ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หากคุณกำลังทบทวนบทเรียนเพื่อเตรียมสอบ หรือแค่อยากบวกเลขได้เร็ว ให้เรียนรู้วิธีการบวกจำนวนเต็มตั้งแต่ 1 ถึง เนื่องจากเป็นจำนวนเต็ม คุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเศษส่วนหรือทศนิยม สิ่งที่คุณต้องทำก็คือดูว่าต้องใช้สูตรอะไรถึงจะตอบสิ่งที่โจทย์ถามได้ จากนั้นนำจำนวนเต็มจากโจทย์แทนที่ และแก้สมการ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

วิเคราะห์ลำดับของจำนวนเต็ม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูช่วงของจำนวนที่คุณจะนำมาบวกกัน ถ้าคุณอยากใช้สูตรเพื่อหาผลรวมจำนวนเต็ม คุณต้องดูให้ดีว่าตัวเลขมีผลต่างห่างคงที่ [1]
    • เช่นอนุกรม 5, 6, 7, 8, 9 เป็นอนุกรม เช่นเดียวกับ 17, 19, 21, 23, 25
    • คุณไม่สามารถใช้ 5, 6, 9, 11, 14 ได้เพราะผลต่างห่างไม่คงที่
  2. หากต้องการใช้สูตรเพื่อรวมผลตั้งแต่ 1 ถึง ให้เลือกจำนวนเต็มที่มีค่ามากที่สุด
    • เช่น ถ้าคุณต้องการบวกจำนวนเต็มตั้งแต่ 1 ถึง 100 จะเท่ากับ 100 เพราะเป็นจำนวนที่มีค่ามากที่สุดในลำดับ
    • ย้ำอีกครั้งว่าจำนวนเต็มเป็นจำนวนที่ไม่มีเศษส่วนหรือทศนิยม เพราะฉะนั้น จะมีทศนิยม เศษส่วน หรือจำนวนติดลบไม่ได้
  3. ในการที่จะบวกจำนวนเต็มตั้งแต่จำนวนแรกไปจนถึง นั้น คุณต้องรู้ก่อนว่าตัวเลขทั้งหมดมีจำนวนเท่าไหร่ เช่น ถ้าคุณต้องการรวมผลจำนวนเต็ม 200 จำนวนแรก ตัวเลขทั้งหมดก็จะเท่ากับ 200 บวก 1 เป็น 201 [2]
    • ถ้าคุณต้องการบวกจำนวนเต็มตั้งแต่ 1 ถึง 12 ตัวเลขทั้งหมดก็จะเท่ากับ 12 บวก 1 เป็น 13
  4. โจทย์อาจจะบอกให้คุณหาผลรวมของจำนวนเต็ม ระหว่าง จำนวนเต็มสองนวน ถ้าไม่ต้องบวกตัวเลขทุกตัว คุณต้องลบ 1 ออกจาก [3]
    • เช่น ถ้าคุณต้องหาผลบวกของจำนวนเต็มระหว่าง 1 ถึง 100 คุณต้องลบ 1 ออกจาก 100 เท่ากับ 99
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ใช้สูตรบวกจำนวนเต็ม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อคุณได้ เป็นจำนวนเต็มที่มีค่ามากที่สุดที่คุณต้องการบวกแล้ว ให้นำตัวเลขไปใส่ในสูตรเพื่อรวมผลจำนวนเต็มที่เรียงต่อเนื่อง : ผลรวม = ∗( +1)/2 [4]
    • เช่น ถ้าคุณต้องการบวกจำนวนเต็ม 100 ตัวแรก ให้ใส่ 100 แทน เพื่อให้ได้ 100∗(100+1)/2
    • ถ้าคุณต้องการรวมจำนวนเต็ม 20 จำนวนแรก ให้ใส่ 20 แทน คำนวณ 20∗(20+1)/2 เพื่อให้ได้ 420/2 คำตอบจะเป็น 210
  2. ใช้สูตรที่คำนวณเฉพาะจำนวนเต็มที่เป็นเลขคู่เท่านั้น. ถ้าโจทย์บอกให้คุณหาผลรวมเฉพาะจำนวนเต็มที่เป็นเลขคู่ในลำดับเท่านั้นโดยเริ่มจาก 1 คุณจะต้องใช้สูตรอื่น ใส่จำนวนเต็มที่มีค่ามากที่สุดแทน ก็จะเป็น : ผลรวม = ∗( +2)/4 [5]
    • เช่น ถ้าโจทย์บอกให้หาผลรวมของจำนวนเต็มที่เป็นเลขคู่จาก 1 ถึง 20 ให้ใส่ 20 แทน สูตรของคุณก็จะเป็น 20∗22/4
  3. ใช้สูตรที่คำนวณเฉพาะจำนวนเต็มที่เป็นเลขคี่เท่านั้น. ถ้าโจทย์บอกให้คุณหาผลรวมเฉพาะจำนวนเต็มที่เป็นเลขคี่เท่านั้น คุณต้องหา ก่อน ซึ่งในการหา นั้น ให้คุณบวก 1 เข้าไปในตัวเลขที่มีค่ามากที่สุดในลำดับ แล้วใช้สูตรนี้ : ผลรวม = ( +1)∗( +1)/4 [6]
    • เช่น ในการหาผลรวมของจำนวนเต็มเฉพาะเลขคี่ตั้งแต่ 1 ถึง 9 ให้คุณบวก 1 เข้าไปใน 9 เท่ากับว่าตอนนี้สมการจะเป็น 10∗(10)/4 เมื่อคุณแก้สมการนั้น คุณก็จะได้ 10∗(10)/4 เท่ากับ 25
  4. เมื่อคุณใส่จำนวนเต็มลงในสูตรแล้ว ให้คูณจำนวนเต็มด้วยตัวมันเองบวก 1, 2 หรือ 4 แล้วแต่สูตร จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้ไปหาร 2 หรือ 4 เพื่อให้ได้คำตอบ [7]
    • จากตัวอย่างสูตรคำนวณจำนวนเต็มที่เรียงกันต่อเนื่อง นำ 100∗101/2 หาร 100 ด้วย 101 ได้ 10100 นำผลลัพธ์นี้ไปหาร 2 ได้คำตอบเท่ากับ 5050
    • จากตัวอย่างสูตรคำนวณเฉพาะจำนวนเต็มที่เป็นเลขคู่ นำ 20∗22/4 หาร 20 ด้วย 22 ได้ 440 นำผลลัพธ์ไปหาร 4 ได้คำตอบเท่ากับ 110
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 136,231 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา