ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ว่าหนุ่มๆ หรือสาวๆ อ้วนเมื่อไหร่เป็นได้ “หุ่นเหมือนลูกแพร์” เพราะไขมันส่วนเกินไปสะสมแถวต้นขาและสะโพก ซึ่งถือเป็นจุดที่กระชับและลดสัดส่วนได้ยากมาก คุณไม่สามารถตั้งหน้าตั้งตา "ลดเฉพาะสัดส่วน" หรือลดน้ำหนักแค่จุดใดจุดหนึ่งของร่างกายได้ ต้องเผาผลาญไขมันทั่วร่างกายไปพร้อมๆ กัน ควบคู่ไปกับการเล่นเวทเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อใต้ไขมัน ถ้าปรับเปลี่ยนอาหารการกินให้มีประโยชน์ และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอแล้ว น้ำหนักตัวจะลดลง สะโพกก็เล็กลงตามแน่นอน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

คาร์ดิโอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทำให้สะโพกเล็กลง
    ไม่ว่าอยากจะกระชับสัดส่วนตรงจุดไหน คาร์ดิโอทุกแบบช่วยคุณลดน้ำหนักได้หมด
    • คุณหมอส่วนใหญ่แนะนำให้คาร์ดิโอหนักปานกลาง อย่างน้อย 150 นาที หรือ 2.5 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ [1]
    • นอกจากช่วยเรื่องลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วนแล้ว เขายังวิจัยกันมาแล้วว่าคาร์ดิโอช่วยเรื่องเบาหวานและความดันด้วย เพราะทำให้นอนหลับง่าย หลับสนิทขึ้น ปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลายสบายใจ [2]
    • จะคาร์ดิโอแบบไหนก็ได้ เช่น วิ่ง เต้น ว่ายน้ำ ปีนเขา หรือปั่นจักรยาน
  2. Watermark wikiHow to ทำให้สะโพกเล็กลง
    การวิ่งคือสุดยอดการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพราะช่วยเบิร์นหรือเผาผลาญแคลอรี่ต่อชั่วโมงได้มหาศาล โดยเน้นใช้กล้ามเนื้อต้นขาเป็นหลัก [3]
    • การวิ่งนอกจากทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรง อึด ถึก ทนขึ้นแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและทนทานของกล้ามเนื้อด้วย [4]
    • ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้วิ่งอย่างน้อยครั้งละ 20 นาที จะช่วยกระชับต้นขาให้เล็กเรียวได้
  3. Watermark wikiHow to ทำให้สะโพกเล็กลง
    เวลาขึ้นบันไดเหมือนได้บริหารกล้ามเนื้อ hip flexors (ใช้ตอนงอสะโพกมาด้านหน้า), quads (กล้ามเนื้อต้นขา) และ lower abs (ท้องน้อย) แบบหนักๆ แถมเป็นการบริหารที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มหาศาลในแค่นาทีเดียว [5]
    • ให้วิ่งขึ้นบันได 2 - 5 นาที หรือเดินขึ้นบันได 5 - 10 นาที อาทิตย์ละ 3 ครั้ง หรือเล่นเครื่อง stair master ที่ฟิตเนสอย่างน้อย 20 นาทีขึ้นไป
    • ขึ้นบันไดแล้วนอกจากเผาผลาญแคลอรี่และไขมันได้แล้ว ยังช่วยกระชับขาและบั้นท้ายได้เป็นอย่างดี [6]
  4. Watermark wikiHow to ทำให้สะโพกเล็กลง
    อย่างที่เห็นว่านักปั่นจักรยานนั้นขาเฟิร์มขนาดไหน เพราะฉะนั้นการปั่นจักรยานเป็นหนึ่งในการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มหาศาล กระชับกล้ามเนื้อขาให้สวยเฟิร์มได้แน่นอน [7]
    • ปั่นจักรยานแล้วได้บริหารกล้ามเนื้อขาหลายๆ กลุ่ม รวมถึง hamstrings (ต้นขาด้านหลัง), quadriceps (ต้นขาด้านหน้า), กล้ามเนื้อน่อง, abductors (ต้นขาด้านใน) และก้น [8] เรียกว่าปั่นจักรยานอย่างเดียวบริหารขาได้ครบทุกส่วนเลย
    • นอกจากนี้ การปั่นจักรยานยังเหมาะกับคนที่บาดเจ็บหรือปวดเข่า เพราะเบิร์นได้ดีแต่ไม่มีแรงกระแทกเท่าไหร่
  5. Watermark wikiHow to ทำให้สะโพกเล็กลง
    มวยไทยถือเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เป็นศิลปะป้องกันตัวที่ออกอาวุธหลายท่า ขยับร่างกายหลายส่วนด้วยกัน เหมาะสำหรับคนที่อยากเฟิร์มทั้งร่างกายท่อนล่างและบน [9]
    • มวยไทยนั้นใครๆ ก็รู้ว่าเบิร์นแคลอรี่แบบมหาศาลในแค่ชั่วโมงเดียว เป็นคลาสที่น่าสนใจ นอกจากเบิร์นแคลอรี่แล้วยังกำจัดไขมันส่วนเกินทั่วร่างกายด้วย
    • มวยไทยมีท่าที่ต้องเตะเยอะ เรียกว่าใช้กล้ามเนื้อขาแทบทุกส่วน เลยเป็นอีกการออกกำลังกายที่ช่วยกระชับต้นขาและน่อง [10]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เล่นเวท

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทำให้สะโพกเล็กลง
    นอกจากคาร์ดิโอแล้ว สำคัญว่าต้องเล่นเวทและออกกำลังกายแบบแรงต้านด้วย มีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน เน้นสร้างความแข็งแรงให้ต้นขาและบั้นท้าย อธิบายให้ฟังกันก่อนว่ากล้ามเนื้อจะกินพื้นที่น้อยกว่าไขมันเยอะเลย เพราะงั้นพอเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามขาแล้ว จะช่วยให้สะโพกกับต้นขาดูกระชับ เฟิร์มขึ้น
    • เน้นเล่นเวทจำนวนครั้งซ้ำๆ เยอะๆ โดยขึ้นสุดลงสุด ให้บริหารได้ครบองศาการเคลื่อนไหว แต่อย่าฝืนจนบาดเจ็บ
    • ออกกำลังกายขาแบบเร็วๆ เช่น ท่าที่ต้องกระโดด ยกขาสูง จ็อกกิ้งยกเข่าสูงๆ และเตะถีบเท้าไปข้างหลัง เวลาเคลื่อนไหวเร็วๆ จะทำให้ได้บริหารเส้นใยกล้ามเนื้อต่างๆ ได้มากกว่าการออกกำลังกายเบาๆ
    • ฝึกกำลังและความแข็งแรงแบบช้าๆ เช่น สควอทแบบยกเวท, deadlifts และ lunges พวกนี้จะบริหารเส้นใยกล้ามเนื้อที่เหลือในสะโพก
    • เล่นเวทแล้วไม่ค่อยเบิร์นแคลอรี่ได้มากเท่าคาร์ดิโอ แต่ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ กระชับสัดส่วน [11]
    • นอกจากนี้ ถ้ายิ่งสร้างมวลกล้ามเนื้อไปเรื่อยๆ ร่างกายก็จะยิ่งเผาผลาญแคลอรี่ตอนหยุดพักได้มากขึ้นเท่านั้น
    • พยายามเล่นเวทให้ได้ 2 - 3 วันต่ออาทิตย์ ถ้าเน้นบริหารสะโพกและต้นขาเป็นพิเศษ ก็ต้องมีวันพักก่อนกลับมาบริหารกล้ามเนื้อกลุ่มเดิมด้วย [12]
  2. Watermark wikiHow to ทำให้สะโพกเล็กลง
    ท่าสะพานโค้งแบบต่างๆ เป็นท่ามาตรฐานที่ช่วยกระชับหลังส่วนล่าง หน้าท้อง บั้นท้าย และที่สำคัญคือสะโพก [13]
    • ให้นอนหงายราบไปกับพื้น ชันเข่าขึ้น แล้วแยกเท้าเท่าความกว้างของสะโพก ย้ำว่ากระดูกสันหลังต้องเหยียดตรง พร้อมเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง
    • ค่อยๆ ยกสะโพกขึ้นจนกลายเป็นท่าแพลงก์ ตัวเหยียดตรงจากไหล่ถึงเข่า ทำท่านี้ค้างไว้ 3 วินาที แล้วค่อยๆ กลับมานอนราบกับพื้น ทำซ้ำ 10 - 20 ครั้งด้วยกัน
    • ถ้าอยากเพิ่มความหนักให้ท้าทาย ให้ค้างท่าแพลงก์ไว้แล้วหย่อนสะโพกลงมา 1 นิ้ว (2.5 ซม.) จากนั้นค่อยยกสะโพกกลับขึ้นไป ให้ทำ 1 นาที แล้วค่อยกลับมาท่าเริ่มต้น
  3. Watermark wikiHow to ทำให้สะโพกเล็กลง
    ท่านี้ช่วยกระชับร่างกายท่อนล่าง แต่เน้นสะโพกและต้นขาเป็นพิเศษ [14]
    • ยืนแยกเท้าเท่าความกว้างของสะโพก เกร็งกล้ามท้อง แล้วทิ้งน้ำหนักไปทางส้นเท้า
    • ย่อลงไปด้านหลังเหมือนจะนั่งเก้าอี้เตี้ยๆ ย้ำว่าห้ามย่อเข่าไปข้างหน้าเกินปลายเท้า ถ้าอยากทำให้ถูกท่า ลองหันข้างให้กระจกตอนบริหาร
    • สควอทย่อลงมาให้ได้ต่ำที่สุด แล้วค้างไว้ 3 วินาที จากนั้นออกแรงดันตัวจากส้นเท้า กลับมายืนในท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 10 - 20 ครั้ง
  4. Watermark wikiHow to ทำให้สะโพกเล็กลง
    curtsy lunge เป็นท่าสควอทขาเดียวแบบเพิ่มความยาก ต้องออกแรงจากสะโพกมากขึ้น เลยเป็นท่าที่ช่วยกระชับสะโพกและต้นขาได้เป็นอย่างดี
    • ยืนแยกเท้าเท่าความกว้างของสะโพก ก้าวเท้าขวาไปหลังเท้าซ้าย เหมือนจะถอนสายบัว (curtsy) ทำความเคารพ
    • สควอทโดยย่อเข่าทั้ง 2 ข้าง พยายามให้ขาขวาย่อลงต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • ระหว่างบริหารต้องเกร็งกล้ามเนื้อตลอด และหลังตรง อย่าโน้มตัวไปข้างหน้า ให้ถอนสายบัวแบบนี้ซ้ำข้างละสัก 10 - 20 ครั้ง
  5. Watermark wikiHow to ทำให้สะโพกเล็กลง
    เป็นท่าบริหารที่เน้นสะโพกด้านนอกโดยเฉพาะ ทั้งกระชับและเสริมสร้างกล้ามเนื้อด้านนอกของต้นขา
    • เลือกยางยืดออกกำลังกาย (resistance band) วงเล็กๆ หน่อย ก้าวเข้าไปอยู่ข้างใน แล้วดึงขึ้นมาให้เหนือระดับเข่า จะมีแรงต้านตอนคุณก้าวไปด้านข้าง
    • ให้ก้าวออกไปข้างๆ ทางขวา ให้ได้ไกลที่สุด แล้วค่อยๆ ขยับขาซ้ายมาทางขาขวาช้าๆ จากนั้นก้าวออกไปด้านข้างในทิศทางตรงกันข้าม คราวนี้ก้าวขาซ้ายก่อน
    • ทำซ้ำข้างละ 10 - 20 ครั้ง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สะโพกและต้นขาจะเล็กลงได้ ถ้าลดไขมันส่วนเกินของทั้งร่างกาย อย่างที่บอกว่าคุณเจาะลดเฉพาะส่วนไม่ได้ เพราะงั้นต้องจัดตารางอาหารจำกัดแคลอรี่อย่างเคร่งครัด ถึงจะลดไขมันส่วนเกินที่สะโพก ต้นขา และทั้งตัวได้
    • วิธีการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง คือลดช้าๆ อย่างปลอดภัย หรือก็คือประมาณ 0.5 - 1 กก. ต่ออาทิตย์ [15]
    • ให้ลดแคลอรี่ในอาหารประจำวันออกประมาณ 500 - 750 แคลอรี่ [16] ก็จะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย ค่อยเป็นค่อยไป
    • จดบันทึกอาหารประจำวันหรือใช้แอพแทนก็ได้ จะได้เห็นภาพว่าแต่ละวันคุณกินอาหารมากน้อยแค่ไหน กี่แคลอรี่ และสามารถกำหนดได้ว่าแคลอรี่ที่เหมาะสมกับการลดน้ำหนักคือเท่าไหร่
  2. เดี๋ยวนี้มีวิธีไดเอทให้เลือกใช้เยอะแยะไปหมด แต่งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าการลดแป้ง (คาร์โบไฮเดรต) จะช่วยให้ลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกินได้เร็วที่สุด [17]
    • ถ้าเลือกกินแบบลดคาร์โบไฮเดรต แนะนำให้อาหารแต่ละมื้อเน้นเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ การกินแบบนี้จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เพียงพอ
    • แต่ละมื้อต้องมีแหล่งโปรตีน อย่างน้อย 3 - 4 ออนซ์ต่อมื้อหลักและมื้อของว่าง (ชิ้นประมาณไพ่ 1 สำรับ) [18] เพื่อให้ตรงตามปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน
    • ต้องกินผลไม้ 1 - 2 servings (หน่วยบริโภค) ต่อวัน (ผลไม้หั่นแล้ว 1/2 ถ้วยตวง หรือ 1 ชิ้นเล็ก) [19] และกินผัก 4 - 5 servings ต่อวัน (ถ้าหั่นแล้วก็ 1 ถ้วยตวง ถ้าเป็นผักใบเขียวก็ประมาณ 2 ถ้วยตวง) [20]
    • ตัวอย่างอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำที่เน้นโปรตีนและผักผลไม้ ก็เช่น คอทเทจชีส 1 ถ้วยตวง และผลไม้หั่นเป็นชิ้นๆ ฮัมมุส 1/4 ถ้วยตวงกับผักสดหั่น หรือสลัดไก่ย่าง
  3. ถ้าจัดตารางอาหารแบบคาร์โบไฮเดรตต่ำ เพื่อลดไขมันในร่างกาย กระชับสะโพกและต้นขา ก็ต้องคอยติดตามปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่กินเข้าไปในแต่ละวัน
    • คาร์โบไฮเดรตอยู่ในอาหารหลากหลายประเภทมาก เช่น ผลไม้ ผลิตภัณฑ์นม ผักที่มีแป้งสูง ถั่วเมล็ดแห้ง และธัญพืช รวมถึงในน้ำตาล และเครื่องดื่มที่แต่งรสหวาน เช่น น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง
    • อาหารประเภทผลิตภัณฑ์นมหรือผลไม้ จะมีสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย นอกเหนือไปจากคาร์โบไฮเดรต (เช่น ไฟเบอร์และโปรตีน) เพราะงั้นให้กินบ้างพอประมาณ อย่าถึงกับงดไปเลย [21]
    • ที่ควรจำกัดมากที่สุด คือประเภทธัญพืช เพราะสารอาหารส่วนใหญ่ที่พบในอาหารกลุ่มนี้ ในอาหารชนิดอื่นๆ ก็มีเหมือนกัน อาหารที่ต้องระวังคือขนมปัง ข้าว บะหมี่ พาสต้า เบเกิล และแครกเกอร์
  4. นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว ยังต้องดื่มน้ำให้เพียงพอด้วย ยิ่งออกกำลังกายยิ่งต้องดื่มมากกว่าปกติ [22]
    • คุณหมอส่วนใหญ่แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 - 13 แก้วต่อวัน [23]
    • แต่ถ้าออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมมากกว่าปกติ ก็ต้องดื่มมากกว่านั้น เพราะต้องดื่มน้ำเข้าไปทดแทนเหงื่อที่เสียไปตอนออกกำลังกาย
    • ควรเป็นเครื่องดื่มที่ปราศจากคาเฟอีนและน้ำตาล เช่น น้ำเปล่า น้ำเปล่าแต่งรส/กลิ่น และชา/กาแฟแบบไร้คาเฟอีน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ควรปรึกษาคุณหมอก่อนเริ่มปรับเปลี่ยนอาหารการกินและการออกกำลังกาย จะได้แน่ใจว่าปลอดภัยและเหมาะกับสภาพร่างกายของคุณ
  • ย้ำกันตรงนี้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกบริหารเพื่อกระชับ "เฉพาะบางส่วน" ของร่างกาย ต้องกินอาหารครบหมู่ เล่นเวท และคาร์ดิโอเท่านั้น ถึงจะกระชับได้ทุกสัดส่วน
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • เสื่อโยคะ
  • รองเท้ากีฬา
  • เสื้อผ้ายืดหยุ่น ใส่สบาย
  • กระจก
  • ยางยืดออกกำลังกาย (resistance band)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,535 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา