แครอทเป็นผักกินหัวที่เป็นส่วนผสมยอดนิยมในอาหารของมนุษย์มาช้านาน ปกติเราจะเห็นแต่แครอทสีส้มธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแครอทมีด้วยกันหลายสี ทั้งม่วง ขาว แล้วก็เหลือง ส่วนสีส้มที่ว่าก็มีหลายเฉดด้วยกัน แครอทนั้นเป็นผักอุดมวิตามินเอ ถึงสุกแล้วจะกระทบต่อปริมาณวิตามินบ้างก็เถอะ วิธีปรุงแครอททำได้ตั้งแต่ใช้ baby carrot หรือแครอทหัวเล็กๆ ไปจนถึงแครอทแก่หัวใหญ่ตามปกติ ซึ่งก็ต้องปรุงให้ถูกวิธีเพื่อรักษารสหวานอร่อยตามธรรมชาติของแครอทไว้ให้ครบถ้วน
ขั้นตอน
-
ลวกยังไงและเมื่อไหร่. ถ้าเป็นแครอทอ่อน หรือเบบี้แครอท ที่สดใหม่ต้นฤดูก็ไม่ต้องลวก แต่ถ้าแครอทแก่ปลายฤดูก็คงต้องลวกเพื่อลดความขม เพราะงั้นให้ลองชิมแครอทดิบของคุณดูก่อน
-
หั่นแครอท. ตามต้องการ แล้วแต่สูตรที่คุณจะทำ
-
เอาใส่หม้อที่มีน้ำเย็นจัด. จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟ
-
ต้มนาน 5 - 6 นาที. แครอทแก่จัดหัวใหญ่ๆ อาจต้องนาน 10 - 12 นาที
-
เทน้ำออก. เท่านี้ก็พร้อมใช้แล้วโฆษณา
แครอทและผักกินหัวต่างๆ เหมาะมากที่จะเอามานึ่งก่อน เพราะยังคงวิตามินและความสดไว้ได้ ให้เลือกใช้แครอทอ่อนๆ จะดีที่สุด
-
ขัดล้างให้สะอาด. ตัดขั้วออก แล้วดูว่าจะนึ่งทั้งหัวหรือฝานก่อน
-
เอาตะแกรงซ้อนบนหม้อ หรือจะใช้ลังถึง/ซึ้งก็ได้. ถ้าใช้ลังถึงหรือหม้อ ต้องใส่น้ำต่ำกว่าตะแกรงที่วางแครอท จากนั้นตั้งไฟนึ่งได้เลย
- แต่ถ้ามีเครื่องนึ่งโดยเฉพาะ (steamer) ก็ให้ใช้งานตามขั้นตอนที่แนะนำ
-
ใส่แครอทในตะแกรงหรือ steamer. จากนั้นปิดฝาให้สนิท
-
นึ่งจนนิ่ม. ประมาณ 10 - 15 นาทีก็ได้ที่ อันนี้ก็แล้วแต่ขนาดของแครอท พอผ่านไปได้ 8 นาทีให้หมั่นเช็คบ่อยๆ
-
เสิร์ฟร้อนหรือตอนอุ่นๆ. แครอทนึ่งใช้เคียงได้หลายเมนู หรือจะเสิร์ฟเดี่ยวๆ ไม่ก็ใส่ชามใหญ่ไว้ให้ตักกินกัน ตอนเสิร์ฟต้องยังอุ่นๆ โดยเฉพาะถ้ามีแขกร่วมโต๊ะ โดยให้คุณใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดโฆษณา
แครอทแก่เหมาะจะเอามาต้ม ถ้าไม่ใช้น้ำเปล่าก็เปลี่ยนไปใช้น้ำสต็อกไก่หรือผักแทน จะได้เพิ่มรสชาติให้แครอท โดยเฉพาะถ้าแครอทของคุณรสไม่ค่อยดีเท่าไหร่
-
ใส่แครอท 450 กรัม ที่ล้างสะอาดแล้ว ลงในชาม/ถาดอบ หรือภาชนะที่เข้าไมโคเวฟได้. จากนั้นเติมน้ำไป 2 ช้อนโต๊ะ
-
ปิดฝา.
-
อบในไมโครเวฟด้วยไฟแรง (ปรับไฟแรงสุด) จนกรอบนอกนุ่มใน. ระหว่างนั้นให้คนแค่ครั้งเดียว ส่วนเวลาที่อบก็ตามนี้
- ชิ้นฝานบางจะใช้เวลาประมาณ 6 - 9 นาที
- เป็นแท่งๆ จะใช้เวลาประมาณ 5 - 7 นาที
- เบบี้แครอทจะใช้เวลาประมาณ 7 - 9 นาที
โฆษณา
แครอทตุ๋นบอกเลยว่าหวานอร่อยสุดๆ
-
อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 140 องศา.
-
ถ้าหัวใหญ่ให้ฝานเป็นชิ้นประมาณ 450 กรัม หรือใช้เบบี้แครอทแทน.
-
ใส่แครอทในชาม/ถาดอบ หรือ Dutch oven (หม้อ 2 หูใบใหญ่). เรียงแครอทอย่าให้ซ้อนกัน
-
ใส่หอมแดงหั่นเต๋า 1/3 ถ้วยตวง ผิวส้มขูด 2 ช้อนชา น้ำส้ม 1-1/4 ถ้วยตวง และน้ำมันมะกอกคุณภาพดี 1/3 ถ้วยตวง. แต่งรสด้วยพริกไทยดำบดใหม่ๆ sea salt แล้วก็ใบไธม์สด กับพริกป่นนิดหน่อยตามชอบ
-
ยกขึ้นตั้งไฟ. ตั้งเตาโดยใช้ไฟแรงปานกลาง จากนั้นยกลงแล้วปิดฝา
- ถ้าไม่มีฝาให้ใช้ฟอยล์ห่ออาหารหนาๆ ทำฝาแทน
-
เอาเข้าเตาอบ. ประมาณ 1-1/2 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะนิ่มดี
-
ยกออกจากเตา. เสิร์ฟร้อนๆ หั่นผักชีฝรั่งสดๆ โรยหน้าด้วยโฆษณา
-
ผ่าครึ่งแครอท. แล้วจะหั่นครึ่งอีกรอบ หรือหั่นเป็น 4 ส่วนตามยาวก็ได้ทั้งนั้น
-
ทาเนย (ละลาย) หรือน้ำมัน.
-
ใส่แครอทในชาม/ถาดอบที่ทาเนยหรือน้ำมันไว้ที่ก้นแล้ว. หรือจะเรียงไว้ในถาดอบขนมก็ได้
-
อบในเตาที่ความร้อน 200 องศา. จนนิ่มและฉ่ำวาว (caramelized) ใช้เวลาประมาณ 20 - 40 นาทีก็ได้ที่ อันนี้แล้วแต่ขนาดของชิ้นแครอท ให้คุณกลับด้านแครอท 1 - 2 ครั้ง จะได้ฉ่ำทั่วกัน
-
เสิร์ฟร้อนๆ คู่ผักอบอื่นๆ.โฆษณา
-
หั่นแครอทเป็นแท่งๆ. ฝรั่งเขาเรียก "แท่งไม้ขีดไฟ", "julienne sticks" ไม่ก็ "ไม้บาตอง" (ที่วาทยากรใช้) ถ้าบางหน่อยก็จะดี จะได้สุกเร็วๆ
-
เติมน้ำมันนิดหน่อยลงในกระทะแบบจีน (wok) หรือกระทะใบใหญ่หน่อย.
-
ใส่แท่งแครอทลงไป. ผัดจนนิ่มลง แต่ยังกรอบนิดๆ เวลากัด
-
ยกลงจากเตา. ใส่ใบมินต์สด (สะระแหน่) สับละเอียดลงไป แล้วเสิร์ฟร้อนๆโฆษณา
-
ต้มแครอทสด 500 กรัม/18 ออนซ์ ในน้ำเกลือ. เติมน้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนชา กับเนยหรือน้ำมัน 15 กรัม/1/2 ออนซ์ลงไปในน้ำด้วย
-
กรองน้ำออก. ให้เหลือน้ำนิดๆ ไว้เอามาทำต่อ
-
บดแครอทผ่านกระชอนตาถี่หรือเอาไปปั่น.
-
เอาแครอทบดไปตั้งไฟ. เติมน้ำที่เหลือไว้ 2 - 3 ช้อนแล้วคนผสม อันนี้เฉพาะถ้าแครอทบดของคุณเหนียวข้นเกินไป
-
ใส่เนยหรือน้ำมัน 50 กรัม/2 ออนซ์ ทันทีก่อนยกลงจากเตา. ผสมให้เข้ากัน
-
เสิร์ฟเลย. เหมาะจะใช้เป็นเครื่องเคียง เสิร์ฟพร้อมผักกับเนื้ออบ
- ถ้าอยากให้แครอทบดเข้มข้นเป็นเนื้อครีมขึ้น ให้เติมดับเบิลครีม/เฮฟวี่ครีม 4 ช้อนโต๊ะด้วย แล้วคนให้เข้ากันก่อนเสิร์ฟ
โฆษณา
-
ทำซุปแครอท. ซุปแครอทมีด้วยกันหลายสูตร ตั้งแต่แบบง่ายไปจนถึงรสเข้มข้นกลมกล่อม เช่น
- ซุปแครอทธรรมดา
- ซุปแครอทผงกะหรี่
- ซุปแครอทใส่พริกและผักชี
-
ทำซุปแครอทผสมขิง.
- ใช้ตะแกรงขูดแครอท 4 หัว
- ผัดหอมใหญ่ 1 หัว กับขิงสดขูด 2 ซม./1 นิ้ว และกระเทียมสับ 2 - 3 กลีบ จะผัดด้วยเนยนิดหน่อยหรือน้ำมันก็ได้
- ใส่แครอทขูดในกระทะที่มีส่วนผสมด้านบน ผัดไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาที
- เติมน้ำสต็อกผักหรือไก่ร้อนๆ 1 ลิตร แล้วรอ 30 นาทีจนได้ที่
- ทิ้งให้เย็นแล้วเอาไปปั่นจนเนียน
- เสิร์ฟร้อนๆ สับผักชีฝรั่งสดโรยหน้าด้วย ถ้าใครชอบครีม ก็ให้ราดครีมวนๆ เพื่อแต่งหน้าให้สวยงาม
โฆษณา
ความหวานของแครอทไปกันได้ดีกับรสชาติของหัวสวีดหรือหัวผักกาด
-
ล้างแครอทให้สะอาด. ถ้าแครอทแก่ให้ปอกเปลือกก่อน
-
ฝานเป็นแว่นบางๆ.
-
ปอกหัวสวีด (หรือหัวผักกาด). จากนั้นหั่นให้ได้ขนาดพอๆ กับแครอท
-
ต้มในน้ำเกลือจนนิ่มพอบดได้. ถ้าต้มในน้ำสต็อกผักก็จะได้รสชาติไปอีกแบบ
-
กรองน้ำออก จากนั้นบด ทำซ้ำไปเรื่อยๆ ให้แห้ง. จากนั้นเติมเนยกับพริกไทยดำ
-
เสิร์ฟร้อนๆ. บอกเลยว่าเป็นเครื่องเคียงจานเด็ดโฆษณา
เคล็ดลับ
- ฝรั่งเขาว่าแครอทจะอร่อยสุดต้องเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงปลายฤดูร้อน (แต่ของไทยอร่อยได้เลยตลอดปี!)
- เวลาจะซื้อแครอท ให้เลือกที่สีสดๆ และแข็งหน่อย ถ้าดูเหี่ยวๆ หรือหงิกๆ งอๆ อย่าไปเอา
- แครอทเป็นญาติกันกับพาร์สนิป (parsnip) ผักชีฝรั่ง (parsley) แล้วก็ขึ้นฉ่ายฝรั่ง (celery)
- แครอทจับคู่กับอาหารบางอย่างแล้วพากันอร่อย โดยเฉพาะแอปเปิ้ล กุยช่าย ยี่หร่า สะระแหน่ ส้ม ผักชีฝรั่ง แล้วก็ลูกเกด [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง <i>Food: The Essential A-Z</i>, p. 71, (2001), ISBN 1-74045-031-0 รวมถึงทาร์รากอน (tarragon) ด้วย
- น้ำและของเหลวต่างๆ จะดึงความหวานของแครอทออกมา ถ้าอยากให้แครอทหวานตามธรรมชาติ ก็อย่าใส่น้ำเยอะไปตอนทำ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง James Peterson, <i>Vegetables</i>, p. 34, (1998), ISBN 0-688-14658-9
คำเตือน
- อย่าเก็บแครอทรวมไว้กับมันฝรั่ง แอปเปิ้ล หรือลูกแพร์ เพราะมีสารเอทิลีน (ethylene) ทำให้แครอทขมได้
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ Larousse Gastronomique, Carrots , pp. 188-189, (2009), ISBN 978-0-600-62042-6
- ↑ Food: The Essential A-Z , p. 71, (2001), ISBN 1-74045-031-0
- ↑ James Peterson, Vegetables , p. 34, (1998), ISBN 0-688-14658-9
- Food: The Essential A-Z , p. 71, (2001), ISBN 1-74045-031-0 – แหล่งข้อมูล
- Sally Cameron, Grow It, Cook It , (2009), ISBN 978-0-14-301096-8 – แหล่งข้อมูล
- The Australian Women's Weekly, The Edible Garden Cookbook , (2010), ISBN 978-1-74245-051-3 – แหล่งข้อมูล
- Larousse Gastronomique, Carrots , pp. 188-189, (2009), ISBN 978-0-600-62042-6 – แหล่งข้อมูล
- Mary Cadogan, Prepare to Cook , pp. 126-127, (1981), ISBN 0-454-00324-2 – แหล่งข้อมูล
- James Peterson, Vegetables , (1998), ISBN 0-688-14658-9 – แหล่งข้อมูล