ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไฟล์ Portable Document Format (PDF) นั้นถือเป็นวิธีมาตรฐานที่นิยมกันในการส่งเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ คุณแน่ใจได้ว่าเอกสาร รูปภาพ แผนภูมิ และแบบฟอร์มต่างที่แปลงเป็นไฟล์ PDF แล้วจะพิมพ์ออกมาหน้าตาเหมือนกับที่เห็นเป๊ะๆ แถมยังใช้งานได้บนทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น Windows, Mac OS กระทั่ง Linux บางครั้งก็จำเป็นต้องบีบอัดไฟล์ PDF ซะก่อนถึงจะแนบส่งไปทางอีเมลหรืออัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ได้ ซึ่งก็มีวิธีการให้เลือกมากมายด้วยกัน ลองดูขั้นตอนแรกข้างล่างนี่เลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ใช้เว็บบีบอัดไฟล์ออนไลน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาเว็บสำหรับบีบอัดไฟล์ PDF ออนไลน์ให้ได้ซะก่อน. ด้วยการพิมพ์คำค้นหาอย่าง “free online PDF compression” ลงในเว็บเบราว์เซอร์ของคุณ เลือกเว็บที่ใช้ได้ฟรี และเป็นเว็บที่พวกสื่อสิ่งพิมพ์ด้านคอมพิวเตอร์และธุรกิจหรือสื่อออนไลน์ดังๆ เขานิยมใช้กัน (ในเว็บไซต์มักจะมีแบนเนอร์โฆษณาอ้างถึงแบรนด์ดังต่างๆ ที่ใช้บริการของเว็บนั้น)
  2. จะเลือกไฟล์ที่ต้องการบีบอัดจากในคอม หรือลากไฟล์ไปหย่อนใส่ช่องเพื่ออัพโหลดเลยก็ได้. คุณอาจต้องดูโฆษณาของเว็บ หรือพิมพ์ captcha code ให้ถูกซะก่อนถึงจะเริ่มบีบอัดไฟล์ได้
  3. พอบีบอัดเสร็จแล้ว จะมีขึ้นแจ้งเตือนว่าไฟล์พร้อมดาวน์โหลดแล้ว บางเว็บจะส่งไฟล์ให้คุณทางอีเมล แต่บางเว็บก็ให้คุณกดดาวน์โหลดได้เลย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ใช้ Adobe Acrobat

ดาวน์โหลดบทความ
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ใช้ Preview (ใน Mac OS)

ดาวน์โหลดบทความ
    • ค่า default จะกำหนดให้ไฟล์ PDF เปิดขึ้นมาใน Preview แต่แรก ยกเว้นว่าคุณมี Adobe Reader หรือโปรแกรมเปิดไฟล์ PDF อื่นๆ อยู่ในเครื่องด้วย ถ้าเป็นแบบนั้น ให้คลิกขวาที่ไฟล์ PDF แล้วคลิก “Open With” จากนั้นเลือก Preview
  1. หน้าต่างคำสั่งจะปรากฏขึ้นมา
  2. ถ้าคุณไม่ได้เปลี่ยนชื่อไฟล์ หน้าต่างคำสั่งจะถามว่าคุณต้องการแทนที่ไฟล์ต้นฉบับด้วยไฟล์ใหม่หรือไม่ จะเป็นการเซฟทับไฟล์ปัจจุบันไป [2]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้ PDF Optimizer ของ Adobe Acrobat

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หน้าต่าง PDF Optimizer จะปรากฏขึ้นมา พร้อมตัวเลือกการบีบอัดไฟล์
  2. คลิกที่ปุ่ม “Audit space usage” ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง คุณจะเห็นส่วนประกอบต่างๆ ของเอกสาร (ฟอนต์ สี และอื่นๆ) จำนวน bytes ที่ใช้ไป และเปอร์เซ็นต์ของความจำที่แต่ละส่วนประกอบใช้ ให้คุณลองพิจารณาดูว่าส่วนประกอบไหนที่ตัดออกได้ แล้วไปยัง panel ที่เกี่ยวข้อง โดยคลิกที่ด้านซ้ายของจอ
  3. คุณสามารถปรับแต่งค่าการบีบอัดภาพสี grayscale และ monochrome ได้ตรงนี้
    • ยิ่ง pixels per inch (ppi) มากเท่าไหร่ ภาพก็ยิ่งคมชัด แต่ถ้าคุณจะไม่พิมพ์ไฟล์ภาพนั้นออกมา ก็สามารถลด ppi ได้ (จะทำให้ไฟล์เล็กลง) เพราะการดูไฟล์ในหน้าจอนั้น แค่ 72 ppi ก็เพียงพอแล้ว
    • Downsampling จะลดความละเอียดของภาพโดยลดจำนวน pixel ลง ด้วยการ merge สีของ pixel ต้นฉบับให้กลายเป็น pixel ที่ใหญ่กว่า ให้คุณเลือกจากตัวเลือกในเมนูที่ขยายลงมา ส่วน “Average Downsampling to” นั้นจะเฉลี่ย pixel ในพื้นที่ตัวอย่าง แล้วใช้สีนั้นในพื้นที่ทั้งหมด ในขณะที่ “Subsampling to” จะเลือก pixel ตรงกลางของตัวอย่าง แล้วเอาสีไปใช้ในพื้นที่ทั้งหมด สุดท้ายคือ “Bicubic Downsampling to” จะใช้การถัวเฉลี่ยเพื่อกำหนดสี pixel โดยตัวเลือกนี้จะทำให้ได้ไล่สีได้เนียนกว่า
  4. การ embed ฟอนต์ในเอกสารต้นฉบับ จะทำให้เวลาเปิดไฟล์ในคอมเครื่องอื่น ฟอนต์ใน PDF ของคุณจะออกมาเหมือนเดิม แม้กระทั่งตอนพิมพ์ลงกระดาษ โดยไม่จำเป็นว่าคอมปลายทางนั้นจะมีฟอนต์นั้นอยู่ในเครื่องหรือเปล่า
    • ถ้าคุณไม่แคร์ว่าต้องใช้ฟอนต์เดียวกันเป๊ะๆ กับในไฟล์ PDF ของคุณ ก็ไม่ต้อง embed ฟอนต์ก็ได้ ไฟล์ก็จะเล็กหน่อย ถ้าเครื่องอื่นไม่ได้มีฟอนต์เดียวกัน ฟอนต์ในต้นฉบับก็จะถูกแทนที่โดยอัตโนมัติด้วยฟอนต์อื่น จะมี 2 คอลัมน์ให้คุณเลือกใน panel นี้ (ว่าจะ “Embedded Fonts” หรือ “Font to Embed”)
  5. เลือก Transparency Setting Panel เพื่อปรับระดับความโปร่งแสงในของ artwork ในเอกสาร. ตัวเลือกที่ขยายลงมานั้นรวมถึง “Low Resolution”, “Medium Resolution” และ “High Resolution” ซึ่งแต่ละตัวเลือกจะประกอบไปด้วยกลุ่ม preset ที่เกี่ยวข้อง ที่ส่งผลต่อระดับความโปร่งแสง gradient กับ meshes และอื่นๆ พอปรับค่าความโปร่งแสงแล้ว ก็จะช่วยลดขนาดไฟล์ลงได้
  6. เลือก Discard Objects Panel เพื่อกำจัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกจากเอกสาร. พอเปิด panel นี้ขึ้นมาแล้ว จะเห็นรายการ Discard Object Settings และ checklist ที่ว่า Settings นั้นรวมถึง “Discard all form submissions”, “Discard documents tags”, “Discard bookmarks” และอื่นๆ แค่คลิกเพื่อเลือก object ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเอกสารต้นฉบับ
  7. คลิก Discard User Panel เพื่อลบข้อมูลส่วนตัวออกจากเอกสาร. เช่นเดียวกับ Discard Objects Panel ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Discard User จะถูกรวมไว้ใน panel นี้ ถัดจาก checklist ให้เลือกจากตัวเลือกอย่าง “Discard all comments”, “Forms and multimedia” และ “Discard private data of other applications” เป็นต้น
    • ข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวอาจซ่อนอยู่ หาได้โดยการใช้คำสั่ง Examine Document (Document→Examine Document)
  8. เลือก Clean Up Settings Panel เพื่อลบข้อมูลแปลกปลอมที่ไม่จำเป็นออกจากเอกสารของคุณ. ดูให้ดีว่าเลือก “Compress document structure” ไว้ในตัวเลือกบีบอัด Object ในเมนูที่ขยายลงมา
    • ค่าตั้งต้นจะเลือกเฉพาะส่วนประกอบที่ไม่ขัดขวางการทำงานของไฟล์ PDF เท่านั้น การเลือกใช้ค่าแบบ non-default อาจส่งผลร้ายแรงต่อการทำงานของเอกสาร ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าอย่าเปลี่ยนแปลงค่าอะไร เว้นแต่ว่าคุณจะมีความรู้ความเข้าใจมากพอ
  9. จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้คุณ “Save Optimized As” ให้เลือกชื่อไฟล์ ตำแหน่งปลายทางที่จะเซฟ และฟอร์แมต (PDF) [3]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เลือกใช้แค่ฟอนต์เดียวทั้งเอกสารจะช่วยลดขนาดไฟล์ได้เป็นอย่างดี เพราะฟอนต์ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลในไฟล์
  • ถ้าเซฟไฟล์แล้วจะไม่สามารถแก้ไขการ flatten ความโปร่งแสงได้แล้ว
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,265 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา