ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ผมแห้งเสียเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การจัดแต่งทรงผมด้วยเครื่องมือที่ใช้ความร้อน การย้อมสีผม การยืดผมด้วยสารเคมี และแม้แต่การโดนแดดเผา คุณอาจต้องการฟื้นฟูความชุ่มชื้นและสภาพเส้นผมด้วยการบำรุงผมคุณภาพสูงที่ให้การบำรุงอย่างล้ำลึก การปรับสภาพเส้นผมที่ถูกต้องจะช่วยให้ผมคุณดูชุ่มชื้นและเงางาม

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้ครีมนวดผมที่หาซื้อได้จากร้านขายทั่วไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกครีมบำรุงที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมของคุณ ในตลาดมีครีมบำรุงผมมากมายที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมได้ คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาได้ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
    • ถ้าคุณมีผมหยิก ให้มองหาครีมบำรุงที่ระบุว่าเหมาะสำหรับผมหยิกโดยเฉพาะ
    • ถ้าคุณมีผมเส้นเล็ก ให้เลือกครีมบำรุงที่ระบุว่า สำรับผมบาง หรือผมไร้น้ำหนัก ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมากจะช่วยให้ผมคุณดูมีน้ำหนักทิ้งตัวสวย
    • ถ้าคุณมีผมหยักศก ให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผมคุณอยู่ทรง
  2. ใช้แชมพูที่อ่อนโยนไม่ทำร้ายผมของคุณมากนัก และควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมของเกลือซัลเฟต ซึ่งเป็นสารทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ทำลายน้ำมันตามธรรมชาติของเส้นผม ทำให้ผมขาดและแห้งเสีย
  3. บีบครีมนวดผมปริมาณ 1 ส่วน 4 ของฝ่ามือ แล้วถูมือเข้าด้วยกัน จากนั้นชโลมครีมนวดลงบนผม โดยเริ่มจากตรงกลางเส้นผมแล้วลูบไล้ลงมาจนสุดปลายผม ครีมนวดผมส่วนที่ยังเหลือติดมือให้ทาลงบนผมตั้งแต่โคนจรดปลาย โดยเน้นเป็นพิเศษที่ส่วนปลายผม เพราะเป็นส่วนที่แห้งเสียได้ง่ายกว่าส่วนอื่น คุณยังสามารถใช้หวีซี่ห่างเพื่อช่วยให้ครีมนวดผมกระจายได้ทั่วทั้งศีรษะ [1]
  4. การบำรุงอย่างล้ำลึกต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 นาที ที่จะเข้าถึงแกนกลางของเส้นผม ตรวจดูวิธีใช้บนฉลากของผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือกใช้ เพราะบางครั้งผมที่ยาวกว่าอาจต้องใช้เวลามากกว่า แต่โดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที [2] คุณอาจใช้หมวกคลุมผมพลาสติกเพื่อช่วยให้ครีมนวดผมไม่เลอะเทอะบริเวณอื่น
  5. ผลิตภัณฑ์บางชิ้นแนะนำให้ใช้ไดร์เป่าผมเพิ่มความร้อนให้กับครีมบำรุงหลังจากชโลมลงบนเส้นผม เพื่อช่วยให้ครีมสามารถเข้าบำรุงภายในเส้นผมได้ง่ายขึ้น ใช้ไดร์เป่าผมที่ความแรงต่ำเป่าที่ศีรษะ เพื่อช่วยเพิ่มความร้อนให้กับผลิตภัณฑ์ [3]
    • ตรวจดูให้แน่ใจว่าไดร์เป่าผมไม่ร้อนจนเกินไป เนื่องจากหากคุณใส่หมวกคลุมผมพลาสติกอยู่ ความร้อนอาจทำให้พลาสติกละลายได้
  6. ถอดหมวกคลุมอาบน้ำออก แล้วล้างผมด้วยน้ำเย็น ซึ่งจะช่วยปิดเกล็ดผมทำให้ผมของคุณดูเงางาม จากนั้นให้เช็ดผมอย่างเบาเมือด้วยผ้าขนหนู ปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ แล้วจัดทรงตามปกติ ผมคุณจะดูมีน้ำหนัก เงางาม และดูสุขภาพดี
    • สระผมอีกครั้งหลังจากผ่านไปอีก 2-3 วัน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เกิดจากครีมบำรุงอยู่ได้นานที่สุด
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ทำครีมบำรุงผมด้วยตนเองที่บ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การทำครีมบำรุงผมจากวัตถุดิบธรรมชาติที่ได้ผลล้ำลึกและเหมาะกับทุกสภาพเส้นผม คุณเพียงแค่ต้องเตรียมวัตถุดิบบางอย่างเพื่อทำครีมบำรุง โดยการซื้อ (หรือสำรวจของในตู้เย็นของคุณก่อน) [4]
    • อโวคาโด 1 ผล
    • กล้วย 1/2 ผล
    • กะทิ 1/2 กระป๋อง
    • น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย
    • ไข่ 1 ฟอง หรือ มายองเนส 1/4 ถ้วย
  2. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในโถปั่น แล้วปั่นจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนผสมที่เป็นก้อนเหลืออยู่ มิฉะนั้นสูตรบำรุงผมนี้อาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร [5]
  3. ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนที่ไม่ทำร้ายผมของคุณ หลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมของเกลือซัฟเฟตที่ทำลายน้ำมันตามธรรมชาติของเส้นผม ซึ่งจะทำให้ผมคุณแห้งเสีย
  4. ใช้แปรงทำขนมหรือนิ้วของคุณในการชโลมครีมบำรุงให้ทั่วเส้นผมที่เปียก นวดผมตั้งแต่โคนจรดปลาย โดยเน้นส่วนที่ผมแห้งเสียที่สุด
    • ถ้าคุณเป็นคนผมหนามาก ให้แบ่งผมเป็นส่วนๆ แล้วค่อยชโลมครีมบำรุงลงบนผมทีละส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าผมทุกส่วนของคุณได้รับการบำรุง
    • ถ้ามีครีมบำรุงเหลือ คุณสามารถเก็บไว้ในตู้เย็น (หรือช่องแช่แข็ง) เพื่อเก็บไว้ใช้ครั้งหน้าได้ [6]
  5. คุณอาจจะใช้หมวกพลาสติกคลุมผมไว้ และสามารถใช้ไดร์เป่าผมด้วยความแรงต่ำเพื่อช่วยให้ครีมบำรุงผมเข้าบำรุงเส้นผมคุณได้เร็วขึ้น
  6. ถอดหมวกพลาสติกออกแล้วล้างผมด้วยน้ำเย็น 2 -3 รอบ จนกว่าผมจะสะอาดและไม่มีครีมบำรุงเหลือบนศีรษะ เช็ดผมอย่างเบามือด้วยผ้าขนหนู แล้วจัดแต่งทรงผมได้ตามปกติ
    • ห้ามใช้น้ำร้อนล้างผม เพราะไข่กับมายองเนสจะทำปฏิกิริยากับน้ำร้อน
    • รอสัก 2 -3 วัน จึงจะสระผมของคุณอีกครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์ของครีมบำรุงอยู่ได้นานที่สุด
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทำการบำรุงอย่างล้ำลึกและรวดเร็ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น้ำมันมะกอกและน้ำผึ้งจะผสานกำลังช่วยบำรุงผมของคุณได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึก เนื่องจากน้ำผึ้งจะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ขณะที่น้ำมันมะกอกจะช่วยกับเก็บความชุ่มชื้นนั้นไว้ ผสมน้ำผึ้ง ¼ ถ้วย และน้ำมันมะกอก ¼ ถ้วย เข้าด้วยกัน
  2. ล้างเส้นผมให้เปียกชุ่ม จากนั้นใช้แปรงทำขนมหรือนิ้วมือของคุณชโลมส่วนผสมของน้ำผึ้งและน้ำมันมะกอกให้ทั่ว นวดผมตั้งแต่โคนจรดปลายโดยเน้นส่วนที่แห้งเสียเป็นพิเศษ และอาจใช้หมวกพลาสติกคลุมผมของคุณไว้ด้วย [7]
  3. เนื่องจากนี่คือการบำรุงผมแบบเร่งด่วน ดังนั้นวิธีที่จะให้ความร้อนได้ดีที่สุดก็คือ การใช้ไดร์เป่าผม โดยตั้งค่าความร้อนไว้ที่ระดับกลาง และเป่าไปที่ศีรษะของคุณ อย่างน้อย 10 นาที
    • อย่าลืมเลื่อนไดร์เป่าผมไปเรื่อยๆ เพื่อให้ผมทั้งศีรษะของคุณได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง
  4. หลังจากผ่านไป 10 -30 นาที ให้ถอดหมวกคลุมผมออก แล้วล้างส่วนผสมออกจากศีรษะด้วยน้ำเย็น [8] ให้ล้างผมจนกระทั่งน้ำที่ไหลผ่านผมสะอาดหมดจน ใช้ผ้าเช็ดผมให้แห้ง สามารถจัดแต่งทรงผมได้ตามปกติ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ลองหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่คุณชื่นชอบลงไปในครีมบำรุงผมที่คุณทำเอง ระหว่างที่ผมคุณได้รับการบำรุงคุณเองก็รับการบำบัดด้วยกลิ่นไปพร้อมกันด้วย
  • น้ำมันอื่นๆ เช่น น้ำมันอัลมอนด์ สามารถใช้แทนน้ำมันมะกอกได้
  • การบำรุงผมนี้สามารถทำได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ หากผมคุณแห้งเสีย ควรทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรือ อาจจะเป็น 2 – 3 เดือนต่อครั้ง หากผมคุณไม่ได้แห้งเสียมาก
  • ถ้าคุณมีผมมัน อย่าชโลมครีมบำรุงลงบนรากผมหรือหนังศีรษะ เพราะจะยิ่งทำให้ผมคุณดูมันเยิ้ม
  • ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงสำหรับครีมบำรุงผมอย่างล้ำลึก ลองเปรียบเทียบส่วนผสมแต่ละผลิตภัณฑ์ และเลือกชิ้นที่ราคาถูกกว่า แต่มีส่วนผสมหลัก 4 – 5 ชนิด ที่เหมือนกับครีมบำรุงผมที่ราคาแพงกว่า [9]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,303 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา