ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ว่าคุณจะกำลังมุ่งหน้าไปสู่อนาคตที่สดใสกว่าหรือออกจากงานแบบจบไม่สวย วันทำงานวันสุดท้ายของคุณย่อมทำให้คุณเกิดความรู้สึกบางอย่าง พยายามทำให้คำบอกลาของคุณมีความหมายด้วยการบอกลาทุกคนอย่างจริงใจ เพราะคุณเองก็อาจจะยังต้องรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานเพื่อประโยชน์ในอาชีพการงานหรือเรื่องส่วนตัวในภายภาคหน้า ฉะนั้นคุณต้องบอกลาเพื่อนร่วมงานอย่างชาญฉลาดและสง่างาม แต่ไม่ว่าคุณจะบอกลาเพื่อนร่วมงานแบบต่อหน้าหรือผ่านทางอีเมล การบอกลาก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจเสมอไป

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

บอกลาแบบต่อหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บอกให้ทุกคนรู้ล่วงหน้าว่าคุณกำลังจะออกจากงาน. วันสุดท้ายของการทำงานไม่ใช่วันที่ดีที่สุดที่คุณควรบอกเพื่อนร่วมงานทุกคนว่าคุณจะไม่กลับมาอีกแล้ว เพราะมันดูฉุกละหุกหรือหยาบคายเวลาที่คุณก้าวขาข้างนึงออกไปนอกประตูแล้วตะโกนเข้ามาว่า "ลาก่อนนะทุกคน" ก่อนที่จะปิดประตูแล้วเดินออกไป เผื่อเวลาให้ทุกคนได้รู้ถึงแผนการและกำหนดการของคุณก่อนที่คุณจะไป ทุกคนจะได้รู้ว่าคุณจะไม่กลับมาแล้ว
    • ตามหลักการทั่วไป คุณต้องแจ้งให้ฝ่ายบริหารรู้ว่าคุณจะลาออกล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แต่ถ้าจะให้ดีต้องเช็กก่อนว่าในสัญญาจ้างงานกำหนดให้คุณต้องแจ้งลาออกล่วงหน้าเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ และหัวหน้าต้องเป็นคนแรกที่รู้เรื่องนี้
    • พอฝ่ายบริหารรู้เรื่องแล้วก็บอกเพื่อนร่วมงานได้ รู้สึกสบายใจเมื่อไหร่ค่อยบอก หรือรอให้ถึงเวลาสะดวกแล้วค่อยบอกก็ได้ ขอแค่บอกก่อนวันสุดท้ายก็แล้วกัน
  2. บอกลาก่อนถึงวันทำงานวันสุดท้าย 1 วัน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องกังวลใจหรือเก็บข้าวของมากมายนักในวันสุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณยังมีงานต้องทำ นอกจากนี้การรอให้ถึงวันก่อนสุดท้ายยังทำให้คุณมีโอกาสทำงานของคุณให้เสร็จโดยที่ไม่มีเพื่อนร่วมงานแวะเวียนเข้ามาบอกลาคุณมากมายนัก [1]
    • พอคุณประกาศว่าคุณกำลังจะออกจากงาน มีโอกาสมากว่าเพื่อนร่วมงานของคุณอาจจะแวะเวียนมาหาเพื่อบอกลา เพราะฉะนั้นถ้าคุณทำงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว การบอกลาก็จะง่ายขึ้น
  3. เก็บข้าวของให้เรียบร้อยตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาไปบอกลาเพื่อนร่วมงานได้ทีละคน วิธีนี้จะทำให้ทั้งคุณและเพื่อนร่วมงานรู้สึกได้ถึงการจากลาว่า นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณทั้งสองคนจะได้เจอกันในฐานะเพื่อนร่วมงาน
    • แต่ก็อย่าลืมว่าถ้าคุณไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น คุณก็ยังสามารถพบปะกับเพื่อนร่วมงานนอกที่ทำงานได้ถ้าคุณต้องการ ลองจัดงานเล็กๆ เพื่อชวนเพื่อนร่วมงานที่สนิทๆ มาสังสรรค์กันนอกสภาพแวดล้อมของการทำงานบ้าง
    • ถ้าเพื่อนร่วมงานของคุณกำลังจะลาออกและคุณยังทำงานอยู่ที่เดิม การรวมกลุ่มเพื่อนร่วมงานกลุ่มเล็กๆ ไปกินเลี้ยงอำลาในคราวเดียวก็เป็นความคิดที่ดี วิธีนี้จะทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณกระอักกระอ่วนน้อยลงเพราะคุณเป็นคนเริ่มวางแผนก่อน
  4. พยายามหาช่องทางติดต่อกับเพื่อนร่วมงานให้ได้มากที่สุดก่อนที่คุณจะออกจากงาน ไม่ว่าจะเป็นทาง social media หรืออีเมล หาช่องทางติดต่อกับผู้คนที่คุณสนใจอยากจะติดต่อด้วยจริงๆ แต่เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น อย่ารู้สึกว่าตัวเองจะต้องเป็นเพื่อนใน Facebook กับทุกคน
    • สัก 2-3 สัปดาห์ก่อนลาออก ถ้าคุณไม่เคยติดต่อกับเพื่อนร่วมงานในรูปแบบอื่นเลย ให้ลองเริ่มติดต่อกับเพื่อนร่วมงานผ่านช่องทางการสื่อสารเชิงธุรกิจเช่น LinkedIn วิธีนี้เป็นวิธียอดเยี่ยมที่จะทำให้คุณรู้สึกว่า ในอนาคตถ้าจำเป็นคุณยังสามารถติดต่อเรื่องงานกับเพื่อนร่วมงานเก่าได้และมีหลักฐานอ้างอิงการทำงานพร้อมติดตัวเสมอ
  5. เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมของการทำงาน คุณก็ต้องทำทุกอย่างให้เป็นมืออาชีพ ไม่จำเป็นต้องแสดงอะไรใหญ่โตหรือมีพิธีรีตองมากมาย แค่บอกเพื่อนร่วมงานว่ายินดีที่ได้ทำงานร่วมกัน ขอให้โชคดี และบอกให้พวกเขาติดต่อหากันบ้าง แค่นั้นก็พอ ไม่ต้องมีอะไรซับซ้อน
    • ถ้าเพื่อนร่วมงานกำลังจะลาออกและคุณยังทำงานอยู่ที่เดิม จำไว้ว่าเพื่อนร่วมงานของคุณเขายังต้องบอกลาเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ อีกหลายคน และคงไม่อยากจะถามไถ่ทุกคนคนละ 45 นาที ถึงคุณจะเศร้าที่เพื่อนร่วมงานกำลังจะลาออกมากแค่ไหน ก็ให้เงียบไว้และวางแผนเข้าไปคุยทีหลังถ้าจำเป็นจริงๆ
    • แค่พูดว่า "เมฆ! ดีใจนะที่ได้ทำงานด้วยกัน อย่าห่างเหินกันไปละ ติดต่อมาบ้าง คุณเป็นคนดีนะ มีอะไรก็มาเล่าสู่กันฟังบ้าง อย่าลืมนะ" ก็พอแล้ว
  6. ถ้าคุณถูกเชิญออกหรือลาออกแบบจบไม่สวย การเข้าไปบอกลาเพื่อนร่วมงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายมากเลยทีเดียว แต่คุณต้องพยายามนิ่งเข้าไว้เพื่อให้ตัวเองดูเป็นมืออาชีพมากที่สุด รักษาทัศนคติที่เป็นบวกและบอกลาเพียงสั้นๆ แม้ว่าคุณจะว้าวุ่นใจแค่ไหนก็ตาม แล้วคุณจะดีใจที่คุณได้บอกลาเพื่อนร่วมงาน
  7. เชิญเพื่อนร่วมงานที่สนิทมาปาร์ตี้อำลาหลังเลิกงาน. ที่ทำงานมีคนหลายแบบ ทั้งคนที่เป็นเพื่อนกับคุณจริงๆ ที่คุณอยากติดต่อด้วยอยู่ ศัตรูสุดยี้ที่คุณทนไม่ได้ และเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนที่ไม่จัดอยู่ในประเภทไหนเลยทั้งสองแบบ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องจัดงานเลี้ยงอำลาใหญ่โตถ้าโอกาสไม่เอื้ออำนวย
    • แอบชวนเพื่อนร่วมงานที่สนิทสัก 2-3 คนไปดื่มหรือกินเลี้ยงมื้อค่ำหลังเลิกงานเพื่อลดความกดดันหลังจากทำงานมาทั้งวันและได้โอกาสเปิดใจคุยกันมากขึ้น วิธีนี้เป็นวิธียอดเยี่ยมที่คุณจะได้ใช้เวลาสักนิดกับเพื่อนร่วมงานที่คุณสนใจอยากจะติดต่อด้วยอีกนอกเหนือจากเรื่องงาน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

บอกลาทางอีเมล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณบอกลาเพื่อนร่วมงานระดับทั่วไปในแผนกเดียวกันหรือทั้งบริษัท มันคงจะยากหรือวุ่นวายน่าดูถ้าจะต้องเข้าไปบอกลาทีละคน ขอบอกขอบใจคนทั้งบริษัท คุณควรส่งอีเมลบอกลาถึงคนที่คุณไม่ค่อยรู้จักมากนักด้วยเพื่อสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในองค์กร ในอีเมลบอกลาคุณควรเขียนว่า:
    • เรียน เพื่อนร่วมงานทุกท่าน ตามที่ทุกท่านทราบว่าดิฉันจะลาออกจากตำแหน่ง (ตำแหน่งของคุณ) ในวันพรุ่งนี้ ดิฉันจึงอยากใช้โอกาสนี้บอกกับทุกท่านว่า ดิฉันดีใจที่ได้ร่วมงานกับทุกท่าน ทุกท่านสามารถติดต่อดิฉันได้ที่ (อีเมลของคุณ) หรือที่ LinkedIn ของฉัน ขอบคุณเวลาดีๆ ที่ได้ร่วมงานกับทุกท่าน ด้วยความปรารถนาดี (ชื่อของคุณ)
  2. คุณอาจจะอยากเปิดใจเขียนถึงช่วงเวลาอันขมขื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณถูกไล่ออก แต่คุณก็ควรจะเขียนด้วยน้ำเสียงที่เป็นบวกเข้าไว้เพื่อให้คุณแสดงตัวตนได้อย่างสง่างามที่สุดเท่าที่จะทำได้ และการใช้น้ำเสียงที่เป็นบวกยังทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะสามารถติดต่อกับเพื่อนร่วมงานได้ในอนาคตอีกด้วย
    • การลงท้ายด้วยข้อความที่สร้างแรงบันดาลใจเป็นวิธีที่ชาญฉลาดที่สุดวิธีหนึ่งเสมอ เพราะฉะนั้นพยายามทำใจให้เป็นบวกเรื่องประสบการณ์ที่ทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณส่งอีเมลนี้หาเจ้านายของคุณ
  3. อีเมลบอกลาควรมีแค่ 3-4 ประโยคเพราะมันไม่ใช่เรียงความขนาดยาว ไม่จำเป็นต้องร่ายยาวว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คุณออกจากงาน ถ้าใครมีคำถาม บอกให้เขาติดต่อคุณโดยตรงหรือถามคุณเป็นการส่วนตัว แค่บอกว่าคุณกำลังก้าวไปข้างหน้าและตัดสินใจว่าจะลองทำสิ่งใหม่ๆ ในอีกสายงานหนึ่งก็พอแล้ว
  4. ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถเขียนรายละเอียดการติดต่อของคุณได้. คุณสามารถลงท้ายอีเมลบอกลาด้วยรายละเอียดการติดต่อ เขียนเบอร์โทรศัพท์มือถือ ที่อยู่อีเมล และชื่อบัญชี LinkedIn ของคุณที่คุณสามารถติดต่อกับเพื่อนร่วมงานได้ให้ชัดเจน [2] แต่คุณไม่จำเป็นต้องบอกข้อมูลการติดต่อส่วนตัวถ้าคุณอึดอัดใจ
    • คุณอาจจะเลือกบอกข้อมูลของคุณกับเพื่อนร่วมงานแค่ 2-3 คน อีเมลเป็นช่องทางการสื่อสารที่ง่ายดายที่จะทำให้ทุกคนได้รับรู้ข้อมูลโดยทั่วกันและแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณทุกคนจะยังสามารถติดต่อกันได้ต่อไปในภายภาคหน้า
  5. พอคุณร่างข้อความเสร็จแล้ว ให้อ่านใหม่ตั้งแต่ต้นเพื่อตรวจดูว่ามีข้อผิดพลาดไหม ไวยากรณ์ถูกหรือเปล่า และคุณควรทบทวนด้วยว่าน้ำเสียงของคุณเป็นมิตร เป็นบวก และคงความเป็นมืออาชีพได้ในเวลาเดียวกันหรือไม่
    • ตรวจสอบว่าคุณใส่อีเมลคนที่คุณอยากส่งอีเมลถึงครบแล้วทุกคน
    • ลองอ่านออกเสียงเพื่อดูว่า มีข้อความส่วนไหนในอีเมลที่ชวนกระอักกระอ่วนหรือเปล่า
  6. มันออกจะดูเย็นชาไปนิดนึงถ้าคุณบอกเพื่อนร่วมงานที่สนิทว่าคุณกำลังจะลาออกผ่านทางอีเมล พยายามหาโอกาสบอกลากันต่อหน้าเป็นการส่วนตัวยกเว้นว่าจะไม่มีโอกาสจริงๆ ในหลายกรณีคุณต้องแจ้งผู้ที่ทำงานในระดับสูงกว่าเป็นการส่วนตัว หรืออย่างน้อยก็ต้องโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบ
    • ถ้าคุณไม่สามารถพบเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันเป็นการส่วนตัวด้วยเหตุผลบางประการ คุณควรส่งอีเมลส่วนตัวไปบอกว่า คุณมีความสุขที่ได้ร่วมงานกับพวกเขา และอย่าลืมให้ข้อมูลติดต่อส่วนตัวเพื่อที่คุณจะยังได้พบปะสังสรรค์กับพวกเขานอกออฟฟิศได้
    • ตัวอย่างอีเมลส่วนตัวก็เช่น: ถึง (ชื่อเพื่อนร่วมงาน) เธอคงรู้แล้วว่าฉันกำลังจะออกจากบริษัทเร็วๆ นี้ เพราะฉะนั้นฉันเลยอยากบอกเธอว่า ฉันมีความสุขมากที่ได้ทำงานร่วมกับเธอ ฉันคงจะคิดถึงพลังเชิงบวกของเธอมากแน่ๆ ฉันหวังว่าเราจะยังติดต่อกันและได้ไปเจอกันนอกออฟฟิศบ้าง เธอโทรศัพท์หาฉันได้ที่เบอร์ (เบอร์โทรศัพท์) หรือที่ (อีเมลของคุณ) ดีใจนะที่เราได้ทำงานด้วยกัน! ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง (ชื่อของคุณ)
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจหรืออยากจะติดต่อกับดนัยที่อยู่แผนกบัญชี ก็อย่าไปสัญญาตามมารยาทว่า "ไปหาอะไรดื่มด้วยกันบ้างนะ" เพราะนอกจากคุณอาจจะต้องทำตามสัญญาที่คุณไม่อยากทำจริงๆ แล้ว มีแนวโน้มมากว่าคุณจะถูกมองว่าเป็นพวกเสแสร้งและไม่จริงใจ แค่จริงใจและซื่อสัตย์ และอย่ารู้สึกกดดันว่าจะต้องวางแผนติดต่อกับคนที่คุณไม่อยากจะติดต่อด้วย
    • ถ้าคุณรู้สึกว่ามันหยาบคายที่จะวางแผนติดต่อกับแค่บางคนและไม่ติดต่อคนอื่นที่เหลือ ก็อย่าแพร่งพรายแผนของคุณให้ใครรู้ คุณไม่จำเป็นต้องบอกใครว่าคุณมีแผนจะดูฟุตบอลกับเพื่อนร่วมงานคนใดคนหนึ่งทุกนัดถ้ามันจะทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นของคุณไม่พอใจ
  2. วันสุดท้ายของคุณจะต้องไม่มีการเดินออกมาพร้อมกับการตะโกนด่าทอไล่หลังให้ต้องเป็นที่เลื่องลือไปอีกนาน และต้องไม่มีคำผรุสวาทที่แสดงถึงการดูหมิ่นหัวหน้าด้วย ในวันสุดท้ายของคุณควรเป็นวันที่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเงียบๆ สง่างาม และกระชับ ถึงคุณจะรู้สึกว่าที่ผ่านมาหัวหน้าไม่ยุติธรรมกับคุณเลย คุณก็ไม่ควรตะโกนด่าทอกับหัวหน้า เพราะเขาอาจจะมีอำนาจบางอย่างที่ทำให้คุณไม่ได้งานใหม่ เป็นมืออาชีพเข้าไว้ แม้ว่าคุณจะไม่อยากเป็นเลยก็ตาม
    • ถ้าคุณมีเรื่องไม่พอใจที่สมเหตุสมผลและจำเป็นต้องพูดกันให้เข้าใจ คุณต้องคุยกับคนๆ นั้นต่อหน้าเป็นการส่วนตัวและทำทุกอย่างให้เป็นมืออาชีพให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บอกหัวหน้า (หรือใครก็ตามที่คุณมีปัญหาด้วย) ว่าคุณมีบางเรื่องที่จะต้องพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว
    • ที่ทำงานบางแห่งอาจจะมีการสัมภาษณ์ก่อนออกจากงาน คุณสามารถใช้โอกาสนี้แสดงความไม่พอใจได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผลต่องานของคุณอย่างไร คุณกำลังจะออกจากงานอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมาพูดถนอมน้ำใจกันอีกต่อไป
  3. คุณไม่จำเป็นต้องแจกของขวัญให้เพื่อนร่วมงานมากมาย เพราะมันอาจจะทำให้เพื่อนร่วมงานบางคนอึดอัด การให้ของขวัญก่อนออกจากงานไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรและทำให้คุณดูเป็นคนขี้อวด ในเมื่อมันเป็นสภาพแวดล้อมของการทำงาน คุณก็ควรแสดงถึงความเป็นมืออาชีพด้วย
    • ถ้าคุณรู้สึกว่าจำเป็นจะต้องให้บางอย่างก่อนออกจากงานจริงๆ ก็ซื้อเป็นขนมปังหรือโดนัทสักกล่องแจกเพื่อนร่วมงานที่อยู่ชั้นเดียวกันเพื่อเป็นการตอบแทนสิ่งดีๆ เล็กๆ น้อยๆ แต่อย่ารู้สึกว่าคุณต้องซื้อ iPod แจกทุกคนก่อนออกจากงาน อันนั้นก็เกินไป
    • ถ้าเพื่อนร่วมงานกำลังจะออกจากงานและคุณอยากอวยพรให้เขาโชคดี แค่การ์ดใบเดียวก็แสดงถึงอัธยาศัยไมตรีของคุณได้แล้ว ไม่ต้องถึงขั้นซื้อนาฬิกาข้อมือทองให้เป็นของขวัญหรอก
  4. ถ้าคุณกำลังจะออกจากงาน อย่าใช้โอกาสนี้ระบายความผิดหวังและความคับข้องใจที่คุณมีต่อบริษัทให้เพื่อนร่วมงานฟัง เพราะหลังจากที่คุณออกไปแล้ว พวกเขาก็ยังต้องรองรับอารมณ์ที่คุณทิ้งเอาไว้ต่อไป พยายามทิ้งท้ายด้วยความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อบริษัทและอย่าสร้างความอึดอัดใจให้กับทุกคนที่ยังต้องอยู่ต่อไป
    • ถ้าคุณลาออกเพื่อไปทำงานที่เจริญก้าวหน้ากว่า คุณก็ไม่ควรโอ้อวดว่างานที่คุณกำลังจะไปทำนั้นเริดกว่างานที่เดิมเป็นไหนๆ เช่นเดียวกัน พยายามนึกไว้เสมอว่าเพื่อนร่วมงานของคุณยังต้องกลับมาทำงานในวันจันทร์ และคุณคงไม่อยากทิ้งทวนการทำงานด้วยการสร้างบรรยากาศการทำงานที่เป็นพิษเอาไว้หรอกใช่ไหม
  5. การหายตัวไปโดยที่ไม่พูดอะไรอาจจะสร้างความรู้สึกในแง่ลบและทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ สงสัยในตัวคุณเป็นอย่างมากซึ่งอาจจะไม่ได้ส่งผลดีกับทุกคน ถึงคุณจะกระอักกระอ่วนที่จะต้องออกจากงานมากแค่ไหน คุณก็ต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้และบอกลาทุกคน และอย่างที่บอกว่าการบอกลาเพื่อนร่วมงานไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แค่บอกลาอย่างอ่อนหวานสั้นๆ และเดินออกจากประตูไป แค่ครู่เดียวเดี๋ยวมันก็จบแล้ว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณถูกปลดออกจากงานหรือถูกไล่ออก คุณอาจจะเขียนอีเมลถึงแค่กลุ่มคนที่คุณทำงานใกล้ชิดด้วยมากที่สุดและรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นมาอย่างไร
  • คุณอาจจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าใครจะมาทำงานในตำแหน่งของคุณ เพื่อที่เพื่อนร่วมงานของคุณจะได้รู้ว่าต้องติดต่อใคร
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 222,469 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา