บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการขอให้ Facebook ปลดบล็อกบัญชีของคุณ รวมถึงขั้นตอนในการขอให้เพื่อนที่เคยบล็อก ช่วยปลดบล็อกให้คุณ แต่ไม่ว่าวิธีการไหน ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าคุณจะกลับมาใช้บัญชีคุณ หรือกลับมาติดต่อกับเพื่อนคนนั้นได้ตามเดิม ในบทความนี้เป็นแค่ขั้นตอนยื่นคำร้องรอการพิจารณาเท่านั้น
ขั้นตอน
-
เช็คก่อนว่าบัญชี Facebook ถูกบล็อกจริงๆ. เข้าเว็บ Facebook https://www.facebook.com/ พิมพ์อีเมลกับรหัสผ่าน แล้วคลิก Log In ถ้ามีข้อความ "Account disabled" แสดงว่าบัญชีคุณถูก Facebook บล็อก ก็ยื่นคำร้องได้เลย
-
ไปที่หน้า "My Facebook account has been disabled". เข้าเว็บ https://www.facebook.com/help/www/103873106370583 ในคอม
-
คลิกลิงค์ submit an appeal . ทางขวาของข้อความ "If you think your account was disabled by mistake, please" ทางด้านล่างของหัวข้อ เพื่อเปิดแบบฟอร์มยื่นคำร้อง
- ถ้าเปิดแบบฟอร์มมาเจอหน้าที่ให้คุณลงชื่อออก ให้ปิดเบราว์เซอร์แล้วเปิดขึ้นมาใหม่ อาจจะต้อง ล้าง cookies ของเบราว์เซอร์ ก่อน
-
พิมพ์อีเมลหรือเบอร์โทร. พิมพ์อีเมลหรือเบอร์โทรที่ใช้ล็อกอิน Facebook ในช่อง "Login email address or mobile phone number" ทางด้านบนของหน้า
- ต้องเป็นอีเมลหรือเบอร์โทรที่ยังใช้การได้อยู่
-
พิมพ์ชื่อ-นามสกุล. พิมพ์ชื่อ-นามสกุลที่คุณใช้ในบัญชี Facebook ในช่อง "Your full name"
-
อัพโหลดรูปบัตรประจำตัว. จะเป็นบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทางก็ได้ ขั้นตอนคือ
- ถ่ายรูปบัตรประจำตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แล้ว เซฟลงคอม
- คลิก Choose Files
- เลือกรูปที่จะอัพโหลด
- คลิก Open
-
ลงรายละเอียดในคำร้อง. พิมพ์ข้อมูลที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของ Facebook ในช่อง "Additional info" ทางด้านล่างของหน้า ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่น่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย
- บัญชีถูกคนแฮกไปใช้
- คนที่มีปากเสียงด้วยหรือไม่ลงรอยกัน ไปรายงานว่าโพสต์ทั้งหมดของคุณเป็นสแปม
- คุณมีหลักฐานชัดเจน ว่าการกระทำที่ทำให้บัญชีของคุณถูก Facebook บล็อกนั้น เป็นฝีมือของคนอื่น
-
คลิก Send . ที่ด้านขวาล่างของแบบฟอร์ม เพื่อส่งข้อมูลและคำร้องไปยัง Facebook ถ้าพิจารณาแล้วบัญชีคุณถูกบล็อกอย่างไม่เป็นธรรม Facebook ก็จะปลดบล็อกให้คุณกลับมาใช้งานได้ตามเดิมโฆษณา
-
เช็คให้ชัวร์ว่าเพื่อนบล็อกคุณ . ก่อนจะพยายามติดต่อเพื่อนที่สงสัยว่าจะบล็อกคุณ ให้เช็คก่อนว่าเขาบล็อกคุณจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาลบหรือปิดบัญชีตัวเองไป
-
ลองคิดดูว่าทำไมเขาบล็อกคุณ. ถ้าอยู่ๆ คุณก็ถูกบล็อก ก็เป็นไปได้ว่าเขาบล็อกคุณเพราะเรื่องงานหรือเรื่องเรียน (เช่น คนที่เพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ มักบล็อกพนักงานอื่นตามสัญญาที่ได้เซ็นไป) แต่ถ้าเพิ่งจะทะเลาะถกเถียงกันไปหมาดๆ ก็เข้าเค้าถ้าเขาจะบล็อกคุณด้วยเหตุผลส่วนตัว
-
หาทางติดต่อเพื่อนนอก Facebook. ลองโทรหา ส่งอีเมลไป ติดต่อทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ หรือถ้าทั้งเขาและคุณมีโซเชียลมีเดียด้านงานอย่าง LinkedIn ก็ลองติดต่อไป
-
ถามเพื่อนว่าทำไมบล็อกคุณ. ให้ถามเพื่อนแบบสุภาพจริงใจ ไม่หาเรื่อง ว่าเขาบล็อกคุณหรือเปล่า ถ้าใช่ ทำไมเขาถึงบล็อกคุณ บอกเขาไปตรงๆ ว่าคุณยังอยากติดต่อเขาอยู่ และอยากเปิดใจคุยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณ
-
ยอมรับการตัดสินใจของเขา. ไม่ว่าคำตอบของเพื่อนจะเป็นอะไร ก็ต้องยอมรับ แม้จะถูกบล็อกต่อก็ตาม (เช่น สถานการณ์บีบบังคับอย่างเรื่องเลื่อนตำแหน่งที่ว่า) แต่ถ้าเพื่อนยินดีปลดบล็อกให้ ก็เปิดใจรับฟังเหตุผลของเขาด้วย
- ถ้าไม่มีสัญญาณตอบรับจากเพื่อนเลย ก็พักก่อน อย่าเพิ่งติดต่อไปอีก
-
รอเพื่อนแอดมาใหม่. ถ้าตกลงเพื่อนยอมปลดบล็อกคุณ ก็รอให้เขาพร้อม แล้วเป็นฝ่ายแอดคุณมาใหม่ อย่าใจร้อนแอดเขาไปเองแต่แรกโฆษณา
เคล็ดลับ
- อีกช่องทางติดต่อคนที่บล็อกคุณ ก็คือ สมัคร Facebook ใหม่ เลย จากนั้นค้นหาโปรไฟล์เขา แล้วส่งข้อความไปหา แต่ทำได้เฉพาะกรณีที่เขาตั้งค่า security settings ให้คนค้นหาโปรไฟล์เขาได้เท่านั้น แถมส่งข้อความไปแล้ว อาจจะยังไม่ไปถึงเขาโดยตรง ด้วยระบบคัดกรองข้อความคนที่ไม่ใช่เพื่อน ของ Facebook Messenger
- ถ้า Facebook บล็อกบัญชีคุณด้วยเหตุผลทางความปลอดภัย จะมีอีเมลส่งมาพร้อมลิงค์รีเซ็ตรหัสผ่าน โดยส่งไปยังอีเมลที่ใช้ล็อกอิน Facebook คุณก็แค่เปิดอีเมล คลิกลิงค์ แล้วรีเซ็ตรหัสผ่านเพื่อกลับเข้าใช้งานบัญชี
โฆษณา
คำเตือน
- คุณบังคับใจใครให้ปลดบล็อกคุณไม่ได้ ถ้าแอพหรือเว็บไหนอ้างว่าจะทำให้คุณกลับไปติดต่อเพื่อนที่บล็อกคุณได้อีก ก็เป็นพวกหลอกลวง หวังขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณทั้งนั้น
โฆษณา
โฆษณา