า [3]
  5. ลูกพรุนเพิ่มจำนวนใยอาหารและช่วยเร่งการทำงานของระบบย่อยอาหาร จากการทดลองทางการแพทย์พบว่า คน 70% บอกว่าอาการท้องผูกดีขึ้นหลังจากกินลูกพรุน [4]
  6. กินใยอาหารเสริมถ้าวันนั้นคุณได้รับใยอาหารไม่เพียงพอ. ลองอาหารเสริมอย่าง Metamucil หรือ FiberCon ที่วางขายตามร้านขายยาใกล้บ้านทั่วไปหรือสามารถสั่งซื้อได้ทางอินเทอร์เน็ต
  7. คุณอาจจะท้องผูกเพราะอั้นไว้นานเกินไปก็ได้ เพราะการอั้นไว้ทำให้อุจจาระจับตัวเป็นก้อนแข็งซึ่งทำให้ขับถ่ายลำบาก
    • คนที่เดินทางไกล ๆ หรือตารางกิจวัตรเปลี่ยนอาจเกิดอาการท้องผูกได้ กินโยเกิร์ตหรือลูกพรุนและพยายามอยู่ใกล้ ๆ ห้องน้ำ จองที่นั่งริมทางเดินบนเครื่องบินหรือเดินทางให้น้อยลง
    • สร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้ห้องน้ำที่บ้าน ปิดประตูแล้วล็อกให้เรียบร้อย คนในบ้านจะได้รู้ว่าถ้าประตูปิดและล็อกแปลว่าไม่ควรเดินเข้าไป
    • ถ้าวิธีการเหล่านี้ยังไม่ได้ผล ให้นัดแพทย์เพื่อฝึกการเบ่งอุจจาระให้ถูกวิธีโดยใช้เครื่องมือพิเศษ ทำให้คุณผ่อนคลายและรู้วิธีเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน แต่การรักษาด้วยวิธีนี้ยังมีแค่ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เท่านั้น เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
  8. อย่าให้ใครมากดดันหรือวุ่นวายให้คุณรีบถ่ายออกมา อย่าเครียดเพราะจะยิ่งทำให้ถ่ายช้าเข้าไปอีก
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

สิ่งที่ต้องทำในวันที่สอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ภาวะไม่ย่อยนมทำให้เกิดอาการท้องผูกได้อย่างรวดเร็ว ถ้าคุณจะกินผลิตภัณฑ์จากนม ให้เลือกกินโยเกิร์ตเพราะมีจุลินทรีย์มีชีวิตที่ช่วยย่อยอาหาร [5]
  2. มื้อเช้ากินน้ำผลไม้สมูตตี้ มื้อกลางวันกินสลัด ตอนเย็นกินผักประเภทใบเช่นบร็อกโคลี่ ผักปวยเล้ง หรือมันเทศ หรือตอนเช้าดื่มน้ำอุ่นกับน้ำมะนาวและแคร์รอต นอกจากนี้คุณยังต้องการใยอาหารจากธัญพืช ถั่ว และผลผลิตจากพืชผักมาช่วยให้ร่างกายทำงานเป็นปกติด้วย [6]
  3. ถ้าคุณกินอาหารที่อุดมไปด้วยโภชนาการและกินผักผลไม้เยอะแล้วแต่ก็ยังท้องผูกอยู่ เป็นไปได้ว่าคุณกินไขมันน้อยเกินไปจนทางเดินอาหารไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กินอาหารที่มีส่วนผสมของอะโวคาโด เนยถั่ว น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าวทุกมื้อ
  4. กินในปริมาณที่แนะนำต่อวัน ส่วนใหญ่จะให้กินทุก ๆ 12 ชั่วโมง มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ
  5. ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย และเพิ่มใยอาหารให้กับร่างกาย ทำทุกขั้นตอนเพื่อรักษาอาการท้องผูก
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

สิ่งที่ต้องทำในวันที่สามและวันต่อ ๆ ไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตัวยาระบายแมกนีเซียเป็นยากิน ช่วยเคลื่อนย้ายอาหารไปที่ลำไส้ใหญ่ [7]
  2. สวนยาน้ำสำเร็จรูปที่ประกอบด้วยโซเดียมฟอสเฟตเข้าไปในทวารหนัก ผ่านไป 2 – 5 นาทีคุณจะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำสุด ๆ
    • ยาน้ำสวนทวารเหล่านี้มีขายตามร้านขายยาทั่วไป
  3. ถ้าทำตามขั้นตอนทุกอย่างแล้วแต่ก็ยังไม่ปวดท้องถ่ายสักที เป็นไปได้ว่าทางเดินอาหารอาจอุดตัน
    โฆษณา

คำเตือน

  • การกินกากใยอาหารเพิ่มขึ้นอาจทำให้มีแก๊สในท้องและท้องอืด แก๊สช่วยให้คุณถ่ายง่ายขึ้น แต่คุณอาจจะรู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้นเพราะร่างกายกำลังปรับตัวให้เคยชินกับอาหารแบบใหม่
  • ยาต้านอาการซึมเศร้าบางตัวอาจทำให้ท้องผูก ถ้าคุณอยู่ในระหว่างกินยาต้านอาการซึมเศร้า อย่าหยุดยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน คุณอาจจะเปลี่ยนไปกินยาต้านอาการซึมเศร้าตัวใหม่หรือยาที่ทำให้อุจจาระนิ่มก็ได้ [8]
  • อาการท้องผูกอาจมีสาเหตุมาจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน ขอบทวารหนักปริ เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง (ที่กินยารักษา) และโรคซึมเศร้า [9]
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • น้ำเปล่า
  • ชา/กาแฟ
  • รองเท้ากีฬา
  • ลูกพรุน
  • โยเกิร์ต
  • ผักผลไม้
  • ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ (น้ำมันมะกอก, น้ำมันมะพร้าว, เนยถั่ว, อะโวคาโด)
  • ยาที่ทำให้อุจจาระนิ่ม
  • ยาระบายแมกนีเซีย
  • ยาสวนทวารที่มีส่วนผสมของโซเดียมฟอสเฟต

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 47,122 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา