ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณเคยอยากร้องเพลงในรายการทาเลนต์โชว์บ้างไหม? หรือเคยคิดแค่อยากจะร้องอวดเพื่อนๆ เฉยๆ หรือเปล่า? คุณทำตามวิธีการต่อไปนี้สิ มันจะทำให้เสียงร้องของคุณดีขึ้นอย่างแน่นอน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้ทุกส่วนของร่างกาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    ดื่มน้ำ. หากคุณคิดว่าการดื่มน้ำนั้นแค่ช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีเฉยๆ คุณคิดผิดแล้วล่ะ! เพราะว่าจริงๆ แล้ว น้ำมีส่วนช่วยให้สุขภาพเสียงของคุณดีขึ้นได้ด้วย ดังนั้น คุณควรรับ H2O จากน้ำให้เพียงพอ เพื่อที่เส้นเสียงของคุณจะได้มีสุขภาพดีและพร้อมใช้งานได้ทุกเมื่อ
    • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่เย็นจัดหรือร้อนจัด เพราะน้ำที่เย็นจัดจะทำให้เส้นเสียงของคุณหดตัว และน้ำที่ร้อนจัดอาจจะทำให้เส้นเสียงระคายเคืองได้
    • หากคุณรู้สึกระคายคอ ชาหรือน้ำอุ่นๆ ผสมน้ำผึ้งช่วยได้ หากคุณเป็นคนที่ชอบดื่มนมทุกๆ เช้า ให้คุณดื่มน้ำตามเมื่อดื่มนมเสร็จทุกครั้ง เนื่องจากนมจะไปเคลือบภายในลำคอของคุณ และที่สำคัญหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะว่าแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ทำให้ความชุ่มชื่นของคอคุณลดลง
  2. 2
    หายใจลึกๆ . คนส่วนใหญ่ชอบหายใจแบบผิดๆ ชอบสูดลมมาจากท้องแล้วหายใจแค่ตรงส่วนบนของปอดเท่านั้น ซึ่งจริงๆ เป็นสิ่งไม่ควรทำ ดังนั้น เพื่อเสียงร้องที่แข็งแรง คุณต้องใช้ประโยชน์จากทั่วทั้งปอดและกะบังลมของคุณ แล้วก็หายใจให้ลึกๆ
    • ไม่ว่าคุณกำลังนั่ง ยืน หรือนอนอยู่ ในขณะที่ยืนหรือนั่ง ให้คุณวางแขนไว้ที่หน้าท้อง และเค้นออกมาทุกครั้งที่หายใจเข้า และดันกลับเข้าทุกครั้งที่หายใจออก หากคุณกำลังนอนอยู่ ให้คุณวางหนังสือไว้ที่หน้าอกและอย่าให้หนังสือขยับเขยื้อน
  3. 3
    เกร็งกะบังลมขณะร้องเพลง. เพราะนี่จะทำให้เสียงของคุณแข็งแรงขึ้น (หากคุณไม่รู้ว่ากะบังลมคืออะไร ให้ดูที่ภาพประกอบ มันคือกล้ามเนื้อที่อยู่ข้างใต้กระดูกซี่โครง)
  4. 4
    วางท่าให้เหมาะสม. วางฝ่าเท้าทั้งสองข้างระนาบกับพื้น จินตนาการว่ามีเส้นตรงอยู่สูงขึ้นไปที่เหนือหัวของคุณ แล้วทำให้ลำตัวอยู่แนวเดียวกับเส้นตรงนั้น เพื่อที่ลมภายในร่างกายจะได้ไหลเวียนอย่างสะดวก
    • หากคุณกำลังนั่งอยู่ อย่าเอนตัวไปพิงด้านหลังของเก้าอี้และอย่านั่งไขว่ห้าง จำไว้ว่าคุณต้องใช้ประโยชน์จากทั่วทั้งปอดของคุณ การงอตัวเพราะนั่งไขว่ห้างจะทำให้ร้องยากกว่าเดิม
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ฝึกการใช้เสียง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    ฝึกการหายใจให้ถูกวิธี. คุณจะไม่สามารถร้องโน้ตตัวหนึ่งให้ออกมาดีได้ หากคุณไม่ประคองตัวโน้ตนั้นให้ได้ก่อน ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มร้อง คุณควรจะฝึกการหายใจให้ถูกต้องก่อน โดยหายใจให้ถูกจังหวะ และทำให้ค้างไว้ทีละนานๆ ได้
    • เริ่มต้นโดยหายใจเข้า 4 วินาที แล้วหายใจออกอีก 8 วินาที เพิ่มการหายใจออกอีก 4 วินาทีไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึง 28 วินาที ซึ่งนี่ไม่ใช่การขยายพื้นที่ในปอดนะ แต่เป็นการฝึกการควบคุมลมต่างหาก
      • การหายใจออกแบบแบบมีเสียงจะทำให้คุณควบคุมลมได้ง่ายและทำให้เสียงมีพลังขึ้น
  2. 2
    วอร์มเสียงอย่างสม่ำเสมอ. คุณไม่ควรร้องเพลงนานๆ โดยที่ไม่มีการวอร์มเสียงเลย เนื่องจากเส้นเสียงนั้นเป็นกล้ามเนื้ออย่างหนึ่ง ดังนั้น คุณต้องวอร์มเส้นเสียงก่อนที่จะร้องเพลงทุกครั้ง
    • เริ่มวอร์มด้วย middle C และฝึกไล่ลงไปทีครึ่งเสียงจนกว่าจะถึงเสียงที่ต่ำที่สุดของคุณโดยใช้ major scale เป็นแนวการไล่เสียง จากนั้น ไล่กลับขึ้นไปหาเสียงที่สูงที่สุดของคุณ โดยให้คุณใช้วลี "Mommy made me mash my M&Ms" สลับกับการไล่เสียงแบบ solfege (โด เร มี...)
    • ฝึกเป่าปาก (lip trills) และทำ siren โดยเริ่มต้นจากระดับเสียงต่ำสุดที่คุณสามารถร้องได้ แล้วก็ไล่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในการช่วยเพิ่มระดับเสียงของคุณให้กว้างขึ้นกว่าเดิม
      • ในขณะที่ทำ siren ให้ใช้แขนทั้งสองข้างช่วยกระตุ้นเวลาทำเสียงสูง เพราะการที่คุณเห็นแขนที่ยกสูงขึ้นตามระดับเสียง มันก็เหมือนการกระตุ้นให้คุณร้องให้ถึงเสียงสูงนั้น
  3. 3
    ปรับเปลี่ยนเสียงสระ. นักร้องเพลงป๊อปหลายคนมักชอบร้องแบบเสียงขึ้นจมูก หากคุณปรับเปลี่ยนสระของคุณ เสียงร้องของคุณจะฟังดูคลาสสิกและเข้มขึ้น เหมือนได้รับการฝึกมา
    • ฝึกด้วยการออกเสียงพยัญชนะ โดยเริ่มต้นร้องออกมาเป็นชุดคำว่า มา เม มี โม มู จากนั้นเปลี่ยน “ม” เป็น “ท” แล้วทำแบบเดิม แล้วก็เปลี่ยนเป็น “ซ” “ค” “ช” แล้วร้องแบบเดิมไปเรื่อยๆ และเมื่อถึงตรงเสียง “อู” ( เช่น “ม” ก็คือ “มู”) ณ จุดนี้ ให้คุณไล่ขึ้นที่ละครึ่งเสียงแล้วทำซ้ำแบบเดิมไปเรื่อยๆ โดยไล่ตั้งแต่ระดับเสียงต่ำสุดจนถึงระดับเสียงสูงสุด
      • แต่ละเสียงมีสระที่ทำให้การร้องเสียงสูงเป็นสิ่งที่ง่าย ให้คุณลองร้องไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอว่าสระไหนที่ร้องแล้วง่ายที่สุดสำหรับคุณ
  4. คุณอาจจะพูดว่าเสียงช่วงอก (chest voice) และเสียงช่วงศีรษะ (head voice) ของคุณมีช่วงห่างกันเยอะ เพราะเหตุผลนี้ คุณเลยหลีกเลี่ยงที่จะร้องโน้ตยากๆ เหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เสียงร้องของคุณดูไม่มีพลัง ซึ่งถ้าหากคุณอยากจะแก้ไขจุดนี้ คุณก็ต้องลองเสี่ยง
    • ก้าวออกมาจาก comfort zone หากคุณรู้สึกไม่ชินกับระดับเสียงหรือความยาวของตัวโน้ต คุณต้องฝึกฝน เพราะมันจะเป็นทางเดียวที่ทำให้ทักษะของคุณพัฒนาขึ้น หากคุณฝึกฝนอย่างเพียงพอ คุณก็จะสามารถควบคุมเสียงของคุณให้เป็นแบบไหนก็ได้ตามที่คุณต้องการ
  5. บางครั้งการร้องเพลงนั้นไม่ใช่แค่การร้องโน้ตให้ได้เหมือนกับต้นฉบับเป๊ะๆ หากคุณรู้สึกว่าบางโน้ตนั้นร้องลำบากสำหรับคุณ ลองลดโน้ตนั้นลงสักหนึ่งอ็อกเทฟ หรือไม่ก็ร้องโน้ตตัวอื่นที่เข้ากับทำนองเพลง
    • ฟังว่าเสียงของตัวเองเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้ว คุณอาจจะอยากร้องเสียงในระดับ soprano แต่มันก็อาจจะไม่เข้ากับคุณก็ได้ จำไว้ว่า ระดับเสียงของคุณไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าเสียงของคุณดีหรือไม่ดี ฉะนั้น ร้องในระดับเสียงที่เหมาะกับตัวเองดีกว่าที่จะไปฝืนร้องแบบอื่นที่ไม่เหมาะกับคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทำการบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    หาครูฝึก. การที่คุณมีมืออาชีพคอยแนะนำวิธีการร้องเพลงอย่างถูกวิธีให้นั้นเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมมากๆ คุณลองปรึกษาครูในหมวดศิลปะหรือไม่ก็ร้านขายเครื่องดนตรีเพื่อขอข้อมูลหรือคำแนะนำก็ได้
    • มีหลายๆ มหาวิทยาลัยที่มีนักเรียนที่ถูกฝึกมาเพื่อเป็นครูสอนร้องเพลงโดยเฉพาะ ซึ่งค่าเรียนก็จะถูกหน่อย และนักเรียนเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเรียนวิชาการสอนมา ทำให้พวกเขาใส่ใจกับนักเรียนของตัวเองพอสมควร
    • หากคุณไม่มีความสนใจที่จะเรียนแบบตัวต่อตัวหรือไม่มีเงินมากพอที่จะลงเรียน ลองเข้าร่วมวงประสานเสียงของโรงเรียนก็ได้
  2. 2
    หาข้อมูลเพิ่มเติม. มีข้อมูลมากมายบนอินเทอร์เน็ตให้คุณศึกษา ลองเสิร์ชหาวีดีโอสอนร้องเพลง หรือชุมชนออนไลน์ที่เกี่ยวกับการฝึกร้องเพลง หรือไม่ก็เว็บไซต์ที่ให้คำแนะนำในการร้องเพลงก็ได้
  3. 3
    ลองร้องหลายๆ แนว. มันเป็นไปได้ว่าเสียงร้องของคุณอาจจะไม่เข้ากับแนวเพลงที่คุณฟังอยู่ ดังนั้น ให้คุณลองหาเพลงที่คุณไม่ค่อยได้ฟังใน iPod มาเปิด แล้วลองร้องเพื่อดูว่าเสียงของคุณเข้าหรือไม่
    • เสียงแต่ละเสียงนั้นมีคุณภาพแตกต่างกัน เช่นนักร้องคันทรีชอบร้องแบบมีหางเสียง (twang) นักร้องแจ๊สชอบร้องแบบนุ่มๆ ลอยๆ ดังนั้น คุณต้องหาสไตล์ที่เหมาะกับตัวเองแล้วต่อยอดต่อไป
    • ว่ากันว่านักร้องเพลงคลาสสิกสามารถร้องได้ทุกอย่าง แต่นักร้องเพลงป๊อปนั้นร้องได้แค่เพลงป๊อป หากคุณอยากจะเรียนร้องเพลง ลองเรียนกับครูที่สอนร้องเพลงคลาสสิกสักคน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ทักษะที่ใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากเสียงของคุณเริ่มขาดๆ เกินๆ หยุดพักแล้วดื่มน้ำ หลังจากนั้นสักสองสามนาทีให้คุณลองร้องใหม่อีกครั้ง หากอาการยังเป็นเช่นเดิม แสดงว่าโน้ตที่คุณร้องนั้นสูงหรือไม่ก็ต่ำเกินไป
  • เชื่อมั่นในตัวเองเสมอ! มันอาจจะฟังดูตลกนะ แต่ถ้าหากคุณไม่เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองคุณก็จะไม่ก้าวหน้าไปไหน
  • อย่าฝืนตัวเองจนทำให้เสียงร้องแย่ คุณควรจะพักเบรกบ้าง และดื่มน้ำธรรมดาที่อุณหภูมิห้องให้เยอะๆ
  • นั่งตัวตรงแล้วขยายกะบังลมเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
  • วอร์มเสียงทุกครั้ง เพราะมันช่วยรักษาสุขภาพเสียงของคุณ
  • พยายามอย่าร้องหลายชั่วโมงติดต่อกันโดยไม่พัก เพราะนั่นอาจจะทำลายเสียงของคุณ คุณต้องมีช่วงเวลาให้เสียงพักบ้าง โดยอาจจะพักสัก 20 นาทีหลังจากที่ร้องมาแล้ว 1 ชั่วโมงเต็ม
  • ต้องทำให้แน่ใจว่าคุณได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอก่อนที่คุณจะร้องเพลง เพราะถ้าหากคุณเพลียและเมื่อยล้า เสียงของคุณก็จะออกมาไม่ดี และนอกจากนี้ อย่าร้องเพลงทันทีที่ตื่นนอนในตอนเช้า รอสักสองสามชั่วโมงผ่านไปก่อนแล้วค่อยร้อง เพื่อที่เสียงของคุณจะได้พร้อมใช้งานจริงๆ
  • หากคุณรู้สึกว่าร้องออกมาแล้วเสียงไม่ดีสักที ให้คุณพักเบรก เพราะเสียงของคุณอาจจะต้องการพักจริงๆ และลองหายใจลึกๆ เพื่อผ่อนคลายจังหวะการเต้นของหัวใจและปอด
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าตะเบ็งเสียง หากคุณใช้วิธีการตะเบ็งเสียง โอกาสที่เสียงและคอของคุณจะพังในระยะยาวก็จะมีมากขึ้น
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 107,148 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา