ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การได้รับการให้อภัยจากแฟนสาวนั้นอาจไม่ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราเป็นฝ่ายทำผู้หญิงเจ็บช้ำใจและทรยศต่อความไว้เนื้อเชื่อใจของอีกฝ่าย ถ้าอยากให้แฟนกลับมาชอบเราอีกครั้ง เราก็ต้องแสดงให้ผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าเรารู้สึกผิดจริงๆ และให้คำมั่นว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก พอแสดงให้เห็นและให้คำมั่นแล้ว ก็ต้องอดทนรอให้ฝ่ายนั้นยอมรับคำขอโทษจากเรา ถ้าฝ่ายหญิงพร้อมที่จะดำเนินความสัมพันธ์ต่อไปแล้ว เราก็ค่อยๆ สร้างความสัมพันธ์อันดีขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

พูดคุยกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าอยากให้แฟนยกโทษให้เรา สิ่งแรกที่ต้องทำคือขอโทษฝ่ายหญิงจากใจจริง หมายถึงเราต้องขอให้แฟนออกมาพบเราและเราก็ขอโทษต่อหน้าอีกฝ่ายแทนการส่งข้อความไปขอโทษ ควรเลือกสถานที่ที่มีความเป็นส่วนตัวสักหน่อยและให้เวลาฝ่ายหญิงจนกว่าเธอจะพร้อมรับฟังคำขอโทษจากเรา แต่ถ้าฝ่ายนั้นโกรธมากจนไม่อยากคุยด้วย ให้อดทนรอจนกว่าอีกฝ่ายอารมณ์เย็นลงและอยากพูดคุยด้วย [1]
    • เมื่อได้พูดคุยกัน สบตาอีกฝ่าย ไม่เล่นมือถือ และไม่หันไปมองอย่างอื่น ให้ผู้หญิงเห็นว่าเราไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากความรู้สึกของเธอ
    • พูดให้กระชับและชัดเจน ไม่ต้องอธิบายให้ละเอียดทุกอย่างว่าทำไมถึงทำแบบนั้นลงไป เว้นเสียแต่ว่าจำเป็นที่จะต้องอธิบายให้ละเอียดจริงๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องพูดขอโทษออกมาจากใจเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเรานั้นเสียใจจริงๆ
    • อาจบอกไปเช่นว่า “ขอโทษที่ทำเธอเสียใจ ฉันรู้สึกผิดมากและไม่อยากทำให้เธอเสียใจอีก เธอดีกับฉันมาตลอดและฉันรู้สึกแย่เหลือเกินที่ทำให้เธอเสียใจ”
  2. แสดงให้เห็นว่าเรารับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง. อย่าพูดเช่นว่า “ฉันเสียใจที่เธอรู้สึกว่าฉันเป็นฝ่ายผิด...” หรือ “ฉันเสียใจที่เธอโมโหตอนที่...” การขอโทษแบบนี้เป็นการโทษแฟนแทนที่จะโทษตัวเองและทำให้ทุกอย่างดูเหมือนเป็นความผิดของฝ่ายหญิงฝ่ายเดียว ทั้งที่ความจริงเราเป็นฝ่ายผิด ถ้าอยากให้แฟนยกโทษให้ ก็ไม่ควรพูดอะไรที่เป็นการปัดความผิดไปให้อีกฝ่าย
    • พูดให้ชัดเจนว่าเรานั้นทำอะไรผิด แสดงถึงการยอมรับและเข้าใจว่าแฟนย่อมโกรธเป็นธรรมดาที่เราทำแบบนี้ ถ้าเราพูดไม่ดีและพูดแล้วฟังเหมือนเป็นฝ่ายหญิงที่ทำผิด เราก็จะไม่สามารถเอาชนะใจอีกฝ่ายได้เร็ว
  3. ถ้าอยากให้ฝ่ายหญิงยกโทษให้เราจริงๆ ก็ควรเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไปตามความจริง อย่าพูดความจริงแค่เพียงบางส่วนแล้วให้อีกฝ่ายเพิ่งมารู้ความจริงที่เหลือภายหลัง เพราะไม่อย่างนั้นแฟนจะยิ่งโกรธเราหนักขึ้นไปอีก ถ้าเราเป็นฝ่ายนอกใจเธอ เราไม่ต้องบอกรายละเอียดทุกอย่างแต่ก็ไม่ควรพูดราวกับว่าความผิดนั้นไม่ใหญ่โตอะไร ถ้าอยากให้แฟนกลับมาเชื่อใจอีกครั้งจริงๆ บอกทุกอย่างไปตามความจริงดีที่สุด
    • ผู้หญิงจะยิ่งไม่ให้อภัย ถ้าเรากำลังปิดบังความจริงหรือเห็นได้ชัดว่าโกหกอยู่ ผู้หญิงจะยิ่งโกรธ รู้สึกเจ็บปวดและผิดหวังมากขึ้นเท่านั้น
    • ถ้ากลัวว่าตนเองจะไม่กล้าพูดความจริงออกมา ให้คิดว่าจะพูดอะไรบ้างและฝึกพูดไว้ล่วงหน้าเพื่อจะได้ไม่จบลงด้วยการทำให้แฟนเจ็บช้ำใจมากขึ้น
  4. ถ้าเราอยากให้แฟนเห็นว่าเรารู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดจริงๆ เราก็ควรแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีกแน่นอน ไม่ว่าจะเคยนอกใจ ไม่มาให้เห็นหน้าสักระยะ หรือพูดจาไม่ดีใส่แฟน เราสามารถแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าเราจะไม่ทำอีกและมีแผนแก้ไขปรับปรุงตนเอง แฟนจะได้เห็นว่าเรานั้นมีความตั้งใจจริงที่จะปรับปรุงพฤติกรรมและรักษาสัญญาที่ให้ไว้
    • ถ้าหากเรานอกใจแฟน อาจพูดเช่นว่า “ฉันขอโทษที่นอกใจเธอ ฉันจะไม่ไปจีบหรือมองสาวคนไหนอีกแล้ว ฉันรู้ว่าเธอสำคัญต่อฉันมากแค่ไหนและจะไม่มีวันทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นอีก ฉันจะไม่หายหน้าไปไหน และเธอสามารถโทร หรือส่งข้อความหาฉันได้ตลอดเวลา จะได้รู้ว่าฉันทำอะไรอยู่และไม่ต้องเป็นห่วงกังวล”
    • ระลึกไว้ว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด ถึงการให้สัญญาว่าจะไม่ทำให้แฟนเสียใจจะทำให้อีกฝ่ายให้อภัยเราก็ตาม แต่ก็ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้ด้วย แฟนถึงจะกลับมาเชื่อใจเราเหมือนเดิม
  5. แสดงให้แฟนเห็นว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียใหม่. ถ้าเรามีขั้นตอนต่างๆ ที่จะป้องกันไม่ให้เราทำผิดอีก ก็ควรบอกอีกฝ่ายว่าเรามีแผนจะทำอะไรบ้าง ฝ่ายหญิงจะได้รู้ว่าเราตั้งใจจริงที่จะไม่ทำผิดอีก มองตาและบอกไปเลยว่าเราจะทำอะไรบ้างเพื่อที่จะเป็นแฟนและคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม ถ้าเราแสดงให้ฝ่ายนั้นเห็นว่าเราต้องการปรับปรุงตัวจริงๆ และจะไม่กลับไปทำตัวแบบเดิมอีก ผู้หญิงก็จะได้รู้ว่าเราพยายามมากแค่ไหน
    • เราอาจพูดเช่นว่า “ขอโทษที่พูดจาไม่ดีใส่เธอ คราวหน้าฉันจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นกว่านี้ เวลาฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันจะออกไปข้างนอกและสูดหายใจเข้าลึกๆ หรือให้เวลาตนเองคิดสักสองสามนาทีก่อนพูด ฉันจะคิดให้ดีก่อนพูดทุกครั้ง จะได้ไม่เผลอพูดอะไรที่เป็นการทำร้ายจิตใจเธอ ฉันคิดว่าตนเองจะลองไปเรียนรู้วิธีจัดการความโกรธ ถ้าฉันไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยตนเอง”
    • ถ้าเราบอกแฟนไปแล้วว่าจะทำอะไรบ้าง ต้องทำตามอย่างที่พูดจริงๆ อีกฝ่ายจะได้เชื่อใจเรา
  6. อีกฝ่ายอาจมีอะไรจะพูดกับเราถึงสิ่งที่เราทำลงไป ฉะนั้นจงให้เวลาแฟนพูดบ้างและฟังอีกฝ่ายพูด สบตาและอย่าขัดหรือโต้แย้ง อย่าพูดอะไรจนกว่าแฟนจะพูดจบ ทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าเราเห็นความสำคัญในความคิดเห็นของเธอและตัวของเธอเองนั้นสำคัญมากสำหรับเรา เมื่อผู้หญิงพูดจบ จงทำให้เธอรู้ว่าเราตั้งใจฟังทุกคำพูดด้วยการใคร่ครวญถึงสิ่งที่แฟนพูดอย่างละเอียดและนำมาพูดคุยกับอีกฝ่าย [2]
    • เราสามารถใช้การฟังแบบใคร่ครวญได้ หลังจากแฟนพูดจบ เราอาจพูดเช่นว่า “สิ่งที่ฉันได้ยินคือ...” หรือ “ฉันเห็นว่าเธอรู้สึกเหมือน...” เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่แฟนพูดจริงๆ
    • ถึงแม้ว่าอยากจะเถียงหรือโต้แย้งเมื่อแฟนพูดจบ แต่จงระลึกไว้ว่าเราควรเป็นฝ่ายขอโทษ เราสามารถพูดในอีกแง่มุมหนึ่งให้อีกฝ่ายฟังได้แน่นอน แต่ต้องไม่แสดงออกมาอย่างก้าวร้าวรุนแรง ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายอาจยิ่งโกรธหนักมากขึ้นไปอีก
  7. แสดงให้แฟนเห็นว่าเธอมีความสำคัญต่อเรามากเพียงใด. เมื่อขอโทษแฟนแล้ว ควรแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตเรามากเพียงใด บอกแฟนไปว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มหัศจรรย์มากแค่ไหนและเราเป็นคนที่โง่เขลาเพียงใดที่ปล่อยให้เกิดความไม่ไว้วางใจระหว่างกัน ย้ำเตือนอีกฝ่ายว่าเรารักเธอเพราะอะไร และทำให้แฟนเห็นว่าเรารู้สึกแย่แค่ไหนที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำใจ นอกจากเราต้องพูดจากใจจริงแล้ว เราควรแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเรารักอีกฝ่ายอยู่จริงๆ และไม่อย่าเสียอีกฝ่ายไป .
    • พูดให้ชัดเจน ไม่ใช่แค่บอกว่าแฟนเป็นหญิงสาวที่มหัศจรรย์ที่สุดเท่านั้น แต่ควรบอกคุณสมบัติที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นสาวมหัศจรรย์สำหรับเราด้วย และนั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราเอาใจใส่อีกฝ่ายจริงๆ
    • ไม่ต้องออกท่าทางอะไรมากมาย ถ้าเราเป็นห่วงอีกฝ่ายจริงๆ แฟนก็จะรับรู้ได้เองตอนที่เราเข้าไปขอโทษ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ทำให้แฟนกลับมาเชื่อใจอีกครั้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถึงแม้เราจะขอโทษและแสดงความรู้สึกผิดออกมาจากใจให้อีกฝ่ายได้เห็นแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะให้อภัยเราทันที ผู้หญิงอาจไม่พร้อมรับคำขอโทษจากเราหรือพบหน้าเรา ถ้าเกิดกรณีนี้ขึ้น เราต้องอดทนและไม่กดดันให้ผู้หญิงยอมรับคำขอโทษจนกว่าอีกฝ่ายจะพร้อม เราเป็นฝ่ายผิด ฉะนั้นจึงต้องเป็นฝ่ายอดทนรอให้แฟนพร้อมให้อภัย [3]
    • อดทนรอ ถ้าแฟนไม่อยากพบหน้าหรือคุยด้วยสักระยะ เราก็ต้องยอม ถึงแม้เราอยากจะพบอีกฝ่ายเป็นครั้งคราว แต่เราก็ต้องไม่บีบบังคับอีกฝ่ายมากเกินไป ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะยิ่งโกรธมากขึ้น
    • บอกแฟนว่าเราจะรอ พร้อมจะพบพูดคุยเสมอ และหวังว่าจะได้พบหน้าอีกฝ่ายอีกครั้งในเร็วๆ วัน แสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าเรารู้สึกผิดมากแค่ไหน อยากพบปะพูดคุยและกลับมาคืนดีกันอีกครั้งมากเพียงใด
  2. ถ้าแฟนไม่อยากใช้เวลาอยู่ร่วมกับเราตลอดเวลา ก็ต้องยอม อีกฝ่ายอาจค่อยๆ กลับมาใช้เวลาร่วมกันกับเราอีกครั้ง และเราต้องเข้าใจว่าเธออาจต้องการอยู่ห่างเราบ้าง ลองใช้เวลาทำกิจกรรมสบายๆ ร่วมกัน เช่น ดูทีวี หรือออกไปกินอาหารกลางวันด้วยกัน แต่อย่าเพิ่งนัดกินอาหารค่ำสุดโรแมนติกหรือไปเที่ยวด้วยกันช่วงสุดสัปดาห์ ถ้าแฟนแทบจะไม่มองหน้าเราเลย เริ่มฟื้นความสัมพันธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มทำกิจกรรมต่างๆ ที่เราเคยชอบทำด้วยกัน และใช้กิจกรรมเหล่านั้นประสานความสัมพันธ์ขึ้นมาใหม่
    • ไม่ควรแสดงความรักและคุ้นเคยด้วย อย่าพยายามกอด สัมผัส หอม หรือจูงมือ หรือโอบแฟนทุกครั้งที่มีโอกาส ควรให้แฟนพร้อมก่อน ไม่อย่างนั้นแฟนจะไม่อยากยกโทษให้เรา
    • ให้แฟนเป็นฝ่ายโทรมาหา แต่ถ้าอีกฝ่ายอยากไปงานเลี้ยงสังสรรค์ด้วยกัน เราควรเป็นฝ่ายโทรไปหา แต่เราไม่ควรให้แฟนออกไปพบผู้คนด้วยกัน ถ้าอีกฝ่ายไม่พร้อม
  3. เราต้องเป็นที่พึ่งพาให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดีขึ้นมาใหม่ เราต้องคอยช่วยเหลือแฟนและทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าเรายินดีที่จะทำให้ ถ้าแฟนต้องการให้ขับรถพาไปส่งถึงบ้านหรือขอความช่วยเหลือ เมื่อนัดพบกัน ก็ต้องไปตามเวลาที่นัดกันไว้ คอยให้กำลังใจเมื่ออีกฝ่ายท้อแท้ และรับฟังเมื่อแฟนต้องการพูดระบายปัญหา การเป็นที่พึ่งพาได้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของการเป็นแฟนที่ดี ถ้าหากเราต้องการให้ผู้หญิงกลับมาเชื่อใจเราอีกครั้งและรู้สึกปลอดภัยที่มีเราอยู่ใกล้ๆ
    • อย่าทำให้แฟนผิดหวัง ถ้าเราไม่สามารถทำตามที่พูดได้ ให้บอกเหตุผลตามตรงจะดีกว่า
    • พร้อมเสมอเมื่อไรก็ตามที่แฟนต้องการพูดคุยหรือต้องการคำแนะนำ ทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าเราต้องการรับฟังและต้องการให้อีกฝ่ายมีความสุข
    • การเป็นที่พึ่งพาได้นั้นสำคัญ แต่เราก็ต้องอย่าให้แฟนเห็นว่าตนเองสามารถเอาเปรียบเราได้ เพราะเราเป็นฝ่ายผิด เราต้องรักษาศักดิ์ศรีของตนเองด้วย
  4. ในการได้รับความเชื่อใจกลับคืนมา เราต้องอยู่เสมอเมื่อแฟนต้องการ การอยู่เคียงข้างเสมอเมื่อต้องการไม่ได้หมายถึงให้เราทิ้งทุกอย่างเพื่อทำสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ แต่หมายถึงให้เราหยิบโทรศัพท์แล้วติดต่อแฟนกลับไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อรู้แล้วว่าอีกฝ่ายโทรหรือส่งข้อความมาหา แฟนจะได้รู้ว่าเราไม่ได้ปกปิดอะไรไว้ และถ้าเราต้องปิดโทรศัพท์มือถือไว้ชั่วคราวเพราะกำลังทำกิจกรรมเช่น กำลังดูหนังอยู่หรือดูการแข่งขันกีฬาอยู่ ให้บอกแฟนก่อนล่วงหน้า อีกฝ่ายจะได้ไม่สงสัยว่าทำไมเราถึงไม่ติดต่อกลับมา
    • ถ้าออกไปกับเพื่อน บอกให้แฟนรู้ด้วยว่าจะไปที่ไหนและจะไปทำอะไร
    • ถึงแม้แฟนจะไม่ติดตามเราทุกฝีก้าว แต่เราก็ควรพยายามเปิดเผยให้ฝ่ายนั้นรู้ว่าเราจะทำอะไรบ้างในวันหนึ่ง แฟนจะได้ไม่กังวลว่าเราจะไปทำอะไรให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำน้ำใจอีก
    • ถ้าไม่ได้พบหน้ากันสองสามวัน ให้โทรไปหาและถามสารทุกข์สุกดิบแฟนบ้างเพื่อแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอคงอยู่ในใจของเรา
  5. ถึงแม้เราต้องการให้แฟนกลับมาเชื่อใจเราอีกครั้งมาก แต่ก็อย่าพยายามมากจนดูเหมือนเสแสร้งแกล้งทำ หรือไม่เป็นตัวของตนเองเลย ถ้าคำพูดทุกคำพูดหรือการกระทำทุกการกระทำนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นแค่การพยายามเพื่อทำให้แฟนพอใจ อีกฝ่ายก็จะรู้สึกว่าเราไม่จริงใจ เราสามารถพยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อเอาชนะใจแฟนอีกครั้งได้ แต่เราก็ไม่ควรลืมความเป็นตัวของตัวเองด้วย เพราะนั้นเป็นตัวตนของเราที่ทำให้แฟนเลือกคบหาเรา
    • เราสามารถเป็นคนที่ช่วยเหลือคนอื่น ใจดี และอ่อนโยนมากกว่านี้ได้ แต่ก็ไม่ควรลืมการเป็นตัวของตัวเองด้วย เรายังคงต้องมีเวลาไล่ตามเป้าหมายของตนเอง เพราะชีวิตไม่ใช่แค่การทำให้แฟนมีความสุขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
    • เราอาจให้ดอกไม้หรือช็อกโกแลตเป็นของขวัญ ถ้าสิ่งต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่นดีจริงๆ แต่อย่าให้ของขวัญเธอมากเกินไป เพราะนอกจากผู้หญิงจะไม่รู้สึกถึงความรักที่มีให้แล้ว อีกฝ่ายอาจคิดว่าเรากำลังพยายามซื้อความรักของเธอกลับคืนมาก็ได้
  6. ถ้าแฟนให้อภัยเราทั้งที่เรานอกใจเธอ เราก็ต้องทำให้แฟนเชื่อมั่นว่าเราจะไม่มีทางทำแบบนั้นอีก เมื่อมีพวกสาวๆ เข้ามาถามทาง เราคุยกับพวกเธอได้ แต่อย่าจีบหรือจ้องตาเป็นมัน ถ้าทำได้ เมื่อมีโทรศัพท์หรือข้อความเข้ามา อย่าแยกตัวไปคุยที่อื่น หรือดูมีลับลมคมเมื่อจะต้องตอบกลับ เมื่อคุณแม่หรือคุณพ่อโทรมา บอกให้แฟนรู้ ทำทุกอย่างที่ทำให้แฟนนั้นรู้ว่าเรามีแต่เธอเท่านั้น
    • การหยุดปรายตามองสาวสวยไปเลยอาจไม่เป็นไปได้ แต่ก็พยายามลดพฤติกรรมนี้ลงไปให้มาก เวลาอยู่กับแฟน ลองคิดถึงใจของอีกฝ่ายสิว่าจะทุกข์ใจแค่ไหนที่เราทำแบบนั้น
    • ถ้าเราไปกับเพื่อนซี้และมีเพื่อนผู้หญิงคนอื่นไปด้วย บอกแฟนให้รับรู้ไว้ด้วย แฟนจะได้ไม่ต้องไปรู้จากคนอื่น
  7. ในระหว่างที่กำลังพยายามขอให้แฟนยกโทษให้ เราและแฟนอาจเริ่มทำกิจกรรมที่เคยชอบทำร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นปีนเขา ทำอาหาร ดูภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้ทุกเรื่อง เข้าแข่งขันตอบปัญหาชิงรางวัล เราไม่ควรบังคับแฟนให้ทำกิจกรรมร่วมกันทุกอย่าง ควรให้ทำตามความสมัครใจและค่อยเป็นค่อยไป พอเราทั้งสองเริ่มคุ้นชินกับชีวิตแบบเดิมแล้ว อีกฝ่ายจะเห็นว่าเรามีความสุขและสนุกแค่ไหนที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเธอ สุดท้ายเราก็จะกลับไปมีความสัมพันธ์อันดีอีกครั้ง
    • หาเวลาทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกันและทำให้แฟนรู้สึกเป็นคนพิเศษ จงสนุกกับการทำกิจกรรมร่วมกันอีกครั้งหนึ่งให้มาก อย่ามุ่งที่จะขอคืนดีแต่เพียงอย่างเดียว
    • ถ้าแฟนบ่นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เธอโกรธเราอยู่เช่น แฟนบ่นว่าเรามักจะมาสายเสมอ เวลานัดพบกัน เราก็ต้องรับฟังเรื่องพวกนั้นด้วย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

กลับคืนสู่ความสัมพันธ์อันดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขณะที่ความสัมพันธ์ของเรากลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ เราต้องให้แฟนรู้ว่าเรารักเธอมากแค่ไหน ถ้าเราเคยบอกรักเธอไปแล้ว เราก็ไม่ควรลืมที่จะบอกรักอย่างน้อยวันละครั้ง แต่ถ้าเราอายที่จะบอกรัก เราก็ต้องชมเชยแฟนบ้างและทำให้แฟนรู้สึกดีกับตนเองเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ให้แฟนได้รู้และเห็นว่าเรามีความสุขแค่ไหนเวลาที่อยู่กับเธอหรือชอบไปไหนมาไหนด้วยกันมากแค่ไหน
    • เราไม่ต้องแสดงความรักต่อแฟนมากเกินไป แต่ก็อย่าไม่แสดงออกเลย อย่าไปทึกทักเอาเองว่าผู้หญิงรู้ว่าเรารักเธอมากแค่ไหน แค่เพราะว่าไปไหนมาไหนด้วยกัน จงแสดงให้ผู้หญิงรู้ว่าเรารักเธอด้วยคำพูดและการกระทำด้วย
    • เขียนข้อความรักหวานๆ ให้หรือแม้แต่เขียนจดหมายบอกว่าเรารักเธอมากแค่ไหน
    • รู้ใจแฟน ถ้าเธอพูดถึงหนังสือเล่มใหม่ที่เธออยากอ่าน เราอาจแสดงความเอาใจใส่ด้วยการซื้อและนำไปให้
  2. ถึงแม้การกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้จะช่วยให้เรารู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นกลับมาดีดังเดิมแล้ว แต่เราก็อาจต้องหากิจกรรมใหม่ๆ ทำร่วมกันด้วยเพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้สดใหม่และป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายนึกถึงวันเวลาที่เราทำให้ต้องทุกข์ใจ อาจลองกีฬาที่ไม่เคยเล่น ลงเรียนวิชาที่สนใจร่วมกัน หรือไปเที่ยวตั้งค่ายพักแรม หรือเที่ยวทะเลในช่วงสุดสัปดาห์ อย่าทำเพียงแค่กิจกรรมที่แฟนชอบเท่านั้น พยายามหากิจกรรมใหม่ๆ และน่าตื่นเต้นที่เราทั้งคู่อยากทำด้วย
    • กิจกรรมที่ทำไม่จำเป็นต้องใหญ่โตอะไรมากมาย อาจเป็นแค่การเรียนวิธีทำพาสตาแสนอร่อยร่วมกัน เข้าร่วมแข่งขันโบว์ลิงด้วยกัน หรือค้นพบเส้นทางใหม่ด้วยกัน สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือเราทั้งคู่ได้ช่วยรักษาความสัมพันธ์ให้สดใหม่เสมอ
    • เราไม่จำเป็นต้องทำกิจกรรมใหม่หลายอย่างในวันเดียว การพยายามทำกิจกรรมใหม่ๆ อย่างน้อยหนึ่งหรือสองกิจกรรมทุกสัปดาห์ รวมทั้งทำกิจกรรมเดิมๆ ที่เราชอบทำด้วยกันจะช่วยทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น
  3. ในการรักษาความสัมพันธ์อันดีเอาไว้ เราต้องยอมพูดคุยกันอย่างเปิดอกและรับฟังแฟนให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่าเก็บกดความรู้สึกไว้ภายในหรือใช้วิธีดื้อเงียบเวลาโกรธ เมื่อความสัมพันธ์เกิดปัญหาขึ้น ให้หาเวลาพูดคุยกันเพื่อที่จะได้เข้าใจกัน ต้องรับฟังอีกฝ่ายและพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ กับอีกฝ่าย ขณะเดียวกันก็ต้องให้อีกฝ่ายรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร การพูดคุยกันเป็นกุญแจสำคัญของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
    • ส่วนที่สำคัญของการพูดคุยคือการรู้จักประนีประนอม ผลของการตัดสินใจต้องทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความสุขและต้องไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบหรือเสียเปรียบตลอดเวลา
    • พยายามอ่านสีหน้าและท่าทางของแฟนให้ออก แฟนอาจมีเรื่องกลุ้มใจอยู่ แต่ไม่ยอมบอกเรา และมีอยู่หลายครั้งที่เราต้องเป็นฝ่ายถามว่าเกิดอะไรขึ้น การไต่ถามสารทุกข์สุกดิบจะทำให้แฟนรู้สึกซึ้งใจที่เราเอาใจใส่เธอมากขนาดนี้
  4. พอเราขอโทษแฟนแล้วและพยายามสร้างความสัมพันธ์ให้กลับมาดีดังเดิม เราต้องพยายามปล่อยวางเรื่องราวในอดีตให้ได้ ถึงแม้แฟนเราอาจไม่สามารถลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปได้หมด แต่เราทั้งสองก็ต้องยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้ มุ่งทำปัจจุบันและอนาคตให้ดีแทนที่จะจมอยู่กับอดีต ถ้าเราเอาแต่รื้อฟื้นเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วตลอดเวลา เราก็จะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้
    • เราควรพยายามมีความสุขกับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้แทนที่จะมุ่งคืนดีกับแฟนเพียงอย่างเดียว
    • แต่ถ้าแฟนต้องการพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว เราก็ไม่ควรบอกปัดให้ไปพูดเรื่องอื่น แต่ก็ควรพยายามหาเรื่องอื่นไว้พูดคุยด้วย
  5. รู้ว่าบางครั้งความสัมพันธ์ก็ไม่อาจกลับมาดีดังเดิมได้. โชคร้ายที่บางครั้งแฟนไม่อาจให้อภัยเราได้เลย ไม่ว่าเราจะพยายามเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่ออีกฝ่ายแค่ไหนก็ตาม ถ้าเราทำผิดร้ายแรงจนยากเกินอภัย ความสัมพันธ์ที่มีก็ไม่อาจกลับมาดีดังเดิมได้ ถ้าต่างรู้ว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแล้ว อาจถึงคราวที่ต้องตัดความสัมพันธ์ เพราะถ้าเราดึงดันที่จะทำทุกอย่างไปตาม “ปกติ” เป็นเวลาหลายเดือน กลับมาทำผิดพลาดซ้ำเดิม เอาแต่ทะเลาะกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และยังไม่สามารถพูดคุยกันอย่างเปิดอกได้ ก็ถึงเวลาต้องยอมรับแล้วว่าเราไม่สามารถแก้ไขให้ความสัมพันธ์กลับมาดีดังเดิมได้อีกแล้ว
    • ถ้ารู้สึกว่าแฟนไม่สามารถให้อภัยเราได้เลย ก็ควรพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกันอย่างเปิดอก ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น ยิ่งเรารู้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี
    • ถ้าเราต้องจบความสัมพันธ์เพราะการกระทำของตนเอง สิ่งที่ดีที่สุดซึ่งเราทำได้ขึ้นมองว่าเป็นบทเรียนและต้องไม่ทำผิดพลาดซ้ำรอยเดิมอีก
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สิ่งหนึ่งที่เราควรทำ ถ้าความสัมพันธ์กับแฟนยังไม่ดีขึ้น คือทำให้แฟนรู้ว่าเรารักเธอมากจริงๆ และเราจะทำทุกอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเพื่อให้เธออยู่กับเรา ถึงแม้บางปัญหาแฟนของเราจะมีส่วนผิดอยู่บ้างก็ตาม แต่เราก็ต้องทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเราตั้งใจที่จะแก้ไขเพื่อเราทั้งสองจะสามารถผ่านพ้นปัญหาไปด้วยกัน
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
หาเสี่ยเลี้ยง
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
จบความสัมพันธ์
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,035 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา