ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ฟันขาวแล้วช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ใครหลายๆ คนได้อีกเยอะ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อชุดอุปกรณ์หรือซื้อคอร์สฟอกสีฟันแพงๆ เสมอไป แค่แปรงฟันและบ้วนปากด้วยเบคกิ้งโซดา ก็ช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้เหมือนกัน แต่ต้องใช้อย่างระวัง เพื่อป้องกันฟันสึกกร่อน แนะนำว่าอย่าแปรงฟันด้วยเบคกิ้งโซดาบ่อยเกินไป และอย่าแปรงฟันแรงเกินไป จริงๆ แล้วการที่สีฟันเปลี่ยนไป ก็เป็นสัญญาณบอกโรคในช่องปากได้ ทางที่ดีที่สุดคือหาหมอฟัน โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ตรวจสุขภาพฟันมาพักใหญ่

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

แปรงฟันด้วยเบคกิ้งโซดาที่ผสมจนเหนียวข้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้ผสมเบคกิ้งโซดา ¼ - ½ ช้อนชา (1½ - 3 กรัม) กับน้ำพอประมาณเข้าด้วยกันในถ้วยจนเหนียวข้น ถ้าผสมในสัดส่วนเบคกิ้งโซดา 2 ส่วน กับน้ำ 1 ส่วน จะใช้ง่ายกว่า และเห็นผลกว่าการใช้เบคกิ้งโซดาอย่างเดียว [1]
    • ห้ามผสมยาสีฟันจากเบคกิ้งโซดากับมะนาว สตรอว์เบอร์รี่ หรือน้ำผลไม้อื่นๆ เพราะน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว จะกัดกร่อนเคลือบฟันได้ โดยเฉพาะเวลาผสมกับเบคกิ้งโซดา หรือสารขัดถูอื่นๆ [2]
  2. แปรงฟัน ด้วยยาที่ผสมจากเบคกิ้งโซดา ประมาณ 1 - 2 นาที. เอาแปรงขนนุ่มจุ่มยา แล้วเอาไปแปรงวนที่ฟันเบาๆ แปรงให้ทั่วๆ อย่าแปรงแช่ที่จุดเดิมนานเป็น 2 นาที ห้ามแปรงแรง เดี๋ยวจะเจ็บได้ ไม่ดีต่อฟันด้วย [3]
    • หรือใช้นิ้วแปรงแทนเบาๆ ก็ได้ ใช้ปลายนิ้วถูวนที่ฟันแบบเบามือ อย่าออกแรงกดมากไป
    • ถ้าเหงือกร่นอยู่ อย่าใช้เบคกิ้งโซดาแปรงที่คอฟันและขอบเหงือก เพราะส่วนที่หุ้มฟันอยู่ล่างเหงือก จะบอบบางกว่าเคลือบฟัน (enamel) เสียหายง่าย [4]
  3. พอแปรงฟันไปได้ 2 นาที ให้บ้วนเบคกิ้งโซดาทิ้ง แล้วบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า หรือน้ำยาบ้วนปาก อย่าลืมล้างแปรงให้สะอาดด้วย
    • ถ้าใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ อย่าบ้วนน้ำหลังแปรงฟัน เพราะจะไปลดประสิทธิภาพของฟลูออไรด์ ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้เลยไม่แนะนำให้แปรงฟันหรือบ้วนปากด้วยเบคกิ้งโซดาทันทีหลังแปรงฟันด้วยยาสีฟันตามปกติ ถ้าอยากบ้วนปากหลังแปรงฟันตามปกติจริงๆ ให้ใช้น้ำน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ [5]
  4. มากที่สุดคือให้แปรงฟันด้วยเบคกิ้งโซดาที่ผสมแล้ว วันเว้นวัน ติดต่อกันไม่เกิน 1 - 2 อาทิตย์ จากนั้นลดเหลือแค่อาทิตย์ละ 1 - 2 ครั้ง เพราะมีสารขัดถู ถ้าแปรงฟันด้วยเบคกิ้งโซดาบ่อยเกินไป อาจจะทำฟันเสียได้ [6]
    • ไม่แนะนำให้แปรงฟันด้วยเบคกิ้งโซดาอย่างเดียว แล้วเลิกใช้ยาสีฟันตามปกติไป เพราะฟันจะแข็งแรงสุขภาพดีได้ ต้องแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ วันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน และตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน
    • ก่อนจะแปรงฟันด้วยเบคกิ้งโซดา ให้เช็คกับหมอฟันก่อน ว่าฟันคุณแข็งแรงพอจะใช้วิธีนี้ได้ไหม ถ้าเคลือบฟันไม่แข็งแรง ก็อันตรายถ้าใช้สารขัดถู แถมเบคกิ้งโซดายังทำให้ฟันสึกกร่อนได้ด้วย ซึ่งเป็นแล้วเป็นเลย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ลองใช้วิธีทางเลือก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Hydrogen peroxide ช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้ก็จริง แต่ต้องใช้อย่างระวัง ถ้าอยากลองใช้วิธีนี้ ให้ผสมเบคกิ้งโซดา 2 ส่วน กับ hydrogen peroxide 1% - 3% 1 ส่วนเข้าด้วยกันจนเหนียวข้น ใช้แปรงฟัน 1 - 2 นาที แล้วบ้วนน้ำตามปกติ [7]
    • ย้ำว่าต้องใช้ hydrogen peroxide ที่เข้มข้นไม่เกิน 3% และแปรงสีฟันด้วยสูตร hydrogen peroxide ผสมเบคกิ้งโซดานี้ไม่เกินอาทิตย์ละครั้ง
    • ถ้ารู้สึกแสบร้อน ให้เลิกใช้ แล้วบ้วนปากด้วยน้ำเย็นทันที ถ้าเหงือกร่น เสียวฟันอยู่แล้ว ก็ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ เพราะ hydrogen peroxide ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ทำร้ายรากฟันที่โผล่มา [8]

    ป้องกันไว้ก่อน: ย้ำว่าต้องบ้วนน้ำให้ปากสะอาด หลังใช้ hydrogen peroxide ถึงจะเป็นแบบที่เจือจางแล้ว แต่ถ้ากินเข้าไป ก็ทำให้อาเจียนและปวดท้องได้ ที่สำคัญคือคราบตกค้างจะกัดสีฟันจนขาวไม่สม่ำเสมอได้ [9]

  2. แปรงฟันด้วยเบคกิ้งโซดาผสมยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์. บีบยาสีฟันที่ใช้ประจำของคุณใส่แปรง แล้วโรยเบคกิ้งโซดาลงไปที่ด้านบนหยิบมือเดียว ใช้แปรงฟันตามปกติ ประมาณ 2 นาที ให้แปรงวนเป็นวงเบาๆ จากนั้นบ้วนทิ้ง แล้วถ้าจะบ้วนน้ำขจัดคราบขาว ให้กลั้วปากด้วยน้ำน้อยที่สุด [10]
    • สูตรนี้ก็เหมือนเบคกิ้งโซดาผสมน้ำจนเหนียวข้น คือให้ใช้แปรงฟันแต่พอดี ตอนแรกให้แปรงวันเว้นวัน ติดต่อกัน 1 - 2 อาทิตย์ จากนั้นแปรงด้วยเบคกิ้งโซดามากที่สุดไม่เกิน 1 - 2 ครั้งต่ออาทิตย์
    • หรือจะซื้อยาสีฟันที่ผสมเบคกิ้งโซดาอยู่แล้วมาใช้แทนก็ได้ อย่างในอเมริกา ก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่รับรองโดยทันตแพทยสมาคม (ADA หรือ American Dental Association) แสดงตราสัญลักษณ์ชัดเจน ซึ่งซื้อมาใช้แล้วก็ต้องทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด [11]
    • ถ้าเสียวฟันง่าย หรือมีปัญหาฟันสึกกร่อน ไม่แนะนำให้ใช้ยาสีฟันที่มีเบคกิ้งโซดา หรือโฆษณาว่าฟอกสีฟันให้ขาว [12]
  3. ผสมเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา (6 กรัม) กับน้ำ 1 ถ้วยตวง (240 มล.) เข้าด้วยกันในแก้ว แล้วคนผสมจนเบคกิ้งโซดาละลายหมด ใช้จิบแล้วกลั้วประมาณ 30 วินาที จากนั้นบ้วนทิ้ง ทำซ้ำตามขั้นตอนจนหมดแก้ว [13]
    • วิธีกลั้วน้ำเบคกิ้งโซดานี้ จะไม่ทำให้ฟันสึกกร่อน เลยปลอดภัย ใช้ได้ทุกวัน
    • กลั้วน้ำเบคกิ้งโซดาไม่ได้ช่วยฟอกสีฟัน แต่ฟันขาวขึ้นได้เพราะเบคกิ้งโซดาจะปรับกรดให้เป็นกลาง ช่วยเรื่องฟันสึกกร่อนจากอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยว (มีความเป็นกรด) แถมช่วยต้านแบคทีเรียร้าย อันเป็นสาเหตุของฟันผุ ในขณะที่ช่วยเสริมสร้างแบคทีเรียดี สร้างชั้นป้องกันให้ฟัน [14]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าแปรงเหงือกด้วยเบคกิ้งโซดาหรือ hydrogen peroxide
  • อย่าแปรงฟันจุดเดียวนานๆ ให้แปรงฟันบน 1 - 1 ½ นาที จากนั้นย้ายไปแปรงฟันล่าง 1 - 1 ½ นาที
  • อย่าแปรงฟันด้วยเบคกิ้งโซดาผสมมะนาว หรืออื่นๆ ที่มีฤทธิ์เป็นกรด
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าอยากให้ฟันขาวขึ้นอย่างเห็นผล แนะนำให้ปรึกษาหมอฟัน เพราะคราบที่ฟัน หรือสีฟันที่เปลี่ยนไป อาจเป็นสัญญาณบอกปัญหาในช่องปาก ต้องให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลเท่านั้น [15]
  • ถ้าปกติเสียวฟันง่าย ไม่แนะนำให้แปรงฟันด้วยเบคกิ้งโซดาหรือยาสีฟันที่มีสารขัดถู เพราะการเสียวฟันแปลว่ามีการสึกกร่อนอยู่แล้ว ถ้าไปใช้สารขัดถูอีก จะยิ่งอาการหนักกว่าเดิม [16]
  • ถ้าดัดฟันอยู่ หรือใส่รีเทนเนอร์แบบถอดไม่ได้ ไม่แนะนำให้แปรงฟันด้วยเบคกิ้งโซดาหรือ hydrogen peroxide [17]
  • ถ้าเพิ่งครอบฟัน (crowns/caps) หรือเคลือบผิวฟันแบบวีเนียร์ (veneer) อย่าใช้ hydrogen peroxide หรืออุปกรณ์ฟอกฟันขาวด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันสีฟันไม่สม่ำเสมอ ไม่ให้ฟันที่เพิ่งทำมาเสียหาย [18]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 153,985 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา