ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การบำรุงผิวหน้าจะช่วยให้ผิวของคุณสดชื่น มีชีวิตชีวา และเนียนสวย ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ในครัวเรือนเพียงไม่กี่ชนิด คุณก็สามารถทำสครับและมาส์กที่เหมาะกับประเภทผิวของคุณได้อย่างง่ายดาย เมื่อได้ลองบำรุงผิวหน้าที่บ้านด้วยตัวเองดูสักครั้งแล้ว คุณจะไม่จำเป็นต้องเสียเงินให้กับร้านเสริมสวยอีกต่อไป

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เตรียมผิวหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เนื่องจากคุณกำลังจะขัดหน้า อบไอน้ำ และมาส์กหน้า จึงควรเก็บผมให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้ผมตกลงมาปรกใบหน้า และสวมเสื้อยืดที่ใส่สบายเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องกังวลเมื่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ กระเด็นใส่เสื้อของคุณ
  2. เนื่องจากการบำรุงผิวหน้าที่ดีเริ่มจากผิวหน้าที่สดชื่นและสะอาด คุณจึงควรทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อชะล้างเครื่องสำอาง สิ่งสกปรก และเหงื่อด้วยคลีนเซอร์ที่ชื่นชอบก่อนเริ่มทำการบำรุงผิวหน้า ชโลมหน้าให้เปียกด้วยน้ำอุ่น ใช้คลีนเซอร์ทำความสะอาดผิวหน้าโดยถูเบาๆ เป็นวงกลม และล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น
    • ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นแทนการใช้น้ำร้อนหรือน้ำเย็นจัด โดยน้ำที่เหมาะกับผิวหน้าที่สุดคือน้ำที่มีอุณหภูมิห้อง
    • หากต้องการทำคลีนเซอร์ใช้เอง คุณสามารถลองใช้น้ำมันดูได้ นำน้ำมันมะกอก น้ำมันอัลมอนด์ หรือน้ำมันโจโจบามานวดบนใบหน้า จากนั้นเช็ดออกให้สะอาดโดยใช้ผ้าขนหนูที่ชุบน้ำอุ่นจนชุ่ม น้ำมันสามารถทำหน้าที่เป็นเมคอัพรีมูฟเวอร์ได้อย่างดี และยังช่วยให้ผิวของคุณนุ่มและชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย
  3. ลักษณะที่บ่งบอกว่าผิวของคุณมีสุขภาพที่ดีคือความกระจ่างใสและมีชีวิตชีวา การขัดผิวเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการบำรุงผิวหน้า ใช้สครับขัดเบาๆ เป็นวงกลมบนใบหน้าเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายและเผยให้เห็นผิวใหม่ที่สดใส คุณสามารถทำสครับใช้เองได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่อาจพบได้ในห้องครัวของคุณ โดยสามารถทำสครับจากสูตรต่างๆ เหล่านี้ [1]
    • สำหรับผิวมัน ผสมน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และน้ำเปล่า 1 ช้อนชาเข้าด้วยกัน
    • สำหรับผิวธรรมดา ผสมข้าวโอ๊ตบด 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และนมสด 1 ช้อนชาเข้าด้วยกัน
    • สำหรับผิวแห้ง ผสมอัลมอนด์ป่น 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และน้ำมันมะกอก 1 ช้อนชาเข้าด้วยกัน
  4. ใช้น้ำอุ่นล้างสครับออกให้สะอาด ควรล้างอย่างละเอียดถี่ถ้วนในบริเวณรอบๆ ดวงตาและจมูกเพื่อไม่ให้มีสครับเหลือติดบนใบหน้า เมื่อล้างออกจนสะอาดแล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้ง
  5. การนวดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบนใบหน้า ทำให้ผิวของคุณรู้สึกและดูมีชีวิตชีวา และนอกจากจะทำให้ผิวดูดีขึ้นแล้ว การนวดยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดถุงใต้ตาและริ้วรอย และบรรเทาความเครียดได้อีกด้วย คุณสามารถนวดหน้าโดยใช้เทคนิคต่างๆ เหล่านี้
    • ใช้ปลายนิ้วนวดแก้มของคุณเป็นวงกลม ขยับนิ้วขึ้นมาทางสันจมูกไปจนถึงเหนือโหนกแก้ม และย้อนกลับมาที่เดิม ทำซ้ำเรื่อยๆ ประมาณ 1 นาที
    • นวดหน้าผาก โดยเริ่มจากบริเวณขมับแล้วเลื่อนมายังจุดกึ่งกลางของหน้าผาก ทำซ้ำเรื่อยๆ ประมาณ 1 นาที
    • นวดรอบดวงตา โดยเริ่มจากตรงส่วนโค้งของคิ้ว เลื่อนออกมายังบริเวณหางตา ขยับมาตรงบริเวณใต้ตาแล้วไล่ไปทางจมูก และย้อนกลับมายังตรงส่วนโค้งของคิ้วเช่นเดิม ทำซ้ำเรื่อยๆ ประมาณ 1 นาที
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

อบไอน้ำและมาส์กหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การอบไอน้ำสามารถช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้สิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ข้างในหลุดออกมา เนื่องจากการอบไอน้ำจะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูมีเลือดฝาดและมีสุขภาพดี จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการบำรุงผิวหน้า เติมน้ำในหม้อใบเล็กและนำไปตั้งไฟจนเดือด นำผ้าขนหนูพันรอบศีรษะและอังใบหน้าไว้เหนือหม้อเพื่อให้ไอน้ำสัมผัสถูกใบหน้าของคุณ อบไอน้ำนานประมาณ 3-5 นาทีแล้วจึงปิดเตา
    • หากต้องการอบไอน้ำสมุนไพร ให้เติมน้ำมันลาเวนเดอร์หรือเปปเปอร์มินต์ลงไป 5 หยด
    • หรือจะเลือกใช้ถุงชาก็ได้เช่นกัน โดยอาจลองเลือกใช้ใบชาคาร์โมไมล์หรือมินต์
  2. การมาส์กหน้าสามารถช่วยดูดซับสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนและเผยให้เห็นผิวกระจ่างใส แม้ว่าคุณจะสามารถหาซื้อมาส์กมากมายได้ตามท้องตลาด แต่มาส์กตามท้องตลาดอาจมีประสิทธิภาพไม่ดีเท่ามาส์กที่ทำเอง นอกจากนี้ คุณยังสามารถทำมาส์กที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณได้อีกด้วย คุณสามารถทำมาส์กจากสูตรต่างๆ เหล่านี้
    • สำหรับผิวทุกประเภท ให้ใช้น้ำผึ้งแท้ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและต้านเชื้อแบคทีเรีย เหมาะกับผิวทุกประเภท [2]
    • สำหรับผิวมัน ผสมโคลนพอกหน้า 1 ช้อนชาและน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน
    • สำหรับผิวธรรมดา ผสมโยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะและน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน
    • สำหรับผิวแห้ง ผสมกล้วยบด ½ ลูกและน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน
  3. ทามาส์กให้ทั่วใบหน้าและทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีให้มาส์กได้บำรุงผิวหน้า ในขณะที่มาส์กหน้าอยู่ คุณสามารถเลือกทำตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้เพื่อให้การบำรุงผิวหน้าของคุณเห็นผลดีที่สุด
    • ลดถุงรอบดวงตาโดยหลับตาและนำแตงกวาวางไว้บนดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
    • แก้ริมฝีปากแห้งแตกโดยใช้แปรงสีฟันขัดเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และปิดท้ายด้วยการทาลิปมันบำรุงริมฝีปาก
    • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังบริเวณลำคอ โดยเริ่มตั้งแต่หน้าอกขึ้นมายังคาง เนื่องจากผิวหนังบริเวณลำคอนั้นบอบบางเช่นเดียวกับผิวหน้า จึงไม่ควรละเลยที่จะบำรุงผิวหนังบริเวณนี้ด้วย
  4. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นจนแน่ใจว่าล้างน้ำผึ้งที่ติดอยู่บนใบหน้าออกจนหมด เนื่องจากน้ำผึ้งที่เหลือติดอยู่จะทำให้รู้สึกเหนียวที่ใบหน้าได้ แล้วจึงใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้ง เอาล่ะ ลองส่องกระจกดูสิว่าผิวของคุณดูกระจ่างใสขึ้นแล้วหรือยัง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ปรับสภาพผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลังเปิดรูขุมขนด้วยไอน้ำและมาส์กหน้าเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์แล้ว การปรับสภาพผิวสามารถช่วยปิดรูขุมขน จึงทำให้ผิวของคุณดูกระจ่างใสและอ่อนเยาว์มากขึ้น นำโทนเนอร์เช็ดบนใบหน้าและใช้ผ้าขนหนูเช็ดโทนเนอร์ส่วนเกินออก ปล่อยทิ้งไว้สักพักให้โทนเนอร์ซึมเข้าสู่ผิว คุณสามารถทำโทนเนอร์เองได้โดยใช้วัตถุดิบต่อไปนี้
    • น้ำเย็น
    • แอปเปิ้ลไซเดอร์เวเนการ์ (apple cider vinegar) 1 ช้อนชาผสมกับน้ำเย็น 1 ช้อนชา
    • วิชฮาเซล
    • น้ำดอกกุหลาบ
  2. คุณสามารถเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ทำเองเพื่อปิดท้ายการบำรุงผิวหน้า มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง ทำให้ผลลัพธ์จากการบำรุงผิวหน้าคงอยู่ยาวนานยิ่งขึ้น คุณสามารถเลือกใช้วัตถุดิบต่างๆ เหล่านี้เพื่อเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวของคุณ
    • สำหรับผิวมัน เลือกใช้น้ำมันโจโจบาหรือว่านหางจระเข้
    • สำหรับผิวธรรมดา เลือกใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันอัลมอนด์
    • สำหรับผิวแห้ง เลือกใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอาร์แกน
  3. การขัดผิว อบไอน้ำ และมาส์กหน้า จะทำให้ผิวหน้าบอบบางและแพ้ง่ายมากขึ้น จึงควรรอจนผ่านไปหลายชั่วโมงก่อนเริ่มแต่งหน้า เนื่องจากเครื่องสำอางโดยส่วนใหญ่ประกอบด้วยสารเคมีที่ทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง ไม่ต้องรีบ คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการบำรุงผิวหน้าได้อย่างยาวนานตามต้องการ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากมีคนทำขั้นตอนการบำรุงผิวหน้าเหล่านี้ให้คุณ ให้คุณนอนลงบนเตียงและให้ผู้ที่ทำการบำรุงผิวหน้านำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทาลงบนใบหน้าของคุณ
  • น้ำเลมอนและซอสมะเขือเทศเข้มข้นสามารถช่วยกำจัดจุดด่างดำและสิวได้เป็นอย่างดี
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าใช้วัตถุดิบใดๆ ที่คุณแพ้


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,388 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา