ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

กระเป๋าหนังใบใหม่หรือแจ็กเกตหนังตัวใหม่เป็นอะไรที่เริดสุดๆ แต่หนังที่เพิ่งออกมาจากโรงงานสดๆ ร้อนๆ มักจะแข็งและไม่ยืดหยุ่น ทำให้ลุคของคุณดูไม่เก๋ไก๋เท่าที่ควรและทำให้คุณอวดของใหม่แบบไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ แต่โชคดีที่คุณสามารถเปลี่ยนหนังสัตว์ที่แข็งเกินไปให้นิ่มลงได้ด้วยเทคนิคง่ายๆ ที่ทำให้หนังของคุณดูเก่าราวกับผ่านการใช้งานมานานแล้ว แค่ถูน้ำยาเคลือบหนังสูตรพิเศษลงบนหนังที่เพิ่งซื้อมาใหม่ เติมความชุ่มชื้นที่จำเป็นให้หนัง หรือออกแรงสักหน่อย คุณก็จะได้หนังที่ดูสวยเหมือนผ่านการใช้งานมานาน และแค่พริบตาเดียวคุณก็จะรู้สึกได้ว่าหนังเริ่มนิ่มเองตามธรรมชาติ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ใช้น้ำยาเคลือบหนัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น้ำมันที่อยู่ในน้ำยาเคลือบหนังจะทำให้หนังที่เป็นรูพรุนลื่นขึ้น ซึ่งจะทำให้หนังมีความยืดหยุ่นและสามารถโค้งงอไปตามร่างกายได้ดีขึ้น นอกจากนี้น้ำยาเคลือบหนังยังต่างจากน้ำมันทั่วไปตรงที่มันจะไม่ทำให้หนังเสื่อมเร็วหรือทิ้งคราบมันเอาไว้ [1]
    • แต่ถ้าคุณยินดีจ่ายเพิ่มสักหน่อย คุณก็สามารถลงทุนซื้อชุดผลิตภัณฑ์ดูแลหนังมาเลยก็ได้ ซึ่งในชุดก็มักจะมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องหนังด้วย เช่น น้ำมันบำรุงหนัง น้ำยาทำความสะอาดและดูแลหนัง และขี้ผึ้งปกป้องหนังสำหรับกันน้ำ
    • อย่าใช้น้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันอะโวคาโด เพราะแม้ว่าจะช่วยให้หนังบิดงอได้มากขึ้นในระยะสั้นๆ แต่มันก็มักจะซึมลึกลงไปในตัวหนัง เมื่อเวลาผ่านไปมันก็อาจจะทำให้หนังเปลี่ยนสีถาวรหรือทำให้หนังแตกและเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง [2]
  2. พันผ้ารอบปลายนิ้วให้มุมผ้าโผล่ออกมานิดหน่อย จุ่มมุมผ้าในน้ำยาเคลือบหนังเล็กน้อย วิธีนี้จะทำให้คุณใช้น้ำยาเคลือบหนังในปริมาณที่พอดี
    • หากเป็นผลิตภัณฑ์หนัง ให้จำไว้ว่ายิ่งน้อยยิ่งดี คุณแค่ดูแลรักษาพื้นผิวของหนังเท่านั้น ไม่ได้อาบน้ำให้มัน [3]
    • อย่าทาผลิตภัณฑ์ลงบนหนังโดยตรง เพราะนอกจากจะทำให้เลอะเทอะสุดๆ แล้ว ยังเกลี่ยน้ำยาเคลือบให้เสมอกันยากด้วย
  3. ถูน้ำยาเคลือบหนังเป็นปื้นๆ หรือวนเป็นวงกลมใหญ่ๆ โดยเกลี่ยให้เรียบเนียน แล้วค่อยๆ ถูเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ พยายามเคลือบน้ำยาแค่ชั้นเดียวเพื่อให้หนังดูแวววาวแบบบางเบา ไม่ใช่ดูเปียกหรือมันแผล็บ [4]
    • คุณจะทาน้ำยาเคลือบหนังตรงบริเวณด้านนอกของผลิตภัณฑ์หนังทั้งหมด หรือคุณจะเน้นแค่บริเวณที่จำเป็นมากที่สุดก็ได้ เช่น เสื้อแจ็กเกตตรงบริเวณข้อศอกและรองเท้าบูตตรงส่วนที่เป็นนิ้วเท้าและข้อเท้า
    • คุณไม่จำเป็นต้องเคลือบน้ำยาหลายๆ ชั้น เพราะชั้นที่คุณทาเพิ่มก็จะไปสะสมอยู่บนพื้นผิว
  4. ถูน้ำยาเคลือบหนังลงบนผลิตภัณฑ์หนังเป็นประจำ. ลงน้ำยาเคลือบหนังซ้ำอย่างน้อยทุก 2-3 เดือนเพื่อให้เสื้อผ้าและเครื่องประดับอยู่ในสภาพดี ในการลงน้ำยาเคลือบแต่ละครั้งจะทำให้หนังที่แข็งทื่อเริ่มยืดหยุ่นขึ้นเรื่อยๆ [5]
    • ถ้าคุณอาศัยอยู่ในบริเวณที่สภาพอากาศอบอุ่นและแห้ง ทำให้หนังของคุณต้องสัมผัสกับความร้อนและอากาศแห้งเป็นประจำ คุณก็อาจจะลงน้ำยาเคลือบให้บ่อยขึ้นเป็นทุก 2-3 สัปดาห์ [6]
    • เนื่องจากว่าเฟอร์นิเจอร์หนังและเครื่องหนังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมสภาพอากาศอยู่แล้ว คุณจึงสามารถลงน้ำยาเคลือบหนัง 6 เดือนครั้งได้ [7]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

พรมน้ำลงบนหนัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเพิ่มความชื้นเป็นวิธีที่ช่วยให้หนังนิ่มเร็วขึ้น เปิดน้ำเย็นจากก๊อกเติมน้ำลงไปในขวดสเปรย์ หรือถ้าจะให้ดีว่านั้นก็รินน้ำดื่มบริสุทธิ์จากขวดลงไป และดูให้ดีว่าปิดฝาแน่นแล้วเพื่อไม่ให้น้ำหกพรวดออกมา [8]
    • ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้น้ำกลั่น เพราะมันมีโอกาสที่จะเกิดรอยจุดที่ไม่น่าดูและการสะสมของแร่ธาตุที่มักมาพร้อมกับน้ำกระด้างได้น้อยกว่า
    • ถ้าคุณไม่มีขวดสเปรย์ ก็สามารถใช้ผ้าหมาดเช็ดหนังแทนได้
    • วิธีนี้ใช้กับหนังกันน้ำไม่ได้ เพราะน้ำจะกลิ้งออกมา
  2. ฉีดน้ำลงบนหนังให้ทั่วจนน้ำเริ่มเกาะเป็นเม็ดๆ ขณะที่น้ำเกาะอยู่บนหนัง ความชื้นก็จะซึมลงไปในตัวหนัง ทำให้หนังที่แข็งนิ่มลงเล็กน้อย ระหว่างนี้ให้คุณสวม (ถ้ามันเป็นสิ่งที่สวมใส่ได้) และหมุนไปหมุนมาเล็กน้อยเพื่อยืดตัวหนังและช่วยให้มันโค้งงอไปตามรูปร่างได้มากขึ้น [9]
    • หรือช่วงที่ฝนตกปรอยๆ คุณก็อาจจะถือเครื่องหนังออกไปตากฝนข้างนอกสักครู่ แต่ก็ระวังอย่าตากนานเกินไปจนหนังเปียกโชก [10]
    • ถ้าน้ำมากเกินไปก็อาจทำให้หนังเสียหายได้ แต่น้ำเพียงเล็กน้อยจะช่วยทำให้หนังดูเก่าขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากสภาพอากาศโดยไม่ทำให้หนังเกิดความเสียหายมากนัก
  3. ใช้ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดซับหนังให้ทั่ว เสร็จแล้วให้ผึ่งไว้ในที่ที่แห้งและเย็นโดยผึ่งทิ้งไว้ให้แห้ง เพราะความชื้นที่ยังเหลืออยู่จะระเหยไปเอง
    • อย่าให้มีน้ำเกาะอยู่บนตัวหนัง เพราะถ้าหากหนังเปียกชุ่มมากเกินไปจะทำให้เกิดรอยแตกและสีซีด ซึ่งทำให้หนังดูหม่นและหยาบ
    • อย่าลืมเช็ดตรงที่เป็นโลหะให้แห้งเพื่อป้องกันสนิม
  4. น้ำยาเคลือบป้องกันจะฟื้นฟูความชุ่มชื้นที่จำเป็นกับหนังและทำให้หนังไม่แห้งและเปราะ ขั้นตอนนี้สำคัญมากหากคุณทาสารอื่นๆ เช่น น้ำ ลงบนหนังสีแทน เพราะมันอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ใช้ความร้อนเพิ่มความยืดหยุ่นให้หนัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณรีบ การโยนเครื่องหนังลงในตู้อบผ้าที่อุณหภูมิปานกลางสักครู่จะทำให้หนังนิ่มลงได้แน่นอน ความร้อนในเครื่องอบผ้าบวกกับการกลิ้งไปกลิ้งมาจะทำให้เครื่องหนังดูเหมือนผ่านการใช้งานมานาน แต่ให้ใส่เข้าเครื่องอบผ้าครั้งละ 10-15 นาทีเท่านั้น เพราะถ้านานกว่านั้นหนังจะเริ่มหดหรือไหม้ได้ [11]
    • วิธีนี้ควรใช้กับเครื่องประดับชิ้นใหม่ที่ไม่โค้งงอหรือใช้แล้วไม่คล่องตัวจะดีที่สุด เพราะถ้าเป็นหนังเก่าความร้อนจะไปดึงความชื้นส่วนที่เหลือออกมา
    • ตอนที่ใส่เข้าไปในเครื่องอบผ้า หนังควรจะแห้งหรือไม่ก็หมาดนิดๆ และไม่แนะนำให้คุณซักและอบหนังเหมือนเวลาที่คุณซักผ้าตามปกติ
    • เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ให้โยนรองเท้าผ้าใบหนักๆ 1 ข้างหรือลูกเทนนิสลงไปในเครื่องอบผ้าสัก 2-3 ลูก แรงเสียดสีที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เครื่องหนังดูเก่าทั่วกันทั้งชิ้น
  2. ผึ่งเครื่องหนังไว้ใต้กระจกบังลมหน้ารถเพื่อให้ได้รับแสงแดดในตอนกลางวัน หรือไม่ก็แขวนไว้ในห้องน้ำระหว่างที่คุณอาบน้ำอุ่น สิ่งสำคัญคืออย่าผึ่งนานเกินไป เพราะผ่านไปสักพักความร้อนที่สัมผัสกับหนังโดยตรงจะทำให้หนังซีดหรือแห้ง
    • นอกจากนี้ไอน้ำจากฝักบัวยังช่วยอาบความชื้นให้หนังด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเป็นสองเท่า
  3. การเป่าลมจะได้ผลลัพธ์เหมือนกับการผึ่งในห้องที่ร้อนหรือการใส่ในเครื่องอบผ้า แต่คุณจะสามารถเน้นตรงส่วนที่แข็งและแน่นที่สุดได้ ถือไดร์เป่าผมเหนือรอยพับ รอยจีบ ขลิบริม และตรงไหนก็ได้ที่คุณอยากให้มันนิ่มขึ้นอีกนิด เมื่อหนังนิ่มดีแล้ว ให้สวมและใส่จนกว่าหนังจะเย็นลง [12]
    • ใช้ความร้อนระดับต่ำเท่านั้นและถือไดร์เป่าผมให้ห่างจากหนังพอสมควรเพื่อลดความเสี่ยงที่หนังจะไหม้
    • หลังกระบวนการทำเก่าอย่าลืมเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบดูแลหนังอีกที
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ออกแรงเพื่อให้หนังนิ่มขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ค้อนยาง ไม้เบสบอล หรือสิ่งของอื่นๆ ที่คล้ายกันทุบเครื่องหนังให้ทั่ว ออกแรงทุบพอประมาณและทุบด้วยแรงที่เท่ากันให้ทั่วทั้งพื้นผิว การทุบหนังนั้นโดยพื้นฐานแล้วก็เหมือนกับการที่คุณทุบสเต็กเนื้อเหนียวให้นุ่มขึ้นนั่นเอง
    • ไม่ว่าจะเป็นหนังชนิดไหน อายุเท่าไหร่ หนังอะไร ลายเป็นยังไง หรือสไตล์ไหนก็สามารถใช้วิธีทุบแบบนี้ได้เหมือนกัน
    • พยายามอย่าทุบแรงจนหนังเสียหาย
    • เลี่ยงบริเวณที่บอบบาง เช่น ตะเข็บ กระเป๋าเสื้อ กระดุม สายสะพาย และซิป
  2. ขยุ้มหนังส่วนหนึ่งไว้ในกำมือ จากนั้นก็ดึง บิด และบีบเหมือนเวลาที่คุณยืดแป้งขนมปังก้อนกลม ขยำหนังในแบบต่างๆ เพื่อให้หนังยืดขยายไปหลายทิศทาง แล้วคุณจะสังเกตได้ว่าหนังค่อยๆ นิ่มลงทีละนิด
    • ถ้าเป็นเข็มขัดหรือสิ่งของที่เป็นลักษณะเดียวกัน ให้ม้วนแน่นๆ เป็นลูกบอล จากนั้นก็คลายแล้วม้วนใหม่อีกด้าน [13]
    • ขยำเครื่องประดับระหว่างที่ดูทีวี รอนัด หรือนั่งรถนานๆ
  3. ถ้าการทำทารุณกรรมหนังอันเลอค่าของคุณดูท่าจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ คุณก็อาจจะใช้วิธีที่ได้ผลแน่นอนที่สุดและให้เกียรติเวลา ซึ่งก็คือการใช้ของสิ่งนั้นบ่อยๆ พยายามใช้เครื่องหนังทุกครั้งที่มีโอกาส แล้วคุณจะประหลาดใจว่ามันเริ่มนิ่มขึ้นเร็วแค่ไหน [14]
    • การใช้เครื่องหนังเป็นประจำนอกจากจะทำให้ลายสวยขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณมีโอกาสได้ใช้งานบ่อยขึ้นด้วย
    • ไม่ต้องเครียดถ้าหนังจะสกปรกบ้าง เพราะคุณสามารถทำความสะอาดในภายหลังเพื่อให้มันกลับมาสวยเหมือนเดิมได้เสมอ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ลองทำหลายๆ วิธีเพื่อให้ได้หนังที่เหมือนผ่านการใช้งานมานานในเวลาอันน้อยนิด
  • ทำให้หนังนิ่มขึ้นทีละนิดจนกว่าคุณจะพอใจ
  • ทดสอบน้ำยาเคลือบหนังและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในบริเวณที่มองไม่เห็นก่อนเสมอ เพื่อดูว่าเมื่อสัมผัสกับหนังแล้วมันเป็นอย่างไร
  • หากต้องการวิธีการดูแลรักษาที่ครบถ้วน ให้กลับไปอ่านคำแนะนำของผู้ผลิตที่อยู่บนฉลาก
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าทำให้หนังดูเก่าโดยการใช้กระดาษทราย ฝอยขัดหม้อ หรือสิ่งของที่คล้ายกันเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้พื้นผิวด้านนอกเป็นรอยแล้ว ยังไม่ได้ทำให้หนังนิ่มขึ้นด้วย
  • สารเคมี เช่น รับบิ้งแอลกอฮอล์ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และวินเด็กซ์อาจทำให้สีตกและทำให้สีหนังเสียได้
  • วิธีการในข้างต้นเป็นวิธีการที่ใช้กับหนังแท้ ถ้าหากใช้กับหนังเทียมก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน
  • อย่าทำอะไรที่อาจทำให้หนังเสียหายถาวร เพราะถ้าทำไปแล้วคุณจะกลับไปแก้ไขให้เหมือนเดิมไม่ได้
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • น้ำยาเคลือบหนัง
  • ผ้าสะอาด
  • ขวดสเปรย์
  • น้ำ
  • เครื่องอบผ้า
  • ไดร์เป่าผม
  • ค้อนยาง ไม้เบสบอล หรือสิ่งของที่คล้ายกัน (สำหรับทุบหนัง)
  • ลูกเทนนิสหรือรองเท้าผ้าใบ (ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 20,208 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา