ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หลายคนอยากประดับตกแต่งบ้านด้วยรูปต่างๆ กระทั่งเป็นเครื่องเตือนความทรงจำดีๆ แต่ติดว่ากรอบรูปสวยๆ ที่เห็นตามห้างราคาค่อนข้างสูง เพราะงั้นก็มาประดิษฐ์กรอบรูปเองซะเลย จะทำกรอบรูปได้ต้องมีกระดาษแข็งสำหรับซ้อนรองข้างใต้ กรอบไม้หรือโลหะ 4 ด้าน และกระจกหรือกระจกอะคริลิค (plexiglass) สำหรับซ้อนทับด้านหน้า ประกอบเสร็จก็ตกแต่งตามใจชอบได้เลย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ทำกระดาษรองรูป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. mat ก็คือกระดาษลังหรือกระดาษแข็งสีพื้นธรรมดา ที่ใช้เป็นกรอบกระดาษไว้สอดรูปก่อนใส่กรอบแข็งและกระจก ถ้าทำกรอบรูปใช้เองก็ต้องมีกรอบกระดาษก่อน จะสวยหรูดูโปรขึ้นอีกเยอะ แถมยังเห็นรูปสะดวกชัดเจนขึ้น ก่อนจะวัดขนาด ก็ต้องคิดก่อนว่าอยากได้กรอบกระดาษกว้างเท่าไหร่
    • ขนาดพอเหมาะ คือประมาณ ¼ - ⅓ ของความกว้าง (ด้านสั้น) ของรูป
  2. พอได้ความกว้างของกรอบกระดาษแล้ว ให้วัดขนาดรูป จากนั้นให้เพิ่มความกว้างของกรอบกระดาษไปอีกเท่าหนึ่ง แล้วเพิ่มเข้าไปในความกว้างและความยาวของรูป จะได้ออกมาเป็นความกว้างและความยาวขอบนอกของกรอบกระดาษ
    • ขอบในของกรอบกระดาษจะเท่ากับหรือเล็กกว่ารูปที่จะใส่กรอบนิดหน่อย
  3. Watermark wikiHow to ประดิษฐ์กรอบรูป
    พอวัดและทำเครื่องหมายแล้ว ก็ให้ตัดกรอบกระดาษตามนั้น ถ้าใช้กระดาษธรรมดาหรือกระดาษแข็ง ก็ตัดด้วยกรรไกรหรือคัตเตอร์ได้เลย แต่ถ้ากระดาษหนาหน่อย อย่างกระดาษลัง ที่คนนิยมใช้ทำกรอบกระดาษมากกว่า จะตัดด้วยคัตเตอร์หรือกรรไกรก็ได้ แต่จะสวยหรูดูโปรกว่าถ้าใช้แท่นตัดกระดาษโดยเฉพาะ
    • ตัดขอบนอก ให้คุณตัดขอบนอกของกรอบกระดาษตามที่วัดไว้
    • ให้ขีดเส้นด้วยไม้บรรทัดก่อนแล้วค่อยตัดตาม
    • หรือใช้ไม้โปร จะได้แน่ใจว่าเป็นมุมฉากเป๊ะๆ แล้วค่อยตัด
  4. Watermark wikiHow to ประดิษฐ์กรอบรูป
    ขอบในต้องมีขนาดเท่ากับหรือเล็กกว่ารูปที่จะใส่กรอบนิดหน่อย ให้ร่างขนาดของรูปถ่ายจริงไว้ด้านหลังของกรอบกระดาษ ถ้าอยากให้ขอบกระดาษซ้อนทับบนรูปนิดหน่อย ก็หักลบตามสะดวก วัดขนาดเสร็จก็กรีดด้วยคัตเตอร์ได้เลย
  5. Watermark wikiHow to ประดิษฐ์กรอบรูป
    หงายกรอบกระดาษ แล้วคว่ำรูปลงไปให้อยู่กลางกรอบ ติดสก็อตเทปแนวตั้งที่ 2 มุมด้านบนของกรอบ แล้วติดสก็อตเทปแนวนอนทับเทปแนวตั้งอีกที แถบหนึ่งที่กรอบ อีกแถบที่รูป
    • เท่านี้ก็ยึดรูปไว้กับกรอบกระดาษเรียบร้อย โดยที่ไม่ตึงเกินไปจนรูปงอหรือยับ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ทำกรอบรูป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ต้องเลือกวัสดุที่ดูสวยงามตามต้องการ และคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน เหมาะกับรูปที่จะใส่กรอบ มีชนิดไม้ กาว โลหะ และตะปูให้เลือกมากมายหลายชนิด ก็ต้องวางแผนแล้วเลือกใช้ให้ดีๆ เพื่อให้ได้กรอบรูปสวยหรูดูโปรเหมือนที่เขาขายกัน ต่อไปนี้คือข้อมูลของแต่ละวัสดุ
    • รูปทรงของไม้ - จะใช้ไม้แบบไหนทำกรอบรูป ก็แล้วแต่ความชอบและประเภทของรูปที่จะใส่กรอบ จะเป็นไม้ที่ใช้ทำบัวผนัง หรือไม้ทั่วไปก็ได้ ถ้าไม้บัวก็จะหรูกว่า มีเคลือบเงา เหมาะกับรูปขนาดใหญ่ ดูเป็นทางการหน่อย ใส่กรอบแล้วใช้ตกแต่งบ้านได้เลย แต่ถ้าเป็นไม้ธรรมดา ก็จะดูเรียบง่าย สะอาดตา เหมาะสำหรับรูปขนาดเล็ก หรือกรณีที่อยากได้กรอบรูปโมเดิร์นหน่อย ใช้วางประดับตกแต่งได้เช่นกัน
    • เนื้อไม้ - ต้องเลือกก่อนว่าจะใช้เนื้อไม้ชนิดไหน เพราะต่างชนิดก็เหมาะกับต่างจุดประสงค์กันไป โดยเฉพาะไม้เนื้อแข็ง แนะนำให้เลือกจากสีสันหรือลวดลายไม้เป็นหลัก ไม่ก็เลือกโดยอิงตามชนิดหรือสีไม้ในห้องที่จะเอารูปไปประดับตกแต่งซะเลย จะได้ดูกลมกลืน ไม่โดดออกมา
    • โลหะ - ถ้าอยากตัดเหล็กทำกรอบรูปแทนไม้ ก็ทำไปตามขั้นตอนเดียวกับไม้ได้ แต่ให้ใช้ใบเลื่อยวงเดือนที่ปลายเป็นเพชร เอาไว้ใช้ตัดเหล็กโดยเฉพาะ ให้ยึดกรอบด้วยเหล็กฉากกับสกรูที่เข้าเซ็ตกัน โดยใช้สว่านเจาะรูสกรูก่อน
    • กาว - ใช้กาวติดไม้จะดีที่สุด ถ้าเป็นกาวอื่นก็ติดแก้ขัดได้ แต่ควรใช้กาวเฉพาะเพื่อความแข็งแรงทนทาน คุณหาซื้อกาวติดไม้ได้ในราคาย่อมเยา มีขายตามร้านเครื่องมือช่างและงานฝีมือ
    • ตะปู - จะใช้ตะปูชนิดไหนก็แล้วแต่ขนาดของกรอบรูป ถ้ากรอบใหญ่และหนา ก็ต้องใช้ตะปูตัวยาวและหนาตามไปด้วย ส่วนถ้ากรอบรูปเล็ก ก็ใช้ตะปูสั้นๆ ไม่ต้องหนามากได้ ต้องเลือกตะปูให้ถูกกับงาน กรอบรูปจะได้ไม่หลุด แถมเนื้อไม้ไม่แตกด้วย
  2. วัดความกว้างและความยาวของขอบนอกของกรอบกระดาษ นี่คือขนาดขอบด้านในของกรอบรูป ถ้าอยากรู้ความกว้างและความยาวของขอบนอก ให้ใช้สูตร L = E + (2 x C) + (2 x W) [1]
    • L คือความยาวหรือความกว้างที่จะใช้ตอนตัดกรอบไม้ E คือความกว้างหรือความยาวของกรอบกระดาษ C คือระยะห่างรอบกรอบกระดาษ (ค่อนข้างแคบมาก เช่น 1/16 นิ้ว (1.5 มม.)) W คือความกว้างของวัสดุที่ใช้ทำกรอบรูป
  3. ตัดกรอบรูปตามขนาดที่ได้จากการใช้สูตรคำนวณ ต้องมี 2 ชิ้นที่ตัดตามความยาว และอีก 2 ชิ้นตัดตามความกว้าง ท่องไว้ว่าวัดซ้ำ 2 รอบ จะได้ตัดเป๊ะในรอบเดียว ความเนี้ยบสำคัญมาก เพราะแค่ชิ้นไม้ต่างขนาดกัน ก็ทำเอากรอบรูปเบี้ยวได้เลย
    • พอตัดครั้งแรกแล้ว ต้องมีมุมเฉียงที่ปลายไม้ จะได้เอามาประกบกัน ให้ตัดทำมุมเฉียงเข้าหากัน โดยขอบด้านหนึ่งจะสั้นกว่าอีกด้าน
    • ง่ายที่สุดคือใช้เครื่องตัดองศา โดยตั้งไว้ที่ 45 องศา หรือกำหนดองศาเองแล้วเลื่อยด้วยมือ ซึ่งไม่ค่อยแม่นยำเท่า เลยไม่แนะนำเท่าไหร่
  4. เป็นร่องด้านในของกรอบรูป ให้กระจกค้างอยู่ ไม่หลุดออกไปนอกช่องของกรอบ อาจจะใช้ดอกสว่านตรง (straight bit) เซาะร่องที่ขอบหลังด้านในของกรอบรูป หรือทำกรอบให้บางลงแล้วเอาไปติดที่กับกรอบด้านหน้าก็ได้
    • กรอบที่สองนี้ต้องใหญ่กว่าทั้งด้านกว้างและยาว จะได้รองกระจกที่ใหญ่เกินกว่าจะเลื่อนหลุดออกทางช่องข้างกรอบได้
    • ร่องต้องลึกพอจะรองทั้งกระจก กรอบกระดาษ และตะปูที่จะใช้ยึดทุกอย่างไว้ในกรอบรูป
  5. Watermark wikiHow to ประดิษฐ์กรอบรูป
    ควรตกแต่งกรอบรูปให้เข้ากับสีหรือบรรยากาศของห้อง หรือขับเน้นส่วนใดส่วนหนึ่งของรูปนั้นๆ ก่อนจะติดกระจก ใส่กรอบกระดาษ และเอารูปใส่กรอบ ให้ทาสีหรือย้อมไม้ซะก่อน จะสีอะไรก็ตามชอบเลย วิธีทาสีหรือย้อมไม้ของกรอบรูปให้ดูสดใสน่ามองขึ้นก็คือ
    • ทาสี - ถ้าเลือกทาสีกรอบรูป ก็ต้องเลือกสีที่ใช้ทาไม้ได้ ถ้าเป็นสีผสมลาเท็กซ์ จะออกมาเรียบเนียนและมันวาวกว่า จะทาสีเดียวหรือหลายสีก็ตามชอบ เวลาถ้าให้ลากฝีแปรงยาวๆ และทาหลายชั้น สีจะได้ออกมาเรียบเนียนเสมอกัน
    • ย้อมไม้ - สีย้อมไม้มีหลายสีให้เลือก พยายามเลือกที่กลืนไปกับสีไม้อื่นๆ ในห้องที่จะเอารูปไปแขวนหรือตกแต่ง ให้ลองทาที่เศษไม้ดูก่อน จะได้รู้ว่าต้องทากี่ชั้น พอย้อมแล้วเนื้อไม้ออกมาเป็นยังไง ต้องย้อมไม้ก่อนประกอบเป็นกรอบรูป สีจะได้เรียบเนียนเสมอกัน ให้ใช้แปรงย้อมไม้โดยเฉพาะ จะออกมาสวยหรูดูโปร พอสีย้อมไม้แห้งสนิทแล้ว ก็เคลือบเงาต่อได้เลย ทีนี้กรอบรูปของคุณก็ทั้งสีสวยและเงางาม
  6. Watermark wikiHow to ประดิษฐ์กรอบรูป
    ประกอบทุกชิ้นของกรอบรูปเข้าด้วยกันเหมือนต่อจิ๊กซอว์ ก็จะได้ออกมาเป็นกรอบรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า คุณปรับแต่งได้ตามสะดวก แต่อย่าทำให้มุมเฉียงเปลี่ยนไป เพราะเดี๋ยวแต่ละด้านของกรอบรูปจะไม่เสมอกัน วิธีการก็คือ
    • ขั้นแรกให้ติดกาวทุกชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน โดยยึดไว้ด้วยกันให้แน่นด้วยแคลมป์เข้ามุม แล้วรอจนกาวที่ยึดมุมแห้งสนิท
    • พอกาวแห้งสนิทแล้ว ให้ค่อยๆ ตอกตะปูทั้ง 4 มุม จะได้ยึดกันแน่นหนาขึ้น ให้ตอกตะปูเข้าด้านหนึ่งของกรอบรูป ไล่ไปตามชิ้นไม้หนึ่งและอีกชิ้น ให้ใกล้จุดกึ่งกลางของไม้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงให้ตอกตะปูตั้งฉากกับแนวข้อต่อ
    • ตรงไหนมีรอยแตกหรือช่องว่าง ให้ใช้สีโป๊วอุดรอยแตก
  7. Watermark wikiHow to ประดิษฐ์กรอบรูป
    ต้องเป็นกระจกที่ตัดมาขนาดพอดีกับร่องที่แซะไว้ในกรอบ จริงๆ จะตัดเองก็ได้ แต่บอกเลยว่าง่ายและถูกกว่าเยอะ ถ้าปล่อยเป็นเรื่องของช่างตัดกระจกที่เขาเชี่ยวชาญ เพราะเขาจะมีอุปกรณ์พร้อม ปลอดภัยและสวยงามกว่าแน่นอน
    • ไม่ต้องใช้กระจกจริงก็ได้ อาจจะเป็นกระจกอะคริลิค (plexiglas) แทน กระทั่งแผ่นพลาสติกใส ถึงจะไม่สวยงามเท่ากระจกแท้ๆ แต่ก็ดีตรงที่หล่นก็ไม่แตก
  8. Watermark wikiHow to ประดิษฐ์กรอบรูป
    ให้คว่ำกรอบรูป จากนั้นใส่รูปที่อยู่ในกรอบกระดาษแล้ว พอรูปอยู่กลางกรอบ ก็ใช้ glazier’s points (ตัดยึดกรอบรูป) หรือตอกตะปูขนานไปกับกรอบกระดาษ เพื่อยึดทั้งรูป กรอบกระดาษ และกระจกไว้ในกรอบรูป เท่านี้กรอบรูปของคุณก็เสร็จสิ้น ต่อไปคือตกแต่งเพิ่มเติมแล้วหาที่เหมาะๆ แขวนหรือประดับได้เลย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ตกแต่งกรอบรูป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แค่กรอบโล้นๆ ก็น่าเบื่อ มาตกแต่งให้สวยงามตามท้องเรื่องกันดีกว่า เช่น ทาสีทองให้ดูไฮโซ หรือหาอะไรมาติดกาวให้ฟรุ้งฟริ้ง อย่างเปลือกหอย หรือกระดุม เรียกว่าจะเอาไปแขวนหรือตั้งไว้ห้องไหน ก็ตกแต่งให้เข้าธีมตามสะดวก หรือตกแต่งให้เข้ากับธีมของรูปที่อยู่ในกรอบแทน วิธีตกแต่งกรอบรูปเพิ่มเติมก็เช่น
    • ทากาวงานคราฟต์ที่เศษเครื่องประดับแล้วเอาไปติดตามกรอบรูป เช่น หัวแหวนรูปดอกไม้น่ารักที่เกิดหักออกมา จี้ที่ไม่มีสร้อย หรือต่างหูสักข้างที่เด่นๆ โดนๆ ลองทากาวแล้วติดตรงนั้นตรงนี้ตามชอบ หรือจะเอามาประกอบร่างติดรวมกันก็เก๋ไปอีกแบบ [2]
    • ตัดรูปจากหนังสือที่ชอบ หรือบทความสำคัญในหนังสือพิมพ์ แล้วเอามาใส่กรอบเป็นที่ระลึก โดยทาบกรอบกระดาษที่ด้านหลังแล้วตัดรูปหรือบทความออกมา จากนั้นทาบรูปตรงกลาง ตัดขอบของกรอบกระดาษเข้ามาจากขนาดรูปจริงสัก 1/8 นิ้ว (3 มม.) จะได้ซ่อนขอบรูป ต่อมาพลิกกระดาษ ใส่รูปในกรอบกระดาษ แล้วใช้คลิปหนีบหรืออะไรมายึดให้เข้าที่ ถ้าอยากให้ทนทานกว่านั้น ก็เอากรอบไปเคลือบแข็งซะก่อน [3]
    • ใช้ตัวปั๊มตกแต่งกรอบ หากรอบน่ารักๆ ที่แสดงถึงตัวตนหรือความชอบของคนในรูป เช่น ถ้าเป็นรูปลูกสาวตัวน้อย ที่ชอบธีมดาวหรือเจ้าหญิง ก็เลือกตัวปั๊มที่เป็นดาวหรือมีกลิตเตอร์ซะเลย ถ้าทากรอบรูปด้วยสีขาวหรือสีอ่อนก่อน ตัวปั๊มก็จะโดดเด้งขึ้นมา ตัดกับสีกรอบ [4]
  2. คุณแขวนกรอบรูปที่ตกแต่งแล้วได้ด้วย 2 วิธีง่ายๆ แต่ต้องแน่ใจก่อนว่ากาวที่กรอบรูปแห้งสนิทแล้ว ไม่ว่าจะเลือกแขวนรูปวิธีไหน ก็ต้องวัดให้ดี อย่าให้รูปเบี้ยว วิธีที่แนะนำก็คือ
    • ใช้เชือกแขวน หรือจะใช้โซ่เสริมความแข็งแรงก็ได้ ให้ตอกหมุดหรือตะปูที่หลังกรอบรูปแต่ละด้าน แล้วห้อยเชือกหรือโซ่ที่ปลาย
    • อีกวิธีคือติดตะขอ แล้วเอาไปแขวนที่ตะปูที่ตอกไว้กับกำแพง
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 48,044 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา