ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ดวงอาทิตย์ อากาศหนาว และอากาศแห้งทำร้ายเนื้อผิวของคุณจนสากและแห้งกร้าน แค่เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันและการใช้ชีวิตเพียงเล็กน้อยสักระยะก็ช่วยให้ผิวของคุณนุ่มและแข็งแรงขึ้นได้ อ่านบทความต่อไปนี้เพื่อหาวิธีที่จะช่วยให้ผิวของคุณเปล่งปลั่งและดูสุขภาพดีในแบบที่คุณต้องการ
ขั้นตอน
-
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการแปรงผิวแบบแห้ง. การแปรงผิวแบบแห้งเป็นเทคนิคการขัดผิวแบบโบราณที่คิดขึ้นเพื่อขจัดผิวที่ตายแล้วและกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกาย การแปรงผิวแบบแห้งทุกวันจะทำให้ผิวของคุณดูสว่างใสขึ้นในทันที และถ้าคุณทำอย่างนี้ทุกวันผิวของคุณก็จะเริ่มเปล่งปลั่ง
- เลือกแปรงที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ ไม่ใช่ขนแปรงพลาสติก ขนแปรงธรรมชาติจะไม่ทำให้คุณรู้สึกสากผิวมากนัก
- แปรงผิวด้วยการถูเน้นๆ สั้นๆ จากแขนขาเข้าสู่หัวใจ แปรงขา ลำตัว และแขน เวลาแปรงหน้าให้ใช้แปรงที่นุ่มกว่าและอันเล็กกว่า
- เริ่มต้นด้วยการใช้แปรงแห้งแปรงลงบนผิวที่แห้งทุกครั้ง เพราะการแปรงผิวขณะที่ผิวเปียกจะไม่ได้ให้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน
-
อาบน้ำเย็น. ชำระล้างร่างกายด้วยน้ำเย็น ไม่ใช่น้ำร้อน ถ้าน้ำของคุณเย็นจัดจนไม่สบายตัว ลองอาบน้ำอุ่นก่อนสักพักแล้วค่อยปรับเป็นน้ำเย็น น้ำร้อนทำร้ายผิวของคุณ ทำให้ผิวของคุณสากและแห้งกร้าน ในขณะที่น้ำเย็นทำให้ผิวของคุณกระชับและแข็งแรงขึ้น
- เวลาที่ล้างหน้า ให้ล้างด้วยน้ำเย็นแทนน้ำร้อน
- เก็บน้ำร้อนไว้แช่สำหรับโอกาสพิเศษดีกว่า ถึงน้ำร้อนจะดีต่อจิตใจ แต่ก็ไม่จำเป็นสำหรับผิว
-
อย่าใช้สบู่เยอะเกินไป. สบู่เหลว สครับ และสบู่ก้อนที่มีขายกันอยู่ทั่วไปนั้นมีส่วนผสมของสารซักฟอกที่ทำให้ผิวของคุณแห้งและทิ้งสิ่งตกค้างที่ทำให้ผิวของคุณหมอง ใช้สบู่ที่มาจากธรรมชาติและมีส่วนผสมของน้ำมันหรือสบู่ทำมือกับน้ำธรรมดาแทน
-
เติมความชุ่มชื้นให้ผิว. ทันทีที่คุณเช็ดตัวเสร็จหลังจากอาบน้ำ ให้ทาโลชั่นหรือมอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงผิวเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นและปกป้องผิวคุณจากลมแห้งตลอดทั้งวัน ลองทามอยซ์เจอไรเซอร์เหล่านี้เพื่อให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีและเปล่งประกาย:
- น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวที่มีกลิ่นหอมหวานๆ นี้จะซึบซาบเข้าสู่ผิวคุณทำให้ผิวของคุณเปล่งปลั่ง
- เชียบัตเตอร์ มอยซ์เจอไรเซอร์ตัวนี้ดีเป็นพิเศษสำหรับผิวหน้าที่บอบบาง และคุณก็สามารถทาลงบนริมฝีปากได้ด้วย
- ลาโนลิน แกะผลิตลาโนลินเพื่อให้ขนของมันนุ่มและแห้ง ลาโนลินเป็นเกราะป้องกันลมหนาวได้ดี
- น้ำมันมะกอก ในบางเวลาที่ผิวของคุณต้องการการบำรุงอย่างล้ำลึก ชโลมน้ำมันมะกอกให้ทั่วเรือนร่างและปล่อยให้ซึมเข้าผิว 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้ง
- โลชั่นที่มีส่วนผสมของกรดแลกติกมีขายทั่วไปในร้านขายยา ทำให้ผิวแห้งตกสะเก็ดรู้สึกยืดหยุ่นและนุ่มขึ้น
-
ดูแลผิวให้เหมาะกับผิวของคุณ. บางคนมีผิวแห้งตกสะเก็ด บางคนก็มีผิวมัน และหลายคนที่มีผิวผสม รู้ว่าผิวส่วนไหนในร่างกายที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอย่าลืมเพิ่มการดูแลผิวส่วนนั้นเข้าไปในกิจวัตรประจำวันของคุณด้วย
- ดูแลสิวที่อยู่บนหน้าและร่างกายให้ดีเป็นพิเศษ อย่าแปรงผิวบริเวณที่เป็นสิวและอย่าใช้สบู่แรงๆ หรือสารเคมีที่อาจทำให้สิวแย่ลง
- โรคผิวหนังอักเสบ โรซาเซีย และปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการมีผิวแห้งต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้อาการลุกลามไปใหญ่ และปรึกษาแพทย์เพื่อรับใบสั่งยามารักษาผิวในกรณีที่จำเป็น
โฆษณา
-
เริ่มออกกำลังกายเป็นประจำ. การออกกำลังกายทำให้ผิวของคุณกระชับและเพิ่มการไหลเวียนเลือด นอกจากนี้ยังทำให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้นและสะท้อนผ่านผิวของคุณ เพิ่มเติมการออกกำลังกายประเภทเหล่านี้ไว้ในกิจวัตรของคุณสัก 3 ครั้งหรือมากกว่าต่อสัปดาห์:
- ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ขี่จักรยาน หรือว่ายน้ำ การออกกำลังประเภทนี้ช่วยให้เลือดของคุณสูบฉีดและทำให้ผิวของคุณแลดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี
- ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งด้วยการใช้ดัมเบล การเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อช่วยให้ผิวของคุณกระชับและดูเรียบเนียนขึ้น
- โยคะและการออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น การออกกำลังกายประเภทนี้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อและทำให้ผิวของคุณดูกระชับขึ้น
-
รับประทานอาหารอย่างสมดุล. เวลาที่ร่างกายของคุณไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็น มันจะแสดงให้เห็นทางผิวพรรณ ทำให้ผิวของคุณกลับมาเปล่งปลั่งด้วยการรับประทานผัก ผลไม้ โปรตีนไขมันต่ำ ธัญพืชเต็มเมล็ดมากๆ เพิ่มเติมอาหารที่ดีต่อสุขภาพผิวเป็นพิเศษ เช่น:
- อะโวคาโดและถั่วเปลือกแข็ง เพราะมีไขมันดีที่ผิวของคุณต้องการเพื่อคงความยืดหยุ่น
- พืชที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เน้นพืชผักที่มีวิตามินเอ อี และซี เช่น มันเทศ แคร์รอต ผักคะน้า ผักปวยเล้ง บรอกโคลี มะม่วง และบลูเบอร์รี่
-
ดื่มน้ำมากๆ. น้ำทำให้เซลล์ผิวขยายตัวและทำให้ผิวของคุณแลดูสว่างและสดชื่น เวลาที่ร่างกายขาดน้ำ ผิวของคุณจะเริ่มแห้ง ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วเพื่อให้ผิวมีสุขภาพดี แต่ถ้าคุณไม่ชอบดื่มน้ำเปล่าเป็นแก้วๆ วิธีที่จะช่วยให้ผิวของคุณกักเก็บน้ำไว้ได้ก็เช่น:
- รับประทานผักผลไม้ที่มีน้ำมาก เช่น แตงกวา ผักกาดหอม แอปเปิ้ล และเบอร์รี่
- ดื่มชาสมุนไพรและชาอื่นๆ ที่ไม่มีกาเฟอีน
- ลองดื่มโซดาผสมมะนาวสักแก้วเพื่อให้ร่างกายสดชื่น
-
หลีกเลี่ยงสารที่ทำร้ายผิว. ต่อให้คุณมีกิจวัตรประจำวันเพื่อการดูแลผิวที่เคร่งครัดมากแค่ไหน แต่การรับสารบางอย่างเข้าสู่ร่างกายก็อาจทำให้คุณไม่มีผิวสวยกับเขาสักที รับสารที่เป็นอันตรายต่อผิวต่อไปนี้อย่างจำกัดหรือเลิกไปเลย:
- บุหรี่ บุหรี่ทำให้ผิวของคุณเป็นคราบและทำให้เกิดริ้วร้อยก่อนวัย ถ้าพูดถึงผิวที่ถูกทำร้ายละก็ บุหรี่คือตัวการที่ร้ายที่สุด
- แอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะทำให้ผิวขยายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบหรือใต้ดวงตาเพราะมันจะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำเอาไว้ จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์แค่ 1 หรือ 2 ช็อต 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอ
- กาเฟอีน การดื่มกาเฟอีนมากๆ จะทำให้ร่างกายของคุณขาดน้ำ ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อผิวของคุณ จำกัดการดื่มกาแฟแค่วันละ 1 แก้วและดื่มน้ำแก้วใหญ่ๆ ตาม
โฆษณา
-
ทาครีมกันแดดทุกวัน. การสัมผัสกับแสงแดดทำให้ผิวของคุณเปล่งปลั่งชั่วครั้งชั่วคราวเพราะผิวของคุณกลายเป็นสีแทน แต่ในระยะยาวการสัมผัสกับแสงแดดนั้นทำร้ายผิวของคุณมากๆ การปล่อยให้ผิวไหม้หรือทำผิวให้แทนตลอดช่วงหน้าร้อนทำให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และโอกาสที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง
- ทาครีมกันแดดลงบนใบหน้าก่อนออกจากบ้าน รวมทั้งช่วงหน้าหนาว
- ทาครีมกันแดดลงบนลำคอ ไหล่ หน้าอก แขน และบริเวณอื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสกับแสงแดด เวลาที่คุณใส่กางเกงขาสั้นหรือไปทะเล อย่าลืมทาครีมกันแดดที่ขาด้วย
-
อย่าแต่งหน้านอน. การปล่อยเครื่องสำอางทิ้งไว้บนใบหน้าข้ามคืนทำร้ายผิวของคุณ เพราะมันเท่ากับว่าคุณปล่อยให้สารเคมีซึมซาบเข้าสู่ผิวคุณตลอดทั้งคืน พอถึงเช้าผิวของคุณก็ดูดซึมเครื่องสำอางเอาไว้หมดแล้วและผิวก็อาจจะโทรมเพราะได้รับสารเคมีมากเกินไป เช็ดเครื่องสำอางออกด้วยเมกอัพรีมูฟเวอร์และล้างคราบที่เหลือด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นทุกคืนก่อนนอน
- อย่าถูเครื่องสำอางออก เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและทำร้ายผิว ใช้ผ้าขนหนูแตะเมกอัพรีมูฟเวอร์ดีๆ แล้วค่อยๆ เช็ดออกจะดีกว่า
- ลองใช้เคล็ดลับนี้เวลาเช็ดเครื่องสำอางออกจากดวงตา: เอาคอตตอนบัตจุ่มลงไปในวาสลีนแล้วเช็ดที่ขนตาและรอบๆ ดวงตา เครื่องสำอางก็จะหลุดออกไป พอเช็ดเสร็จแล้วให้ล้างวาสลีนออก
-
ปกป้องผิวจากสารเคมีแรงๆ. ผิวจะกระด้างขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองจากการสัมผัสสารเคมี อุณหภูมิที่ร้อนหรือหนาวสุดขีด และวัสดุที่ทำให้เกิดการกัดกร่อนต่างๆ คงความนุ่มและความไวต่อการสัมผัสให้ผิวของคุณด้วยการระมัดระวังสิ่งต่อไปนี้:
- หน้าหนาวให้ใส่ถุงมือเพื่อไม่ให้มือของคุณแตกระแหง ปกป้องร่างกายส่วนที่เหลือด้วยการใส่เสื้อที่ให้ความอบอุ่นตามความเหมาะสม
- ใส่ถุงมือเวลาใช้สารเคมีแรงๆ ทำความสะอาด
- ปกป้องตัวเองจากความด้านด้วยการใช้ที่รองเข่า เสื้อผ้าทำงานหนาๆ และอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมขณะทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ล้างหน้าตอนเช้าและก่อนนอนครั้งละประมาณ 2 นาทีด้วยน้ำที่เย็นกว่าปกติ
- ทาโลชั่นทุกวัน
- เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทันทีที่อาบน้ำเสร็จให้ทาโลชั่น อย่าลืมทาโลชั่นวันละ 2 ครั้ง ทั้งกลางวันและกลางคืน
- อย่าเข้านอนทั้งที่ยังมีเครื่องสำอางอยู่บนหน้า
- อาบน้ำเย็น
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,503 ครั้ง
โฆษณา
