ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ผมที่เสียหายและอ่อนแอสามารถงอกขึ้นมาใหม่ถ้าหากคุณเริ่มบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมให้ดีขึ้น ฟื้นฟูความเสียหายโดยการบำรุงผมจากด้านนอก ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดเพิ่มเติมโดยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ผมร่วงควบคู่กับการบำรุงผมจากภายในด้วยสารอาหารที่เหมาะสม

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ฟื้นฟูความเสียหาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีแชมพูมากมายที่อ้างสรรพคุณได้ว่าสามารถทำให้เส้นผมงอกกลับขึ้นมาใหม่แต่แชมพูบางชนิดได้ผลดีกว่าแชมพูอีกหลายชนิด รับรู้ว่าต้องมองหาอะไรก่อนที่จะลงทุนกับผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมโดยเฉพาะ
    • มองหาแชมพูที่อ่อนโยนที่ทำความสะอาดรูขุมขนโดยไม่ใช้สารเคมีรุนแรง แชมพูที่ทำจากสมุนไพรอาจได้ผลเป็นอย่างดี มองหาแชมพูที่มีส่วนผสมของคาโมมายล์ ว่านหางจระเข้ โสม ต้นหางม้า ไบโอติน ซิสเทอีน โปรตีน ซิลิกาและวิตามินอี
    • ตรวจสอบส่วนผสมและทำให้มั่นใจว่าแชมพูของคุณไม่มีส่วนผสมของโซเดียม ลอริล ซัลเฟตซึ่งเป็นส่วนผสมที่พบได้มากในแชมพูตามท้องตลาดทั่วไปแต่มันสามารถทำให้ผมอ่อนแอและขาดหลุดร่วงมากขึ้น [1]
  2. ผมที่มีความชุ่มชื่นเหมาะสมจะแข็งแรง หนาและขาดหลุดร่วงได้ยาก
    • ครีมนวดที่ดีมีส่วนสำคัญในการทำให้ผมชุ่มชื่น ครีมนวดที่ทำจากสมุนไพรอาจเป็นครีมนวดที่ดีเพราะมันมักจะไม่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง มองหาครีมนวดที่มีส่วนผสมของกรดอะมิโน ไบโอติน ว่านหางจระเข้ โสมและชาเขียว ใช้ครีมนวดและทิ้งไว้ 15 ถึง 30 นาทีก่อนที่จะล้างออกด้วยน้ำอุ่น
    • หลังจากใช้ครีมนวดกับเส้นผม ใช้การอบไอน้ำเพื่อเปิดเกล็ดผมและทำให้ครีมนวดเหลวตัวเพื่อที่มันจะสามารถซึมเข้าสู่เส้นผม [2]
      • พันผมด้วยผ้าเปียกหมาดจากน้ำร้อน จากนั้นจึงคลุมผมและผ้าด้วยหมวกคลุมอาบน้ำพลาสติก
      • วางผ้าอุ่นบนหมวกคลุมอาบน้ำ จากนั้นจึงคลุมทั้งหมดด้วยหมวกคลุมอาบน้ำอันที่ 2
      • นั่งพัก 1 ชั่วโมงเพื่อปล่อยให้ไอน้ำทำงาน หากเป็นไปได้ ใช้เวลาส่วนหนึ่งในเครื่องอบไอน้ำ
  3. บาล์ม ที่หมักผมและเซรั่มกระตุ้นการงอกของผมสามารถช่วยให้ผมหนาและปกป้องผมบริเวณหน้าผาก โหนกคิ้วและต้นคอได้ นวดผลิตภัณฑ์ลงบนผมที่ถูกทำลายโดยตรง [3]
    • มองหาผลิตภัณฑ์ที่ผสมการใช้โปรตีนและมอยส์เจอไรเซอร์นุ่มนวล ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอีเป็นสารอาหารที่ดีที่สามารถฟื้นฟูหนังศีรษะที่เสียหาย
    • การนวดหนังศีรษะเบาๆ ในขณะที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้สามารถช่วยได้เช่นกัน การนวดผิวจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังหนังศีรษะ การไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นในบริเวณดังกล่าวของร่างกายสามารถเพิ่มความสามารถในการทำงาน เพราะฉะนั้นการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นไปยังหนังศีรษะสามารถช่วยการทำงานของศีรษะเพื่อให้ผมงอก
  4. น้ำมันจากธรรมชาติทำให้ผมชุ่มชื่นและหนาและเพราะคุณจะผสมมันด้วยตัวเอง คุณจะรู้ว่าคุณไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมี
    • สูตรหนึ่งประกอบไปด้วยน้ำมันละหุ่งออแกนิก 1 ส่วนน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 3 ส่วนและน้ำมันทีทรีออแกนิก 5 หยด [4]
      • น้ำมันมะกอกทำหน้าที่เป็นน้ำมันตัวกลางทำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทั่วทั้งหนังศีรษะได้อย่างง่ายดายและยังมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินอี น้ำมันละหุ่งกระตุ้นการทำงานของเกล็ดผมและน้ำมันทีทรีสามารถซ่อมแซมเกล็ดผมที่อุดตันเพื่อให้ผมงอกขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ
    • อีกหนึ่งตัวเลือกคือการผสมน้ำมันมะพร้าว 60 มิลลิลิตร น้ำมันโรสแมรี่ 10 หยดและน้ำมันลาเวนเดอร์ 10 หยด
      • น้ำมันมะพร้าวช่วยให้ความชุ่มชื้นเข้มข้น น้ำมันลาเวนเดอร์ช่วยทำความสะอาดและทำให้หนังศีรษะผ่อนคลายในขณะที่น้ำมันโรสแมรี่สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นการทำงานของเกล็ดผม
  5. เมื่อคุณได้สูตรน้ำมันใส่ผมที่คุณต้องการแล้ว คุณจะต้องนวดน้ำมันลงบนหนังศีรษะเพื่อให้มันทำงาน
    • ลองผสมน้ำมันในขวดบีบพลาสติกที่มีปลายแหลม ชโลมผลิตภัณฑ์ให้ทั่วลงบนโคนผมโดยใช้ปลายขวด
    • ถ้าหากคุณต้องการใช้ผลิตภัณฑ์นี้บนเส้นผมเท่านั้น ลองทาน้ำมันโดยใช้คัตตอนบัตหรือแปรงปัดมาสคาร่า
    • ไม่ว่าคุณจะทาน้ำมันด้วยวิธีไหน ใช้มือนวดน้ำมันลงบนหนังศีรษะ เน้นบริเวณเส้นผมและนวดอย่างน้อย 10 นาทีก่อนล้างออก การนวดที่ดีสามารถกระตุ้นและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดซึ่งจะช่วยให้ผมงอกเร็วขึ้น
  6. ถ้าหากคุณพยายามทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ผล คุณควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ทั่วไป
    • แพทย์ผิวหนังจะให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดกับคุณเพราะเป็นแพทย์เฉพาะทางโดยตรงกับปัญหาเส้นผมและผิวหนังแต่การปรึกษาแพทย์ทั่วไปหรือแพทย์ประจำครอบครัวอาจจะเพียงพอถ้าผมคุณเสียหายเพียงเล็กน้อย
    • แพทย์จะสามารถบอกคุณได้ว่าผมของคุณจะสามารถงอกกับขึ้นมาได้หรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ แพทย์จะออกใบสั่งยาหรือแนะนำวิธีในการช่วยให้ผมงอกขึ้นมาใหม่
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การแปรงผมและหวีผมสามารถทำให้ผมเครียดได้ การตัดผมสั้นช่วยลดเวลาที่คุณต้องใช้ในการแปรงผม เพราะฉะนั้นจะช่วยลดความเครียดให้กับผมได้
    • อันที่จริงแล้วถ้าหากคุณสามารถโกนผมออกได้ก็ควรทำเพราะมันอาจเป็นทางเลือกสำหรับการทำให้ผมงอกขึ้นมาใหม่ที่ดีที่สุดในระยะยาว
  2. เมื่อคุณจำเป็นต้องแปรงผมก็ควรแปรงให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้ผมขาดจากโคนผม
    • ระมัดระวังเมื่อแปรงปลายผม อย่าใช้แปรงที่หนักกับเส้นผมและเลือกใช้แปรงที่มีซี่แปรงนุ่ม สำหรับผมที่เสียรุนแรง คุณควรใช้แปรงสีฟันแทนที่จะใช้แปรงหวีผม
  3. หลังจากที่สระผมและล้างผมออกแล้ว ปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติหรือเช็ดผมเบาๆ โดยใช้เสื้อสะอาด ผ้าเช็ดตัวสามารถดึงและทำให้เส้นผมขาดและทำให้ผมแตกปลายได้ ใช้ปลอกหมอนผ้าไหมหรือผ้าซาตินเพราะปลอกหมอนเพราะฝ้ายเป็นอันตรายกับเส้นผม
    • อย่าถูผมแห้งหรือบีบความชื้นส่วนเกินออกจากผม การกระทำสองอย่างนี้ทำให้เกิดความเครียดเพิ่มขึ้นกับเส้นผมที่เหลืออยู่บนหนังศีรษะ [5]
  4. การถักเปีย ม้วนผม จุกรัดแน่นและแม้แต่หางม้าสามารถทำให้ผมเครียดได้ ปล่อยผมตามธรรมชาติเพื่อลดความเครียดให้กับเกล็ดผม
    • เมื่อคุณเกล้าผมไปข้างหลัง เส้นผมสามารถหลุดออกจากโคนทำให้ผมร่วงบริเวณโหนกศีรษะ หน้าม้า สีข้างและหน้าผาก
    • ถ้าหากคุณต้องการเกล้าผมไปข้างหลังเพื่อเหตุผลบางอย่าง คุณสามารถทำบางวิธีเพื่อลดความเครียดได้ ทำให้หางม้า ผมจุกหรือผมเปียหลวมให้มากที่สุด หางม้าและผมจุกที่อยู่ต่ำกว่าระดับหูทำให้โคนผมเครียดน้อยกว่าทรงผมทรงสูงอื่นๆ [6]
    • ถ้าหากคุณต้องการต่อผมก็สามารถปรึกษาช่างทำผมเกี่ยวกับการต่อผมบนตาข่ายแทนที่จะต่อผมบนเส้นผมโดยตรง วิธีนี้ไม่เป็นที่แนะนำแต่ตาข่ายจะช่วยทำให้ผมเครียดและเสียน้อยลง [7]
  5. น้ำยายืดและสีย้อมผมเคมีทำลายผมเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่เมื่อใช้กับผมที่เสียอยู่แล้วก็สามารถทำให้ปัญหาแย่ลง
    • ผลเสียของสารเคมีเหล่านี้อาจจะดูชัดเจนแต่คุณควรจำกัดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมี เช่น เจลใส่ผมตามท้องตลาดส่วนใหญ่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ซึ่งดึงความชุ่มชื้นออกจากเส้นผมทำให้ผมแห้งและแตกในที่สุด
  6. ผมของคุณต้องการออกซิเจนเพื่อดำรงชีวิตและเติบโต เมื่อคุณทำให้เส้นผมอึดอัดด้วยการใส่วิก คุณกำลังตัดขาดออกซิเจนที่ไปหล่อเลี้ยงและทำให้เกล็ดผมหดตัวซึ่งทำให้ผมอ่อนแอ
    • เช่นเดียวกับการติดผมปลอมด้วยตาข่ายหรือหมวกสต๊อกกิ้ง ถึงแม้การติดผมวิธีนี้จะทำร้ายผมน้อยกว่าการติดผมปลอมบนเส้นผมโดยตรงแต่มันยังลดปริมาณของออกซิเจนที่ผมของคุณพยายามได้รับ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

บริโภคสารอาหารที่เหมาะสม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การบำรุงผมส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การบำรุงภายนอกแต่ผมเกิดจากภายในร่างกาย เพราะฉะนั้นสุขภาพภายในสำคัญเช่นเดียวกับสุขภาพภายนอก
    • ร่างกายของคุณส่งสารอาหารที่คุณได้รับไปยังอวัยวะและเนื้อเยื่อที่สำคัญก่อน เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าร่างกายของคุณได้รับสารอาหารเพียงพอเพื่อให้สุขภาพดีแต่มันอาจจะไม่เพียงพอในการบำรุงเส้นผม [8]
    • สารอาหารบางชนิดมีความสำคัญต่อสุขภาพเส้นผมมากกว่าสารอาหารชนิดอื่น การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารเหล่านี้สามารถทำให้เส้นผมของคุณได้รับการบำรุงจากภายใน
    • อาหารเสริมที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์เหล่านี้สามารถสร้างความแตกต่างได้ แต่ในกรณีส่วนใหญ่ผมของคุณจะได้รับประโยชน์จากแหล่งอาหารโดยตรงมากกว่าแหล่งอาหารเสริม
  2. อาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาแซลมอนและปลาทูน่า เมล็ดแฟลกซ์ ถั่ววอลนัท เคลและกะหล่ำดาว
    • โอเมก้า 3 จะเข้าไปสู่แกนผมและเซลล์ในหนังศีรษะซึ่งช่วยทำให้เกล็ดผมแข็งแรงและกระตุ้นการงอกของผม มันยังช่วยทำให้ผมแตกน้อยลง เพราะฉะนั้นเส้นผมจะไม่ขาดหลุดร่วงเมื่อมันงอกขึ้นมาใหม่
  3. อาหารที่มีธาตุสังกะสี ได้แก่ ถั่วชิกพี ข้าวสาลี เนื้อวัว ตับลูกวัวและหอยนางรม
    • ธาตุสังกะสีช่วยการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและซ่อมแซมภายในร่างกาย เพราะฉะนั้นถ้าเส้นผมของคุณเกี่ยวกับหนังศีรษะที่เสียหาย ธาตุสังกะสีจะช่วยได้มาก
    • ยิ่งไปกว่านั้นธาตุสังกะสียังช่วยต่อมในหนังศีรษะให้ผลิตน้ำมันเพื่อทำให้เส้นผมที่มีอยู่มีสุขภาพดีและเงางาม
  4. เนื้อและผักเป็นแหล่งโปรตีนที่คุณสามารถหาได้ เพิ่มไก่ ไก่งวง ไข่ ถั่ว ถั่วพีและเลนทิลลงในมื้ออาหาร โยเกิร์ตแบบกรีกยังอุดมไปด้วยโปรตีนอีกด้วย
    • เส้นผมประกอบไปด้วยโปรตีนเกือบทั้งหมด เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่รับประทานโปรตีนให้เพียงพอ คุณจะไม่สามารถทำให้ผมที่ร่วงไปแล้วงอกขึ้นมาใหม่ การขาดโปรตีนยังสามารถทำให้ผมที่เหลืออยู่บางแล้วหงอกได้
  5. ธาตุเหล็กสามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น ผักใบเขียว ธัญพืช เนื้อแดง หอยนางรม ถั่วและหอยลาย
    • ธาตุเหล็กช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ถ้าไม่มีธาตุเหล็ก เลือดจะไม่สามารถหล่อเลี้ยงออกซิเจนไปยังเซลล์บริเวณหนังศีรษะและคุณจะไม่สามารถฟื้นฟูเกล็ดผมที่ตายแล้วได้
  6. มันหวาน แครอท ผักใบเขียว น้ำเต้าและแอปริคอตอุดมไปด้วยวิตามินเอ ฝรั่ง พริกหยวก กีวี ส้มและเกรปฟรุตอุดมไปด้วยวิตามินซี
    • วิตามิน 2 ประเภทนี้ช่วยให้เกล็ดผมผลิตน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม น้ำมันในช่วยให้ผมชุ่มชื้นและลดความเสี่ยงของผมขาดหลุดร่วง
    • อย่างไรก็ตาม การบริโภควิตามินเอมากกว่า 15,000 หน่วยออแร็กต่อวันอาจทำให้ผมร่วงได้
  7. ถั่วและปลาอุดมไปด้วยแร่ธาตุสองชนิดนี้ ปลาตาเดียว อัลมอนด์และเมล็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม ปลาตาเดียวยังอุดมไปด้วยธาตุเซเลเนียมเช่นเดียวกับปลาทูน่า กุ้ง ปลาซาร์ดีนและถั่วบราซิล
    • ธาตุแมกนีเซียมมีความสำคัญต่อการทำงานด้านชีวเคมีของร่างกายรวมไปถึงการงอกของผม
    • ธาตุเซเลเนียมทำให้ร่างกายผลิตเซเลโนโปรตีนซึ่งช่วยกระตุ้นเกล็ดผมที่ตายแล้ว
    โฆษณา

สิ่งที่คุณต้องใช้

  • แชมพูทำความสะอาดสูตรสมุนไพร
  • ครีมนวดสูตรสมุนไพร
  • ผ้าขัดตัว
  • หมวกคลุมอาบน้ำพลาสติก
  • บาล์ม ที่หมักผมและเซรั่มกระตุ้นการงอกของผม
  • น้ำมันใส่ผม
  • ขวดพลาสติกที่มีปลายหยด
  • คอตตอนบัด
  • หวีแปรงนิ่ม
  • ผ้าเช็ดตัวนุ่มๆ
  • อาหารที่มีประโยชน์
  • อาหารเสริมวิตามิน

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 29,865 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา