ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ว่าจะปลูกฟักทองเองหรือซื้อมาจากเกษตรกรท้องถิ่น หลายคนก็นิยมเก็บเมล็ดฟักทองไว้ เพราะนำไปปลูกรอกินปีหน้า หรือนำเมล็ดฟักทองมากินเล่นก็อร่อยดี ซึ่งบอกเลยว่าฟักทองเป็นหนึ่งในพืชที่เก็บเมล็ดได้ง่ายสุดแล้ว เพราะเมล็ดใหญ่ แถมลูกหนึ่งมีเมล็ดเยอะมาก แต่ก่อนจะนำเมล็ดฟักทองไปปลูกหรือคั่วได้ ต้องล้างให้สะอาด และแน่ใจว่าแห้งสนิทซะก่อน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เตรียมและล้างเมล็ดก่อนอบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทำให้เมล็ดฟักทองแห้ง
    ตั้งฟักทองบนโต๊ะหรือพื้นราบ จรดปลายมีดทำครัวขนาดใหญ่ลงไปที่ด้านบนของฟักทอง กดมีดลงไปช้าๆ ขยับมีดไปมาระหว่างผ่า เพื่อแหวกรอยผ่าให้ใหญ่ขึ้น ผ่าลงไปเรื่อยๆ จนเห็นด้านในของฟักทอง พอผ่าครึ่งฟักทองแล้ว ให้ทำซ้ำจากอีกด้านหนึ่ง [1]
    • พอผ่าฟักทองครบทั้งลูกแล้ว ให้หั่นอีกครั้งลงไปตรงกลางลูก แล้วใช้มือฉีกฟักทองเปิดออก
    • จับฟักทองไว้ให้มั่นด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด แต่ระวังอย่าให้มือไปขวางมีด
  2. Watermark wikiHow to ทำให้เมล็ดฟักทองแห้ง
    เมล็ดส่วนใหญ่จะตักออกมาง่ายในคราวเดียว แต่ถ้าเป็นเมล็ดที่ติดแน่นหน่อย ให้ใช้ช้อนขูดข้างในฟักทองอีกที ถ้าไม่กลัวมือเลอะ ใช้มือหยิบเมล็ดที่เหลือเลยนี่แหละสะดวกสุด [2]
    • ถ้ามีที่ตักไอศครีม ก็ใช้คว้านเมล็ดจากเนื้อฟักทองข้างในได้เลย
  3. Watermark wikiHow to ทำให้เมล็ดฟักทองแห้ง
    ง่ายที่สุดคือใช้มือฉีกเนื้อฟักทองออกจากเมล็ดเลย ถ้าจะทำให้เมล็ดแห้งแล้วเอาไปคั่ว และแต่งรสเพิ่มเติม ก็ไม่ต้องแกะเนื้อออกจากเมล็ดเนี้ยบนัก แต่ถ้าจะเก็บไว้ใช้ปลูก ย้ำว่าต้องแกะเนื้อฟักทองออกให้หมด [3]
    • เมล็ดไหนแกะเนื้อออกยาก ให้เอาไปจุ่มน้ำในชาม เพื่อให้เนื้อฟักทองนิ่ม แกะง่ายขึ้น
  4. ถือกระชอนเหนืออ่างล้างจาน แล้วเทเมล็ดทั้งหมดลงไป จากนั้นเปิดน้ำเย็นให้ไหลผ่านกระชอน ขยับวนเป็นวงกลมให้ทั่วถึงทุกเมล็ด สุดท้ายวางกระชอนแล้วใช้มือล้างเมล็ดไปมาระหว่างเปิดน้ำทิ้งไว้ เพื่อให้เมล็ดสะอาด [4]
    • ตอนนี้ถ้ายังมีเนื้อฟักทองติดเมล็ด ให้ดึงออกให้หมด
    • ล้างแล้วเมล็ดยังลื่นๆ หน่อยก็ไม่เป็นไร ไม่ได้แปลว่าสกปรกแต่อย่างใด
  5. Watermark wikiHow to ทำให้เมล็ดฟักทองแห้ง
    วางทิชชู่แผ่นหนาสำหรับซับน้ำมัน สัก 2 - 3 แผ่นบนโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ เทเมล็ดฟักทองลงไป แล้วใช้ทิชชู่อีกแผ่นซับๆ กดๆ พอครบ 5 - 10 นาที ก็เทเมล็ดฟักทองใส่ชามสะอาด แต่ระวังอย่าเผลอบีบทิชชู่ [5]
    • ย้ำว่าต้องแยกเนื้อหรือเศษฟักทองออกจากเมล็ดให้หมด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ตากแห้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทำให้เมล็ดฟักทองแห้ง
    เทเมล็ดฟักทองที่สะอาดแล้วใส่ถาดอบ จากนั้นกระจายให้ทั่วเป็นชั้นเดียว อย่าซ้อนกัน และอย่าให้เมล็ดไหนอยู่ชิดติดกัน [6]
    • ถ้าเรียงเมล็ดฟักทองทั้งหมดในถาดเดียวไม่พอ ให้ใช้หลายถาดหน่อย
  2. ตากเมล็ดฟักทองไว้ในที่เย็นและแห้ง อย่างน้อย 1 เดือน. เลือกสถานที่ที่แห้งสนิท ไม่เสี่ยงโดนความชื้น ถ้าเป็นที่ร่ม จะเป็นเพิง โรงนา หรือนอกบ้านที่มีหลังคาหรือกันสาดก็ได้ ห้ามตากไว้ในที่ที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท อย่างโรงรถที่มีประตูปิดทึบ และห้ามตากไว้ในห้องใต้ดินเด็ดขาด [7]
    • หมั่นเช็คสภาพเมล็ดฟักทองที่ตากไว้ทุกวัน อย่าลืมกลับด้านด้วย จะได้แห้งทั่วถึงทั้ง 2 ด้าน
    • ห้ามปล่อยเมล็ดจับตัวกันเป็นก้อน เพราะจะแห้งไม่สนิท ระวังราขึ้นก่อนจะทันแห้ง
    • การตากแห้งเป็นวิธีทำให้เมล็ดฟักทองแห้งได้แบบเห็นผลและปลอดภัยที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่ใช้เวลานานที่สุดเช่นกัน
  3. เก็บเมล็ดที่ตากแห้งแล้วในซองหรือถุงกระดาษ จนกว่าจะนำไปคั่วหรือปลูก. ให้กรอกเมล็ดที่แห้งสนิทแล้ว ใส่ในซองหรือถุงกระดาษ จากนั้นเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ถ้าหาที่เหมาะๆ ไม่ได้ ก็เก็บในตู้เย็นนั่นแหละ [8]
    • ถ้าเมล็ดไหนขึ้นรา ก็ทิ้งไปได้เลย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ใช้เครื่องอบลมร้อน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทำให้เมล็ดฟักทองแห้ง
    วางเมล็ดฟักทองบนตะแกรงของเครื่องอบแห้ง อย่าให้ซ้อนกัน. ต้องเรียงเมล็ดฟักทองแผ่เป็นชั้นเดียว อย่าชิดติดกันหรือเกยกัน ถ้าตะแกรงเครื่องอบลมร้อนหรือเครื่องอบแห้ง (dehydrator) มีรู ก็ต้องตัดกระดาษรองอบมาชิ้นเล็กๆ ใช้ปูรองบนตะแกรง ป้องกันเมล็ดตกไปตามรู [9]
    • อย่าใส่เมล็ดในตะแกรงเครื่องอบแห้งทีละเยอะๆ ไม่งั้นจะแห้งไม่เท่ากัน
  2. Watermark wikiHow to ทำให้เมล็ดฟักทองแห้ง
    อบแห้งเมล็ดฟักทองด้วยอุณหภูมิ 46 - 49°C (115 - 120°F) ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง. ให้เปิดเครื่องอบแห้งรอไว้ที่อุณหภูมิ 46 - 49°C (115 - 120°F) จากนั้นคลุกเมล็ดทุก 20 นาทีเพื่อให้แห้งทั่วถึงทุกเมล็ด [10]
    • ข้อเสียของการใช้เครื่องอบแห้ง คือบางเมล็ดอาจจะไหม้ได้ ไม่เหมือนการตากแห้ง แต่ก็ยังปลอดภัยกว่าการนำไปอบ
  3. กรอกเมล็ดที่อบแห้งแล้วใส่ซองหรือถุงกระดาษ เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น. ห้ามเก็บเมล็ดไว้ในที่ชื้นๆ เมล็ดจะได้แห้งสนิทอยู่ตลอด ถ้าหาที่เหมาะๆ ไม่ได้ ก็แช่ตู้เย็นไว้ซะเลย ค่อยนำออกมาตอนจะคั่วหรือปลูก [11]
    • เมล็ดที่ขึ้นราให้ทิ้งไป อย่าไปเก็บรวมกัน
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

อบแห้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เตาอบส่วนใหญ่ อุณหภูมิต่ำสุดจะเป็น 93°C (200°F) ถ้าใช้เตาไฟฟ้า ต้องวอร์มเตาประมาณ 10 - 15 นาที ถ้าเป็นเตาแก๊ส จะใช้เวลาประมาณ 5 - 10 นาที เวลาอบให้ใส่ตะแกรงไว้ที่ชั้นต่ำสุดของเตา [12]
    • ถ้าอยากให้ได้อุณหภูมิแม่นยำเป๊ะๆ ต้องใช้เทอร์โมมิเตอร์วัด
  2. Watermark wikiHow to ทำให้เมล็ดฟักทองแห้ง
    กระจายเมล็ดฟักทองให้ทั่วถาดอบขนมหรือคุกกี้ ต้องเรียงเป็นชั้นเดียว อย่าชิดติดกันหรือเกยกัน จากนั้นวางตะแกรงที่ชั้นล่างสุด แล้ววางถาดอบบนตะแกรงอีกที ตั้งอุณหภูมิเตาอบไปที่ต่ำสุด ปกติจะเป็น 93°C (200°F) จากนั้นอบ 3 - 4 ชั่วโมง [13]
    • ใช้ช้อนคลุกเมล็ดทุก 20 - 30 นาที จะได้ไม่ไหม้
    • ถ้าจะนำเมล็ดไปปลูก ระวังอย่าอบนานไปหรือจนไหม้ เพราะเท่ากับว่าเมล็ดโดนความร้อนเสียหายจนปลูกแล้วไม่งอก
    • การอบเมล็ดฟักทองในเตาอบแบบนี้ ถือเป็นวิธีทำให้เมล็ดแห้งแบบเสี่ยงที่สุด เพราะเมล็ดจะเสียหายได้ง่ายมาก
  3. กรอกเมล็ดที่อบแห้งแล้วใส่ซองหรือถุงกระดาษ ค่อยนำออกมาตอนจะปลูกหรือคั่ว. กรอกเมล็ดที่อบแห้งแล้วทั้งหมดใส่ซอง รอจนถึงฤดูเพาะปลูกหรือจะคั่วค่อยนำออกมา [14]
    • ถ้าสังเกตว่ามีเมล็ดไหนชื้นแฉะ ขึ้นรา ก็ทิ้งไปเลย อย่านำไปเก็บรวม
    • ต้องเก็บเมล็ดฟักทองอบแห้งไว้ในที่แห้งและเย็นตลอดเวลา ง่ายที่สุดคือนำไปแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซจนกว่าจะนำไปปลูกหรือคั่ว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ต้องอบแห้งเมล็ดก่อนนำไปคั่วเสมอ เพราะปรุงรสหรือคลุกน้ำมันแล้วจะติดง่าย กรอบอร่อย
  • พอรู้วิธีอบแห้งเมล็ดฟักทองแล้ว จะใช้วิธีเดียวกันกับเมล็ดของน้ำเต้าหรือฟักชนิดอื่นๆ ที่ต้องการเก็บไว้ปลูกก็ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • เวลากระจายเมล็ดฟักทองบนถาดอบขนมหรือคุกกี้เพื่อนำไปอบแห้ง ห้ามปล่อยเมล็ดกระจุกตัวกันเด็ดขาด เพราะจะแห้งไม่ทั่วถึง ทำให้เมล็ดขึ้นราได้ง่าย
  • การบริโภคเมล็ดฟักทองเยอะเกินไป อาจทำให้มีภาวะวิตามินบี 6 เกิน อันตรายถึงชีวิตได้ ถึงจะอร่อยแต่ก็ต้องกินแต่พอดีนะ!
  • ถ้าอบแห้งเมล็ดฟักทองแล้วขึ้นรา อย่าเสียดาย ให้ทิ้งไปเลย!
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ฟักทอง
  • มีด
  • กระชอน
  • ทิชชู่ซับน้ำมัน
  • ถาดอบคุกกี้ หรือถาดอบขนม
  • ซองหรือถุงกระดาษ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,444 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา