ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คุณรู้ความรู้สึกนี้ดี เวลาบ่ายสอง 32 นาทีและคุณยังไม่เลิกเรียนจนกว่าบ่าย 3 ทุกวินาทีดูยาวนานเหมือนเป็นชั่วโมง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถทำให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้นได้หากคุณใช้ความพยายาม
ขั้นตอน
-
ฝันกลางวันเล็กน้อย. หากคุณมีไม่กี่นาทีก่อนที่กระดิ่งจะดัง ปล่อยให้ใจของคุณลอยล่องสักเล็กน้อย นึกถึงสิ่งที่คุณจะทำหลังเลิกเรียนหรือสถานที่ใดในโลกที่คุณอยากไปเที่ยว ทำให้ตัวเองเชื่อว่าคุณสามารถบินได้และมีพลังพิเศษ ปล่อยใจให้ลอยล่องและพักสักเล็กน้อย เมื่อคุณกลับมาคุณจะรู้ว่าเวลาได้ผ่านไปเร็วกว่าที่คุณคาดหวังเอาไว้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่าปล่อยให้จินตนาการล่องลอยไปไกล พยายามกลับมาสนใจกับวิชาเรียนโดยการผสานมันเข้ากับจินตนาการของคุณ เช่น หากคุณเบื่อในคาบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ลองใส่บทเรียนของวันนี้ในจินตนาการเกี่ยวกับหุ่นยนต์ที่จะทำให้คุณจดจ่อกับการเรียน หุ่นยนต์เหล่านี้ต่อสู้กันโดยใช้สมการหรือไม่?
-
วาดรูปในสมุด. หากคุณครูของคุณไม่ได้เดินตรวจตามแถวเพื่อดูว่าคุณกำลังเขียนอะไร คุณสามารถวาดรูปในสมุดในขณะที่คุณครูพูด หากคุณเอียงสมุดจดเข้ามาหาตัวเองเล็กน้อย คุณจะดูเหมือนว่ากำลังจดเรื่องเรียนแต่คุณกำลังทำให้เวลาผ่านไปเร็วยิ่งขึ้น [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เขียนบางอย่างที่สร้างสรรค์. วิธีนี้อาจจะได้ผลดีกว่าการวาดรูป ตราบใดที่คุณครูของคุณไม่เดินมาดูว่าคุณกำลังเขียนอะไรเพราะคุณจะดูเหมือนกำลังจดวิชาเรียน เขียนบันทึกหรือเขียนโน้ตหาเพื่อนสนิทหรือลองเขียนเรื่องสั้นโดยอ้างอิงจากบางอย่างที่คุณเห็นในห้อง ชีวิตของที่เย็บกระดาษ เป็นต้น [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สร้างคำพ้อง. ทุกครั้งที่คุณครูพูดอะไรบางอย่างให้คุณลองสร้างคำพ้อง เช่น หากคุณครูพูดว่า “สภาพอากาศในสเปนนั้นเย็นมาก” คุณอาจจะนึกถึง “เมื่ออยู่ในสเปน อากาศจะเย็น” คุณยังจะตั้งใจเรียนเป็นโบนัสพิเศษอีกด้วย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
นับจำนวน. นับจำนวนของคำบางคำที่คุณครูพูดหรือจำนวนครั้งที่เธอพูดว่า “ฟังนะ” การนับจำนวนจะทำให้คุณตื่นและไม่จดจ่อกับเวลา [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
มาเรียนโดยพร้อมที่จะเรียน. หากคุณไม่รู้ว่าวันนี้คุณจะเรียนอะไรล่วงหน้า คุณก็อาจจะรู้สึกเบื่อในห้องเพราะคุณไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อคุณรู้สึกเบื่อเวลาจะผ่านไปอย่างช้า หากคุณพร้อมที่จะเรียนล่วงหน้า วิชานั้นอาจจะดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นและเวลาจะผ่านไปเร็วขึ้น [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ทำการบ้านก่อนเข้าเรียนรวมถึงการอ่านหนังสือด้วย มันสามารถช่วยให้คุณทบทวนบทเรียนจากครั้งที่แล้วในขณะที่คุณรอให้วิชาเริ่มเพื่อที่คุณจะได้จำได้ว่าเรียนถึงไหนแล้ว [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การพร้อมทางร่างกายยังสามารถช่วยได้ มันหมายถึงคุณได้ทานอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันและนอนอิ่มเพื่อที่คุณจะได้จดจ่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พูดคุยกับคุณครูและเพื่อนร่วมชั้น. เมื่อคุณได้รับโอกาสก็ควรพูดในชั้นเรียน เข้าร่วมกับสิ่งที่คนอื่นกำลังพูดถึง หากคุณครูของคุณไม่ยอมให้จับกลุ่มพูดคุย เธอก็อาจจะสนับสนุนให้คุณถามและตอบคำถาม การเข้าร่วมจะทำให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้นกว่านั่งเบื่ออยู่เฉยๆ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พัฒนาทักษะการฟัง. การเข้าร่วมในชั้นเรียนไม่ได้หมายความว่าคุณต้องพูดมากขึ้นแต่แปลว่าคุณต้องฟังให้ดีขึ้น [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองปิดกั้นเสียงอื่นนอกเหนือจากเสียงที่คุณครูหรือนักเรียนคนอื่นกำลังพูด พยายามอย่าฟังเสียงเคาะดินสอด้านหลัง เสียงนักเรียนขยำกระดาษข้างคุณหรือเสียงสัญญาณกันขโมยของรถด้านนอก บังคับตัวเองให้สนใจคุณครู [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
จดวิชาเรียนที่ดี. การจดวิชาเรียนไม่ใช่ทักษะที่คุณได้มาตอนเกิด คุณต้องเรียนรู้วิธีการทำสิ่งนี้อย่างดีและมันต้องใช้การฝึกฝน โชคดีที่คุณมีเวลาทำสิ่งนี้ที่โรงเรียน [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จดจ่อกับใจความสำคัญ คุณไม่สามารถจดทุกสิ่งที่คุณครูพูดได้ทุกคำนอกเสียจากว่าคุณเอาคอมพิวเตอร์มาเรียนและคุณพิมพ์เร็วมาก สิ่งนี้หมายถึงคุณต้องจดจ่อกับการเขียนใจความสำคัญ คุณครูน่าจะช่วยได้โดยการเน้นสิ่งที่สำคัญสัก 2-3 ครั้ง เธออาจจะพูดว่าคุณต้องเขียนสิ่งนี้ลงไป [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกเหนือจากนั้น คุณต้องสนใจสิ่งที่คุณครูเขียนบนกระดานหรือสไลด์บนโปรเจคเตอร์ คุณรู้ว่านี่คือใจความสำคัญ
-
ลองเขียนมันด้วยวิธีของคุณ. อีกวิธีในการทำให้สมองของคุณเเล่นในห้องเรียนคือการนึกถึงคนที่คุณชอบ คุณอาจจะนึกถึงความทรงจำหรือเขียนข้อความด้วยคำพูดของคุณเอง หากคุณเขียนทุกสิ่งที่คุณครูพูด คุณอาจจะไม่เข้าใจและคุณจะไม่ได้ใช้สมอง เพราะฉะนั้น คุณจะรู้สึกเบื่อได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม หากคุณพยายามใช้คำพูดของตัวเอง คุณจะมีส่วนร่วมและเรียนรู้มากขึ้นในเวลาเดียวกัน [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น หากคุณครูพูดว่า “สงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20 คือสงครามโลกครั้งที่ 2” คุณสามารถเขียนว่า “สงครามที่ยิ่งใหญ่ ศตวรรษที่ 20 สงครามโลกครั้งที่ 2” คุณไม่จำเป็นต้องเขียนเป็นประโยค เพียงแค่เขียนใจความสำคัญ
- อันที่จริงแล้วอย่ากลัวที่จะใช้คำย่อที่คุณเข้าใจเพื่อรับเอาข้อมูลที่มากขึ้น [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ซอยเวลาของแต่ละคาบเรียน. เมื่อคุณมองไปที่ช่วงเวลาที่น่าเบื่อมันอาจจะดูยาวนานมาก อย่างไรก็ตาม หากคุณซอยเวลาของแต่ละคาบเรียนมันก็อาจจะผ่านไปเร็วขึ้นเมื่อคุณซอยเวลาให้สั้นลง แน่นอนว่าคุณทำสิ่งนี้แค่ในหัวของคุณแต่สิ่งนี้จะทำให้ดูเหมือนว่าเวลาผ่านไปเร็วขึ้น [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่นคุณสามารถซอยเวลาให้เป็น “เริ่มต้นวิชา” “รับฟังข้อมูล” “จดวิชาเรียน” “จดการบ้าน” และ “เตรียมตัวกลับบ้าน” คุณสามารถเขียนช่วงเวลาเหล่านี้ในสมุดจดและขีดฆ่าเมื่อมันผ่านไป คุณยังสามารถทำช่วงเวลาให้เฉพาะเจาะจง เช่น “15 นาทีแรก” “15 นาที ครั้งที่ 2” เป็นต้น
-
หาสาเหตุว่าทำไมคุณถึงคิดว่ามันน่าเบื่อ. เขียนสิ่งที่คุณคิดว่าน่ารำคาญหรือน่าเบื่อเกี่ยวกับโรงเรียน บางทีอาจจะเป็นบางวิชาที่คุณไม่ชอบ บางทีคุณไม่ชอบนั่งเป็นเวลานาน บางทีคุณไม่ชอบคุยเป็นเวลานาน ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็เขียนมันลงไป [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หาทางแก้ไขปัญหา. หากคุณไม่สามารถนั่งเป็นเวลานาน ขออนุญาตคุณครูเพื่อยืดเส้นยืดสายในระหว่างคาบเรียนเพื่อที่คุณสามารถขยับตัวได้มากขึ้น หากคุณเบื่อบางวิชาก็ลองหาสิ่งที่จะทำให้คุณสนใจในวิชานั้น เช่น คุณอาจจะเกลียดวิชาประวัติศาสตร์แต่คุณอาจจะชอบอ่านเรื่องราวของคนในยุคนั้นมากกว่าดูภาพรวม [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่คุณไม่ชอบเกี่ยวกับโรงเรียนได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง อย่ากลัวที่จะคุยกับคุณครูเกี่ยวกับสิ่งที่จะสามารถช่วยคุณได้ คุณครูบางคนอาจจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแต่คุณครูบางคนก็อาจจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือคุณ [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณเข้าหาคุณครูด้วยคำขอร้อง คุณต้องไม่ทำสิ่งนี้ในห้องเรียน ลองไปพบครูหลังเลิกเรียน คุณสามารถพูดว่า “สวัสดีค่ะคุณครู หนูมาเพื่อขอความช่วยเหลือ หนูรู้ว่าวิชานี้สั้นแต่หนูขอพักยืดเส้นยืดสายในระหว่างคาบเรียนได้ไหมคะ การขยับตัวไปมาเล็กน้อยจะช่วยให้หนูตั้งใจเรียนได้ดีขึ้นแล้วหนูคิดว่านักเรียนคนอื่นอาจจะรู้สึกแบบเดียวกัน หนูเข้าใจหากคุณครูไม่ต้องการให้หนูทำสิ่งนั้นแต่หนูจะขอบคุณคุณครูมากถ้าคุณครูจะช่วยพิจารณา"
-
ท้าทายตัวเอง. บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกเบื่อเพราะคุณรอให้นักเรียนคนอื่นเรียนให้ทัน หากคุณเบื่อด้วยเหตุผลนี้ คุณสามารถขอให้คุณครูทำบางอย่างที่ท้าทายมากขึ้นในขณะที่คุณรอ เธออาจจะให้บางอย่างเพื่อช่วยให้สมองของคุณทำงานและทำให้คุณตื่นตัวในขณะเดียวกัน [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- ขออนุญาตก่อนที่จะใช้โทรศัพท์หรืออ่านหนังสือวิชาอื่น
- หากคุณครูกำลังพูดถึงบางอย่างที่สำคัญ คุณก็ควรตั้งใจฟัง
- อย่าทำให้โดนจับได้เมื่อคุณวาดรูปเล่นหรือทำบางอย่างเพื่อความสนุก
- ขอไปเข้าห้องน้ำและทำตัวให้สดชื่น ยืดเส้นยืดสายหรือเดินไปรอบโรงเรียน
- การกินขนม หมากฝรั่งหรืออมลูกอมมิ้นอาจทำให้คุณหายเบื่อและเลิกจับเวลาแต่อย่าทำให้คุณครูบ่น
- พยายามอย่าคิดว่าวิชานี้น่าเบื่อและยาวนานแค่ไหน
- ทำงานให้เสร็จให้มากที่สุด บางครั้งคุณครูอาจจะเรียกคุณและคุณไม่รู้ว่าคุณครูกำลังพูดถึงอะไร เพราะฉะนั้น คุณต้องไม่เสียสมาธิจนเกินไป
- ซื้อลูกบอลแก้เครียดมาบีบเพื่อทำให้หายเบื่อ
- คุณสามารถลองวาดรูปบนขาหรือฝ่ามือแต่อย่าทำให้คุณครูเห็น
- ลองคุยกับเพื่อนที่นั่งข้างคุณอย่างดีในขณะที่คุณครูเดินออกนอกห้อง อย่าคุยเสียงดังเพราะคุณจะถูกจับได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://education.seattlepi.com/make-day-faster-school-1293.html
- ↑ http://c2.com/cgi/wiki?ActivitiesForBoringMeetings
- ↑ http://www.contentverse.com/office-pains/simple-ways-pass-time-work/
- ↑ http://c2.com/cgi/wiki?ActivitiesForBoringMeetings
- ↑ http://c2.com/cgi/wiki?ActivitiesForBoringMeetings
- ↑ http://highered.mheducation.com/sites/0079876543/student_view0/freshman_year-999/study_skills1/how_to_learn_in_class.html
- ↑ http://highered.mheducation.com/sites/0079876543/student_view0/freshman_year-999/study_skills1/how_to_learn_in_class.html
- ↑ http://highered.mheducation.com/sites/0079876543/student_view0/freshman_year-999/study_skills1/how_to_learn_in_class.html
- ↑ http://www.livescience.com/1308-students-bored-school.html
- ↑ http://www.howtostudy.com/take-effective-notes/
- ↑ http://www.howtostudy.com/take-effective-notes/
- ↑ http://highered.mheducation.com/sites/0079876543/student_view0/freshman_year-999/study_skills1/how_to_learn_in_class.html
- ↑ http://highered.mheducation.com/sites/0079876543/student_view0/freshman_year-999/study_skills1/how_to_learn_in_class.html
- ↑ http://www.fastcompany.com/3046058/work-smart/how-to-master-the-art-of-taking-better-notes
- ↑ http://www.howtostudy.com/take-effective-notes/
- ↑ http://www.jcr-admin.org/files/pressPDFs/080714164321_677893.pdf
- ↑ http://kidshealth.org/kid/feeling/school/hate_school.html#
- ↑ http://kidshealth.org/kid/feeling/school/hate_school.html#
- ↑ http://kidshealth.org/kid/feeling/school/hate_school.html#
- ↑ http://blogs.edweek.org/teachers/teacher_in_a_strange_land/2013/11/bored_eight_ideas_about_bored_students_and_boring_teachers.html
โฆษณา