ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณอาจจะเป็นวัยรุ่นที่มีแฟนคนแรกหรือคุณอาจจะอายุเยอะขึ้นมาหน่อยแต่ไม่เคยรู้วิธีที่จะบอกข่าวความสัมพันธ์กับพ่อแม่ที่เข้มงวดของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น คุณอาจจะเป็นผู้ชายและไม่รู้วิธีบอกพ่อแม่ของคุณว่าคุณเป็นเกย์ ไม่ว่าจะอย่างไร การบอกพ่อแม่ว่าคุณมีแฟนอาจเป็นเรื่องที่น่ากลัวแต่หากคุณพูดหัวข้อนี้อย่างถูกวิธี พวกเขาก็อาจจะยอมรับข่าว หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดีพวกเขาก็อาจจะยินดีกับคุณ เหล่านี้คือข้อแนะนำในการทำสิ่งนี้ให้สำเร็จด้วยความกังวลที่น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

บอกข่าว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณกลัวพวกคุณจะพูดไม่ออก คุณก็ควรเขียนสิ่งที่คุณคิดว่าคุณจะพูดไว้ก่อน จากนั้นจึงฝึกฝนการพูดหน้ากระจก วิธีนี้เมื่อถึงเวลาจริงคุณจะสามารถพูดมันได้อย่างไม่ติดขัด [1]
  2. เป็นเรื่องปกติที่จะต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนเวลาต้องบอกพ่อแม่ในเรื่องแบบนี้ การฝึกสิ่งที่จะพูดก่อนจะช่วยทำให้มันง่ายขึ้น ใช้เพื่อนหรือญาติคนที่เข้าใจมาช่วยซ้อมฝึก
    • จะฝึกหน้ากระจกก็ได้ [2]
    • ขอคนที่คุณไว้ใจมาช่วย ไม่ใช่คนที่อาจเผยความลับก่อนคุณพร้อม เลือกญาติที่สนิทอาจจะดีกว่าพี่น้องร่วมสายเลือด ซึ่งอาจรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่เขาต้องบอกพ่อแม่
  3. คุณอาจจะสนิทกับพ่อหรือกับแม่มากกว่าหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจจะเข้มงวดมากกว่ากัน บ่อยครั้งที่การบอกข่าวกับพ่อหรือแม่พี่พูดด้วยได้ง่ายกว่าจะเปิดทางให้คุณได้คุยกับอีกฝ่ายได้อย่างสะดวก [3]
    • เช่น หากคุณเป็นลูกรักของพ่อก็แปลว่าคุณสามารถเอาเขาอยู่ คุณอาจจะเริ่มที่พ่อของคุณ ในทางกลับกัน หากพ่อของคุณเข้มงวดมากกว่าคุณก็อาจจะเริ่มด้วยการบอกแม่ก่อน
    • วิธีนี้เป็นความคิดที่ดีมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นวัยรุ่นที่มีแฟนคนแรก
    • ในทางกลับกัน หากคุณคิดว่าจะรับมือกับทั้งพ่อและแม่ได้ง่าย (หรือยาก) พอกัน คุณก็ต้องกล้าบอกเขาทั้งคู่ในเวลาเดียวกัน
  4. คุณคงไม่อยากบอกพ่อแม่ในขณะที่เขากำลังยุ่งทำอะไรบางอย่างและอารมณ์ไม่ดี หากคุณต้องการ คุณสามารถถามว่าเวลาไหนที่เหมาะสมจะพูดคุย พยายามเลือกเวลาที่บ้านสงบเงียบและพ่อแม่ของคุณไม่เครียดกับอะไรบางอย่าง [4]
    • อย่างไรก็ตาม อย่าใช้เวลาที่ดีเป็นวิธีในการไม่บอกพวกเขา เพราะในที่สุดคุณต้องบอกพวกเขาอยู่ดี เพราะฉะนั้นคุณอาจจะทำให้มันเสร็จๆ ไป
  5. คุณกำลังลังเลที่จะบอกพ่อแม่ด้วยเหตุผลบางอย่าง คุณคิดว่าพ่อแม่ของคุณจะโกรธที่คุณมีแฟนหรือไม่? บางทีคุณคิดว่าพวกเขาอาจจะไม่ยอมรับที่คุณมีแฟน ในทางกลับกัน บางทีคุณอาจจะต้องการเก็บชีวิตส่วนตัวไว้เป็นความลับ การรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรนั้นสำคัญเพราะว่าคุณสามารถใช้มันในการพูดคุย [5]
    • เช่น หากคุณคิดว่าพ่อแม่ของคุณจะคิดว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะมีแฟน คุณก็สามารถพูดว่า "พ่อกับแม่ ลูกมีเรื่องที่จะต้องพูดบางอย่าง ลูกลังเลว่าจะบอกพ่อแม่ว่าลูกมีแฟนเพราะว่าลูกคิดว่าลูกยังเด็กเกินไป"
  6. เมื่อคุณจับเข่าคุยกัน คุณจะต้องพูดบทสนทนาออกไป อย่าอ้อมค้อม อย่างไรก็ตาม คุณสามารถทำให้บทสนทนาดูนุ่มนวลขึ้น ลองพูดว่า "ลูกรักพ่อและแม่มากและไม่อยากทำให้โกรธ แต่ลูกอยากซื่อสัตย์กับพ่อแม่เกี่ยวกับชีวิตของลูก ลูกอยากบอกเกี่ยวกับผู้ชายที่ลูกกำลังคบ"
  7. บอกพวกเขาว่าทำไมคุณถึงรู้สึกว่าคุณพร้อมที่จะมีแฟน. หากคุณกำลังพยายามพูดถึงเรื่องการมีแฟน คุณจะต้องบอกเหตุผลว่าทำไมคุณถึงสามารถทำแบบนั้นได้ เช่น บางทีคุณคิดว่าคุณสามารถมีแฟนได้เพราะคุณอยู่มัธยมและคนที่อายุเท่าคุณส่วนใหญ่สามารถมีแฟนได้ คุณต้องมีเหตุผลและอย่าโกรธหากพ่อแม่ไม่เห็นด้วย [6]
    • พ่อแม่ของคุณอาจจะไม่ตอบรับอย่างดีกับคำพูดที่ว่า "แต่ใครๆ ก็มีแฟนทั้งนั้น!" อย่างไรก็ตาม คุณสามารถดึงสถิติจากอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับคนที่มีอายุเท่าคุณและเริ่มมีแฟนและคุณสามารถหยิบยกประเด็นว่าคุณสามารถแสดงความเป็นผู้ใหญ่ในปีที่แล้ว
  8. หากพ่อแม่ของคุณไม่อยากให้คุณมีแฟนแล้วคุณกำลังขอให้เขาปล่อยให้คุณมีแฟน คุณต้องยินยอมที่จะประนีประนอม บางทีคุณสามารถแนะนำว่าคุณเจอแฟนของคุณที่โรงเรียนเท่านั้นหรือคุณไปเที่ยวเป็นกลุ่ม พ่อแม่ของคุณเพียงแค่ต้องการอยากปกป้องคุณ คุณต้องยอมเสียสละอิสรภาพบางส่วน [7]
    • ฟังสิ่งที่พ่อแม่บอกแล้วลองพิจารณาว่าคำก่าวของพวกเขาฟังขึ้นหรือไม่ ถึงแม้บางทีพวกเขาอาจโมโห แต่จำไว้ว่าพ่อแม่นั้นแก่กว่าและผ่านประสบการณ์มามากกว่า พวกเขาอาจมองเห็นปัญหาหรือประเด็นน่าเป็นห่วงที่คุณยังมองไม่ออก ถ้าเขาแสดงความเป็นห่วง ลองดูว่ามันมีสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาจเป็นจริงไหม
  9. บอกพ่อแม่ของคุณเกี่ยวกับแฟน บอกเกี่ยวกับครอบครัวของเขาและสิ่งที่คุณชอบในตัวเขา เน้นคุณสมบัติที่ดีเพื่อที่พวกเขาจะได้นึกออกว่าเขาเป็นอย่างไร มันยังเป็นประโยชน์ที่จะทำให้พวกเขาเห็นภาพ [8]
    • พ่อแม่ของคุณจะมีหลายคำถาม คุณควรตอบทุกคำถามอย่างจริงใจและอย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อทำให้พวกเขามั่นใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของคุณ หากคุณพยายามปกปิดหรือโกหกเกี่ยวกับบางอย่าง พ่อแม่ของคุณจะสงสัยและจะกังวล
    • หากแฟนของคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ของเขา คุณก็ต้องบอกให้พ่อแม่ของคุณรู้ คุณสมบัติข้อนี้เป็นที่ชื่นชอบสำหรับพ่อแม่หลายคนเพราะมันทำให้พวกเขารู้ว่าผู้ชายคนใหม่ในชีวิตของคุณรู้วิธีให้คุณค่าผู้อื่นและสามารถชื่นชมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในครอบครัว
  10. สิ่งที่สำคัญสิ่งหนึ่งในการทำหากคุณต้องการให้พ่อแม่ของคุณยอมรับแฟนของคุณคือการบอกพวกเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณ หากพวกเขารู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณจากคนอื่น พวกเขาอาจจะสรุปว่าคุณกำลังพยายามปกปิดเพราะว่าคุณรู้สึกว่าคุณกำลังทำสิ่งที่ผิด [9]
    • คุณควรบอกพ่อแม่เกี่ยวกับแฟนของคุณถึงแม้ว่าคุณไม่ได้วางแผนที่จะแนะนำเขาอย่างเป็นทางการในเร็ววัน โดยทั่วไป ยิ่งคุณพูดถึงความสัมพันธ์เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี การหลีกเลี่ยงบทสนทนาจะทำให้มันยิ่งยากในการมีความสัมพันธ์และจะเพิ่มโอกาสที่พ่อแม่ของคุณจะรู้เรื่องนี้จากคนอื่น
    • เมื่อคุณโตขึ้นและพร้อมที่จะย้ายออกจากบ้าน คุณไม่จำเป็นต้องพูดถึงแฟนทุกคนที่คุณมี รอจนกว่าจะมีคนที่คุณสามารถตัดสินใจลงหลักปักฐานก่อนที่จะบอกทุกคน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

การรับมือกับสถานการณ์พิเศษ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณรู้ว่ามีบางสิ่งเกี่ยวกับแฟนของคุณที่จะทำให้พ่อแม่ของคุณไม่สบายใจก็อย่าเพิ่งเริ่มบทสนทนาด้วยสิ่งนั้น แทนการทำเช่นนั้น คุณควรรอจนถึงช่วงกลางหรือช่วงปลายของบทสนทนาแล้วจึงพูดสิ่งนั้น เช่น หากแฟนของคุณอายุมากกว่า คุณก็อาจจะต้องชลอข่าวนั้นจนกว่าใกล้จะถึงตอนท้ายของบทสนทนา [10]
  2. หากคุณกำลังทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของพ่อแม่ พวกเขาก็อาจจะเสียใจ คุณกำลังจะต้องรับมือกับความโกรธและแม้แต่น้ำตาจนกว่าคุณจะทำให้พวกเขาเห็นเหตุผล [11]
  3. มันอาจจะใช้เวลาจนกว่าพ่อแม่จะเข้าใจ แม้พวกเขาจะเสียใจในขณะที่คุณพูดกับเขาและบอกคุณว่า "ไม่" แต่พวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนใจในภายหลังเมื่อใจเย็นลงสักนิด ไม่ว่าจะอย่างไรคุณก็ต้องเคารพความจริงที่ว่าคุณยังเป็นลูกของพวกเขาแปลว่าคุณไม่สามารถคิดว่าพวกเขาไม่ดีเพียงเพราะว่าเขาพูดว่าไม่ [12]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

การประกาศกับพ่อแม่ว่าคุณเป็นเกย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุยได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่แน่ใจว่าพ่อแม่จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างไร รอจนกว่าคุณจะรู้สึกสบายใจที่จะคุยเรื่องนี้ มันอาจจะเป็นเรื่องยากหากคุณสงสัยในเรื่องเพศของคุณเพราะพ่อแม่ของคุณอาจจะเกลี้ยกล่อมว่าคุณไม่ใช่เกย์ [13]
    • หากคุณแสดงความลังเลเกี่ยวกับเพศของคุณ พ่อแม่ของคุณก็จะถามคำถามเช่น "แน่ใจแล้วหรือ?" คุณสามารถถกเถียงกับพวกเขาแต่พึงระลึกไว้ว่าพวกเขาอาจจะต้องการถามว่าคุณมั่นใจเกี่ยวกับความรู้สึกของตัวเองแล้วหรือ หากคุณไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ไม่เป็นไร คุณสามารถมีความรู้สึกให้กับผู้ชายอีกคนหนึ่งได้และตัดสินใจในภายหลังว่าคุณชอบผู้หญิงมากกว่า เพศสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลาเมื่อ
  2. แม้การประกาศให้ทุกคนรู้นั้นจะยากแต่คุณสามารถลองพูดกับคนที่รู้สึกเห็นใจก่อน เช่น หากคุณมีเพื่อนเกย์หรือรู้จักคนที่เป็นเกย์ก็ให้คุณลองคุยกับเขาหรือเธอเกี่ยวกับเรื่องเพศของคุณก่อนที่จะประกาศกับพ่อแม่ มันยากมากในครั้งแรก เพราะฉะนั้นการลองพูดกับคนอื่นก่อนสามารถทำให้มันง่ายลงเล็กน้อยเมื่อคุณต้องพูดกับพ่อแม่ ยิ่งไปกว่านั้น บุคคลนั้นอาจจะสามารถให้คำแนะนำหาเขาหรือเธอเป็นเกย์แต่คุณต้องมั่นใจว่าคุณสามารถไว้ใจบุคคลนี้ได้ [14]
  3. หากคุณต้องการเกลี้ยกล่อมพ่อแม่ของคุณก็ให้ลองเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเพศให้กับพวกเขา คุณจะพบแหล่งที่มาของข้อมูลที่ดีมากมายเกี่ยวกับเพศ เช่น เว็บไซต์ Planned Parenthood ของกลุ่มชาวสีม่วง [15]
    • คุณควรให้คู่มือประกอบหรือเว็บไซต์ที่พวกเขาสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ it. [16]
  4. พ่อแม่หลายคนต้องการเวลาในการปรับตัวกับการประกาศครั้งนี้ เพราะว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่คาดหวังให้ลูกๆ ของเขาเป็นชายหรือหญิงแท้ พวกเขาจึงต้องเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับตัวตนที่คุณเป็น ทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถใช้เวลาในการปรับตัวได้ [17]
    • เช่น คุณสามารถพูดว่า "ผมรู้ว่าคำประกาศนี้ยิ่งใหญ่และผมเข้าใจหากพ่อแม่ต้องการใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับความคิดนี้เพราะว่าผมก็เคยทำมาแล้ว"
  5. หากคุณรู้ว่าพ่อแม่ของคุณจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่ไม่ดีเกี่ยวกับความเชื่อของคุณ คุณก็อาจจะทบทวนอีกครั้งก่อนที่จะประกาศให้พ่อแม่รับรู้ หากคุณคิดว่าพ่อแม่จะไล่คุณออกจากบ้านหรือแม้แต่ลงไม้ลงมือกับคุณ มันก็อาจจะดีกว่าหากคุณรอจนกว่าคุณสามารถเลี้ยงตัวเองได้ [18]
    • คุณอาจจะไม่อยากบอกพวกเขาหากคุณไม่มั่นใจทางอารมณ์และคุณรู้ว่าพวกเขาอาจจะเล่นงานคุณ [19]
    • เตรียมตัวล่วงหน้าว่าจะรับมือกับปฏิกิริยาเป็นลบของพ่อแม่ยังไง วางแผนว่าจะทำอย่างไรถ้าเกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา และรู้ว่าคุณจะต้องไปหาใครในการหาคนปลอบใจ
    • คุณอาจสามารถขอความช่วยเหลือจากองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่อุทิศเพื่อประเด็นของชาว LGBTQ เช่น The Trevor Project: https://www.thetrevorproject.org/trvr_support_center/coming-out/#sm.00019zneyztt2eehw0y1c8qhs18yj .
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

วิธีโต้ตอบหากพ่อแม่ไม่เห็นด้วย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ความรักสามารถทำให้คนตาบอด พ่อแม่ของคุณอาจจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบมากเกินไปกับความจริงที่ว่าคุณมีแฟนเป็นผู้ชาย ในทางกลับกัน พวกเขาอาจจะมีความกังวลที่คุณควรนำมาคิดพิจารณา [20]
    • ถามพ่อแม่อย่างสงบและสุภาพว่าทำไมพวกเขาจึงไม่ยอมรับแฟนของคุณ บางทีลักษณะนิสัยของเขาทำให้พ่อแม่ของคุณกังวลและความกังวลนั้นอาจจะอยู่คงกระพัน ถึงแม้เหตุผลที่พวกเขาให้จะฟังดูไม่สำคัญแต่การรับฟังข้อกังขาและความกลัวของพวกเขาจะทำให้คุณนึกออกว่าคุณต้องทำอะไรเพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมพวกเขาความสัมพันธ์ของคุณนั้นเป็นสุขดี
  2. พ่อแม่ที่ดีจะทำหน้าที่ปกป้องลูกๆ อย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องของธรรมชาติที่พวกเขาอาจจะไม่ยอมรับความจริงที่ว่าคุณกำลังเติบโต ลองเห็นใจพวกเขาสักหน่อย [21]
    • นอกจากความเห็นใจแล้วคุณควรเคารพพวกเขาด้วย ไม่ว่าบทสนทนาจะเป็นอย่างไร คุณก็ต้องปฏิบัติต่อพ่อแม่ด้วยความเคารพ หากคุณไม่เห็นด้วยกับพวกเขาเกี่ยวกับบางอย่างด้วยความเคารพ พวกเขาก็น่าจะรู้สึกเสียใจน้อยลงและอาจจะสามารถเปลี่ยนใจได้
  3. คิดว่าคุณควรรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้หรือไม่. ลองนึกว่าความสัมพันธ์กับแฟนคนนี้มีค่าแค่ไหนกับคุณและความสัมพันธ์ที่คุณมีกับพ่อแม่จะเป็นอย่างไรหากคุณยังคบแฟนคนนี้ต่อไป ลองชั่งน้ำหนักข้อดีกับข้อเสียของแต่ละด้านเพื่อหาข้อสรุปว่าต้องทำอย่างไร แน่นอนว่าคุณรักแฟนแต่พ่อแม่ของคุณจะยังคงเป็นพ่อแม่ของคุณไปตลอดชีวิต [22]
  4. หากคุณไม่อยากเลิกกับแฟน คุณก็ต้องพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่บ่อยๆ ยิ่งคุณพูดกันมากเท่าไหร่คุณทั้งสองฝ่ายก็จะยิ่งเข้าใจกันมากขึ้น คุณอาจจะทำให้พ่อแม่เข้าใจได้ [23]
    • คุณควรหาโอกาสให้พ่อแม่ของคุณได้ทำความรู้จักแฟนของคุณมากขึ้น ยิ่งคุณใช้เวลากับเขามากเท่าไหร่มุมมองที่คุณมีต่อเขาก็จะยิ่งแม่นยำขึ้นเท่านั้น หากเขาเป็นคนดีจริง พ่อแม่ของคุณก็อาจจtยอมรับเขาในที่สุด
  5. ผู้ชายที่ดีจะเข้าใจว่าการได้รับความยอมรับจากพ่อแม่ของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับความสัมพันธ์นี้ คุณทั้งคู่อาจจะสามารถหาวิธีในการเกลี้ยกล่อมพ่อแม่เพื่อให้ได้การยินยอมจากพวกเขา [24]
    • หากพ่อแม่ของคุณไม่เคยเจอผู้ชายคนนี้ เขาก็อาจจะต้องแนะนำตัวเองให้กับพ่อแม่ของคุณเพื่อให้พวกเขาเบาใจ
    • หากพ่อแม่ของคุณให้เหตุผลที่เฉพาะเจาะจงว่าทำไมพวกเขาจึงไม่ยอมรับแฟนของคุณ การทำให้เขารู้เหตุผลเหล่านี้อาจจะกระตุ้นให้เขาแก้ไขพฤติกรรมหรือเงื่อนไขที่ทำให้พ่อแม่ของคุณกังวล
  6. อธิบายความสัมพันธ์ของคุณให้กับพ่อแม่ของแฟนและขอความยินยอมจากพวกเขา หากพวกเขายอมรับ พวกเขาก็อาจจะยอมคุยกับพ่อแม่ของคุณเพื่อเกลี้ยกล่อมพวกเขาเช่นกัน [25]
    • ขั้นตอนนี้อาจเป็นประโยชน์หากคุณเป็นวัยรุ่นและนี่คือแฟนคนแรกของคุณ ผู้ใหญ่จะเข้าใจกันและกันมากกว่าเด็กวัยรุ่น เพราะฉะนั้น หากผู้ใหญ่ 2 คนเข้าหาพ่อแม่ของคุณและปกป้องความสัมพันธ์ของคุณโดยการหยิบยื่นความเชื่อมั่นเกี่ยวกับลูกชายของเขาในกระบวนการนี้ พ่อแม่ของคุณก็อาจจะยอมรับหลักฐานนี้เข้าสู่การพิจารณา
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 22,026 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา