PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การบอกพ่อแม่ว่าท้องเป็นเรื่องที่เกือบจะน่ากลัวพอๆ กับการท้องเลยทีเดียว พอคุณรู้ข่าวแล้ว คุณอาจจะอึ้งเกินกว่าจะรู้ได้ว่าจะต้องบอกพ่อแม่อย่างไร แต่ถ้าคุณทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ คุณก็จะได้เริ่มบทสนทนาที่เปิดใจและตรงไปตรงมากับพ่อแม่ และยังได้คิดด้วยอีกว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เตรียมเข้าไปบอก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าอย่างไรพ่อแม่จะต้องอึ้งกับข่าวของคุณอยู่แล้ว แต่คุณสามารถลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยการพูดให้ชัดเจนและแสดงวุฒิภาวะออกมาให้ได้มากที่สุดตอนคุยกับพวกท่าน สิ่งที่คุณต้องคิดก็เช่น [1]
    • เตรียมตัวเกริ่นเรื่อง อย่าทำให้พ่อแม่กลัวด้วยการพูดว่า "หนูมีข่าวร้ายจะบอกค่ะ" แต่ให้พูดว่า "หนูมีปัญหาใหญ่จะเล่าให้ฟังค่ะ"
    • เตรียมว่าจะอธิบายเรื่องการตั้งครรภ์ให้พวกท่านฟังอย่างไร พวกท่านรู้หรือเปล่าว่าคุณมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งรู้หรือเปล่าว่าคุณมีแฟน
    • เตรียมตัวว่าจะเล่าความรู้สึกของตัวเองอย่างไร แม้ว่าคุณจะเสียใจมากและอาจจะจุกจนพูดไม่ออก แต่คุณควรกลั้นน้ำตาไว้ก่อนจนกว่าจะจบบทสนทนา เพราะถึงตอนนั้นน้ำตาจะไหลออกมาอยู่แล้ว คุณควรบอกพวกท่านว่าคุณตกใจ และคุณเสียใจที่ทำให้พวกท่านผิดหวัง (ถ้าเป็นอย่างนั้น) คุณกำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิตและคุณก็อยากได้การสนับสนุนจากพวกท่านจริงๆ
    • เตรียมตัวตอบคำถาม พ่อแม่จะต้องถามคำถามกลับมาหลายข้อ เพราะฉะนั้นคุณก็ควรรู้ล่วงหน้าว่าตัวเองจะพูดอะไร จะได้ไม่ถูกโจมตีโดยไม่มีอะไรป้องกันตัวเลย [2]
  2. พอคุณคิดออกแล้วว่าต้องบอกเล่าความรู้สึกของตัวเองอย่างไรจึงจะดีที่สุดและรู้ว่าตัวเองต้องพูดอะไรแล้ว คุณก็ต้องมาเริ่มคิดว่าพ่อแม่จะมีท่าทีอย่างไรกลับมา [3] ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ที่ผ่านมาพวกเขามีปฏิกิริยากับข่าวที่รับได้ยากอย่างไร การมีเพศสัมพันธ์ของคุณเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากสำหรับพวกท่านหรือเปล่า และค่านิยมของพวกเขาคืออะไร สิ่งที่คุณต้องพิจารณาก็เช่น
    • พวกท่านรู้หรือเปล่าว่าคุณมีเพศสัมพันธ์ ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์มาหลายเดือนหรือแม้กระทั่งหลายปีแล้วและพวกท่านไม่เอะใจเลยสักนิด พวกท่านก็จะตกใจมากกว่าการที่ท่านพอจะสงสัยหรือแม้กระทั่งรู้อยู่แล้วว่าคุณมีเพศสัมพันธ์
    • ค่านิยมของพวกท่านคืออะไร พวกท่านให้อิสระในการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานหรือเปล่า หรือว่าพวกท่านคิดว่าคุณไม่ควรมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะแต่งงานหรือใกล้แต่งงานเท่านั้น
    • ในอดีตพวกท่านมีปฏิกิริยาต่อข่าวร้ายอย่างไร แม้ว่าคุณอาจจะไม่เคยบอกข่าวที่น่าตกอกตกใจแบบนี้กับท่านมาก่อน แต่คุณก็ควรลองนึกดูว่าที่ผ่านมาพวกท่านมีปฏิกิริยากับข่าวที่สร้างความผิดหวังอย่างไร พวกท่านมีปฏิกิริยาอย่างไรตอนที่คุณบอกท่านว่าคุณสอบตกหรือเอารถท่านไปชนจนบุบ
    • ถ้าพ่อแม่เคยมีประวัติการตอบโต้ด้วยความรุนแรงมาก่อน คุณก็ไม่ควรบอกท่านตามลำพัง หาญาติที่คุณไว้ใจที่ใจกว้างกว่านี้มาเข้าร่วมกับคุณ หรือไม่ก็อาจจะพาพ่อแม่ไปพบแพทย์หรือครูแนะแนวเพื่อบอกข่าว
    • คุณจะซ้อมพูดคุยกับเพื่อนสนิทก่อนก็ได้ ถ้าคุณท้อง คุณก็น่าจะเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง และนอกจากเธออาจจะพอรู้ว่าพ่อแม่ของคุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไรแล้ว เธอยังสามารถช่วยเป็นคู่ซ้อมบทสนทนาให้คุณได้ด้วย ทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่าพ่อแม่ของคุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกลับมา [4]
  3. แม้ว่าการแจ้งข่าวให้พ่อแม่ทราบอย่างทันท่วงทีจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่คุณก็จำเป็นต้องเลือกวันและเวลาดีๆ เพื่อที่พ่อแม่จะได้เต็มใจรับฟังข่าวมากที่สุด สิ่งที่คุณควรเก็บไปคิดก็คือ [5]
    • อย่าดราม่า ถ้าคุณพูดว่า "หนูมีเรื่องสำคัญมากๆ จะบอกพ่อกับแม่ค่ะ พ่อแม่สะดวกคุยตอนไหนคะ" พ่อแม่ก็จะอยากคุยตอนนั้นทันทีและคุณก็อาจจะยังไม่ได้เตรียมตัว เพราะฉะนั้นพยายามนิ่งให้มากที่สุดตอนที่บอกออกไปว่า "หนูมีเรื่องอยากจะคุยด้วยค่ะ เราจะคุยกันตอนไหนดีคะ"
    • เลือกช่วงเวลาที่พ่อแม่สามารถให้ความสนใจกับคุณได้อย่างเต็มที่ เลือกช่วงเวลาที่ทั้งพ่อและแม่อยู่บ้านพร้อมหน้าและไม่ได้กำลังวางแผนจะออกไปรับประทานมื้อค่ำนอกบ้าน ไปรับน้องชายหลังจากซ้อมบอล หรือต้องไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ทีหลัง ตามหลักการแล้วพวกท่านควรมีช่วงเวลาที่ว่างหลังจากคุยกัน เพื่อที่พวกท่านจะได้มีเวลาค่อยๆ ทำความเข้าใจกับข่าวที่ได้รับ
    • เลือกช่วงเวลาที่พวกท่านมีแนวโน้มจะเครียดน้อยที่สุด ถ้าพวกท่านมักจะเครียดหรือเหนื่อยมากๆ ตอนที่กลับมาถึงบ้าน ก็ให้รอจนถึงหลังมื้อค่ำตอนที่พวกท่านได้ผ่อนคลายเล็กน้อยก่อนแล้วจึงคุย ถ้าพวกท่านดูจะเครียดตลอดช่วงวันทำงาน ก็ให้รอคุยในวันหยุดสุดสัปดาห์ วันเสาร์อาจจะดีกว่าวันอาทิตย์ เพราะพอถึงวันอาทิตย์ช่วงเย็น ท่านก็อาจจะเริ่มกังวลเกี่ยวกับงานในสัปดาห์หน้าแล้ว [6]
    • เลือกช่วงเวลาที่เหมาะกับคุณ แม้ว่าคุณควรจะเลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพ่อแม่ แต่ก็อย่าลืมปัจจัยด้านความรู้สึกของตัวเองด้วย เลือกช่วงเวลาที่คุณไม่เหนื่อยจนเกินไปหลังจากเพิ่งผ่านสัปดาห์อันยาวนานที่โรงเรียน และตอนที่คุณไม่ได้กังวลเรื่องการสอบครั้งใหญ่ในวันถัดไป
    • ถ้าคุณอยากให้มีคนอื่นอยู่ด้วย ก็เลือกช่วงเวลาที่คนนั้นสะดวกด้วยเหมือนกัน ถ้าคุณอยากให้คนรักของคุณอยู่ตรงนั้นด้วย นั่นถือเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่มากและคุณต้องแน่ใจว่ามันจะช่วยให้สถานการณ์น่าอึดอัดใจน้อยลง ไม่ใช่ว่ายิ่งแย่กว่าเดิม
    • อย่าประวิงเวลาที่จะเข้าไปคุยนานเกินไป การเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดจะช่วยให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น แต่การรีรอที่จะเข้าไปคุยอยู่หลายสัปดาห์เพราะว่าทุกคนยุ่งและเครียดอยู่มีแต่จะทำให้เรื่องแย่ไปกันใหญ่
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

แจ้งข่าว

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ยากที่สุดของแผนการทั้งหมด แม้ว่าคุณอาจจะเตรียมตัวมาบ้างแล้วว่าจะพูดอะไรและพอจะคาดการณ์มาบ้างว่าพวกท่านจะมีปฏิกิริยาแบบไหน และแม้ว่าคุณจะเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะคุยมาแล้ว มันก็ยังคงเป็นการพูดคุยที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณอยู่ดี
    • พยายามผ่อนคลาย เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะซ้อมบทสนทนาในหัวมาเป็นพันๆ ครั้งแล้ว แต่คุณต้องรู้ว่าสิ่งที่คุณคาดการณ์ไว้ส่วนใหญ่แล้วเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หยุดก่อน เพราะเป็นไปได้มากๆ ว่าปฏิกิริยาของพ่อแม่อาจจะดีกว่าที่คุณคาดไว้ 100 เท่า การผ่อนคลายมีแต่จะช่วยให้ทุกสิ่งทุกอย่างง่ายขึ้น [7]
    • ทำให้พ่อแม่สบายใจ แม้ว่าคุณอาจจะคุยเล่นก่อนเข้าเรื่องได้ไม่นาน แต่คุณก็อาจจะยิ้ม ถามพ่อแม่ว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง และปลอบท่านด้วยการลูบมือของท่านก็แจ้งข่าว
    • พูดว่า "หนูมีปัญหาจะบอกให้พ่อกับแม่ทราบค่ะ หนูท้อง" พูดออกไปอย่างหนักแน่นและเข้มแข็งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ [8]
    • สบตาและรักษาภาษาท่าทางให้เปิดกว้างอยู่เสมอ ทำตัวให้ดูเหมือนว่าคุณพร้อมที่จะตอบคำถามให้มากที่สุดขณะที่คุณแจ้งข่าวกับพวกท่าน [9]
    • บอกพวกท่านว่าคุณรู้สึกอย่างไร เป็นไปได้ว่าพวกท่านอาจจะตกใจมากจนไม่สามารถตอบสนองกลับมาได้ในทันที บอกพวกท่านว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับการตั้งครรภ์ เตือนให้พวกท่านรู้ว่าสำหรับคุณแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากมากๆ
  2. พอคุณแจ้งข่าวให้พวกท่านทราบแล้ว พวกท่านก็จะมีปฏิกิริยาที่รุนแรงกลับมา ไม่ว่าพวกท่านจะโกรธ อ่อนไหว สับสน เจ็บปวด หรือมีคำถามมากมาย พวกท่านก็ต้องใช้เวลาในการประมวลข่าวที่เพิ่งทราบ ค่อยๆ รับฟังมุมมองของพวกท่านโดยไม่พูดขัด
    • ปลอบใจพวกท่าน แม้ว่าพวกท่านจะเป็นผู้ใหญ่ แต่พวกท่านก็เพิ่งได้รับข่าวใหญ่มา และคุณก็ควรเข้มแข็งเพื่อท่าน [10]
    • ตอบคำถามทั้งหมด ถ้าคุณเตรียมตัวมาแล้ว คุณก็ควรจะตอบคำถามได้อย่างซื่อสัตย์และใจเย็นได้มากที่สุด
    • ถามว่าพวกท่านรู้สึกอย่างไร ถ้าพวกท่านตกใจมากจนเงียบไป ก็ให้เวลาพวกท่านได้เรียบเรียงความคิดก่อน จากนั้นค่อยถามว่าพวกท่านรู้สึกอย่างไร ถ้าพวกท่านไม่เล่าความรู้สึกของตัวเองหลังจากที่คุณเล่าความรู้สึกของคุณไปแล้ว การคุยต่อก็จะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
    • อย่าโกรธถ้าพวกท่านโกรธ อย่าลืมว่าพวกท่านเพิ่งได้ทราบข่าวที่เปลี่ยนชีวิตของพวกท่านไปเลย [11]
  3. พอคุณแจ้งข่าวออกไปแล้วและคุณกับพ่อแม่ก็ได้คุยเรื่องความรู้สึกทั้งของคุณและของพวกท่านไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะมาคิดกันว่าจะทำอย่างไรกับการตั้งครรภ์ของคุณต่อไปดี ถ้าความคิดเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งมันก็อาจจะมี เรื่องนี้ก็อาจจะยากขึ้น แต่จำไว้ว่าพอถึงตอนนี้คุณก็น่าจะรู้สึกโล่งเพราะว่าคุณได้บอกออกไปแล้วและคุณก็จะได้มาร่วมแก้ไขปัญหาด้วยกัน
    • ในการสนทนาครั้งนี้คุณอาจจะยังไม่สามารถพูดคุยกันถึงขั้นตอนต่อไปได้เลย พ่อแม่อาจจะต้องขอเวลาทำใจให้เย็นลงก่อน ทั้งสองฝ่ายอาจจะต้องใช้เวลาในการจัดการกับอารมณ์ของตัวเองก่อน
    • จำไว้ว่าแม้ว่าวิกฤตในครั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ยากที่สุดที่คุณเคยผ่านมา แต่คุณกับครอบครัวก็จะเข้มแข็งขึ้นเพราะคุณได้แก้ไขปัญหาร่วมกัน [12]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จำไว้ว่าพ่อแม่รักคุณอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าการพูดคุยเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่สุดท้ายแล้วมันน่าจะทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
  • ถ้าคุณยืนยันว่าจะให้คนรักของคุณอยู่ด้วยตอนคุยกัน ก็ต้องแน่ใจว่าพ่อกับแม่ต้องเคยพบเขามาก่อนและรู้ว่าเขามีตัวตนอยู่จริง เพราะการนำคนที่พวกท่านไม่รู้จักมาอยู่ด้วยตอนคุยกันเรื่องสำคัญจะยิ่งเหมือนเป็นการเพิ่มความรุนแรงของปัญหาทั้งที่ท่านไม่ต้องการ
  • เตรียมใจรับความโกรธจากพ่อแม่ วางแผนเผื่อว่าพวกท่านไล่คุณออกจากบ้านหรือบอกว่าคุณต้องไปทำแท้งหรือยกเด็กให้เป็นลูกบุญธรรมของคนอื่น แม้ว่าจริงๆ แล้วมันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ตาม
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าพ่อแม่เคยมีประวัติเรื่องพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง อย่าบอกข่าวนี้กับพวกท่านตามลำพัง ให้พาพวกท่านไปพบแพทย์หรือครูแนะแนว
  • ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าคุณอยากจะเก็บเด็กไว้ไหม พยายามบอกข่าวนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อที่คุณจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะทำอะไรต่อไป เพราะถ้าหากคุณอยากจะทำแท้งแต่รีรอไม่ยอมพูดสักที ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงเรื่องสุขภาพมากขึ้น
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 42,879 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา