ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ต้องกังวล ถ้าเราเกิดทำโทรศัพท์มือถือตกน้ำและต้องการทำให้แห้ง เราสามารถทำให้โทรศัพท์มือถือแห้งได้หลายวิธีโดยไม่ต้องเอาไปใส่ในถ้วยข้าวสาร ความจริงแล้วข้าวสารอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการดูดความชื้นออกจากโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่จะทำให้โทรศัพท์มือถือแห้ง เราต้องเอามือถือขึ้นจากน้ำและถอดส่วนประกอบต่างๆ ของโทรศัพท์มือถือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช็ดส่วนประกอบภายในให้แห้งและปล่อยทิ้งไว้ในสารดูดความชื้นอย่างน้อย 48 ชั่วโมง อย่าเขย่าโทรศัพท์มือถือหลังจากเปียกน้ำ เพราะอาจทำให้มือถือเสียหายหนักขึ้น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เลือกสารที่จะมาดูดความชื้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทรายแมวแบบคริสตัลทำมาจากซิลิกาเจล มีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นได้ดีมาก ทรายแมวแบบคริสตัลจึงสามารถดูดซับความชื้นที่หลงเหลืออยู่ในโทรศัพท์มือถือได้อย่างดีเยี่ยม เราสามารถหาซื้อทรายแมวแบบคริสตัลได้ที่ร้านอาหารและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงหรืออินเทอร์เน็ต [1]
    • อย่าใช้ทรายแมวแบบอื่น ทรายแมวที่ผลิตจากดินเหนียวหรือแบบผงอาจจับกับโทรศัพท์มือถือ ทำให้โทรศัพท์มือถือเปรอะไปด้วยดินเหนียวเปียกๆ แทน
  2. ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปนอกจากดูดซับความชื้นได้ดีกว่าข้าวโอ๊ตชนิดเกล็ดแล้ว ยังดูดซับความชื้นได้ดีกว่าข้าวโอ๊ตบดมากด้วย ถ้าเรามีข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปติดบ้านไว้อยู่แล้ว เราสามารถนำข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปมาดูดซับความชื้นออกจากโทรศัพท์มือถือของเราได้ เพราะข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการดูดซับความชื้นตอนนั้น [2] แต่ขอให้รู้ไว้ว่าถ้าเราใช้ข้าวโอ๊ตดูดซับความชื้นออกจากโทรศัพท์มือถือและส่วนประกอบที่ถอดออกมาแล้ว อาจมีเศษผงข้าวโอ๊ตที่เหนียวเหนอะหนะติดที่เครื่องและส่วนประกอบเหล่านั้นแทน
    • เราสามารถหาซื้อข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปแบบไม่ปรุงรสได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
  3. ซองสารดูดความชื้นเป็นซองขนาด 1.9 ซม. ที่มากับผลิตภัณฑ์อย่างเช่น รองเท้า อาหารแห้ง (เนื้อแดดเดียว เครื่องเทศ) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในซองสารดูดความชื้นนี้โดยปกติจะมีเม็ดซิลิกาซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นสูง เม็ดซิลิกาจะดูดความชื้นออกจากโทรศัพท์มือถือของเรา เราไม่จำเป็นต้องฉีกซองเปิด แค่นำซองใส่สารดูดความชื้นไปกองบนโทรศัพท์มือถือและปล่อยทิ้งไว้ให้ดูดความชื้นออกจากมือถือ [3]
    • เราจะสามารถใช้วิธีนี้ได้ก็ต่อเมื่อเรามีซองสารดูดความชื้นเก็บไว้เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามการใช้สารดูดความชื้นกับโทรศัพท์มือถือที่เปียกน้ำก็เป็นวิธีที่ไม่เลว เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็นิยมใช้โทรศัพท์มือถือและมีโอกาสสูงที่จะทำมือถือตกน้ำไม่ครั้งใดก็ครั้งหนึ่ง
    • ถ้าเราไม่ได้เก็บซองซิลิกาเจลเอาไว้เลย เราสามารถสั่งซื้อซองซิลิกาเจลจำนวนมากได้ทางอินเทอร์เน็ต
  4. คูสคูสคือเมล็ดธัญพืชจากข้าวสาลีที่ได้รับการบดและอบแห้ง เมล็ดธัญพืชเล็กๆ แห้งๆ นี้จะดูดความชื้นได้เหมือนเม็ดซิลิกาและข้าวโอ๊ตสำเร็จรูป เราสามารถนำคูสคูสมาดูดความชื้นที่หลงเหลืออยู่ออกจากส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถือได้ เราสามารถหาซื้อคูสคูสได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า และอินเทอร์เน็ต เม็ดคูสคูสจะไม่ทิ้งเศษผงไว้ที่ส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถือ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าข้าวโอ๊ตสำเร็จรูป [4]
    • เราต้องเลือกเม็ดคูสคูสแบบไม่ปรุงแต่งกลิ่นรสและไม่ใส่เครื่องปรุงรส
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เอาน้ำออกจากโทรศัพท์มือถือให้เร็วและมากที่สุด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าเราจะทำโทรศัพท์มือถือตกในห้องน้ำ อ่างน้ำ หรือทะเลสาบ เราต้องรีบเก็บขึ้นมาจากน้ำทันที เพราะยิ่งเราปล่อยให้โทรศัพท์มือถืออยู่ในน้ำนานเท่าไหร่ มือถือก็ยิ่งได้รับความเสียหายมากขึ้นเท่านั้น [5]
    • การปล่อยให้โทรศัพท์มือถืออยู่ในน้ำนานจะยิ่งทำให้น้ำค่อยๆ ซึมเข้าไปข้างในเครื่องและทำให้ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องเปียกชุ่มมากยิ่งขึ้น
  2. ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำให้พื้นผิวด้านนอกของโทรศัพท์มือถือแห้ง เราต้องเอาส่วนประกอบด้านในที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ออกก่อน แกะเคสโทรศัพท์มือถือแล้วเอาแบตเตอรี่กับซิมการ์ดออก ถ้าเราใส่ไมโครเอสดีการ์ดไว้ในโทรศัพท์มือถือด้วย อย่าลืมเอาออกเช่นกัน [6]
    • ส่วนประกอบด้านในนั้นสำคัญต่อการทำงานของโทรศัพท์มือถือมาก ถ้าส่วนประกอบด้านในเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ โทรศัพท์มือถือก็จะไม่ทำงาน
  3. ใช้สเปรย์อัดอากาศฉีดไล่น้ำออกจากส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถือและใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้แห้ง. การฉีดสเปรย์อัดอากาศใส่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของโทรศัพท์มือถือจะสามารถไล่น้ำออกไปได้มาก ใช้ผ้าขนหนูที่แห้งและสะอาดเช็ดส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถือเพื่อจะได้เอาความชื้นที่ยังหลงเหลืออยู่บนพื้นผิวของส่วนประกอบเหล่านั้นออก เราควรใช้สารดูดความชื้นดูดความชื้นที่ซึมเข้าไปในส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถือเท่านั้น [7]
    • นอกเหนือไปจากการใช้สเปรย์อัดอากาศฉีดไล่น้ำแล้ว เรายังสามารถนำส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถือมาสลัดน้ำออกได้ แต่ระวังอย่าสลัดแรงเกินไป ไม่อย่างนั้นส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถืออย่างเช่น แบตเตอรี่ อาจหลุดมือได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ดูดความชื้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นำส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถือไปใส่ไว้ในภาชนะที่มีขนาด 0.95 ถึง 1.85 ลิตร. ถ้าเราอยากใส่สารดูดความชื้นจนท่วมมิดโทรศัพท์มือถือ เราก็จะต้องใช้สารดูดความชื้นนั้นในปริมาณมาก ลองดูในตู้สิว่ามีเหยือกเปล่าใบใหญ่ ชามผสมขนาดใหญ่ หรือหม้อด้ามยาวใบใหญ่ไหม นำส่วนประกอบทั้งหมดของโทรศัพท์มือถือใส่ไว้ในภาชนะที่เลือกนั้น [8]
    • เราไม่ต้องดูดความชื้นฝาหลังโทรศัพท์มือถือก็ได้ ฝาหลังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของโทรศัพท์มือถือและสามารถนำไปผึ่งให้แห้งได้
  2. เทสารดูดความชื้นอย่างน้อย 4 ถ้วย (340 กรัม) ลงบนโทรศัพท์มือถือ. ไม่ว่าเราจะเลือกใช้สารใดเป็นตัวดูดความชื้นออกจากโทรศัพท์มือถือก็ตาม อย่าใช้น้อยเกินไป เราจะต้องใช้สารดูดความชื้นในปริมาณมากเพื่อดูดความชื้นที่ยังหลงเหลืออยู่ออกจากส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ของโทรศัพท์มือถือ [9]
    • ถ้าเราใช้สารดูดความชื้นที่กินไม่ได้อย่างเช่น ซิลิกาเจล ระหว่างปล่อยโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ในสารดูดความชื้นนั้น อย่าลืมปิดฝาภาชนะด้วย
  3. ปล่อยโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ในสารดูดความชื้นสัก 2–3 วัน. อาจต้องใช้เวลากว่าโทรศัพท์มือถือจะแห้งพอที่จะนำมาใช้งานได้เหมือนเดิม ปล่อยโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ในสารดูดความชื้นเป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง [10] ถ้าเราเอาโทรศัพท์มือถือออกจากสารดูดความชื้นก่อนเวลา เมื่อเรานำส่วนประกอบกลับมาใส่ไว้ตามเดิม ก็จะยังมีน้ำหลงเหลืออยู่ภายใน
    • ถ้าเราต้องใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงนั้นและเพื่อนมีเครื่องสำรอง เราอาจถามเพื่อนว่าเราขอยืมเครื่องสำรองนั้นมาใช้ช่วงสั้นๆ ก่อนได้ไหม หรือเปลี่ยนมาติดต่อกันทางอีเมลและสื่อสังคมออนไลน์แทนการส่งข้อความและพูดคุยกันทางโทรศัพท์มือถือ
  4. นำส่วนประกอบใส่กลับเข้าไปตามเดิมและลองเปิดเครื่องดู. เมื่อครบ 48-72 ชั่วโมงแล้ว เอาโทรศัพท์มือถือออกจากสารดูดความชื้น นำส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถือมาสะบัดสารดูดความชื้นออก จากนั้นนำแบตเตอรี่ ซิมการ์ด และไมโครเอสดีการ์ดใส่กลับเข้าไปตามเดิม กดปุ่มเปิดเครื่องให้กลับมาทำงานอีกครั้ง [11]
    • ถ้าเปิดไม่ติดหลังจากที่ได้พยายามทำให้โทรศัพท์มือถือแห้งสนิทแล้ว หรือหากเปิดเครื่องได้แล้ว แต่เครื่องแทบจะทำงานไม่ได้เลย หรือหน้าจอได้รับความเสียหาย เราจะต้องนำโทรศัพท์มือถือส่งซ่อมที่ศูนย์บริการ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าเราไม่มีอะไรไว้ดูดความชื้นเลย ปล่อยโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ในห้องที่เย็น ใช้พัดลมเป่าโทรศัพท์มือถือ
  • อย่านำโทรศัพท์มือถือไปวางไว้ในเตาอบอุ่นๆ หรือใช้ไดร์เป่าผมเป่าลมร้อนใส่เพื่อทำให้แห้ง ความร้อนอาจสร้างความเสียหายหรือหล่อมละลายส่วนประกอบที่สำคัญของโทรศัพท์มือถือได้
  • ถ้าเราใช้สมาร์ตโฟนรุ่นกาแลคซี (หรือแอนดรอยด์ยี่ห้ออื่นๆ ) เราสามารถใช้เล็บมือแกะเคสออกได้ สมาร์ตโฟนบางยี่ห้อต้องใช้ไขควงปากแฉกแบบที่เราใช้กับแว่นตาในการแกะเคสออก ถ้าเป็นไอโฟน เราจะต้องใช้ "ไขควงหัวห้าแฉก" สำหรับแกะเคสไอโฟนโดยเฉพาะ [12]
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

แก้ไขเมื่อมือถือขึ้นข้อความเตือนว่าไม่มีซิม
ใช้งาน WeChat
กำจัดฟองอากาศบนฟิล์มกันรอย
หา PUK Code ของมือถือ
ปลดล็อคซิมโดยไม่ใช้รหัส PUK
เช็คเบอร์มือถือตัวเองจากซิม
โทรออกแบบไม่โชว์เบอร์
แก้ไขเมื่อมือถือขึ้นว่าโทรฉุกเฉินเท่านั้น
โทรเข้าเบอร์ต่อ (extension)
ค้นหา Apple Watch ที่หายไปอย่างไรเมื่อแบตเตอรี่หมด
เช็คว่ามือถือปลดล็อคเครือข่ายหรือยัง
โกงจำนวนนับก้าวในมือถือแบบไม่ต้องเดิน
หาเบอร์มือถือสำหรับใช้ชั่วคราว
เช็คผ่าน iPhone หรือ iPad ว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความของคุณหรือยัง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,217 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา